จะลงทุนอย่างไรในภาวะเศรษฐกิจถดถอยและเงินเฟ้อที่สูง
เงินเฟ้อทั่วโลกโดยเฉพาะที่สหรัฐสูงขึ้นมากว่าภาวะปกติร่วม
2 ปีแล้ว แต่อาการหนักหนาสาหัสก็เป็นช่วงเร็วๆนี้
ซึ่งเกิดจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นมาอย่างมาก จากที่เคยอยู่แถว 60-70 $/บาร์เรล
ทะยานขึ้นมาจนถึง 120 กว่าเหรียญต่อบาร์เรล เท่ากับว่าขึ้นมาเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว
ซึ่งเกิดจากภาวะสงครามรัสเซียยูเครน ทำให้อุปทานน้ำมันหายไปจากตลาดเป็นจำนวนมาก
จากการแซงชันของประเทศในยุโรป โดยการลดและเลิกซื้อน้ำมัน แก๊ส
รวมทั้งถ่านหินจากรัสเซีย ซึ่งน่าจะส่งผลถึงราคาพลังงานทั่วโลกแล้ว
รัสเซียและยูเครนเป็น 2 ประเทศที่ส่งออกอาหารอยู่ในสัดส่วนที่สูง
จากภาวะสงครามทำให้การส่งออกอาหารลดลงอย่างมาก
ส่งผลต่อราคาอาหารทั่วโลกทั้งทางตรงและทางอ้อม ส่งผลให้สินค้าอาหารที่ทดแทนกันได้ ราคาก็พุ่งสูงขึ้นไปด้วยเช่นกัน
เงินเฟ้อของสหรัฐเดือนล่าสุดประกาศออกมาสูงถึง
8.6 เปอร์เซ็นต์ หักปากกาเซียนรวมทั้งการคาดการณ์ของเฟด
ที่ก่อนหน้านี้เอาใจตลาดจนเกินไป มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายช้าและน้อยกว่าที่ควร
จึงต้องมาโหมขึ้นดอกเบี้ยในอัตราเร่ง ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงเป็นของแสลงกับสินทรัพย์เสี่ยง
ไม่ว่าจะเป็นตราสารทุนตราสารหนี้และคริปโตเคอเรนซี่ทั้งหลาย
โดยตลาดหุ้นสหรัฐตกลงไปจากราคาสูงสุด 20 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์แล้ว
ในขณะที่ตลาดคริปโตเคอเรนซี่ bitcoin ราคาร่วงจากที่เคยขึ้นไปสูงถึง 69,000$
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2564 ก็ตกลงมาอยู่ต่ำกว่า 20,000$ แล้ว
หรือตกลงมาประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ และมีบางเหรียญที่ราคาตกลงไป 99 เปอร์เซ็นต์แล้ว
นับว่าเป็นบทเรียนที่แสนเจ็บปวดสำหรับนักเก็งกำไร
นักเศรษฐศาสตร์หลายคนคาดการณ์ว่าอาจจะเห็นภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในปีหน้า
จากสภาวะ
Inverted yield Curve ที่อัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรสหรัฐ 2
ปีอยู่สูงกว่าพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งคราวนี้น่ากลัวมาก
เพราะเกิดขึ้นในช่วงที่ดอกเบี้ยกำลังขึ้นแรง จากการที่เฟดพยายามจะจัดการปัญหาเงินเฟ้อซึ่งรุนแรงมาก
เราเริ่มเห็นสัญญาณการปลดพนักงานจากบริษัทในหลายๆอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างเช่น Shopee
สั่งปลดพนักงานออกเกือบครึ่งในหลายประเทศ
บริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจคริปโตเคอเรนซี่ต่างก็ปลดพนักงานออกเป็นจำนวนมาก
และล่าสุดเทสล่าก็ประกาศว่าจะลดพนักงานลง เมื่อแรงงานเริ่มทยอยถูกปลดออกจากงาน
ถ้ามีปริมาณแรงงานที่ถูกให้ออกจากงานมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้ Demand ในสินค้าและบริการลดลง
เนื่องจากคนสูญเสียงานไม่มีรายได้
และในที่สุดเศรษฐกิจก็จะเข้าสู่ภาวะถดถอยแบบเต็มตัว
คำถามก็คือว่าแล้วมีสินทรัพย์อะไรบ้างที่พอจะลงทุนได้ในช่วงนี้
ทองคำก็ไม่ได้ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัวเสียทีเดียว เนื่องจากช่วงนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งกว่าค่าเงินสกุลอื่นๆทั่วโลก
ซึ่งทำให้ราคาทองคำไม่สามารถที่จะขึ้นไปได้
ประกอบกับการที่ธนาคารชาติทั่วโลกต้องหันมาใช้นโยบายขึ้นดอกเบี้ยยังเร่งรีบ และขึ้นในอัตราที่สูง ซึ่งเป็นของแสลงสำหรับราคาทองคำ
ส่วนสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะราคาน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหิน คิดว่าน่าจะขึ้นสูงสุด
ภายใน 3 ถึง 6 เดือนข้างหน้า จึงไม่น่าจะลงทุน
ถ้าเช่นนั้นจะลงทุนอะไรดีล่ะ ผมคิดว่าทางเลือกในการลงทุนในช่วงนี้มีไม่มาก
