จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยกับตลาดหุ้นไทย

นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยกับตลาดหุ้นไทย

          ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลง  เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว แต่ภาวะการเมืองทั้งในสภาและนอกสภา ดูจะร้อนระอุมากทีเดียว เมื่อพรบ.นิรโทษกรรมผ่านทั้ง 3 วาระเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ท่านสส.ขยันมาก ผ่านวาระ 3 เอาเกือบรุ่งเช้าเลย พรรคประชาธิปัตย์คราวนี้ยอมเล่นเกมนอกสภา นำการเมืองลงมาสู่ท้องถนน โดยรองหัวหน้าพรรคหลายท่านถึงกับลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค เพื่อป้องกันมิให้มีผลกระทบถึงพรรค และเพื่อความสะดวกในการนำม็อบการเมืองด้วย ซึ่งเริ่มปักหลักที่สถานีรถไฟสามเสน แล้วก็เป่านกหวีดพาคนร่วมประท้วงเดินเท้าไปที่ราชดำเนินปักหลักสู้ คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ อาทิ จุฬา ธรรมศาสตร์ ฯลฯ กลุ่มแพทย์รามา และนิสิต นักศึกษา รวมทั้งนักเรียนอาชีวะ ก็รวมตัวกันประท้วง (เสร็จงานนี้อาจจะเห็นนักเรียนอาชีวะเลิกตีกันตลอดกาล นี่ผมมองในแง่ดีไปหรือเปล่า ฮา) ชมรมนักธุรกิจไทยเพื่อประชาธิปไตยรวมตัวกันที่สีลม องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ร่วมกันเป็นภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น กับภาคเอกชนและภาควิชาการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นมีมติคัดค้านร่าง พรบ. ฉบับสุดซอยนี้ และทำหนังสือยื่นวุฒิสภา เพื่อให้ใช้วิจารณญานในการพิจารณาไม่ให้กฎหมายผ่าน 20 ราชนิกุล 53 ราชสกุล ออกมาปกป้องสถาบันโดยคัดค้านการอื่นทูลเกล้า พรบ.ฉบับนี้ ส่วนกลุ่มอาจารย์นักศึกษา ม.มหิดล ร่วมชุมนุมสมทบที่อุรุพงษ์กับกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท) ที่ชุมนุมกันมาค่อนเดือนแล้ว และมีพลตรีจำลอง ศรีเมืองอดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพิ่งจะมาร่วมวางกลยุทธ์ในการชุมนุม แต่ยังไม่ถึงขั้นกลุ่มพันธมิตรจะเข้าร่วมอย่างเต็มตัวโดยแกนนำคนอื่นๆ ยังรอจังหวะและหลายคนยังมีคดีติดตัว ส่วนคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร) ที่ประกอบด้วยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท) สมาคมธนาคารไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยังไม่สรุปว่าจะต้านร่างพรบ. เจ้าปัญหานี้หรือไม่ เพราะว่าต้องรอฟังความเห็นของสมาชิกทั่วประเทศก่อน แต่ได้แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ในปัจจุบันว่าจะนำไปสู่การเผชิญหน้ากันในสังคม และก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงแก่ประเทศ กลุ่ม 40 สว. แถลงต่อต้าน พรบ. ฉบับนี้ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยที่ทางฝ่ายรัฐบาลยังไม่ขยายขอบเขตพื้นที่ห้ามการชุมนุม ส่วนฝ่ายประท้วงก็ใช้กลยุทธว่า ถ้าฝ่ายรัฐบาลสกัดกั้นม๊อบตรงไหน ก็จะตั้งเวทีตรงนั้น นอกจากนั้นกลุ่ม 40 สว. ได้ยื่นคำร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย ว่าพรบ. ฉบับนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าขัด พรบ. ฉบับนี้ก็จะตกไป ฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ก็เตรียมยื่น 7 ประเด็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ คือ
1.      ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 3 เรื่องหลักนิติรัฐ นิติธรรม ที่มีการแบ่งอำนาจนิติบัญญัติ บริหารตุลาการออกจากกันไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน
2.      ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 30 เรื่องหลักความเสมอภาค แต่ร่างพรบ. นี้เป็นการเลือกปฏิบัติ
3.      ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 122 เรื่องการขัดกันของผลประโยชน์ส่วนตัวกับส่วนรวม
