จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หรือจะรอให้เวียดนามแซงเรา


                                      หรือจะรอให้เวียดนามแซงเรา

          ผมคิดว่าปัญหาที่สำคัญและจำเป็นเร่งด่วนของไทย ก็คือการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิต มิฉะนั้นสินค้าไทยก็จะมีต้นทุนที่สูงและสินค้าประเภท High Value Added (HVA) ก็จะมีสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับสินค้าที่เป็น Low Value Added (LVA) ซึ่งสินค้าประเภท HVA จะทำให้ผู้ผลิตมีมาร์จินที่สูงกว่าแต่การที่ผู้ผลิต จะผลิตสินค้าประเภทนี้ได้ ก็ต้องมี Research & Development (R&D) ที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ยาก ถ้ารัฐบาลไม่ส่งเสริมประเทศไทยเราจัดอยู่ในประเทศที่มีเศรษฐกิจ Stage ที่ 2 ในกลุ่มที่เป็น Efficiency Driven ซึ่งอยู่ใน Stage กลางๆ ซึ่งมี 33 ประเทศที่อยู่ใน Stage นี้ ซึ่งมีประเทศ อินโดนีเซีย, จีน ก็จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับเรา ส่วนฟิลิปปินส์ อีก 1 ประเทศในกลุ่ม TIP ยังอยู่ในกลุ่ม Transition From Stage  to Stage 2 แย่กว่าเรา 1 ขั้น ขณะที่ประเทศมาเลเซียอยู่ในกลุ่ม Transition From Stage 2 To Stage 3 ซึ่งมีทั้งหมด 21 ประเทศ ซึ่งกลุ่มนี้คือกลุ่มที่เตรียมจะเข้าไปสู่ Stage 3 Innovation-Driven ซึ่งเป็นกลุ่มสูงสุดซึ่งมี 35 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งสิงคโปร์เป็นประเทศเดียวในกลุ่ม ASEAN  ที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ ขณะที่กลุ่มประเทศ CLMV (Cambodia, Laos, Myanmar และ Vietnam) ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Stage 1 Factor-Driven เมื่อสิบปีที่ไทยกับมาเลเซียยังมีเศรษฐกิจที่ใกล้เคียงกัน แต่ปัจจุบันมาเลเซียแซงหน้าเราในเกือบทุกด้าน GDP/ประชากรของเขาสูงกว่าเรามากกว่า 2 เท่าแล้ว ถ้าดูความสามารถในการแข่งขันตามรายงานของ World Economic Forum (WEF) ไทยอยู่ในลำดับที่ 38 จากปีที่แล้วอยู่ลำดับที่ 39 ขณะที่มาเลเซียอยู่ลำดับที่ 25 แต่ถ้าดูรายงานของ IMD ไทยเราปีนี้อยู่ลำดับที่ 27 ขณะที่ปีที่แล้ว เราอยู่ลำดับที่ 30 ขณะที่มาเลเซียอยู่ในลำดับที่ 15
          จากตัวเลขส่งออกที่กระทรวงพาณิชย์เพิ่งรายงานออกมาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า เดือนกรกฎาคม มีมูลค่าการส่งออก 19,064.10 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 1.48% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 21,345.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.08% ทำให้เราขาดดุลการค้า 2,281.30 ล้านเหรียญสหรัฐทำให้ 7 เดือนแรกปีนี้มีการส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 0.06% ขณะที่นำเข้ากลับเพิ่มขึ้นถึง 3.85% ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 18,052.7 ล้านเหรียญซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่แถว 32 บาท/ เหรียญสหรัฐ ถ้าประเทศไทยมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิต และมี R&D ที่ดี ก็จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทำให้เราส่สงออกได้มากขึ้น ขณะที่การนำเข้าจะลดลง ซึ่งจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงดุลการค้าจากขาดดุลเป็นเกินดุลการค้า ยังโชคดีที่ภาคการท่องเที่ยวยังดี มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเมาจับจ่ายใช้สอยในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มาจากนักท่องเที่ยวชาวจีนจากอานิสงค์ภาพยนต์ตลกเรื่อง Lost in Thailand ที่เป็นภาพยนตร์จีนที่ประสบความสำเร็จมากในประเทศจีน แต่เริ่มมีปัจจัยเสี่ยงที่รัฐบาลจีน กำลังออกกฎระเบียบเข้มงวดขึ้นกับทัวร์ราคาถูก หรือที่เรียกติดปากกันว่าทัวร์ศูนย์บาท ซึ่งจะทำให้ราคาทัวร์จากจีนมาไทยราคาสูงขึ้นอีกพอสมควร ทำให้ราคาที่ถูกเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเลือกที่มาเที่ยวประเทศไทยหมดไป
          สิ่งที่อยากเห็นรัฐบาลไทยทำ คือ ควรจะลดนโยบายประชานิยมลงโดยเฉพาะการรับจำนำข้าวหรือการประกันราคาข้าวในอดีตหรือการประกันราคาพืชผลทางเกษตรต่างๆ ซึ่งทำให้ภาคเกษตรต้องพึ่งพารัฐตลอด ไม่พยายามช่วยตัวเองเท่าที่ควร รัฐควรจะแนะนำวิธีเพิ่มผลผลิตหรือวิจัยพันธุ์พืชที่ให้ผลผลิตต่อไร่มากขึ้น มีความทนทานต่อศัตรูพืช และดินฟ้าอากาศมากขึ้น ทำไมเวียดนามจึงปลูกข้าวได้ปีละ 3 ครั้ง และผลผลิต/ไร่มากกว่าเรา และควรใช้ตลาดเกษตรล่วงหน้าให้เป็นประโยชน์ ในการช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งจะทำให้ประหยัดงบประมาณแผ่นดินได้มาก แล้วนำงบดังกล่าวไปพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะ Logistics ที่ไทยเราเป็นประเทศที่มีต้นทุนที่สูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นใน ASEAN และรัฐควรจะให้หน่วยงานเอกชนสามารถนำค่าใช้จ่ายเพื่อปรับปรุงประสิทธิในการผลิต อาทิเช่น สั่งซื้อเครื่องจักรใหม่ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ 3 เท่า และสามารถหักค่าเสื่อมสึกหรอใน 2 ปีแรกได้ปีละ 35% ค่าใช้จ่าย R&D หักเป็นค่าใช้จ่ายได้ 3 เท่า
          บริษัทที่ส่งออกได้เพิ่มขึ้นเกิน 20% ส่วนที่เกิน 20% รัฐควรคืนภาษีส่วนเกินนี้ให้ 1/3 และมาตรการอื่นๆ ที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการผลิตและส่งออก ปัจจุบันเวียตนามใช้ไทยเป็น KPI เปรียบเทียบและคุยว่าจะแซงหน้าไทยให้ได้ภายใน 10 ปี
          วกกลับมาที่ตลาดหุ้นบ้านเรา ผมคิดว่าช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ควรจะพยายามซื้อสะสมหุ้นให้เต็มพอร์ตโดยคาดว่าจุดต่ำสุดในกรณีเลวร้ายสุดๆ น่าจะอยู่ที่ 1,250-1,260 จุด ขณะที่ผมยังคาดว่าภายในปลายปีนี้เราน่าจะเห็น SET INDEX ที่ 1,460 จุด Risk Reward อยู่ข้างฝ่ายซื้อนะครับ เพราะว่าแย่สุดก็อาจจะลง 50-60 จุด ขณะที่มีลุ้นค่อนข้างมากที่ SET จะขึ้นประมาณ 150-160 จุดภายในสิ้นปีนี้ ช่วงนี้จึงเป็นช่วง Low Risk, High Return ครับ





