สิงหาว้าวุ่น
เดือนสิงหาคมปีนี้เป็นเดือนที่จะมีความเข้มข้นทางด้านการเมืองมากที่สุดในยุคสมัยของรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ นับตั้งแต่วันที่ 1
สิงหาคมที่ผ่านมาเป็นวันเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญเป็นวันแรก
มีการชุมนุมของกลุ่มบุคคลที่เรียกตัวเองว่า “กองทัพประชาขน” โดยมีผู้นำกลุ่มเป็นนายทหาร
ตำรวจนอกราชการ และกลุ่มผู้นำเสื้อเหลืองบางท่าน
โดยมีจุดประสงค์ที่จะล้มล้างระบอบทักษิณ โดยมีการชุมนุมกันตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 4
สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าร่วมชุมนุมปานกลาง
บรรยากาศการชุมนุมคงจะคึกคักมากขึ้นในวันที่ 7-8 สิงหาคมนี้ซึ่งจะมีการพิจารณา
พรบ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน
และ
พรบ.ว่าด้วยความปกครองแห่งชาติซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ จะมากหรือน้อยคงขึ้นอยู่กับว่าจะมีจำนวนผู้ชุมนุมมากน้อยแค่ไหน
และมีความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่ และพรบ ดังกล่าว
จะได้รับการโหวตผ่านสภาผู้แทนมากน้อยอย่างไร และการชุมนุมจะบานปลายหรือไม่
ถ้าพรบ.ดังกล่าวผ่านสภา หลังจากนั้นก็จะมีการพิจารณาพรบ. งบประมาณแผ่นดิน วันที่ 14-15
สิงหาคม ซึ่งไม่น่าเป็นห่วง คงได้รับการโหวตผ่านแน่ๆ
เพราะว่ารัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภา แล้วก็จะมีการพิจารณา พรบ. 2 ล้านล้านบาทในวันที่ 21-22 สิงหาคม ซึ่งทาง 40
สว. ได้เตรียมการจะนำพรบ.ฉบับนี้ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า
ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และไม่แน่ใจว่าจะทำเรื่องคำร้องฉุกเฉินด้วยหรือไม่ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ
พรบ.ฉบับนี้ก็จะตกไปเพราะว่ากฎหมายอะไรที่ออกมา ถ้าขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายที่สูงที่สุดแล้วไม่สามารถจะทำได้
จากภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 2 ที่ประกาศตัวเลขหลายตัวออกมา
ล้วนแล้วแต่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขการส่งออก
จากการที่เศรษฐกิจจีนมีการชะลอตัวลง ทำให้ความต้องการนำเข้าสินค้าลดลง
จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับหนึ่งของไทย
จึงมีการนำเข้าสินค้าไทยลดลงค่อนข้างมากรวมทั้งคู่ค้ารายอื่นๆ
ของไทยก็มีการนำเข้าสินค้าลดลง และการแข่งขันจากผู้ส่งออกเพื่อนบ้าน ทำให้ตัวเลขส่งออกไทยค่อนข้างแย่
ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมากไม่ค่อยดีนัก
จากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวและภาวะตลาดหุ้นที่อ่อนตัวลงอย่างมากจากดัชนีที่ไปทำจุดสูงสุดที่
1,649.77 เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ปีนี้
ลงไปทำจุดต่ำสุดหรือไม่ต้องติดตามดูของปีนี้ที่ 1,338.81 จุดเมื่อ
วันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมาแล้วมีการเด้งกลับมาอยู่แถว 1,400
จุดในปัจจุบัน
การที่ดัชนีลดลงไปเกือบ 20% ย่อมส่งผลกระทบต่อความมั่งคั่งของนักลงทุน
ซึ่งเป็นกลุ่มที่ลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ไว้อยู่เองหรือเก็งกำไรและปล่อยเช่า
คาดว่าไตรมาส 3 ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ น่าจะยังซบเซา
เมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่คึกคักเหลือเกิน ทำให้การลงทุนในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
ช่วงนี้ยังไม่ค่อยสดใส แต่ด้วยราคาที่หุ้นกลุ่มนี้ตกลงมาค่อนข้างมากแล้วจาก Property
Index ที่ไปทำจุดสูงสุดที่ 375.89 จุด เมื่อ 18
มีนาคมปีนี้แล้วหล่นลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 245.13 จุด เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ลดลงไป 130.76 จุด คิดเป็น 34.70% ลงไปมากกว่า SET INDEX ที่ลงไปเพียง 18.85% ท่านนักลงทุนระยะกลางและยาว
อาจถือโอกาสช่วงนี้ค่อยๆ ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มนี้ไว้ลงทุนก็ไม่เลวนะครับ
แต่ต่อรองราคาหน่อยละกัน เผื่อ พรบ.2 ล้านล้านบาท
