จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เอาบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กันดีกว่า

เอาบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กันดีกว่า

          เศรษฐกิจไทยเรามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน ไม่เพียงจากบริษัทชั้นนำอย่างเช่นเครือปตท. ปูนซีเมนต์ไทย ซีพี ฯลฯ ยังเกิดจากธุรกิจ SME ที่แข็งแกร่งช่วยกันพลักดันเศรษฐกิจไทยให้ก้าวไปกับเศรษฐกิจโลก ธุรกิจ SME หลายบริษัทที่มีความสามารถแข่งขันได้ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกมีอยู่มากมาย หลายๆบริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ในขณะที่บางบริษัทยังต้องการแหล่งเงินทุนไว้ใช้หมุนเวียนและขยายกิจการ ซึ่งรัฐบาลก็มีหน่วยงานที่ช่วยสนับสนุน SME เหล่านี้ เช่น SME BANK ให้บริการสินเชื่อแก่ SME บริษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ให้บริการค้ำประกันแก่ SME ในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินแต่ติดขัดเรื่องหลักประกัน นอกจากนั้นยังมีพวก Venture Capital Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่จะเข้าสนับสนุนธุรกิจ SME ที่ต้องการเงินหมุนเวียนหรือขยับขยายกิจการในลักษณะเข้าไปร่วมทุนถือหุ้นใน SME เหล่านี้ ซึ่ง Venture Capital ส่วนใหญ่เป็นเอกชน ถ้านับเฉพาะที่เป็นสมาชิกสมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Thai Venture Capital Association) มีอยู่สิบกว่าบริษัท ซึ่งแต่ละบริษัทก็จะมีนโยบายแตกต่างกัน บางบริษัทก็เน้นที่จะเข้าไปลงทุนในธุรกิจ SME ที่แข็งแกร่งที่มีโอกาสเติบโตและเข้าจดทะเบียนในตลาด MAI ได้ภายใน 3 ปี แล้ว Venture Capital Fund เหล่านี้ก็จะ Exit ออกจาก SME เหล่านี้ภายหลังที่ธุรกิจเหล่านี้เข้าจดทะเบียนในตลาด พร้อมกับกำไรซึ่งได้ผลตอบแทนค่อนข้างสูงแต่ความเสี่ยงก็มีอยู่บ้างเหมือนกัน โดยบางครั้งอาจจะต้องใส่เม็ดเงินเข้าไปหลายครั้งและอาจจะต้องส่งบุคลากรไปช่วยบริหารจัดการเรื่องการเงินให้ด้วย เพราะว่าหลายๆ SME ที่มีเพียงความเขี่ยวชาญในการผลิตแต่อ่อนประสบการณ์ในด้านการเงินหรือการตลาดด้วย ทำให้ความสามารถในการเจาะตลาดเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร หรือการนำสินค้าไปวางจำหน่ายใน Convenience Store ทั้งหลาย เป็นต้น นอกจากหน่วยงานเหล่านี้แล้วยังมีสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ที่คอยสนับสนุน SME ไทยให้แข็งแกร่ง สามารถแข่งขันในตลาดทั้งในประเทศและนอกประเทศได้ ซึ่งทางตลาดหลักทรัพย์และ กลต. ก็มีนโยบายส่งเสริมให้ธุรกิจ SME ต่างๆ สามารถเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือ MAI ได้สะดวกขึ้น  โดยมีโครงการช้างเผือก เพื่อไปชักชวนให้ SME ที่มีความแข็งแกร่งในต่างจังหวัด เข้ามาจดทะเบียนให้ได้อย่างน้อย 1 จังหวัด 1 บริษัท ซึ่งเป็นนโยที่ดีน่าสนับสนุน แต่ผมยังไม่ค่อยเห็น SME ดังกล่าวเข้ามาจดทะเบียนในตลาดเท่าที่ควร เห็นทีตลาดหลักทรัพย์และกลต. คงจะต้องออกแรงมากกว่านี้อีกสักหน่อย ถึงแม้ว่าปีนี้จะมีบริษัทต่างๆ เข้ามาจดทะเบียนในทั้ง 2 ตลาดคึกคักพอสมควรก็ตาม น่าจะมีการจัดเวทีในทุกจังหวัด ให้ได้อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง 1 ปีก็จะไปเยี่ยมได้ถึง 52 จังหวัดแค่ปีครึ่งก็สามารถไปได้ครบทุกจังหวัดโดยร่วมกับทางหอการค้าในจังหวัดนั้นๆ รวมทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในการชักชวนให้ SME เหล่านี้มาเข้าร่วมฟังในเวทีสัมมนา เรื่อง ผลประโยชน์จากการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาด ซึ่งผมเชื่อว่าถ้า SME เหล่านี้ได้ทราบถึงผลประโยชน์ดังกล่าวคงมีความต้องการที่จะผลักดันธุรกิจของตนให้เข้าตลาดให้ได้ ซึ่งผมขอประมวลผลประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนได้ดังนี้
1.       ได้แหล่งเงินลงทุนระยะยาว โดยเมื่อบริษัทจะเข้าตลาดต้องทำ IPO เสนอขายหุ้นให้กับประชาชน ทางบริษัทก็จะได้รับเงินดังกล่าวไว้หมุนเวียน และขยายกิจการ
2.      ภาพลักษณ์ จะทำให้บริษัทมีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นที่น่าเชื่อถือมากขึ้นได้เสนอข่าวและประชาสัมพันธ์ธุรกิจฟรี เพราะว่าสื่อต่างๆ จะสนใจมาสัมภาษณ์ผู้บริหารเกี่ยวกับกิจการ และการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินก็จะง่ายขึ้น และได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าบริษัทที่อยู่นอกตลาด
3.      เป็นที่สนใจของนักลงทุนและธุรกิจต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศจะเห็นได้ว่ามีหลายบริษัทที่หลังจากเข้าไปจดทะเบียนแล้ว มีบริษัทต่างชาติขอร่วมทุนเข้าหุ้น หรือไปตั้งบริษัทลูกหรือบริษัทร่วมกับบริษัทต่างชาติ
4.      สิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินปันผล โดยบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับเงินปันผลจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ โดยต้องเป็นเงินปันผลจากบริษัทหรือกองทุนที่ถือไว้ไม่น้อยกว่า 3 เดือน
5.      สามารถตีมูลค่ากิจการเป็นจำนวนเงินที่ชัดเจน จากราคาตลาดเมื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดแล้ว และเจ้าของกิจการยังสามารถนำหุ้นมาขายเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับตัวเอง แต่ต้องศึกษาเรื่อง Silent Period (ช่วงระยะเวลาห้ามขาย) ด้วยนะครับ
6.      สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้ถือหุ้นที่จดทะเบียน คือ เวลาขายหุ้นไม่ต้องเสียภาษี Capital Gain Tax
เห็นประโยชน์มากมายอย่างนี้แล้ว ท่านเจ้าของธุรกิจที่สนใจจะนำกิจการของคนเข้าจดทะเบียนในตลาด สามารถศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th นะครับ