               กิติชัย เตชะงามเลิศ

หนังสือ "จาก 1 ล้านเป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร" ยอดขายขื้นอันดับหนื่งตั้งแต่วันแรกจำหน่ายและครองอันดับ 1 ติดต่อกันมานาน

ติดตามแนวทางการลงทุนของผมได้ที่ 
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk 
Youtube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Blog :  http://kitichai1.blogspot.com

หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 หรือหน้า B10 และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Stock Review, Me(Market Evolution), Glow และ Lisa  ทุกเดือน
     

สนใจซื้ออสังหาเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ลองเข้า http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty

ขาย คอนโด สุขุมวิท(เดิน 4 นาที จาก สถานี BTS อ่อนนุช) เฟอร์ครบ ห้องสวยมาก ราคาต่ำสุด ๆ เพียง 2,300,000 บาท แถมเครื่องใช้ไฟฟ้าเพียบ!!!             

      โครงการ มาย คอนโด สุขุมวิท 81 นี้มี 8 ชั้น มีจำนวนห้องทั้งหมด 146 ยูนิต, ห่างจาก สถานี BTS อ่อนนุช , ห้างโลตัสอ่อนนุช ประมาณ 200 เมตร และ 600 เมตรจากห้างคาร์ฟูร์อ่อนนุช ใกล้ทางด่วน สุขุมวิท 50 และสุขุมวิท62 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร
1).ห้องที่จะขายอยู่ชั้น 3 ห้องเลขที่ 44/26(3004) พื้นที่ 34.81 ตรม. ห้องหันทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
มี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 1 คัน ห้องสวย เฟอร์นิเจอร์ครบถ้วน พร้อมเครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง
ขายในราคา 2,300,000 บาท   พร้อมผู้เช่า 13,000 บาท/เดือน เริ่มเช่า 1/10/55 ครบกำหนด 30/9/56


2).ห้องที่จะขายอยู่ชั้น 3 ห้องเลขที่ 44/24(3002) พื้นที่ 34.59 ตรม. ห้องหันทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
มี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 1 คัน ห้องสวย  เฟอร์นิเจอร์ครบถ้วน พร้อมเครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง
ขายในราคา 2,300,000 บาท   พร้อมผู้เช่า 12,000 บาท/เดือน เริ่มเช่า /11/55 ครบกำหนด 30/11/56

เหมาะแก่การลงทุน ผลตอบแทน ประมาณ 7% ต่อปี

ทุกห้องมี โทรทัศน์ 29 นิ้ว ซัมซุง รุ่น CS29Z50ML8  ตู้เย็นซัมซุง รุ่น RA19FASS  เครื่อง ไมโครเวฟ(Samsung)รุ่นMW83Y  เครื่องทำน้ำอุ่น 

ราคานี้รวม :  ค่าเงินกองทุน (500 บาทต่อ ตร..)
                ค่าใช้จ่ายทรัพย์ส่วนกลาง  ( 38 บาท/ตร.. ถืง ธค.56)
                ค่าติดตั้งและค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า 3,250 บาท      เรียบร้อยแล้ว
    ห้องที่จะขายเป็นห้องที่พร้อมอยู่จริง ๆ แต่งแบบจะอยู่เอง จัดให้แม้กระทั่งโคมไฟ ผ้าม่านในห้องรับแขก ห้องนอน และผ้าม่านในห้องน้ำ ต้นไม้พร้อมกระถาง ทั้งในห้องและระเบียง(สวนน่ารักมากที่ระเบียง) โทรทัศน์ 29 นิ้ว ซัมซุง รุ่น CS29Z50ML8 ตู้เย็นซัมซุง รุ่น RA19FASS ไมโครเวฟ(Samsung)รุ่นMW83Y  เครื่องทำน้ำอุ่น 

รายการเครื่องใช้ตกแต่งภายในและอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
โครงการ MyCondo สุขุมวิท 81

ลำดับ____ตำแหน่งที่ตั้ง___________รายการ________________________จำนวน (หน่วย)
1._____ห้องนั่งเล่น_____ตู้โชว์__________________________________1
2._____ห้องนั่งเล่น_____โต๊ะวางTV และชั้นวางของ____________________1
3._____ห้องนั่งเล่น_____โต๊ะข้างโซฟา_____________________________1
4._____ห้องนั่งเล่น_____โซฟา ขนาด 1.60x0.725 เมตร________________1
5._____ห้องนั่งเล่น_____โต๊ะทานข้าวแบบพับเก็บได้ พร้อมชั้นวางของ_________1
6._____ห้องนั่งเล่น_____เก้าอี้รุ่น "TAGA"___________________________2
7._____ห้องนอน______โต๊ะวางTV และชั้นวางของ_____________________1
8._____ห้องนอน______โต๊ะหัวเตียง_______________________________1
9._____ห้องนอน______เตียงนอนขนาด 5 ฟุต________________________1
10._____ห้องนอน______โต๊ะทำงาน และชั้นวางของ_____________________1
11._____ห้องนอน______เก้าอี้รุ่น "TUTTO"__________________________1
12._____ห้องนอน______ตู้เสื้อผ้า_________________________________1
13._____ห้องนอน______ที่นอนขนาด 5 ฟุต รุ่น "Silver Class"____________1
14._____ห้องนอน______ชั้นวางของ_______________________________1
15._____ห้องนอน______ชุดผ้าปูที่นอน 3 ชิ้น (สีขาว)____________________1
16._____ห้องนอน______หมอนหนุน_______________________________2
17._____ห้องครัว______ชุดครัวพร้อมซิงค์ล้างจาน______________________1
18._____ห้องนอน______เครื่องปรับอากาศ___________________________1
19._____ห้องนั่งเล่น_____เครื่องปรับอากาศ___________________________1

