Swan Lake เขาใหญ่คุ้มค่าที่จะซื้อหรือไม่?
การไปพักผ่อนที่เขาใหญ่เป็นสิ่งที่คนไทยโดยเฉพาะคนกรุงเทพและปริมณฑลนิยมมาเป็นเวลานานแล้ว
เพราะใช้เวลาในการเดินทางไม่นานนัก แค่ 2 ชั่วโมงก็ถึง ยิ่งถ้ารถไฟความเร็วสูงสายอีสาน
เฟสแรก "กรุงเทพฯ-นครราชสีมา" ระยะทาง 250 กิโลเมตร ซึ่งมีทั้งหมด 6
สถานี เริ่มที่ "บางซื่อ ดอนเมือง พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ปากช่อง
นครราชสีมา" เปิดใช้ ก็ยิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่จะไปพักผ่อนที่เขาใหญ่ได้มากยิ่งขึ้น
ทำให้พอจะคาดได้ว่า หลังจากที่มีการเปิดใช้รถไฟความเร็วสูงสายดังกล่าว
น่าจะทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยว ทั้งไทยและเทศ ที่จะไปพักผ่อนหย่อนใจในเขาใหญ่ มีเยอะขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก
เรามาดูสถิติการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมา (กรมการท่องเที่ยวไม่ได้ทำตัวเลขแยกเฉพาะของเขาใหญ่) พอจะเห็นภาพเลาๆ
ของการท่องเที่ยวที่เขาใหญ่ได้บ้าง ปรากฏว่า ปี 2555
มีนักท่องเที่ยวไทยที่ไปเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา (ทั้งในเมืองและวังน้ำเขียว) 6,082,187 คน นักท่องเที่ยวต่างชาติ 116,571 คน
เมื่อรวมทั้งไทยและเทศคิดเป็น 6,198,758 คน
มีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปี จนกระทั่งถึงปี
2559 มีนักท่องเที่ยวไทย 8,173,186 คน เพิ่มขึ้น
34.38 % นักท่องเที่ยวต่างชาติ 147,453 คน
เพิ่มขึ้น 26.49% เมื่อรวมทั้งไทยและเทศ คิดเป็น 8,321,239
คน เพิ่มขึ้น 34.24%
จากตัวเลขข้างต้นแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของการท่องเที่ยวเขาใหญ่
นอกจากนั้นโอกาสทางการท่องเที่ยวของเขาใหญ่ ยังมีมากขึ้นจากการที่คนไทยเริ่มให้ความสนใจกับสุขภาพมากขึ้น
จึงวิ่งเข้าหาธรรมชาติมากขึ้น ยิ่งฐานอายุของคนไทยโดยเฉลี่ยสูงขึ้นเรื่อยๆ
ในปีหน้าเรากำลังจะมีคนไทย ที่อายุเกิน 60 ปี มากถึง 20% ของจำนวนประชากรทั้งหมด
นั่นหมายถึงว่าถ้าคุณเดินสวนกับคน 5 คนจะมีหนึ่งคน ที่อายุเกิน 60 ปี คนสูงวัยส่วนใหญ่จะแสวงหาธรรมชาติ
โดยเฉพาะสถานที่ ที่มีต้นไม้อยู่เป็นจำนวนมาก เขาใหญ่จึงตอบโจทย์กับเทรนด์ของคนไทยที่ใฝ่หาธรรมชาติมากขึ้น
นอกจากนี้ในช่วงที่มีอากาศหนาว จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงปกติด้วย
จากจำนวนนักท่องเที่ยว 8.3 ล้านคนที่ไปเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา ย่อมต้องมีบางคนที่คิดจะเป็นเจ้าของอสังหาฯ
บนเขาใหญ่ เพียงแค่ 0.1% ของตัวเลขนักท่องเที่ยว ก็คิดเป็นจำนวน 8,300 ยูนิตแล้ว ซึ่งมากกว่าจำนวนยูนิตที่ออกขายในแต่ละปี หรือจำนวนยูนิตรอขายสะสมทั้งหมด ดังนั้นคุณคงได้คำตอบแล้วนะครับว่า
อสังหาที่เขาใหญ่น่าลงทุนหรือไม่