ก่อนจบบทความนี้ผมขออนุญาตชี้แจงข่าวที่ทางบริษัทเจพีมอเตอร์เวิร์คจำกัด (JPW) ได้นำชื่อของผมไปใช้การประชาสัมพันธ์ในแนวทางที่ทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่า ผมเป็นหุ้นส่วนด้วยนั้น ผมขอแจ้งให้ทราบว่า ผมไม่ได้เกี่ยวข้อง  ไม่ได้ถือหุ้น และไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทเลยแม้แต่น้อย เพราะว่ามีหลายคนมาบอกว่าที่เข้าไปซื้อแฟรนไชส์หรือไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทนี้ เพราะว่าเห็นผมเป็นหุ้นส่วน ซึ่งผมได้แจ้งให้กับทางผู้บริหารของ JPW ให้ยุติการแอบอ้างชื่อผมไปเกี่ยวพันกับบริษัทอีกต่อไป ถ้าท่านใดได้รับการชักชวนให้ซื้อแฟรนไชส์หรือซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ JPW โดยบอกว่าผมเป็นหุ้นส่วน กรุณาแจ้งให้ผมทราบด้วยครับ ผมจะดำเนินการต่อไปตามสมควรครับ
 กิติชัย เตชะงามเลิศ
                                                                                          27/11/56
หนังสือ "จาก 1 ล้านเป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร" ยอดขายขื้นอันดับหนื่งตั้งแต่วันแรกจำหน่ายและครองอันดับ 1 ติดต่อกันมานาน

ติดตามแนวทางการลงทุนของผมได้ที่ 
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk 
Youtube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Blog :  http://kitichai1.blogspot.com
Instagram : Gid_Kitichai

หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 หรือหน้า B10 และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Stock Review, Me(Market Evolution), Glow และ Lisa  ทุกเดือน
     

สนใจซื้ออสังหาเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ลองเข้า http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty
คอนโดลาสโคลินาส ติดสี่แยกอโศก-สุขุมวิท 100เมตรจากBTS & MRT เพิ่งตกแต่งเสร็จ ราคา XX,000/ตรม.

      ขาย คอนโดลาสโคลินาส อยู่บนถนนอโศกติดสี่แยกอโศก-สุขุมวิท (เดินครึ่งนาที จาก MRT,BTS อโศก) ตรงข้ามมี ตลาดสดอโศก Terminal 21 (Supermarket โรงหนัง ร้านอาหาร มอลล์) Robinson, Tops market place, สวนเบญจกิตติ มหาวิทยาลัยประสานมิตร ศูนย์สิริกิตต์

โครงการมีสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ห้องล๊อคเกอร์ ซาวน่า สตีม แยกชายหญิง สควอช คอร์ท ห้องสนุกเกอร์ ห้องตีปิงปอง สนามเด็กเล่น ห้องที่จะขายอยู่ชั้น 29 เลขที่ 6/134 พื้นที่ 192.62 ตารางเมตร พร้อมที่จอดรถส่วนตัว 1 คัน ในห้องนี้ มี 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ รับแขก ครัว ซักล้าง และห้องคนรับใช้พร้อมห้องน้ำในตัว 1 ห้อง เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า เพิ่งตกแต่งเสร็จ สวยมาก ครบถ้วน ขายที่ราคา 19 ล้านบาทถ้วน
 ดู VDO ที่ผมถ่ายภายในห้อง ที่ http://www.youtube.com/watch?v=fZ5HU0HoyCY

วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ทักษิณาธิปไตย และทักษิโณมิกส์