4.      ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 309 ที่รับรองการกระทำที่เกี่ยวเนื่องจากคณะรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ซึ่งพรบ.นี้จะไปล้มล้างความผิดที่ คตส.พิจารณาไว้
5.      แก้ไขเนื้อหา พรบ. เกินกว่าหลักการที่สภารับหลักการในวาระ1
6.      ขัดหลักสากลที่นิรโทษให้กับคดีทุจริตคอร์รัปชั่น
7.      ผลจากกฎหมายจะทำให้ต้องคืนเงินที่ยึดมาจาก พตท. ทักษิณ ชินวัตร 4.60 หมื่นล้าน พร้อมดอกเบี้ย
และประชาธิปัตย์ก็จะยื่นหนังสือถึงองค์กรต่างประเทศหลายๆ องค์กร ให้รับทราบถึงการกระทำของรัฐบาล
          ดูแล้วก็เข้าตำราคนอีสาน +คนเหนือ เลือกรัฐบาล คนกทม.ล้มรัฐบาล คงจะเป็นวงจรอย่างนี้ต่อไปอีกนาน ตราบจนคนไทยทั่วทั้งประเทศจะได้รับการศึกษาที่เพียงพอและทั่วถึง รวมทั้งการเข้าถึงข่าวสารบ้านเมืองได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว เศรษฐกิจไทยคงจะสะดุดชั่วคราว พ่อค้าแม่ขายคงจะมีรายได้ลดลง เพราะว่าคนไม่มีอารมณ์จะจับจ่ายใช้สอย และนักท่องเที่ยวต่างชาติก็คงชะลอเข้ามาเที่ยวในไทย เศรษฐกิจไทยที่ซบเซามาตั้งแต่ต้นปี คงจะต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี ดูๆ แล้วการประท้วงคงจะยีดเยื้อต่อไป ยิ่งอาทิตย์หน้า ผลการตัดสินศาลโลก เรื่องเขาพระวิหาร ถ้าฝ่ายไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบก็แล้วไป ถ้าฝ่ายไทยเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ก็จะดึงคนมาชุมนุมกันบนท้องถนนมากขึ้น คราวนี้รัฐบาลเรียกแขกได้ทุกกลุ่มทุกวัยจริงๆ
ถ้ารัฐธรรมนูญตัดสินว่า พรบ.นิรโทษกรรมขัดต่อรัฐธรรมนูญ ตามที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นไว้ และหรือตัดสินว่าพรบ. 2 ล้านล้านบาทที่ 40 สว. จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แล้วผลตัดสินว่าขัดกับรัฐธรรมนูญเช่นกัน พรรคประชาธิปัตย์ก็คงจะยื่นเรื่องให้ศาลปกครองพิจารณายุบพรรคเพื่อไทย ในฐานะที่เป็นผู้ออกและผลักดันพรบ. ทั้ง 2 เข้าสภา แล้วศาลปกครองเห็นด้วยละก็บ้านเมืองคงวุ่นวายน่าดู เสื้อแดงที่ช่วงนี้เงียบๆ อยู่ ก็คงจะออกมาชุมนุมกันหนาตาเป็นแน่ แล้วในที่สุดก็มีการเลือกตั้งใหม่ที่พรรคเพื่อไทยในคราบพรรคใหม่ ก็คงชนะการเลือกตั้งเหมือนเดิม เพราะว่าฐานเสียงทางอีสานและภาคเหนือเหนียวแน่น แต่ครั้งนี้คาดว่าจะได้คะแนนเสียงน้อยลง เพราะพวกที่นอนหลับทับสิทธิทั้งหลายจะเริ่มตื่นตัวไปออกเสียงเลือกตั้งมากขึ้น คราวนี้ประชาธิปัตย์คงกวาดที่นั่งใน กทม. ได้เกือบหมด และทางภาคใต้ก็ยังเหนียวแน่นกับประชาธิปัตย์อยู่เหมือนเดิม การฟอร์มทีมรัฐบาลจะเป็นอย่างไรจะมีการสลับแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลโดยมีการโดดเดี่ยวพรรคเพื่อไทยเดิมหรือไม่ คงต้องติดตามดูต่อไป
       กลับมาที่ตลาดหุ้นไทย วันจันทร์เปิดมาก็แดงเถือกลบไปกว่า 40 จุด คิดเป็นเกือบ 3% เลยทีเดียว ผมคาดว่าถ้าเหตุการณ์ไม่บานปลาย แนวรับของ SET INDEX อยู่แถว 1,380 ซึ่งทำงานได้ดีเมื่อวันจันทร์ ตลาดหุ้นไทยคงจะไม่มีโอกาสขึ้นแรงๆ ได้ในช่วงนี้ จนกว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องที่กล่าวมาข้างต้นเสียก่อน นักลงทุนก้น่าจะถือจังหวะในช่วงที่ตลาดปรับตัว ทยอยรับหุ้นที่มีผลประกอบการดีในราคาที่ถูกลง กลุ่มที่ควรจะหลีกเลี่ยงชั่วคราวก็คือ กลุ่มพาณิชย์ กลุ่มรับเหมาและกลุ่มท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมครั้งนี้ แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์รุนแรงที่ 1,380 น่าจะรับไม่อยู่แน่ๆ
กิติชัย เตชะงามเลิศ
                                                                                          06/11/56
หนังสือ "จาก 1 ล้านเป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร" ยอดขายขื้นอันดับหนื่งตั้งแต่วันแรกจำหน่ายและครองอันดับ 1 ติดต่อกันมานาน