โปรโมชั่นพิเศษ จ่ายเพียง 2.3 ล้านบาท เข้าอยู่ได้เลย ฟรีค่าใช้จ่ายทหลายรายการ พร้อมของแถมเพียบ
-
ฟรีเงินกองทุนคอนโดมูลค่า 17,415 บาท
-
ฟรีเงินค่าส่วนกลางล่วงหน้าถึง 31 ธค 56
-
ฟรีเงินค่ามิเตอร์น้ำ/ไฟ มูลค่า 3,250 บาท
-
แถมเครื่องใช้ไฟฟ้า 4 ชิ้น ได้แก่ โทรทัศน์ 29 นิ้ว ตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องทำน้ำอุ่น


วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เป็นไปตามคาด

เป็นไปตามคาด


          ถ้าท่านผู้อ่านติดตามบทความผมอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าผมได้คาดการณ์ไว้ว่าเศรษฐกิจไตรมาส 2 น่าจะแย่เอาการ แล้วตัวเลขที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช) ที่ประกาศออกมาเมื่อวันจันทร์ ปรากฏว่าไตรมาส 2 เศรษฐกิจไทยโตเพียง 2.80% ซึ่งเมื่อเทียบกับ Analyst Consensus ที่ 3.60% น้อยไป 0.80% ทีเดียว และแล้วหน่วยงานองค์กรต่างๆ ก็มีการปรับการคาดการณ์ GDP ของประเทศไทยบางหน่วยงานก็มีการปรับการคาดการณ์ไปแล้ว เช่น ธปท. ก็ลดการคาดการณ์ GDP ปีนี้ อยู่ที่ 4.20% ส่วน สศช.เองก็ปรับการคาดการณ์จากเดิม 4.20%-5.20% เหลือเพียง 3.80-4.30% เท่านั้น ส่วนศูนย์วิจัยของธนาคารกสิกรไทยและไทยพาณิชย์ก็ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP เป็น 4.00% ก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนผมอาศัยมวยวัด โดยคอยสังเกตตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ไม่ว่าดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจตัวเลขส่งออก และจากการสอบถามเพื่อนๆ ที่ทำธุรกิจหลากหลายประเภทดู กอรปกับจากการสังเกตโปรโมชั่นของบริษัทห้างร้านต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ จากปีที่แล้ว ไม่มีการจัดโปรโมชั่นอะไรเลย ปีนี้กลับมีโปรโมชั่นออกมามาก จนผู้ที่จะซื้อรถปีนี้ถึงแม้จะไม่ได้สิทธิโครงการรถยนต์คันแรกแล้วก็ตาม แต่สิทธิประโยชน์บริษัทรถยนต์ให้เกือบเทียบเท่าสิทธิดังกล่าวเลยทีเดียว หรือการไปทดลองขับโดยไม่มีข้อแม้ว่าจะต้องจองซื้อรถยนต์ ก็ได้บัตรกำนัลมูลค่าเกือบพันบาท สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการส่งสัญญานให้เห็นว่า ตลาดรถยนต์น่าจะซบเซาลงมาก และยอดการยกเลิกการจองรถยนต์ในโครงการรถคันแรกก็มีค่อนข้างสูง คาดว่ายอดขายรถยนต์ครึ่งปีหลังยังแย่อีก นอกจากนั้นตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าของไทยเรา หลายประเทศก็ยังไม่ค่อยดี เช่น จีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของไทย ก็มีปัญหาเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจ กลุ่มประเทศยุโรป เศรษฐกิจก็ยังไม่ฟื้นตัว แม้กระทั้งเศรษฐกิจของประเทศในเอเชียเองก็ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นอินเดีย อินโดนีเซีย โดยเฉพาะประเทศหลังนี้ตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ที่เพิ่งจะประกาศออกมาโตเพียง 5.81% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างต่ำในรอบหลายปีตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ทั้งหลาย