ทักษิณาธิปไตย และทักษิโณมิกส์


คุณทักษิณ  ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย ในช่วงระหว่างวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2544 ถึงวันที่ 19 กันยายน 2549  ก่อนที่จะถูกคณะรัฐประหารยึดอำนาจไป ในช่วงสมัยแรกๆ คุณทักษิณได้รับการยอมรับจากคนไทยส่วนใหญ่ มีนโยบายในการปกครองประเทศในเชิงประชานิยมและกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง  ทำให้เศรษฐกิจไทยมีเงินสะพัดมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีนโยบายกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้นในประเทศ ซึ่งนำไปสู่ภาวะหนี้ครัวเรือนสูงขึ้นมาก จนปัจจุบันนี้ไต่ขึ้นไปถึง 80 กว่าเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นภาวะที่น่าเป็นห่วง คนไทยระดับล่างและกลุ่มรากหญ้ามีหนี้สินพะรุงพะรัง คุณทักษิณเป็นที่รักใคร่มากสำหรับประชาชนในภาคอีสาน เพราะว่าเป็นนายกที่สนใจคนอีสานมากที่สุด และบางส่วนในภาคเหนือ แต่ก็เป็นที่เกลียดชังอย่างยิ่งสำหรับคนไทยภาคใต้และบางส่วนในภาคกลางรวมทั้งชาว กทม. นับว่าเป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียวที่เป็นที่รักอย่างยิ่ง และเป็นที่เกลียดชังอย่างยิ่งของประชาชนไทย นับตั้งแต่ที่คุณทักษิณเป็นนายกตราบจนปัจจุบัน สังคมไทยได้แบ่งขั้วกันอย่างชัดเจนมากเป็น 2 ฝ่าย แทบจะไม่มีฝ่ายที่รู้สึกกลางๆ เลย ทีเดียว นอกจากสังคมระดับชาติที่แตกแยก กระทั่งสังคมญาติพี่น้องเพื่อนฝูงก็ทะเลาะกัน จากความเห็นที่แตกต่างกันทางการเมือง ยกตัวอย่างญาติผมบางคนเลิกคุยกัน มองหน้ากันไม่ติดหลังจากเสวนาทางการเมืองกัน กระทั่งใน Social บนอินเตอร์เน็ต ผมเห็นเพื่อน Unfriend เพื่อนที่คบกันมานานใน Facebook จากความเห็นที่ไม่ตรงกับทางการเมือง หรือการเขี่ยเพื่อนบางคนออกจาก Line Group ก็เห็นบ่อยๆ เกิดจากระบบความคิดที่ใช้ในการบริหารประเทศของคุณทักษิณที่แตกต่างจากพรรคอื่นหรือนายกคนอื่น จนมีคนให้ฉายาแนวทางการบริหารประเทศของคุณทักษิณว่าเป็น ทักษิโณมิกส์ หลังจากที่ท่านบริหารประเทศนานขึ้น ท่านมีความสามารถพิเศษที่ทำให้องค์กรอิสระต้องหันมาสนับสนุนท่านจนประชาชนบางกลุ่มเริ่มรู้สึกว่า ดูเหมือนจะไม่มีใครสามารถทัดทานความคิดของคุณทักษิณได้ จนหลายคนเกรงว่าถ้าคุณทักษิณบริหารประเทศไม่ดี ก็ไม่มีใครจะสามารถทัดทานได้ แนวทางในการบริหารประเทศดังกล่าวทำให้บางคนก็ค่อนแคะว่า เป็นระบอบปกครองแบบทักษิณาธิปไตย เปรียบเสมือนว่าอำนาจในการปกครองบริหารประเทศอยู่ในกำมือของคุณทักษิณคนเดียวเท่านั้น ยิ่งคุณทักษิณเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขตไหนเลือกพรรคของคุณทักษิณก็จะดูแล ส่วนเขตไหนไม่เลือกก็จะไม่ดูแล ยิ่งทำให้เป็นที่ไม่ชอบใจมากขึ้นของคนหลายกลุ่ม จึงเป็นที่มาของการรวมกลุ่มเป็นกลุ่มพันธมิตร (สีเหลือง) ในอดีต ทางฝ่ายคุณทักษิณและคนที่รักคุณทักษิณก็ไม่ยอมน้อยหน้า รวมกลุ่มกันเป็นกลุ่มคนเสื้อแดง ยิ่งทำให้เกิดการแตกแยกของคนในสังคมมากขึ้น ตั้งแต่ผมเกิดมาใช้ชีวิตอยู่มาครึ่งชีวติแล้ว ก็ยังไม่เคยคนไทยแตกแยก และเกลียดกันเองมากขึ้นขนาดนี้ นับว่าเป็นที่น่าสงสาร และน่าอับอายในสายตาของชาวต่างชาติที่เขามองมาที่สังคมไทยเรา ผมก็ได้แต่ภาวนาให้สังคมไทยกลับกลายมาเป็นสังคมที่รักใคร่ เอื้ออาทรกันเหมือนในอดีต ไม่รู้จะต้องรอไปอีกกี่ปีหรือกี่สิบปี ดูแล้วน่าจะแก้ไขได้ยากยิ่ง เพราะว่าปัญหานี้ได้ฝังรากลึกลงไปในทุกระดับ ผมยอมรับในความสามารถของคุณทักษิณในบางนโยบายที่เป็นนโยบายที่ดีทีเดียว แต่ในขณะเดียวกันผมก็ไม่เห็นด้วยในบางนโยบาย โดยเฉพาะการที่ทำให้องค์กรอิสระเป็นง่อยหรือกลายเป็นพวกเสียหมด ถ้าคุณทักษิณยอมให้องค์กรอิสระเหล่านั้นมีความเป็นอิสระในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้ ผมเชื่อว่ารัฐบาลของคุณทักษิณจะเป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่ของประเทศ เพราะว่าโดยรวมๆ แล้ว นโยบายที่เคยทำก็ส่งผลดีกับเศรษฐกิจไทยอยู่เป็นที่ประจักษ์  ถ้าทำได้ดังนี้ คงไม่มีประชาชนจำนวนมากไปร่วมประท้วงกันที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตยในขณะนี้ ซึงการประท้วงครั้งนี้ ถ้าสังเกตให้ดีจะมีผู้หญิงที่เข้าร่วมประท้วงค่อนข้างมาก ซึ่งผมเชื่อว่าจะมีจำนวนมากกว่าผู้ชายแน่ๆ จากสังคมรอบตัวผม ผมมักจะเห็นแต่ญาติผู้หญิงหรือเพื่อนผู้หญิงที่ไปร่วมประท้วง โดยเฉพาะสุภาพสตรีเหล่านี้มักจะถ่ายรูปแล้วมาแปะไว้ใน INSTAGRAM และ Facebook กันจนดูเหมือนจะกลายเป็นแฟชั่นไปซะแล้ว
          กลับมาดูเศรษฐกิจไทยปีนี้ถือว่าแย่มาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในกลุ่ม ASEAN เราได้เกือบที่โหล่เลยทีเดียว ตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ที่เพิ่งประกาศออกมาเหลือเพียง 2.70% เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่า Consensus ที่อยู่ที่ประมาณ 3% คงจะต้องมีการปรับตัวเลขคาดการณ์ GDP ปีนี้ ลงอีกตามมาแน่ๆ Analyst ก็เริ่มจะปรับประมาณการผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ลดลงอีกเป็นรอบที่ 2 แต่เป็นที่น่าแปลกว่า ในวาระที่ประท้วงกันขนาดนี้ บวกกับตัวเลข GDP ที่น่าผิดหวังกลับไม่กระทบกระเทือน SET เลยทีเดียว ถือว่าเป็นสัญญานที่ต้องติดตาม ถ้า SET INDEX สามารถยืนเหนือ 1,430 จุดได้อย่างมั่นคง คงจะต้องยอมควักสตางค์ซื้อหุ้นเข้ามาเก็บแล้วถือข้ามปีกันซะแล้วครับ เข้าทำนองข่าวร้ายหุ้นไม่ลง แสดงว่าตลาดได้ Discount สิ่งเหล่านี้ไปเรียบร้อยแล้ว หรือตลาดมองข้ามข็อตไปปืหน้ากันแล้ว
          วันอาทิตย์ (24/11/56) ผมจะเปิดอบรมการลงทุนในหุ้นทั้งด้านปัจจัยพื้นฐานและทางเทคนิค รวมทั้งวิธีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ในสไตล์ของผมที่สร้างเงินจาก 1 ล้านเป็น 500 ล้านบาท สนใจกรุณาติดต่อที่ 088-2740434 หรือ 081-8359274
                                
