ท่องเที่ยวไทยจะเป็นอย่างไร
เศรษฐกิจไทยปีนี้
ไตรมาสแรกโต 3% ส่วนไตรมาส2โต 2.80%
ทำให้เครึ่งปีแรกเศรษฐกิจไทยโตเฉลี่ย 2.9% ซึ่งต้องขอบคุณอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เติบโตจากปีที่แล้วเป็นอย่างมาก
หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปีที่แล้ว การประท้วงมาราธอนก็ยุติลงทำให้ความสวุ่นวายมลายไป
ความสงบสุขก็กลับมาสู่ประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง เวลาผ่านมาปีกว่าๆ
เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นมาอีกจนได้
คือการวางระเบิดในย่านใจกลางเมืองบริเวณสี่แยกราชประสงค์ในช่วงเวลาหัวค่ำของวันจันทร์ที่ผ่านมา
ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 20 ราย โดยเป็นคนไทย 5 คน จีน 2 คน คนมาเลเซีย คนฮ่องกง 2
คน คนสิงโปร์ 1 คน ส่วนอีก 8ศพ ยังไม่สามารถยืนยันตัวบุคคลได้ (อัพเดทวันที่ 18
สิงหาคม) บาทเจ็บอีกร้อยกว่าคน จริงๆแล้วการลอบวางระเบิดในกรุงเทพมหานคร
เคยมีมาหลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นระเบิดที่มีอานุภาพไม่รุนแรง
ไม่ค่อยมีผู้เสียชีวิต แต่คราวนี้เป็นระเบิดที่มีอานุภาพทำลายล้างรุนแรงมาก
จึงก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าวขึ้น
ผู้บงการและผู้ที่ก่อการไม่รู้ว่าเป็นคนไทยหรือเปล่า ถ้าใช่
ผมสงสัยจังว่าทำไมคุณถึงมีจิตใจที่เหี้ยมโหดเกินมนุษย์ นอกจากทำให้ผู้คนล้มตายและบาดเจ็บเป็นจำนวนมากแล้ว
คุณกำลังทำลายการท่องเที่ยวของประเทศซึ่งเป็นตัวจักรเดียวที่เหลืออยู่ที่ยังทำงานได้ดี
รัฐบาลชาติต่างๆคงทยอยประกาศเตือนคนในชาติของตนให้งดการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย
และซ้ำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เสียชีวิตล้วนแล้วแต่เป็นชาติหลักๆที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย
โดยเฉพาะชาวจีน ซึ่งปีนี้เดินทางเข้ามาในไทยเป็นจำนวนมาก
ตัวเลขนักท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสสี่คงจะหดตัวลงอย่างมาก
น่าเสียดายที่ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วง HIGH SEASON เสีย
ด้วย
เป็นช่วงที่คนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรอคอยกัน
เท่าที่ผมสังเกตดูนักท่องเที่ยวจีนจะมาท่องเที่ยวน้อยลงมากเมื่อไทยมี
สถานการณ์ประท้วงหรือความไม่สงบ
ดังนั้นคราวนี้ เราคงเห็นนักท่องเที่ยวจีนลดลงอย่างน่าใจหาย โดยเฉพาะพัทยา
ชลบุรี
ที่แย่มากๆช่วงต้นปีก่อน
หลังจากที่เศรษฐกิจรัสเซียได้รับผลกระทบจากการกดดันของสหรัฐและกลุ่มประเทศ EU
รวมทั้ง ราคาน้ำมันและก๊าซที่ตกต่ำลงอย่างมาก
รัสเซียเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกสินค้าดังกล่าว จึงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
ทำให้ค่าเงินรูเบิ้ลรัสเซียอ่อนลงเกือบครึ่งหนึ่ง
นักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางมาประเทศไทยลดลงอย่างมาก
กลุ่มนักท่องเที่ยวในโซนนี้ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ ซึ่งส่งผลไปหมด
พนักงานที่อยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถูกปลดออกจากหน้าที่การงาน
อสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะคอนโดที่ชาวรัสเซียมาจองซื้อไว้
ก็มีการทิ้งดาวน์ค่อนข้างมาก ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในพัทยาลดลง
ที่เพิ่งจะมาฟื้นก็เพราะว่าได้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาแทนที่
ก็มาเจอเหตุการณ์นี้เสียแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงจะต้องทำงานหนักขึ้น