รวมทั้งตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่ขาดดุลถึง 9.80 พันล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาส 2 ปีนี้จาก 5.80 พันล้านเหรียญในไตรมาส 1 ทำให้ค่าเงินรูเปียะห์อินโด อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินตอลล่าร์สหรัฐ ค่าเงินเอเชียส่วนใหญ่ก็อ่อนตัวลง เงินบาทเราก็มีแนวโน้มอ่อนค่ามาหลายเดือนแล้วเข่นกัน จากตัวเลขส่งออกที่โตน้อยมาก และการขาดดุลบัญชีเงินสะพัด ถ้าเปรียบเทียบ GDP ไตรมาส 2 ปีนี้ กับไตรมาส 1 ก็หดตัวลงไป 1.70% QoQ จากการหดตัวของการส่งออกกับภาคครัวเรือนที่ลดการจับจ่ายใช้สอยลงโดยขยายตัวเพียง 2.40%  YoY จาก 4.40% ในไตรมาส 1 สาเหตุหลักๆ ก็คงมาจากยอดจำหน่ายรถยนต์ที่ลดลงต่อเนื่อง ความต้องการรถยนต์ของปีนี้ได้ถูกนำไปใช้ตั้งแต่ปีที่แล้ว นอกจากนั้นยังทำให้หนี้ครัวเรือนสูงขึ้น ผู้คนจึงมีเงินเหลือจับจ่ายใช้สอยลดลง เพราะว่าส่วนหนึ่งต้องมีภาระในการผ่อนชำระรถยนต์ การจับจ่ายของภาครัฐเองก็มีไม่มากนัก ส่วนหนึ่งก็มาจากงบโครงการป้องกันน้ำท่วม 3.50 แสนล้านบาทที่ศาลปกครอง สั่งให้ทำ EIA และ HIA ก่อน จึงทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณโครงการนี้ชะงักไป กอรปกับ พรบ. 2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะเป็นตัวจักรกลที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส 4 และปีถัดๆ ไป ก็ยังไม่แน่ว่าจะคลอดออกมาหรือเปล่า หรือคลอดออกมาจะถูกทำแท้งโดยศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่จากการที่กลุ่ม 40 สว. จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า พรบ. ฉบับนี้ขัดแย้งกับรัฐะรรมนูญหรือไม่ ยังมีเรื่องวุฒิสภาที่จะกลายเป็นสภาผัวเมียหรือไม่ จากการที่มีการผลักดันให้วุฒิสมาชิกมาจากการเลือกตั้งและจะมีวุฒิสมาชิกที่กำลังจะหมดสมาชิกภาพจำนวนหนึ่ง แล้วยังมี พรบ.นิรโทษกรรมที่กำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งคงจะทำให้การเมืองทั้งในสภาและนอกสภาคงจะปั่นป่วนน่าดู และปัจจัยภายนอกที่สำคัญที่ต้องจับตาคือการประชุมของ FED ในเดือนกันยายนนี้ ว่าจะมีการลดเม็ดเงินของมาตรการ QE ว่าจะลดลงไหม ถ้าลดจะลดเท่าไร ถ้า FED ลดจาก 85,000 ล้านเหรียญ/เดือนเป็น 60,000-65,000 ล้านเหรียญ/เดือน  คาดว่าตลาดจะมีผลกระทบไม่มากนัก เพราะว่าตลาดหุ้นได้ซึมซับข่าวนี้ไปพอสมควรแล้ว แต่ถ้าลดมากกว่านี้ ก็คงทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตกลงไปได้อีกส่วนตลาดหุ้นไทย ที่ผมแนะนำให้ขายในรอบที่ขึ้นมาเร็วๆ นี้ แล้วแนะว่าอย่าเพิ่งซื้อ ในที่สุดเราก็ได้เห็น SET INDEX ตกลงมาต่ำกว่า 1,400 จุดตามที่ผมทำนายไว้ ผมคิดว่าที่ระดับ 1,338-1,352 จุดน่าจะเป็นแนวรับที่ในรอบนี้คงจะพยุง SET INDEX ได้สักช่วงหนึ่ง เพื่อจะดูข่าวสารที่จะมากระทบตลาด ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า พรบ.2 ล้านล้านบาทขัดกับรัฐธรรมนูญ เราคงได้เห็น SET INDEX ที่ต่ำกว่า 1,300 จุดเป็นแน่ ช่วงนี้ต้องระมัดระวังในการลงทุน และติดตามข่าวทั้งเศรษฐกิจและการเมืองอย่างใกล้ชิดนะครับ