"การลงทุน คือ...
ปัจจัยที่ 5 สำหรับคนรวย"
...คุณกิติชัย เตชะงามเลิศ...
ผู้แต่งหนังสือขายดีติดอันดับ 1 ทั่วประเทศ
"จาก 1 ล้าน เป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร"

...ประโยคทองคำที่ออกจากปากเศรษฐี
เพียงประโยคเดียวอาจพลิกชีวิตเราได้เลย...

"เครื่องมือที่คนรวยใช้มีอยู่ 3 อย่าง คือ
ธุรกิจ หุ้นและอสังหาริมทรัพย์"
"ผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในตลาดหุ้น
มักมีเบื้องหลังมาจากการทำงานอย่างหนัก
ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ เหมือนที่คนทั่วไปเข้าใจกัน"
"นอกจากเรื่องกฎแห่งแรงดึงดูดแล้ว
เราต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนและ
แผนดำเนินการที่ดีประกอบด้ว
ชีวิตถึงจะประสบความสำเร็จได้"
เป็นอีกหลากหลายประโยคทองคำที่มาจากปากของ
...คุณกิติชัย เตชะงามเลิศ...
ผู้แต่งหนังสือขายดีติดอันดับ 1 ทั่วประเทศ
"จาก 1 ล้าน เป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร"

ขอเชิญฟังประโยคทองคำอีกมากมาย
และมาเรียนรู้สุดยอดเคล็ดลั
ที่ไม่ได้เปิดเผยในหนังสือขายดี
"จาก 1 ล้าน เป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร"

- วิธีง่ายๆ ทุกวันจันทร์ที่ใช้คัดกรองหุ้นดี หุ้นถูก
แบบขั้นเทพที่ทุกคนคาดไม่ถึ
- เครื่องมือที่ใช้คำนวณราคาหุ้นที่เหมาะสม
จากการวิเคราะห์งบการเงิน และ ปัจจัยพื้นฐาน
จะได้ไม่เกิดอาการที่ระบาดหนักในตลาดหุ้น
คือ "ขายหมู" หรือ "ติดดอย"
- ที่พลาดไม่ได้ !!! คือ เหตุการณ์วันหนึ่งที่ทำกำไร
จากหุ้นได้เกือบ 10 ล้านบาท แบบฟลุ๊คๆ

ในการจัดสัมมนา ครั้งที่ 87 โดย หนุ่ม อภิชา(โปรสัมมนา)
"จาก 1 ล้าน เป็น 500 ล้าน ต้องทำอย่างไร"
วัน : อาทิตย์ที่ 24 พ.ย. 2556
เวลา : 9.30 - 16.30 น.
สถานที่ : The Palazzo Hotel
วิทยากร : คุณกิติชัย เตชะงามเลิศ

=========================
เรารับประกันความพอใจยินดีคืนเงิน 110%
=========================
เรารับประกันความพอใจยินดีคืนเงิน 110%
=========================
เรารับประกันความพอใจยินดีคืนเงิน 110%
=========================

"ความสำเร็จของคุณ" คือ สิ่งสำคัญสำหรับเรา
ถ้าไม่พอใจและไม่สามารถนำไปปฏิบัติจริงได้
กรุณาแจ้งเรา และเราจะคืนเงินทันที 110%
โดยไม่มีคำถามและหักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น !!!

