จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2564

พี่โทนี่ #TonyWoodsome #ทักษิณชินวัตร พูดเกี่ยวกับการจัดการ covid-19 ในคลับเฮาส์

พี่โทนี่ #TonyWoodsome #ทักษิณชินวัตร พูดเกี่ยวกับการจัดการ covid-19 ในคลับเฮาส์ ถ้าประยุทธ์ได้อ่านโกรธจนตัวสั่น ขอขอบคุณที่เสียสละเวลาเขียนสรุปให้

- สถานการณ์โควิดที่ดูไบดีขึ้นมาก 
ฉีดวัคซีนไปแล้ว 70% 
แล้วยังฉีดให้นักท่องเที่ยวฟรีด้วย

- ที่ดูไบติดเชื้อวันละ 2,000-3,000 คน 
แต่คนไม่ตื่นตระหนกกันเลย 
เศรษฐกิจยังเปิดทุกอย่าง 
แต่ร้านอาหารจะนั่งห่างโต๊ะกัน 
ถ้าใครติด ก็ให้อยู่บ้าน 
แยกตัวเองออกจากสมาชิกในบ้าน

- คนที่ไม่แสดงอาการ 
(ส่วนมากเป็นคนอายุน้อย) 
ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล 
อย่างเพื่อนของโทนี่ 
ก็รักษาตัวที่บ้านตามปกติ 
(กินยาแก้ไข ยาแก้ไอ +กินวิตามินซี) 
ก็หายได้ 
แต่คนที่เปราะบางต่อโรคนี้ 
เช่น คนที่ปอดอ่อนแอ คนสูงวัย 
ต้องได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล

- ส่วนตัวคิดว่า
บ้านเราต้องใช้ความรู้นำ 
ไม่ใช่กฎหมายนำ 
เลิกขู่ประชาชนว่าจะจับๆ 
มันทำให้ประชาชน panic 
จะหยุดการ panic ได้ 
ต้องให้ความรู้ประชาชน 
ว่าธรรมชาติของไวรัสตัวนี้คืออะไร?

- ไปเที่ยวต่างประเทศ 
เขาก็ตรวจ PCR test 
ถ้าเป็น negative 
เขาก็ให้เข้าประเทศได้ 
บางประเทศถ้าฉีดวัคซีนแล้ว
ก็ให้เข้าประเทศได้ 

- เทคโนโลยีการตรวจโควิดอันใหม่ 
คือ DNA nudge (ที่โทนี่ลงทุนผลิต) 
ใช้เวลา 90 นาที มีค่าความแม่นยำ 99% 
รัฐบาลอังกฤษซื้อไป 5.8 ล้านชุด 
ไปใช้ตรวจให้ประชาชนของเขาแล้ว 

- PCR test บ้านเรา
อาศัย lab ทั้งหมด มันเลยแพง 
โรงพยาบาลเอกชนก็อ้างว่าน้ำยาหมด 
เพราะมีกฎของ สธ. บอกว่า
ถ้าตรวจแล้วพบว่าติดเชื้อ ต้องรับรักษา 
เลยไม่มีโรงพยาบาลเอกชนไหนอยากตรวจ

- เทคโนโลยี DNA-nudge ของพี่โทนี่ 
ตรวจได้มากสุดถึงครั้งละ 50 คน 
ถ้าเอาเทคโนโลยีอันนี้มาตรวจ
ให้พนักงานในร้าน ในบริษัททุกวัน 
ก็จะสร้างความมั่นใจให้คนมาใช้บริการได้ 

- เราไม่มีความพร้อม
เรื่องการตรวจหาเชื้อโควิด 
ไม่มีความพร้อมเรื่องวัคซีน 
ไม่มีความพร้อมเรื่องโรงพยาบาลสนาม 
นอนติดกันแบบนั้น 
ไม่มี social distancing 
สรุปเอาไปรักษาหรือเอาไประบาดต่อกันเพิ่ม

- ในต่างประเทศ ตอนระบาดแรกๆ 
เขายังตั้งตัวไม่ได้ ก็ล็อคดาวน์ไว้ก่อน 
แล้วใช้สื่อสิ่งพิมพ์สร้างความรู้ความเข้าใจว่า
ทำไมต้องล็อคดาวน์ 
แล้วค่อยๆ คลี่คลาย ทยอยเปิดทีละกิจการ 
เป็น step จนวันนี้ไม่มีล็อคดาวน์แล้ว 
เปิดหมด ยกเว้น night club

- ตอนเป็นนายก เกิดโรค SARs ระบาด 
คน panic กันทั้งประเทศ 
ใส่หน้ากากกันหมด 
เลยเรียกประชุมด่วน 
ถึงรู้ว่ามันไม่ใช่ airborne 
(ไม่ได้แพร่ระบาดทางอากาศ) 
โทนี่เลยสร้างความมั่นใจ
ด้วยการไปสนามบินกับคุณหญิงสุดารัตน์ 
รมว.สาธารณสุข ในขณะนั้น 
โดยไม่สวมหน้ากาก แล้วให้ความรู้ประชาชน 
คนเลยเลิก panic และเลิกใส่หน้ากากกัน