แต่สินทรัพย์ที่พอจะลงทุนได้ก็น่าจะมีดังต่อไปนี้
1. ในช่วงระยะเวลาไม่เกิน
1 ปี การซื้อตราสารหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงกับอัตราเงินเฟ้อ ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว
2. อสังหาริมทรัพย์ที่ได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ
เป็นทางเลือกที่ดี จะช่วย hedge เรื่องเงินเฟ้อ
3. ตราสารทุนที่ให้อัตราเงินปันผลในระดับที่น่าพอใจ
และคาดว่าใน 2-3 ปีข้างหน้า ผลกำไรและอัตราการจ่ายปันผลจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน
4. ตราสารหนี้ระยะสั้น
ไว้เป็นที่พักเงิน เพื่อรอซื้อสินทรัพย์ดีๆที่ราคาตกลงมา
จนทำให้เกิด Safety of margin
5. ทองคำ
แต่ไม่ควรเกิน 5 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ตการลงทุน
เพราะว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่สร้างผลตอบแทนจากการลงทุน ถ้าราคาไม่เปลี่ยนแปลง
สินทรัพย์ที่ไม่ควรลงทุนอย่างยิ่งคือคริปโตเคอเรนซี่
เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับกับราคาที่เวอร์วัง
ถึงแม้ว่าราคาจะตกลงมามากมายแล้วก็ตาม
เป็นสินทรัพย์ที่ราคายืนอยู่ได้ในระดับนี้จากการที่คนยังมีศรัทธ าและมีเงินใหม่ๆเข้ามาช่วย
support ราคา ซึ่งดูๆไปก็มีบางส่วนคล้ายกับแชร์ลูกโซ่
เพียงแต่ยังไม่เข้าข่าย 100% เท่านั้น
นักลงทุนระดับโลกไม่ว่าจะเป็นวอร์เรนบัฟเฟตต์ ชาลีมังเกอร์ หรือแม้กระทั่งบิลเกตส์
เจ้าของ Microsoft ซึ่งเพิ่งออกมาพูดว่า Cryptocurrency
คือ “The greater fool theory” คือมีเพียงแต่คนโง่ที่จะซื้อสินทรัพย์ประเภทนี้
และคาดหวังว่าจะมีคนโง่กว่าเข้ามาซื้อจากเขาในราคาที่สูงกว่า
1. ไม่ขยายกิจการ ถ้าไม่มั่นใจมากกว่า 90% ขึ้นไป
2. ลดต้นทุนกิจการโดยที่ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ
3. พยายามหาทางลูกค้ากลุ่มใหม่ และในขณะเดียวกันก็ต้องรักษาฐานลูกค้ากลุ่มเดิม
สุดท้ายนี้ขอย้ำหมายเหตุการลงทุนว่าการลงทุนมีความเสี่ยง
แต่การไม่ลงทุนยิ่งมีความเสี่ยงกว่า และอย่าเอาไข่ไปใส่ไว้ในตะกร้าใบเดียว
กิติชัย เตชะงามเลิศ
15 สุขุมวิท เรสซิเดนซ์ 2 ยูนิต ชั้น 2X แต่งสวย วิวสุดยอด ถูกสุดใน 3 โลก เจ้าของขายและปล่อยเช่าเอง
1. ห้อง 1 นอน 1 น้ำ ชั้น
24, 59.29 ตารางเมตร ตกแต่งสวยมาก เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน มี ผ้าม่าน อ่างอาบน้ำ Sofa bed ซึ่งสามารถพับออกมาเป็นเตียงนอนได้
เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน แอร์ 2 ตัว ตู้เย็น Hitachi #R-H230PA
SLS 7.9 คิว เครื่องซักผ้าฝาหน้า Digital
TV 43 นิ้ว และ Android TV 40 นิ้ว
เครื่องทำน้ำร้อน และ Microwave เป็นมุมที่สวยของตึก ไม่ติดลิฟท์และห้องขยะ
ราคา 6.9 ล้านบาท ค่าเช่า 23,000
บาท/เดือน
ดู
VDO @ https://youtu.be/jsI-ENMQZ1I
สามารถดาวน์โหลดรูปภาพห้อง
12/478(2405)
ได้ที่
https://photos.app.goo.gl/rgyhqJkzawcpz2Mq6
หรือ
https://www.dropbox.com/sh/ro3uxw8wyv9ydtk/AAC68mm7JT9FZ-czwoRKEF4Ia?dl=00
2. แบบ B2 ห้อง 1 นอน 1 น้ำ ชั้น 20, 59.29
ตารางเมตร ห้องหันไปทิศใต้ ตกแต่งสวยมาก วิวสวยมาก
เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน มี ผ้าม่าน อ่างอาบน้ำ Sofa bed ซึ่งสามารถพับออกมาเป็นเตียงนอนได้
เตาไฟฟ้า
เครื่องดูดควัน แอร์ 2 ตัว ตู้เย็น 7.9 คิว
เครื่องซักผ้าฝาหน้า Digital TV 40 นิ้ว และ Android TV 40 นิ้ว เครื่องทำน้ำร้อน และ Microwave เป็นมุมที่สวยของตึก ไม่ติดลิฟท์และห้องขยะ ราคา 6.9 ล้านบาท ค่าเช่า 25,000 บาท/เดือน
ดู
VDO @ https://youtu.be/FTxuVzynJjI
สามารถดาวน์โหลดรูปภาพและวีดีโอห้อง 12/400(2003) ได้ที่
https://photos.app.goo.gl/NZeW4iZCVjVPfW7fA
หรือ
https://www.dropbox.com/sh/im2mpjoom0dpx1u/AACyWi0Ye6wUImFQLkZHB6jJa?dl=0
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น