เพื่อดึงให้นักที่องเที่ยวต่างชาติยอมเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยให้ได้
เราคงเห็นการลดลงของราคาห้องพักเพื่อแข่งขันดึงดูดนักท่องเที่ยวที่จะมีปริมาณลดลง
นั่นหมายถึงรายได้รวมทั้งกำไรต่อห้องและจำนวนที่พักที่ขายได้ของกลุ่มโรงแรมจะลดลงเนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
ส่วนอุตสาหกรรมการบิน สนามบิน ร้านอาหารก็จะได้รับผลกระทบรองลงมา
บังเอิญหุ้นกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีการซื้อขายที่ P/E สูงมาก
เพราะว่านักลงทุนมั่นใจว่าเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตจของรายได้และกำไรสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ
จากเหตุการณืนี้ กลุ่มนี้จะโดน2เด้งคือ
1 นักวิเคราะห์และนักลงทุนจะมีการปรับการคาดการณ์
รายได้และกำไรลดลงอย่างมาก
2 นักวิเคราะห์และนักลงทุนจะลดค่า P/E สำหรับกลุ่มนี้ลงเนื่องจากคาดว่าการเติบโตของกำไรจะไม่สวยงามเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
จากเหตุการณืนี้หน่วยงานรัฐเกี่ยวกับด้านข่าวกรอง
ทำงานไร้ประสิทธิภาพจริงๆ เนื่องจากผมเห็นข้อมูลที่ส่งมาในไลน์
มีการพูดถึงจะเกิดความไม่สงบในกรุงเทพช่วงระหว่างวันที่ 14-28 สิงหาคม
แต่ทำไมจึงปล่อยให้เหตุการณ์ร้ายแรงแบบนี้เกิดขึ้นมาได้อีก ถ้าเป็นเมืองนอก
ผู้ที่รับผิดชอบคงจะต้องมีการพิจารณาตัวเองกันแล้ว ไม่เป็นไรครับ
แต่หวังว่าจากนี้ไป หน่วยงานจะต้องทำงานอย่างรอบคอบกว่านี้
เพราะว่ามันกระทบถึงชีวิตและทรัพย์สินของคนจำนวนมาก ไหนจะครอบครัวของเขาเหล่านั้น
ถ้าผู้เสียชีวิตเป็นตัวหลักในการหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว
สมาชิกครอบครัวเหล่านั้นจะทำอย่างไรกัน นี่ยังไม่รวมบุคลากรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
ที่อาจจะถูกปลดออกจากงาน เนื่องจากนักท่องเที่ยวมาเที่ยวน้อยลง
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องจะต้องเลิกกิจการไปอีกเท่าไหร่
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า จะมีเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้เกิดขึ้นอีกหรือไม่
ก่อนจบบทความนี้ขอเตือนนักลงทุนที่คิดจะลงทุนในกลุ่มท่องเที่ยว
จุดต่ำสุดที่เห็นเมื่อเช้าวันอังคารอาจจะไม่ใช่จุดต่ำสุดที่แท้จริง
ช่วงนี้ราคาหุ้นในกลุ่มนี้น่าจะซึมลงไปเรื่อยๆ
จนกว่านักลงทุนจะมั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นอีก ซึ่งคงต้องใช้เวลา
กิติชัย เตชะงามเลิศ
25/03/58
25/03/58
ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
Linkedin : https://www.linkedin.com/in/homeproperty
Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
Linkedin : https://www.linkedin.com/in/homeproperty
Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/
หรือ
หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B8หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ
และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Glow, และ Me(Market Evolution)
ทุกเดือน ถ้าท่านชอบบทความผม
ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยเอาเม้าส์ไปทางด้านขวามือจะมีแถบแสดงออกมา
แล้วเลือกคลิกไอคอนที่เขียนว่าสมัครรับข้อมูล เมื่อผมมีบทความใหม่
ท่านก็จะทราบทันที หาอสังหาทั้งถูกและดีเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน
ได้ที่ http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น