ช่วงที่ผ่านมาผมได้เห็นคลิปวีดีโอของโครงการหนึ่งบนเขาใหญ่ ซึ่งถูกแชร์มาใน Line ของหลายๆ กรุ๊ป ที่ผมเป็นสมาชิกอยู่ ทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า
โครงการนี้มีดีอย่างไรถึงมีคนนำวีดีโอมาแชร์มากมาย โครงการนั้นคือ Swan Lake ที่มีพี่เบิร์ด ธงไชยกับคุณมานิต อุดมคุณธรรม ที่เป็นเจ้าของโครงการบนพื้นที่กว่า
200 ไร่ หลังจากเปิดดูคลิปวิดีโอดังกล่าวแล้ว
ยิ่งทำให้ผมอยากรู้จักโครงการนี้มากขึ้น ผมจึงไปเสิร์ชหาข้อมูลของโครงการนี้
แล้วก็ค้นพบว่า เป็นหนึ่งในโครงการในอุดมคติของผมเลยทีเดียว
เพราะว่าผมเป็นคนที่ชอบอยู่กับธรรมชาติ โดยเฉพาะสถานที่ที่มีต้นไม้ใหญ่ๆ เป็นจำนวนมาก
เพราะที่นี่มีต้นไม้มากกว่า 40,000 ต้น พันธุ์ไม้มากกว่า 240 ชนิด แล้วในจำนวนต้นไม้เหล่านี้
ได้สานกันเป็นอุโมงค์ต้นไม้ ที่มีความยาวถึง 4 กิโลเมตร
นอกจากนั้นยังมีก้อนหินขนาดใหญ่มากกว่า 10,000 ก้อน ซึ่งถูกนำเข้ามาจากแหล่งต่างๆ
มาสร้างองค์ประกอบของความเป็นธรรมชาติให้มากขึ้น
ทั้งยังขุดพื้นที่มากกว่า 60 ไร่เพื่อทำเป็นทะเลสาบถึง 7 ทะเลสาบ
โดยทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุด กินเนื้อที่ถึง 20 ไร่ มีหงส์ ไก่ และสัตว์ต่างๆ
ที่ถูกเลี้ยงอย่างธรรมชาติ รวมทั้งปลาคาร์ฟกว่า 5 หมื่นตัว ว่ายวนอยู่ในทะเลสาบ ยิ่งไปกว่านั้น ทางโครงการยังจะสร้างเลนจักรยาน
2 ชั้น ที่มีความยาวกว่า 5 กิโลเมตร และยังมีฟิตเนสท่ามกลางธรรมชาติ ลองจินตนาการดูสิครับว่า คุณวิ่งบน Treadmill หรือเล่นเวทท่ามกลางธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์และชมวิวเขาใหญไปด้วย คงจะมีที่นี่ที่เดียวในประเทศไทย
ที่ทำได้แบบนี้
และเมื่อผมย้อนกลับไปดูเมื่อปี 2548 ที่ตั้งโครงการเคยเป็นไร่ข้าวโพดและเขาหัวโล้น
แทบไม่น่าเชื่อเลย ว่าความสามารถของคนเรา จะเนรมิตที่ดินแบบนั้น
ให้กลายเป็นสถานที่ที่มีธรรมชาติที่สวยงามในปัจจุบันได้ เป็นการคืนธรรมชาติสู่ธรรมชาติจริงๆ
เมื่อมาดูจำนวนยูนิตที่มีทั้งหมด 282 unit เทียบกับพื้นที่ของโครงการทั้งหมด 200 ไร่
ทำให้แต่ละยูนิตมีพื้นที่ส่วนกลางประมาณเกือบ 1 ไร่ นับว่าเป็นความใจดีของคุณมานิตจริงๆ ถ้าจำทิปส์
10 ข้อในการเลือกซื้อคอนโด (http://kitichai1.blogspot.com/2016/10/blog-post.html) ที่ผมเคยพูดถึง
จะมีข้อหนึ่งที่ผมพูดถึงว่า ถ้าจะเลือกซื้อคอนโดริมแม่น้ำ ทะเล หรือภูเขา
ก็ควรจะเลือกซื้อยูนิตที่เห็นวิวเหล่านั้น
แต่โชคดีที่โครงการ Swan Lake ทุกยูนิตล้วนเห็นแต่วิวสีเขียว
เพราะทุกห้องของทุกยูนิต ไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก ห้องนอน หรือห้องครัว จะได้เห็นวิวเขาใหญ่แบบ
Panorama เลยทีเดียว แต่ละยูนิตล้วนแล้วแต่มีหน้ากว้าง
และอีกข้อหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ Facilities ของแต่ละโครงการ