- ที่ดูไบมีวัคซีนทุกยี่ห้อ ทำไมเขาทำได้ ? 
ทำไมเราถึงไม่สั่ง 
ทำไมเราถึงไปยึดติดกับวัคซีนแค่ 2 เจ้า 
โดยเฉพาะ AstraZeneca มีผลกระทบมากกว่าเพื่อน 
ที่มีปัญหาน้อยที่สุด คือ Pfizer 
รองลงมาคือ Moderna 
ส่วนของจีน ที่ใช้กันแพร่หลายมากสุด 
คือ Sinopharm 
แต่ทำไมเราไปใช้ของเอกชนจีน
อย่าง Sinovac 

- วัคซีนเป็นตัวกระตุ้นภูมิคุ้มกัน 
ซึ่งแต่ละคนรับได้ต่างกัน 
อย่างโทนี่ก็เลือกฉีด sinopharm 
แม้ประสิทธิภาพจะต่ำกว่า Pfizer 
แต่ sinopharm มีผลกระทบระยะสั้นต่ำกว่า 
เลยเลือกฉีด sinopharm 

- จะเลือกฉีดวัคซีนอะไร 
เรื่องประสิทธิภาพเป็นรอง 
แต่สำคัญที่สุดคือผลกระทบระยะสั้น 
ที่จะเกิดขึ้นกับตัวผู้ฉีด 
เพราะผลกระทบระยะยาว
เราไม่มีทางรู้เลยแม้แต่เจ้าเดียว

- รัฐบาลควรเปิดเสรีวัคซีน 
ควรทำให้วัคซีนโควิดเป็นเหมือน 
30 บาทรักษาทุกโรค 
เอาวัคซีนดีๆ 
เอาวัคซีนมาเยอะๆ 
มาให้ประชาชนเลือกฉีดฟรี 
ทำไมรัฐบาลไม่ทำ?

- ทำไมรัฐบาลไม่ลงทุนกับวัคซีน 
เพราะถ้าไม่ลงทุนกับวัคซีน 
รัฐบาลก็จะต้องล็อคดาวน์ 
แล้วกู้เงินมาแจกประชาชนอยู่อย่างนี้
ไม่จบไม่สิ้น

- มีหลักฐานเชิงประจักษ์แล้วว่า
การฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว 
ช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อได้อย่างมาก

- ไม่จำเป็นต้องตั้ง ศบค. 
หรือคณะกรรมการนั่นนู่นนี่มากมาย 
แค่ปล่อยให้ทุกคน ทุกส่วนราชการ
ทำหน้าที่ของตัวเองไป 
แล้วเราก็คอยติดตามงาน 
เคาะให้ว่าใครต้องทำอะไร 
อย่างไรก็พอ

- รายได้จากการท่องเที่ยวของเรา
คิดเป็น 10% ของ GDP 
การที่เราฉีดวัคซีนช้า 
ทำให้เราเสียลูกค้าให้คนอื่นไปฟรีๆ 
เช่น มัลดีฟส์ เปิดประเทศแล้ว 
ให้นักท่องเที่ยวฉีดวัคซีนฟรี 
ลงทุนไม่กี่ตังค์ แต่ได้เงินจากนักท่องเที่ยวมหาศาล 
มัลตา เปิดประเทศแล้ว ให้คูปองที่พักฟรี 
เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว แต่ของเรา
เอาแต่เน้นให้มาอยู่ภูเก็ตก่อน 7 วัน แล้วค่อยไปที่อื่น 
กลับไม่เน้นเรื่องการตรวจ PCR และการฉีดวัคซีน 
ทั้งๆ ที่ 2 สิ่งนี้สำคัญมาก 
หากใครมี 2 อย่างนี้ 
ก็ควรให้เข้ามาได้แล้ว ไม่ต้องกักตัว 
ไม่ต้องไปอยู่ภูเก็ตก่อน 7 วัน 
อยากไปไหนก็ไป

- ต้องเข้าใจว่าโรคทุกโรค
ต้องมีคนป่วยคนตาย 
ทุกวันนี้ก็มีคนตายด้วยไข้หวัดใหญ่ 
แม้จะมีมา 100 ปีแล้ว 
แต่เราป้องกันได้ 
เน้นการตรวจ การฉีดวัคซีน 
ซึ่งต้นทุนถูกกว่าเยอะ 
แลกกับความเสียหายทางเศรษฐกิจ 
คนไทยจะได้มีงานทำ มีกิน มีใช้

- ต้องกระจายอำนาจไปให้โรงพยาบาล 
กระจายการบริการทางการแพทย์
ไปสู่โรงพยาบาล 
ทุกวันนี้เรารวมศูนย์อำนาจมากเกินไป