ติดตามแนวทางการลงทุนของผมได้ที่ 
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk 
Youtube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Blog :  http://kitichai1.blogspot.com
Instagram : Gid_Kitichai

หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 หรือหน้า B10 และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Stock Review, Me(Market Evolution), Glow และ Lisa  ทุกเดือน
     

สนใจซื้ออสังหาเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ลองเข้า http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty


 ขาย คอนโด วิช สามย่าน เดิน 2 นาที จาก รถไฟใต้ดิน สถานี สามย่าน ราคาต่ำกว่าโครงการสุด ๆ 2 ห้อง(ชั้น19) ราคา 4.2 ล้าน
                

   โครงการนี้มี 25 ชั้น มีจำนวนห้องทั้งหมด ประมาณ 500 ยูนิต, ถนนสี่พระยา บางรัก ห่างจาก สถานี รถไฟใต้ดิน  สามย่าน ประมาณ 100 เมตร ใกล้ อาคารจามจุรีสแควร์ ตลาดสามย่าน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เตรียมอุดมศึกษา สาธิตจุฬา อาคารชาญอิสระ โรงพยาบาลจุฬาฯ สวนลุมพินี ฯลฯ  มีสวนลอยฟ้า สระว่ายน้ำพร้อมสระเด็ก และห้องออกกำลังกาย ที่ชั้น 19    
การเดินทางโดยทางด่วน
ขึ้นลง ทางด่วนสามย่าน หัวลำโพง
ขึ้นลง ทางด่วนเชื้อเพลิง พระรามสี่
ขึ้นลง ทางด่วนสุรวงศ์ สีลม
      การเดินทางโดยรถประจำทาง สายที่ผ่าน คือ 1 , 16 ,36 , 45 , 75, 93 และ 187

   ห้องที่จะขายอยู่ชั้น 19
1.ห้อง  18/112  ชั้น 19   พื้นที่ 36.51 ตรม. ราคา 4,200,000 บาท ชั้นนี้ มีสวนลอยฟ้า     ให้เช่าห้อง 22,000 บาท/เดือน
2.ห้อง  18/113  ชั้น 19   พื้นที่ 36.51 ตรม. ราคา 4,200,000 บาท ชั้นนี้ มีสวนลอยฟ้า     ให้เช่าห้อง 22,000 บาท/เดือน

  โปรโมชั่นพิเศษ  เข้าอยู่ได้เลย ฟรีค่าใช้จ่ายทุกรายการ พร้อมของแถมเพียบ
- ฟรีเงินกองทุนคอนโด มูลค่าเกือบ 20,000 บาท
- ฟรีเงินค่าส่วนกลางล่วงหน้าถึง 31 ธค. 56 มูลค่าเกือบ 20,000 บาท
- ฟรีเงินค่ามิเตอร์น้ำ/ไฟ มูลค่า 3,250 บาท

พิเศษสุด!!! สำหรับท่านผู้สนใจที่ตัดสินใจภายในวันที่ 31/1/56 แถมเครื่องใช้ไฟฟ้า 3 ชิ้น ได้แก่ โทรทัศน์ Samsung smart TV จอ L.E.D. 3มิติรุ่นล่าสุด 40 นิ้ว 1 เครื่อง  เครื่องทำน้ำอุ่น 1 เครื่อง ไมโครเวฟ 1 เครื่อง มูลค่าเกือบ 40,000 บาท