หนังสือ "จาก 1 ล้านเป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร" ยอดขายขื้นอันดับหนื่งตั้งแต่วันแรกจำหน่ายและครองอันดับ 1 ติดต่อกันมานาน

ติดตามแนวทางการลงทุนของผมได้ที่ 
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk 
Youtube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Blog :  http://kitichai1.blogspot.com

หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 หรือหน้า B10 และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Stock Review, Me(Market Evolution), Glow และ Lisa  ทุกเดือน
     

สนใจซื้ออสังหาเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ลองเข้า http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty

ขายดาวน์คอนโดสุขุมวิทลีฟวิ่งทาวน์ อโศก เดิน 2 นาที จากรถไฟใต้ดินเพชรบุรี, 8 นาทีจากสถานีแอร์พอร์ตลิ้ง และ 1 นาทีจากท่าเรือเพชรบุรี ราคาต่ำกว่าโครงการสุด ๆ

          โครงการ มี 36ชั้น 453 ยูนิต ที่จอดรถ 540 คัน   มี สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย และห้องล็อคเกอร์ ซาวน่า สตีม แยกชายหญิง
            ห้องเลขที่ 299/40(502) ชั้น 5 แบบห้องเอ เนื้อที่ 60 ตารางเมตร ไม่มีตึกบัง ราคา 4,800,000 บาท มี   1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ  1ห้องรับแขก เฟอร์นิเจอร์บางส่วน พร้อมเครื่องปรับอากาศ  2 เครื่อง รวมทั้งที่จอดรถ 1 คัน ห้องหันทิศเหนือ ให้เช่าห้อง 22,000 บาท/เดือน โครงการใกล้กันขนาดเท่ากัน ขายกันที่ 9,000,000 บาท