โดยเปรียบเทียบดูปริมาณพื้นที่ส่วนกลางต่อปริมาณพื้นที่ส่วนที่ขาย คงยากที่จะหาโครงการไหน ที่ให้พื้นที่ส่วนกลางมากขนาดนี้ไม่มีอีกแล้วเมื่อเทียบต่อจำนวนยูนิต
ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตอันใกล้ แล้วที่เจ๋งไปกว่านั้นอีก
คือโรงแรมในโครงการจะเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด
อนึ่ง ได้ยินมาว่า Swan
Lake เมื่อรอบที่แล้ว ขายหมดเร็วมาก ไม่ถึง 1 เดือน ขายหมดแล้ว บางคนจองไม่ทัน
ต้องมารอเฟสใหม่นี้ ซึ่งไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับผมเลยแม้แต่น้อย
ไม่ว่าจะซื้อ Swan Lake เพื่ออาศัยอยู่เอง และเผื่อที่จะยกให้เป็นมรดกแก่ลูกหลานในอนาคต
หรือเพื่อการลงทุน ก็ดูแล้วว่าคุ้มค่ามากๆ ถ้าอยู่เอง ที่นี่จะเป็นที่ๆ
ทำให้คุณภาพชีวิตของคุณดีมากถึงดีที่สุด (เพราะได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ
ในพื้นที่ 200 ไร่) แต่ถ้าหากซื้อเพื่อลงทุน
ก็คุ้มค่ามากๆ มูลค่าที่ดินก็มีแต่จะเพิ่มขึ้น แถมเรื่องของอากาศที่สะอาด การที่จะหาพื้นที่ที่มีโอโซนเยอะๆ
แบบนี้ได้ คงมีน้อยลงไปทุกวัน ทราบข่าวว่า นี่จะเป็นเฟสสุดท้าย และจะไม่มีการทำเพิ่มขึ้นอีกแล้ว
หมดแล้วหมดเลยนะครับ ถ้าหากพลาดไป คงน่าเสียดายมากๆ
ในอนาคต ไม่มีใครกล้าทำโปรเจ็คแบบนี้ที่เขาใหญ่อีกแล้วแน่นอน
โครงการที่ต้องทุ่มเททั้งทุนทรัพย์และเวลา อีกทั้งต้นไม้แต่ละต้นกว่าจะสูงใหญ่ขึ้นมาได้
ต้องใช้เวลานับสิบๆ ปี ที่นับวันยิ่งสูงใหญ่ยิ่งเพิ่มมูลค่าและคุณค่าให้กับสถานที่
คุณลุงมานิตเองยังต้องใช้เวลาถึง 12 ปีเพื่อจะทำให้ได้ธรรมชาติที่สมบูรณ์เช่นนี้ อย่าลืมนะครับว่า เงินไม่สามารถซื้อได้ทุกสิ่ง
โดยเฉพาะสุขภาพของคุณเองและคนที่คุณรัก
สนใจก็ต้องรีบมาจอง เพื่อที่จะได้เลือกยูนิตที่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกใจ
โดยจะมีงานเปิดรับจองที่สยามพารากอน ชั้น 1 วันที่ 14-18 มิย.นี้ ผมเองก็กะว่าจะไปสอยสัก 1 ยูนิต เอาไว้เป็นบ้านหลังที่
2 อยู่เหมือนกัน แล้วมาพบกันที่ Swan
Lake เขาใหญ่นะครับ
กิติชัย เตชะงามเลิศ
16/6/60
ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
Linkedin : https://www.linkedin.com/in/homeproperty
Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
Linkedin : https://www.linkedin.com/in/homeproperty
Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/
หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"
2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน”
3.นิตยสาร Be Link ทุกเดือน
2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน”
3.นิตยสาร Be Link ทุกเดือน
4.นิตยสาร Me(Market Evolution) วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น