- สอบถามเพิ่มเติมโทร. 088-274-0434
- ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที
http://on.fb.me/18f0Wa2



 ขาย คอนโดลาสโคลินาส อยู่บนถนนอโศกติดสี่แยกอโศก-สุขุมวิท (เดินครึ่งนาที จาก MRT,BTS อโศก) ตรงข้ามมี ตลาดสดอโศก Terminal 21 (Supermarket โรงหนัง ร้านอาหาร มอลล์) Robinson, Tops market place, สวนเบญจกิตติ มหาวิทยาลัยประสานมิตร ศูนย์สิริกิตต์

โครงการมีสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ห้องล๊อคเกอร์ ซาวน่า สตีม แยกชายหญิง สควอช คอร์ท ห้องสนุกเกอร์ ห้องตีปิงปอง สนามเด็กเล่น ห้องที่จะขายอยู่ชั้น 30 พื้นที่ 192 ตารางเมตร พร้อมที่จอดรถส่วนตัว 1 คัน ในห้องนี้ มี 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ รับแขก ครัว ซักล้าง และห้องคนรับใช้พร้อมห้องน้ำในตัว 1 ห้อง เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า สวยมาก ครบถ้วน ขายที่ราคา 19 ล้านบาทถ้วน
 ดู VDO ที่ผมถ่ายภายในห้อง ที่ http://www.youtube.com/watch?v=fZ5HU0HoyCY


      