หมายเหตุ ทุกห้องของผมวิวดี ไม่มีตึกบัง
ดู VDO ที่ผมถ่ายภายในห้อง ที่ http://youtu.be/Y9j1a7pm-xk
สาเหตุที่ท่านควรจะซื้อคอนโดวิช@สามย่าน
1. ที่ดินย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นที่เซ้ง แต่ของโครงการวิช@สามย่าน เป็นที่ซื้อขาด เพราะฉะนั้น ท่านจะได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ตั้งคอนโดนี้
2. สำนักงานใหญ่ของดีแทคย้ายมาที่อาคารจามจุรีสแควร์ทั้งหมด (อาคารจามจุรีสแควร์เป็นที่เซ้ง ของจุฬาฯ)
3. อาคารพาณิชย์บริเวณตลาดสดสามย่านเก่า ทางจุฬาฯ ได้ทยอยทุบทิ้ง เพื่อจะพัฒนาปรับปรุงเป็นคอมเพล็กซ์ ซึ่งจะทำให้บริเวณสามย่านนี้มีความเจริญมากขึ้น**
4. มีลูกค้าแน่นอนคือ ผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดม สาธิตจุฬาและนิสิตจุฬา รวมทั้งข้าราชการและครูอาจารย์
5. ศูนย์ข้าราชการ กทม. บางส่วนจะย้ายมาอยู่ที่บริเวณถนนบรรทัดทอง ซึ่งอยู่ใกล้กับสามย่านมาก****
6.การขยายครอบครัวของคนเยาวราช
7. โครงการสวนลุมไนท์บาซ่าร์ ที่เซ็นทรัลประมูลได้คาดว่าจะเริ่มพัฒนาโครงการในปี 2556
8.ห่างจากสถานีรถไฟใต้ดินสามย่านเพียงแค่เดิน 3 นาที และเดิน 10 นาทีก็ถึงสวนลุมแล้ว
9. ทาง กทม. กับรัฐบาลชุดปัจจุบันมีโครงการที่จะทำรถไฟฟ้าโมโนเรลล์ จากสยาม มาบุญครอง  ผ่านหน้าบริเวณมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ไปถึงบริเวณสามย่านแล้ว อ้อมไปถึงถนน  อังรีดูนังค์
10. ความต้องการที่พักอาศัยในย่านนี้จะมีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น คนทำงานย่านสีลม สุรวงค์ ซึ่งบริเวณนี้แทบไม่มีโครงการใหม่เกิดขึ้น
****กทม.จับมือจุฬาฯ พัฒนาที่ดินสามย่าน ผุดสวนสาธารณะ 10 ไร่ ในพื้นที่ พร้อมศึกษาสร้างระบบเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีลม ถ.พระราม 1 และรถไฟฟ้าใต้ดิน ถ.พระราม 4

นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้หารือร่วมกับ กทม.ในการพัฒนาพื้นที่บริเวณสามย่าน จำนวน 350 ไร่ หลังจากหมดสัญญากับบรรดาร้านอะไหล่รถยนต์หรือเซียงกงแล้ว โดยเบื้องต้นได้มีการตั้งคณะทำงานร่วมกัน ระหว่างสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ และ กทม.เพื่อร่วมกำหนดแผนในการปรับปรุงพื้นที่ร่วมกันตามแผนแม่บทระหว่างภาครัฐ กับเอกชน
ทั้งนี้ ทางจุฬาฯ มีนโยบายที่จะมอบพื้นที่บางส่วนเพื่อให้ กทม.ร่วมใช้ประโยชน์ โดย กทม.จะใช้พื้นที่ 5 ไร่ที่อยู่ระหว่างถนนบรรทัดทองและซอยจุฬาฯ 5 ในการสร้างศูนย์ราชการของเขตปทุมวัน แบ่งเป็น สำนักงานเขต ศูนย์อนามัย สถานีดับเพลิง และศูนย์เยาวชน และในพื้นที่ว่างบริเวณซอยจุฬาฯ 5 จำนวน 10 ไร่ จะทำการสร้างสวนสาธารณะเพื่อเป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์ที่ดีขึ้น
นาย ธีระชน กล่าวว่า นอกจากนี้สำนักการโยธา(สนย.) จะมีการขยายถนนในพื้นที่ 2 เส้น คือ ถนนบรรทัดทอง จากเดิมกว้าง 16 เมตร จะขยายเป็น 30 เมตร และซอยจุฬาฯ 5 เดิมกว้าง 15 เมตรให้เป็น 20 เมตร เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ระหว่างถนนพระราม 1 กับพระราม 4 ซึ่งในส่วนของการก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับ กทม.ทั้งหมด กทม.จะลงทุนก่อสร้างเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะใช้งบประมาณเท่าไหร่ นอกจากนี้ ในส่วนของการอำนวยความสะดวกในการใช้พื้นที่นั้น จุฬาฯ ได้มีนโยบายให้ กทม.สามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่หน้า ฮาร์ดร็อค คาเฟ่ และลานหน้าจามจุรี สแควร์ ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (30 สิงหาคม 2552)