ดู VDO ที่ผมถ่ายภายในห้อง ที่ http://youtu.be/MejmuRp3pGQ

วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สิงหาว้าวุ่น

สิงหาว้าวุ่น



          เดือนสิงหาคมปีนี้เป็นเดือนที่จะมีความเข้มข้นทางด้านการเมืองมากที่สุดในยุคสมัยของรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์  นับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมาเป็นวันเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญเป็นวันแรก มีการชุมนุมของกลุ่มบุคคลที่เรียกตัวเองว่า “กองทัพประชาขน” โดยมีผู้นำกลุ่มเป็นนายทหาร ตำรวจนอกราชการ และกลุ่มผู้นำเสื้อเหลืองบางท่าน โดยมีจุดประสงค์ที่จะล้มล้างระบอบทักษิณ โดยมีการชุมนุมกันตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าร่วมชุมนุมปานกลาง บรรยากาศการชุมนุมคงจะคึกคักมากขึ้นในวันที่ 7-8 สิงหาคมนี้ซึ่งจะมีการพิจารณา พรบ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน และ พรบ.ว่าด้วยความปกครองแห่งชาติซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์  จะมากหรือน้อยคงขึ้นอยู่กับว่าจะมีจำนวนผู้ชุมนุมมากน้อยแค่ไหน และมีความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่ และพรบ ดังกล่าว จะได้รับการโหวตผ่านสภาผู้แทนมากน้อยอย่างไร และการชุมนุมจะบานปลายหรือไม่ ถ้าพรบ.ดังกล่าวผ่านสภา หลังจากนั้นก็จะมีการพิจารณาพรบ. งบประมาณแผ่นดิน วันที่ 14-15 สิงหาคม ซึ่งไม่น่าเป็นห่วง คงได้รับการโหวตผ่านแน่ๆ เพราะว่ารัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภา แล้วก็จะมีการพิจารณา พรบ. 2 ล้านล้านบาทในวันที่ 21-22 สิงหาคม ซึ่งทาง 40 สว. ได้เตรียมการจะนำพรบ.ฉบับนี้ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และไม่แน่ใจว่าจะทำเรื่องคำร้องฉุกเฉินด้วยหรือไม่ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ พรบ.ฉบับนี้ก็จะตกไปเพราะว่ากฎหมายอะไรที่ออกมา ถ้าขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายที่สูงที่สุดแล้วไม่สามารถจะทำได้ จากภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 2 ที่ประกาศตัวเลขหลายตัวออกมา ล้วนแล้วแต่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขการส่งออก จากการที่เศรษฐกิจจีนมีการชะลอตัวลง ทำให้ความต้องการนำเข้าสินค้าลดลง จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับหนึ่งของไทย จึงมีการนำเข้าสินค้าไทยลดลงค่อนข้างมากรวมทั้งคู่ค้ารายอื่นๆ ของไทยก็มีการนำเข้าสินค้าลดลง และการแข่งขันจากผู้ส่งออกเพื่อนบ้าน ทำให้ตัวเลขส่งออกไทยค่อนข้างแย่ ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมากไม่ค่อยดีนัก จากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวและภาวะตลาดหุ้นที่อ่อนตัวลงอย่างมากจากดัชนีที่ไปทำจุดสูงสุดที่ 1,649.77 เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ปีนี้ ลงไปทำจุดต่ำสุดหรือไม่ต้องติดตามดูของปีนี้ที่ 1,338.81 จุดเมื่อ วันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมาแล้วมีการเด้งกลับมาอยู่แถว 1,400 จุดในปัจจุบัน  การที่ดัชนีลดลงไปเกือบ 20% ย่อมส่งผลกระทบต่อความมั่งคั่งของนักลงทุน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ไว้อยู่เองหรือเก็งกำไรและปล่อยเช่า คาดว่าไตรมาส 3 ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ น่าจะยังซบเซา เมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่คึกคักเหลือเกิน ทำให้การลงทุนในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ช่วงนี้ยังไม่ค่อยสดใส แต่ด้วยราคาที่หุ้นกลุ่มนี้ตกลงมาค่อนข้างมากแล้วจาก Property Index ที่ไปทำจุดสูงสุดที่ 375.89 จุด เมื่อ 18 มีนาคมปีนี้แล้วหล่นลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 245.13 จุด เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ลดลงไป 130.76 จุด คิดเป็น 34.70% ลงไปมากกว่า SET INDEX ที่ลงไปเพียง 18.85% ท่านนักลงทุนระยะกลางและยาว อาจถือโอกาสช่วงนี้ค่อยๆ ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มนี้ไว้ลงทุนก็ไม่เลวนะครับ แต่ต่อรองราคาหน่อยละกัน เผื่อ พรบ.2 ล้านล้านบาท ไม่เกิดคงได้เห็น SET INDEX ลงไป ทดสอบ 1,300 จุด ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะทะลุลงไปด้วยหรือเปล่า ไว้ใกล้ๆ ผมจะ Update อีกครั้งนะครับ เพราะว่าช่วงครึ่งปีหลังนี้ เศรษฐกิจไทยคงหวังพึ่งเม็ดเงินพัฒนาประเทศจากรัฐบาลโดยเฉพาะโครงการ MEGA PROJECT 2 ล้านล้านบาท เพราะว่าโครงการป้องกันน้ำท่วม 3.5 แสนล้านบาท ก็ต้องชะงักหลังจากศาลปกครอง สั่งให้มีการทำการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียก่อนที่จะดำเนินการ การส่งออกก็ยังไม่ดี กอรปกับการอุปโภคบริโภคของประชาชนลดลงจากภาระหนี้ผ่อนชำระโครงการรถคันแรก ทำให้มีเงินเหลือจับจ่ายใช้สอยน้อยลง และเป็นโครงการที่ดึงอานาจซื้อบางส่วนของปีนี้ไปใส่ไว้ในปีที่แล้ว หนี้ครัวเรือนปัจจุบันก็อยู่ที่ 70กว่า % ยังดีที่ตัวเลขเงินเฟ้อทั้ง Core inflation และ Head line inflation ที่เพิ่งประกาศออกมายังอยู่ในระดับต่ำ อาจจะส่งผลให้การประชุมของ กนง.ในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ อาจจะมีการลดดอกเบี้ยสัก 0.25% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ถ้าทาง กนง.ให้ความสำคัญกับหนี้ครัวเรือนที่สูงในขณะนี้มากกว่า การเติบโตของเศรษฐกิจ การส่งออกและอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ เราก็คงเห็นการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิม อย่างไรก็ตามในช่วงนี้  ผมขอแนะนำให้นักลงทุนติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิดและดูผลประกอบการที่จะทยอยประกาศไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่ 15 สิงหาคมนี้ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งผมคาดว่าผลประกอบการของหลายบริษัทน่าจะสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนและนักวิเคราะห์ ซึ่งคงจะมีการปรับคาดการณ์ผลประกอบการลดลงนั่นจะทำให้ราคาหุ้นลดลงจากตัว E (EPS) ที่ลดลง รวมทั้งลดค่า P/E ลงตามการเติบโตของกำไรที่ลดลง เท่ากับ 2 เด้งเลย หลังจากประกาศผลแล้ว ท่านนักลงทุนควรจะทำการบ้านและปรับเปลี่ยนหุ้นในพอร์ตความเหมาะสมนะครับ