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยกับตลาดหุ้นไทย

นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยกับตลาดหุ้นไทย

          ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลง  เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว แต่ภาวะการเมืองทั้งในสภาและนอกสภา ดูจะร้อนระอุมากทีเดียว เมื่อพรบ.นิรโทษกรรมผ่านทั้ง 3 วาระเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ท่านสส.ขยันมาก ผ่านวาระ 3 เอาเกือบรุ่งเช้าเลย พรรคประชาธิปัตย์คราวนี้ยอมเล่นเกมนอกสภา นำการเมืองลงมาสู่ท้องถนน โดยรองหัวหน้าพรรคหลายท่านถึงกับลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค เพื่อป้องกันมิให้มีผลกระทบถึงพรรค และเพื่อความสะดวกในการนำม็อบการเมืองด้วย ซึ่งเริ่มปักหลักที่สถานีรถไฟสามเสน แล้วก็เป่านกหวีดพาคนร่วมประท้วงเดินเท้าไปที่ราชดำเนินปักหลักสู้ คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ อาทิ จุฬา ธรรมศาสตร์ ฯลฯ กลุ่มแพทย์รามา และนิสิต นักศึกษา รวมทั้งนักเรียนอาชีวะ ก็รวมตัวกันประท้วง (เสร็จงานนี้อาจจะเห็นนักเรียนอาชีวะเลิกตีกันตลอดกาล นี่ผมมองในแง่ดีไปหรือเปล่า ฮา) ชมรมนักธุรกิจไทยเพื่อประชาธิปไตยรวมตัวกันที่สีลม องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ร่วมกันเป็นภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น กับภาคเอกชนและภาควิชาการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นมีมติคัดค้านร่าง พรบ. ฉบับสุดซอยนี้ และทำหนังสือยื่นวุฒิสภา เพื่อให้ใช้วิจารณญานในการพิจารณาไม่ให้กฎหมายผ่าน 20 ราชนิกุล 53 ราชสกุล ออกมาปกป้องสถาบันโดยคัดค้านการอื่นทูลเกล้า พรบ.ฉบับนี้ ส่วนกลุ่มอาจารย์นักศึกษา ม.มหิดล ร่วมชุมนุมสมทบที่อุรุพงษ์กับกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท) ที่ชุมนุมกันมาค่อนเดือนแล้ว และมีพลตรีจำลอง ศรีเมืองอดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพิ่งจะมาร่วมวางกลยุทธ์ในการชุมนุม แต่ยังไม่ถึงขั้นกลุ่มพันธมิตรจะเข้าร่วมอย่างเต็มตัวโดยแกนนำคนอื่นๆ ยังรอจังหวะและหลายคนยังมีคดีติดตัว ส่วนคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร) ที่ประกอบด้วยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท) สมาคมธนาคารไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยังไม่สรุปว่าจะต้านร่างพรบ. เจ้าปัญหานี้หรือไม่ เพราะว่าต้องรอฟังความเห็นของสมาชิกทั่วประเทศก่อน แต่ได้แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ในปัจจุบันว่าจะนำไปสู่การเผชิญหน้ากันในสังคม และก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงแก่ประเทศ กลุ่ม 40 สว. แถลงต่อต้าน พรบ. ฉบับนี้ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยที่ทางฝ่ายรัฐบาลยังไม่ขยายขอบเขตพื้นที่ห้ามการชุมนุม ส่วนฝ่ายประท้วงก็ใช้กลยุทธว่า ถ้าฝ่ายรัฐบาลสกัดกั้นม๊อบตรงไหน ก็จะตั้งเวทีตรงนั้น นอกจากนั้นกลุ่ม 40 สว. ได้ยื่นคำร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย ว่าพรบ. ฉบับนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าขัด พรบ. ฉบับนี้ก็จะตกไป ฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ก็เตรียมยื่น 7 ประเด็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ คือ
1.      ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 3 เรื่องหลักนิติรัฐ นิติธรรม ที่มีการแบ่งอำนาจนิติบัญญัติ บริหารตุลาการออกจากกันไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน
2.      ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 30 เรื่องหลักความเสมอภาค แต่ร่างพรบ. นี้เป็นการเลือกปฏิบัติ
3.      ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 122 เรื่องการขัดกันของผลประโยชน์ส่วนตัวกับส่วนรวม
4.      ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 309 ที่รับรองการกระทำที่เกี่ยวเนื่องจากคณะรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ซึ่งพรบ.นี้จะไปล้มล้างความผิดที่ คตส.พิจารณาไว้
5.      แก้ไขเนื้อหา พรบ. เกินกว่าหลักการที่สภารับหลักการในวาระ1
6.      ขัดหลักสากลที่นิรโทษให้กับคดีทุจริตคอร์รัปชั่น
7.      ผลจากกฎหมายจะทำให้ต้องคืนเงินที่ยึดมาจาก พตท. ทักษิณ ชินวัตร 4.60 หมื่นล้าน พร้อมดอกเบี้ย
และประชาธิปัตย์ก็จะยื่นหนังสือถึงองค์กรต่างประเทศหลายๆ องค์กร ให้รับทราบถึงการกระทำของรัฐบาล
          ดูแล้วก็เข้าตำราคนอีสาน +คนเหนือ เลือกรัฐบาล คนกทม.ล้มรัฐบาล คงจะเป็นวงจรอย่างนี้ต่อไปอีกนาน ตราบจนคนไทยทั่วทั้งประเทศจะได้รับการศึกษาที่เพียงพอและทั่วถึง รวมทั้งการเข้าถึงข่าวสารบ้านเมืองได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว เศรษฐกิจไทยคงจะสะดุดชั่วคราว พ่อค้าแม่ขายคงจะมีรายได้ลดลง เพราะว่าคนไม่มีอารมณ์จะจับจ่ายใช้สอย และนักท่องเที่ยวต่างชาติก็คงชะลอเข้ามาเที่ยวในไทย เศรษฐกิจไทยที่ซบเซามาตั้งแต่ต้นปี คงจะต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี ดูๆ แล้วการประท้วงคงจะยีดเยื้อต่อไป ยิ่งอาทิตย์หน้า ผลการตัดสินศาลโลก เรื่องเขาพระวิหาร ถ้าฝ่ายไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบก็แล้วไป ถ้าฝ่ายไทยเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ก็จะดึงคนมาชุมนุมกันบนท้องถนนมากขึ้น คราวนี้รัฐบาลเรียกแขกได้ทุกกลุ่มทุกวัยจริงๆ
ถ้ารัฐธรรมนูญตัดสินว่า พรบ.นิรโทษกรรมขัดต่อรัฐธรรมนูญ ตามที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นไว้ และหรือตัดสินว่าพรบ. 2 ล้านล้านบาทที่ 40 สว. จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แล้วผลตัดสินว่าขัดกับรัฐธรรมนูญเช่นกัน พรรคประชาธิปัตย์ก็คงจะยื่นเรื่องให้ศาลปกครองพิจารณายุบพรรคเพื่อไทย ในฐานะที่เป็นผู้ออกและผลักดันพรบ. ทั้ง 2 เข้าสภา แล้วศาลปกครองเห็นด้วยละก็บ้านเมืองคงวุ่นวายน่าดู เสื้อแดงที่ช่วงนี้เงียบๆ อยู่ ก็คงจะออกมาชุมนุมกันหนาตาเป็นแน่ แล้วในที่สุดก็มีการเลือกตั้งใหม่ที่พรรคเพื่อไทยในคราบพรรคใหม่ ก็คงชนะการเลือกตั้งเหมือนเดิม เพราะว่าฐานเสียงทางอีสานและภาคเหนือเหนียวแน่น แต่ครั้งนี้คาดว่าจะได้คะแนนเสียงน้อยลง เพราะพวกที่นอนหลับทับสิทธิทั้งหลายจะเริ่มตื่นตัวไปออกเสียงเลือกตั้งมากขึ้น คราวนี้ประชาธิปัตย์คงกวาดที่นั่งใน กทม. ได้เกือบหมด และทางภาคใต้ก็ยังเหนียวแน่นกับประชาธิปัตย์อยู่เหมือนเดิม การฟอร์มทีมรัฐบาลจะเป็นอย่างไรจะมีการสลับแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลโดยมีการโดดเดี่ยวพรรคเพื่อไทยเดิมหรือไม่ คงต้องติดตามดูต่อไป
       กลับมาที่ตลาดหุ้นไทย วันจันทร์เปิดมาก็แดงเถือกลบไปกว่า 40 จุด คิดเป็นเกือบ 3% เลยทีเดียว ผมคาดว่าถ้าเหตุการณ์ไม่บานปลาย แนวรับของ SET INDEX อยู่แถว 1,380 ซึ่งทำงานได้ดีเมื่อวันจันทร์ ตลาดหุ้นไทยคงจะไม่มีโอกาสขึ้นแรงๆ ได้ในช่วงนี้ จนกว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องที่กล่าวมาข้างต้นเสียก่อน นักลงทุนก้น่าจะถือจังหวะในช่วงที่ตลาดปรับตัว ทยอยรับหุ้นที่มีผลประกอบการดีในราคาที่ถูกลง กลุ่มที่ควรจะหลีกเลี่ยงชั่วคราวก็คือ กลุ่มพาณิชย์ กลุ่มรับเหมาและกลุ่มท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมครั้งนี้ แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์รุนแรงที่ 1,380 น่าจะรับไม่อยู่แน่ๆ
กิติชัย เตชะงามเลิศ
                                                                                          06/11/56
หนังสือ "จาก 1 ล้านเป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร" ยอดขายขื้นอันดับหนื่งตั้งแต่วันแรกจำหน่ายและครองอันดับ 1 ติดต่อกันมานาน

ติดตามแนวทางการลงทุนของผมได้ที่ 
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk 
Youtube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Blog :  http://kitichai1.blogspot.com
Instagram : Gid_Kitichai

หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 หรือหน้า B10 และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Stock Review, Me(Market Evolution), Glow และ Lisa  ทุกเดือน
     

สนใจซื้ออสังหาเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ลองเข้า http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty


 ขาย คอนโด วิช สามย่าน เดิน 2 นาที จาก รถไฟใต้ดิน สถานี สามย่าน ราคาต่ำกว่าโครงการสุด ๆ 2 ห้อง(ชั้น19) ราคา 4.2 ล้าน
                

   โครงการนี้มี 25 ชั้น มีจำนวนห้องทั้งหมด ประมาณ 500 ยูนิต, ถนนสี่พระยา บางรัก ห่างจาก สถานี รถไฟใต้ดิน  สามย่าน ประมาณ 100 เมตร ใกล้ อาคารจามจุรีสแควร์ ตลาดสามย่าน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เตรียมอุดมศึกษา สาธิตจุฬา อาคารชาญอิสระ โรงพยาบาลจุฬาฯ สวนลุมพินี ฯลฯ  มีสวนลอยฟ้า สระว่ายน้ำพร้อมสระเด็ก และห้องออกกำลังกาย ที่ชั้น 19    
การเดินทางโดยทางด่วน
ขึ้นลง ทางด่วนสามย่าน หัวลำโพง
ขึ้นลง ทางด่วนเชื้อเพลิง พระรามสี่
ขึ้นลง ทางด่วนสุรวงศ์ สีลม
      การเดินทางโดยรถประจำทาง สายที่ผ่าน คือ 1 , 16 ,36 , 45 , 75, 93 และ 187

   ห้องที่จะขายอยู่ชั้น 19
1.ห้อง  18/112  ชั้น 19   พื้นที่ 36.51 ตรม. ราคา 4,200,000 บาท ชั้นนี้ มีสวนลอยฟ้า     ให้เช่าห้อง 22,000 บาท/เดือน
2.ห้อง  18/113  ชั้น 19   พื้นที่ 36.51 ตรม. ราคา 4,200,000 บาท ชั้นนี้ มีสวนลอยฟ้า     ให้เช่าห้อง 22,000 บาท/เดือน

  โปรโมชั่นพิเศษ  เข้าอยู่ได้เลย ฟรีค่าใช้จ่ายทุกรายการ พร้อมของแถมเพียบ
- ฟรีเงินกองทุนคอนโด มูลค่าเกือบ 20,000 บาท
- ฟรีเงินค่าส่วนกลางล่วงหน้าถึง 31 ธค. 56 มูลค่าเกือบ 20,000 บาท
- ฟรีเงินค่ามิเตอร์น้ำ/ไฟ มูลค่า 3,250 บาท

พิเศษสุด!!! สำหรับท่านผู้สนใจที่ตัดสินใจภายในวันที่ 31/1/56 แถมเครื่องใช้ไฟฟ้า 3 ชิ้น ได้แก่ โทรทัศน์ Samsung smart TV จอ L.E.D. 3มิติรุ่นล่าสุด 40 นิ้ว 1 เครื่อง  เครื่องทำน้ำอุ่น 1 เครื่อง ไมโครเวฟ 1 เครื่อง มูลค่าเกือบ 40,000 บาท

หมายเหตุ ทุกห้องของผมวิวดี ไม่มีตึกบัง
ดู VDO ที่ผมถ่ายภายในห้อง ที่ http://youtu.be/Y9j1a7pm-xk
สาเหตุที่ท่านควรจะซื้อคอนโดวิช@สามย่าน
1. ที่ดินย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นที่เซ้ง แต่ของโครงการวิช@สามย่าน เป็นที่ซื้อขาด เพราะฉะนั้น ท่านจะได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ตั้งคอนโดนี้
2. สำนักงานใหญ่ของดีแทคย้ายมาที่อาคารจามจุรีสแควร์ทั้งหมด (อาคารจามจุรีสแควร์เป็นที่เซ้ง ของจุฬาฯ)
3. อาคารพาณิชย์บริเวณตลาดสดสามย่านเก่า ทางจุฬาฯ ได้ทยอยทุบทิ้ง เพื่อจะพัฒนาปรับปรุงเป็นคอมเพล็กซ์ ซึ่งจะทำให้บริเวณสามย่านนี้มีความเจริญมากขึ้น**
4. มีลูกค้าแน่นอนคือ ผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดม สาธิตจุฬาและนิสิตจุฬา รวมทั้งข้าราชการและครูอาจารย์
5. ศูนย์ข้าราชการ กทม. บางส่วนจะย้ายมาอยู่ที่บริเวณถนนบรรทัดทอง ซึ่งอยู่ใกล้กับสามย่านมาก****
6.การขยายครอบครัวของคนเยาวราช
7. โครงการสวนลุมไนท์บาซ่าร์ ที่เซ็นทรัลประมูลได้คาดว่าจะเริ่มพัฒนาโครงการในปี 2556
8.ห่างจากสถานีรถไฟใต้ดินสามย่านเพียงแค่เดิน 3 นาที และเดิน 10 นาทีก็ถึงสวนลุมแล้ว
9. ทาง กทม. กับรัฐบาลชุดปัจจุบันมีโครงการที่จะทำรถไฟฟ้าโมโนเรลล์ จากสยาม มาบุญครอง  ผ่านหน้าบริเวณมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ไปถึงบริเวณสามย่านแล้ว อ้อมไปถึงถนน  อังรีดูนังค์
10. ความต้องการที่พักอาศัยในย่านนี้จะมีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น คนทำงานย่านสีลม สุรวงค์ ซึ่งบริเวณนี้แทบไม่มีโครงการใหม่เกิดขึ้น
****กทม.จับมือจุฬาฯ พัฒนาที่ดินสามย่าน ผุดสวนสาธารณะ 10 ไร่ ในพื้นที่ พร้อมศึกษาสร้างระบบเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีลม ถ.พระราม 1 และรถไฟฟ้าใต้ดิน ถ.พระราม 4

นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้หารือร่วมกับ กทม.ในการพัฒนาพื้นที่บริเวณสามย่าน จำนวน 350 ไร่ หลังจากหมดสัญญากับบรรดาร้านอะไหล่รถยนต์หรือเซียงกงแล้ว โดยเบื้องต้นได้มีการตั้งคณะทำงานร่วมกัน ระหว่างสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ และ กทม.เพื่อร่วมกำหนดแผนในการปรับปรุงพื้นที่ร่วมกันตามแผนแม่บทระหว่างภาครัฐ กับเอกชน
ทั้งนี้ ทางจุฬาฯ มีนโยบายที่จะมอบพื้นที่บางส่วนเพื่อให้ กทม.ร่วมใช้ประโยชน์ โดย กทม.จะใช้พื้นที่ 5 ไร่ที่อยู่ระหว่างถนนบรรทัดทองและซอยจุฬาฯ 5 ในการสร้างศูนย์ราชการของเขตปทุมวัน แบ่งเป็น สำนักงานเขต ศูนย์อนามัย สถานีดับเพลิง และศูนย์เยาวชน และในพื้นที่ว่างบริเวณซอยจุฬาฯ 5 จำนวน 10 ไร่ จะทำการสร้างสวนสาธารณะเพื่อเป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์ที่ดีขึ้น
นาย ธีระชน กล่าวว่า นอกจากนี้สำนักการโยธา(สนย.) จะมีการขยายถนนในพื้นที่ 2 เส้น คือ ถนนบรรทัดทอง จากเดิมกว้าง 16 เมตร จะขยายเป็น 30 เมตร และซอยจุฬาฯ 5 เดิมกว้าง 15 เมตรให้เป็น 20 เมตร เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ระหว่างถนนพระราม 1 กับพระราม 4 ซึ่งในส่วนของการก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับ กทม.ทั้งหมด กทม.จะลงทุนก่อสร้างเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะใช้งบประมาณเท่าไหร่ นอกจากนี้ ในส่วนของการอำนวยความสะดวกในการใช้พื้นที่นั้น จุฬาฯ ได้มีนโยบายให้ กทม.สามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่หน้า ฮาร์ดร็อค คาเฟ่ และลานหน้าจามจุรี สแควร์ ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (30 สิงหาคม 2552)

กทม.ร่วมมือจุฬาฯ โครงการโมโนเรล พญาไท ยาว 2.5 กิโลเมตร มั่นใจผู้ใช้บริการหลักหมื่น จาก 4 สถานศึกษา
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผูว่าฯ กทม.เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ร่วมกับ รศ.น.อ.นพ.เพิ่มยศ โกศลพันธุ์ รองอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายจัดการทรัพย์สิน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น รศ.มานพ พงศทัต รศ.ประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ ถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล (Monorail) หรือระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยวได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า ที่ ประชุมเห็นพ้องที่จะดำเนินโครงการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลนำร่องสายแรกบน ถนนพญาไท ตั้งแต่อาคารจามจุรีสแควร์ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นแนวยาวบนเกาะกลางถนนของถนนพญาไทมาบรรจบกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม สแควร์ รวมระยะทางทั้งสิ้น 2.5 กิโลเมตร มีจำนวน 3 สถานี ได้แก่ สถานี CU1 จามจุรีสแควร์ CU2 เตรียมอุดมศึกษา และ CU3 สยามสแควร์
โดยจะนำต้นแบบจากการศึกษาดูงานจากเซ็นโตซาโมโนเรล ที่ข้ามไปเกาะเซ็นโตซา มีสีโบกี้รถเป็นสีลูกกวาด 5 ตู้ 5 สี โดย กทม.จะนำมาปรับให้เหมาะสมกับพื้นที่ แต่คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเส้นทางที่ผ่านเป็นสถานศึกษา
ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณในการก่อสร้าง กว่า 2,000 ล้านบาท โดยจะเป็นการของบจากโครงการไทยเข้มแข็ง ซึ่งผู้ว่าฯ กทม.ก็เห็นชอบในเรื่องนี้ และได้มอบหมายให้บริษัทที่ปรึกษาไปหารายละเอียดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น จำนวนผู้โดยสารที่จะเข้าระบบ ซึ่งตนคิดว่าจะมีไม่ต่ำกว่าหมื่นคน เนื่องจากมีสถานศึกษาหลายแห่ง ทั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเรียนสาธิตแห่งจุฬาฯ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครรินทรวิโรฒ ปทุมวัน
นายธีระชนกล่าวต่อว่า ในระหว่างนี้ ทางจุฬาฯ ศึกษาดูบริเวณใดเหมาะสมที่จะก่อสร้างเป็นศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) ส่วนเส้นทางถนนบรรทัดทอง และถนนอังรีดูนังต์นั้น คาดว่าจะเป็นเฟสที่ 2 สำหรับการก่อสร้าง
ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 ธันวาคม 2552
**โครงการจามจุรี สแควร์ 2 ตามที่จุฬาฯ ศึกษาไว้เดิม ได้วางรูปแบบการพัฒนาโครงการเป็นรูปแบบมิกซ์ยูส (ผสม) ลักษณะเป็นกลุ่มอาคารเชื่อมต่อถึงกัน มีพื้นที่รวม 1.85-2.2 แสนตารางเมตร ประกอบด้วยพื้นที่โรงแรม 1-1.5 หมื่น ตารางเมตร ศูนย์การประชุม 1,000-2,000 ตารางเมตร ศูนย์การค้า 2.5-3 หมื่นตารางเมตร พื้นที่สำนักงาน 4-5.5 หมื่นตารางเมตร พิพิธภัณฑ์ 1,000-3,000 ตารางเมตร เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ 1-1.5 หมื่นตารางเมตร และที่จอดรถอีกประมาณ 1 แสนตารางเมตร