ไม่เกิดคงได้เห็น SET INDEX ลงไป ทดสอบ 1,300 จุด ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะทะลุลงไปด้วยหรือเปล่า ไว้ใกล้ๆ ผมจะ Update
อีกครั้งนะครับ เพราะว่าช่วงครึ่งปีหลังนี้
เศรษฐกิจไทยคงหวังพึ่งเม็ดเงินพัฒนาประเทศจากรัฐบาลโดยเฉพาะโครงการ MEGA
PROJECT 2 ล้านล้านบาท เพราะว่าโครงการป้องกันน้ำท่วม 3.5 แสนล้านบาท ก็ต้องชะงักหลังจากศาลปกครอง
สั่งให้มีการทำการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียก่อนที่จะดำเนินการ การส่งออกก็ยังไม่ดี
กอรปกับการอุปโภคบริโภคของประชาชนลดลงจากภาระหนี้ผ่อนชำระโครงการรถคันแรก
ทำให้มีเงินเหลือจับจ่ายใช้สอยน้อยลง และเป็นโครงการที่ดึงอานาจซื้อบางส่วนของปีนี้ไปใส่ไว้ในปีที่แล้ว
หนี้ครัวเรือนปัจจุบันก็อยู่ที่ 70กว่า % ยังดีที่ตัวเลขเงินเฟ้อทั้ง Core inflation และ Head
line inflation ที่เพิ่งประกาศออกมายังอยู่ในระดับต่ำ อาจจะส่งผลให้การประชุมของ
กนง.ในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ อาจจะมีการลดดอกเบี้ยสัก 0.25%
เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ถ้าทาง
กนง.ให้ความสำคัญกับหนี้ครัวเรือนที่สูงในขณะนี้มากกว่า การเติบโตของเศรษฐกิจ
การส่งออกและอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ เราก็คงเห็นการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิม
อย่างไรก็ตามในช่วงนี้
ผมขอแนะนำให้นักลงทุนติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิดและดูผลประกอบการที่จะทยอยประกาศไปเรื่อยๆ
จนถึงวันที่ 15 สิงหาคมนี้ว่าเป็นอย่างไร
ซึ่งผมคาดว่าผลประกอบการของหลายบริษัทน่าจะสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนและนักวิเคราะห์
ซึ่งคงจะมีการปรับคาดการณ์ผลประกอบการลดลงนั่นจะทำให้ราคาหุ้นลดลงจากตัว E
(EPS) ที่ลดลง รวมทั้งลดค่า P/E ลงตามการเติบโตของกำไรที่ลดลง
เท่ากับ 2 เด้งเลย หลังจากประกาศผลแล้ว
ท่านนักลงทุนควรจะทำการบ้านและปรับเปลี่ยนหุ้นในพอร์ตความเหมาะสมนะครับ
หนังสือ "จาก 1 ล้านเป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร" ยอดขายขื้นอันดับหนื่งตั้งแต่วันแรกจำหน่ายและครองอันดับ 1 ติดต่อกันมานาน
ติดตามแนวทางการลงทุนของผมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Youtube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 หรือหน้า B10 และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Stock Review, Me(Market Evolution), Glow และ Lisa ทุกเดือน
สนใจซื้ออสังหาเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ลองเข้า http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty
ขาย คอนโด วิช สามย่าน เดิน
2 นาที จาก รถไฟใต้ดิน สถานี สามย่าน ราคาต่ำกว่าโครงการสุด ๆ 2
ห้อง(ชั้น19) ราคา 4.2 ล้าน
โครงการนี้มี
25 ชั้น
มีจำนวนห้องทั้งหมด ประมาณ 500 ยูนิต, ถนนสี่พระยา บางรัก ห่างจาก สถานี รถไฟใต้ดิน สามย่าน ประมาณ 100 เมตร ใกล้
อาคารจามจุรีสแควร์ ตลาดสามย่าน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เตรียมอุดมศึกษา สาธิตจุฬา
อาคารชาญอิสระ โรงพยาบาลจุฬาฯ สวนลุมพินี ฯลฯ
มีสวนลอยฟ้า สระว่ายน้ำพร้อมสระเด็ก
และห้องออกกำลังกาย ที่ชั้น 19
การเดินทางโดยทางด่วน
ขึ้นลง
ทางด่วนสามย่าน –
หัวลำโพง
ขึ้นลง
ทางด่วนเชื้อเพลิง –
พระรามสี่
ขึ้นลง
ทางด่วนสุรวงศ์ –
สีลม
การเดินทางโดยรถประจำทาง สายที่ผ่าน คือ 1
, 16 ,36 , 45 , 75, 93 และ 187
ห้องที่จะขายอยู่ชั้น
19
1.ห้อง 18/112 ชั้น
19 พื้นที่ 36.51 ตรม. ราคา 4,200,000 บาท ชั้นนี้ มีสวนลอยฟ้า ให้เช่าห้อง 22,000 บาท/เดือน
2.ห้อง 18/113 ชั้น
19 พื้นที่ 36.51 ตรม. ราคา 4,200,000 บาท ชั้นนี้ มีสวนลอยฟ้า ให้เช่าห้อง 22,000 บาท/เดือน
โปรโมชั่นพิเศษ เข้าอยู่ได้เลย ฟรีค่าใช้จ่ายทุกรายการ
พร้อมของแถมเพียบ
- ฟรีเงินกองทุนคอนโด
มูลค่าเกือบ 20,000 บาท
-
ฟรีเงินค่าส่วนกลางล่วงหน้าถึง 31 ธค. 56 มูลค่าเกือบ 20,000 บาท
- ฟรีเงินค่ามิเตอร์น้ำ/ไฟ
มูลค่า 3,250 บาท
หมายเหตุ ทุกห้องของผมวิวดี ไม่มีตึกบัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น