หนังสือ "จาก 1 ล้านเป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร" ยอดขายขื้นอันดับหนื่งตั้งแต่วันแรกจำหน่ายและครองอันดับ 1 ติดต่อกันมานาน

ติดตามแนวทางการลงทุนของผมได้ที่ 
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk 
Youtube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Blog :  http://kitichai1.blogspot.com

หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 หรือหน้า B10 และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Stock Review, Me(Market Evolution), Glow และ Lisa  ทุกเดือน
     

สนใจซื้ออสังหาเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ลองเข้า http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty

ขาย คอนโด วิช สามย่าน เดิน 2 นาที จาก รถไฟใต้ดิน สถานี สามย่าน ราคาต่ำกว่าโครงการสุด ๆ 2 ห้อง(ชั้น19) ราคา 4.2 ล้าน


                
   โครงการนี้มี 25 ชั้น มีจำนวนห้องทั้งหมด ประมาณ 500 ยูนิต, ถนนสี่พระยา บางรัก ห่างจาก สถานี รถไฟใต้ดิน  สามย่าน ประมาณ 100 เมตร ใกล้ อาคารจามจุรีสแควร์ ตลาดสามย่าน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เตรียมอุดมศึกษา สาธิตจุฬา อาคารชาญอิสระ โรงพยาบาลจุฬาฯ สวนลุมพินี ฯลฯ  มีสวนลอยฟ้า สระว่ายน้ำพร้อมสระเด็ก และห้องออกกำลังกาย ที่ชั้น 19    
การเดินทางโดยทางด่วน
ขึ้นลง ทางด่วนสามย่าน หัวลำโพง
ขึ้นลง ทางด่วนเชื้อเพลิง พระรามสี่
ขึ้นลง ทางด่วนสุรวงศ์ สีลม
      การเดินทางโดยรถประจำทาง สายที่ผ่าน คือ 1 , 16 ,36 , 45 , 75, 93 และ 187

   ห้องที่จะขายอยู่ชั้น 19
1.ห้อง  18/112  ชั้น 19   พื้นที่ 36.51 ตรม. ราคา 4,200,000 บาท ชั้นนี้ มีสวนลอยฟ้า     ให้เช่าห้อง 22,000 บาท/เดือน
2.ห้อง  18/113  ชั้น 19   พื้นที่ 36.51 ตรม. ราคา 4,200,000 บาท ชั้นนี้ มีสวนลอยฟ้า     ให้เช่าห้อง 22,000 บาท/เดือน

  โปรโมชั่นพิเศษ  เข้าอยู่ได้เลย ฟรีค่าใช้จ่ายทุกรายการ พร้อมของแถมเพียบ
- ฟรีเงินกองทุนคอนโด มูลค่าเกือบ 20,000 บาท
- ฟรีเงินค่าส่วนกลางล่วงหน้าถึง 31 ธค. 56 มูลค่าเกือบ 20,000 บาท
- ฟรีเงินค่ามิเตอร์น้ำ/ไฟ มูลค่า 3,250 บาท

หมายเหตุ ทุกห้องของผมวิวดี ไม่มีตึกบัง
ดู VDO ที่ผมถ่ายภายในห้อง ที่ http://youtu.be/Y9j1a7pm-xk