กทม.ร่วมมือจุฬาฯ โครงการโมโนเรล พญาไท ยาว 2.5 กิโลเมตร มั่นใจผู้ใช้บริการหลักหมื่น จาก 4 สถานศึกษา
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผูว่าฯ กทม.เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ร่วมกับ รศ.น.อ.นพ.เพิ่มยศ โกศลพันธุ์ รองอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายจัดการทรัพย์สิน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น รศ.มานพ พงศทัต รศ.ประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ ถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล (Monorail) หรือระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยวได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า ที่ ประชุมเห็นพ้องที่จะดำเนินโครงการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลนำร่องสายแรกบน ถนนพญาไท ตั้งแต่อาคารจามจุรีสแควร์ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นแนวยาวบนเกาะกลางถนนของถนนพญาไทมาบรรจบกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม สแควร์ รวมระยะทางทั้งสิ้น 2.5 กิโลเมตร มีจำนวน 3 สถานี ได้แก่ สถานี CU1 จามจุรีสแควร์ CU2 เตรียมอุดมศึกษา และ CU3 สยามสแควร์
โดยจะนำต้นแบบจากการศึกษาดูงานจากเซ็นโตซาโมโนเรล ที่ข้ามไปเกาะเซ็นโตซา มีสีโบกี้รถเป็นสีลูกกวาด 5 ตู้ 5 สี โดย กทม.จะนำมาปรับให้เหมาะสมกับพื้นที่ แต่คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเส้นทางที่ผ่านเป็นสถานศึกษา
ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณในการก่อสร้าง กว่า 2,000 ล้านบาท โดยจะเป็นการของบจากโครงการไทยเข้มแข็ง ซึ่งผู้ว่าฯ กทม.ก็เห็นชอบในเรื่องนี้ และได้มอบหมายให้บริษัทที่ปรึกษาไปหารายละเอียดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น จำนวนผู้โดยสารที่จะเข้าระบบ ซึ่งตนคิดว่าจะมีไม่ต่ำกว่าหมื่นคน เนื่องจากมีสถานศึกษาหลายแห่ง ทั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเรียนสาธิตแห่งจุฬาฯ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครรินทรวิโรฒ ปทุมวัน
นายธีระชนกล่าวต่อว่า ในระหว่างนี้ ทางจุฬาฯ ศึกษาดูบริเวณใดเหมาะสมที่จะก่อสร้างเป็นศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) ส่วนเส้นทางถนนบรรทัดทอง และถนนอังรีดูนังต์นั้น คาดว่าจะเป็นเฟสที่ 2 สำหรับการก่อสร้าง
ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 ธันวาคม 2552
**โครงการจามจุรี สแควร์ 2 ตามที่จุฬาฯ ศึกษาไว้เดิม ได้วางรูปแบบการพัฒนาโครงการเป็นรูปแบบมิกซ์ยูส (ผสม) ลักษณะเป็นกลุ่มอาคารเชื่อมต่อถึงกัน มีพื้นที่รวม 1.85-2.2 แสนตารางเมตร ประกอบด้วยพื้นที่โรงแรม 1-1.5 หมื่น ตารางเมตร ศูนย์การประชุม 1,000-2,000 ตารางเมตร ศูนย์การค้า 2.5-3 หมื่นตารางเมตร พื้นที่สำนักงาน 4-5.5 หมื่นตารางเมตร พิพิธภัณฑ์ 1,000-3,000 ตารางเมตร เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ 1-1.5 หมื่นตารางเมตร และที่จอดรถอีกประมาณ 1 แสนตารางเมตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น