- รัฐสามารถขอความช่วยเหลือเอกชน
ให้ข่วยติดต่อเจรจาได้ เช่น 
ขอให้คุณธนินทร์ CP ไปช่วยเจรจากับจีน 
ขอซื้อวัคซีน sinopharm มาได้มั้ย 
คุณเจริญ เบียร์ช้าง ไปช่วยเจรจากับสิงคโปร์ 
คุณสารัตถ์ Gulf ไปช่วยเจรจากับตะวันออกกลาง 
ขอซื้อ Johnson and Johnson 
หรือจะให้ผม (โทนี่) ไปช่วยคุยกับปูติน รัสเซีย 
ขอซื้อสปุตนิก เป็นต้น 
เพราะเอกชนเขากว้างขวาง 
อันนี้ก็ใช้ connection ทำได้ 
แต่รัฐไม่ทำ

- ถ้าโทนี่เป็นรัฐบาล
จะเข้าจัดหาวัคซีนหลายเจ้า หลายแหล่ง 
เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยง 

- เดี๋ยวนี้คาสิโนไม่ดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว 
เพราะมีพนันออนไลน์ 
แต่ถามว่าทำให้ถูกกฎหมายดีไหม 
ก็ดีกว่าการปล่อยให้มีบ่อนพนัน 
ที่ควบคุมไม่ได้ 
เก็บภาษีก็ไม่ได้

- ปัญหา SMEs หลังเจอโควิด คือ 
1.หนี้ ต้นทุนของแหล่งเงินมีราคาแพง 
2.business model ที่ทำจะรอดไหม 
3.บ้านเมืองของเราต้องสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
#ที่ต่อเนื่อง 
ไม่งั้นให้เงิน SMEs ไป
จะเพิ่มหนี้ ไม่ได้เพิ่มรายได้

- Background ของประยุทธ์ 
เป็นข้าราชการ เป็นทหารมาทั้งชีวิต 
ทั้งชีวิตมีแต่สั่งการ 
เป็นนักใช้งบประมาณ 
มากกว่าเป็นนักหารายได้ 
ดังนั้น เขาต้องหานักเศรษฐกิจที่เข้าใจบริบท 
แล้วประยุทธ์คอยสั่งการไปตามนั้น 
แต่ประยุทธ์เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ 
แล้วประวิตรแจกขันนี่มันโคตรเข้ากันมากเลย 

- ฉีดวัคซีนแล้วมีข้อผิดพลาด 
มีคนตายจากวัคซีน 
ต้องรีบหยุดเลย 
แล้วใช้ตัวอื่นแทน 
ประเทศอื่นเขาถึงมีวัคซีนหลายเจ้า 
เพื่อรองรับความเสี่ยงตรงนี้ด้วย

- เปิดเสรีวัคซีน ให้เอกชนนำเข้า 
แล้วรัฐบาลให้ส่วนลด 
ใครที่มีเงินแล้วไม่อยากไปเบียดบังต่อคิวกับของรัฐ 
ก็จ่ายเงินซื้อความ premium ตรงนี้ไป 
เขาเรียกว่าการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน 
แต่นี่บริหารอะไรก็ไม่รู้

- ผู้ชนะคือคนที่มองเห็นทางแก้ไขในทุกปัญหา 
แต่ผู้แพ้คือคนที่มองเห็นปัญหาในทุกทางแก้ไข

- เป็นไปได้มั้ยว่า
ไทยจะนำเข้า DNA nudge ของไทยเข้ามาใช้ในไทย 
โทนี่ตอบเลยว่า
ถ้าผ่านการพิจารณาของสาธารณสุข 
แล้วรัฐบาลยอมนำเข้า 
ก็ยินดีให้ความร่วมมือ 
และจะประสานมูลนิธิไทยคมว่า
จะช่วยเอามาบริจาคได้มั้ย อย่างไร 
พี่โทนี่แกคิดถึงประชาชนทุกวินาทีของจริง

- เมื่อใดก็ตามที่ฝ่ายความมั่นคงมาดูสาธารณสุข 
สาธารณสุขจะไม่มั่นคงทันที

- การแจกเงิน 
รัฐบาลมองว่าเป็น
การซื้อเสียงประชาชนไว้ล่วงหน้า 
ประชาชนก็มองว่า
เป็นการผลาญเงินภาษีพวกเขาไปแจก

- ในเยอรมัน ดูเรื่องภาษี ว่าบริษัทนี้เสียภาษีเท่าไหร่ 
แล้วเมื่อโควิดมา บริษัทนี้เปิดไม่ได้ 
เขาก็ช่วยจ่ายค่าจ้างให้พนักงาน 60% 
มันต้องมีมาตรการอะไรแบบนี้ด้วย

- ภาครัฐกับเอกชนต้องคุยกัน 
สมัยก่อนป๋าเปรมก็ตั้ง กรอ. ขึ้นมา 
เพราะท่านเป็นทหาร 
ท่านไม่เข้าใจเศรษฐกิจ 
แล้วมี ดร.โกร่ง เป็นที่ปรึกษา 
วันนี้นายกไม่เข้าใจเศรษฐกิจ 
ท่านต้องฟังเอกชน 
แล้วมีคนรู้จริงที่ไว้ใจได้มาเป็นที่ปรึกษา 
ท่านจะได้ไม่โดนเอกชนหลอก

- ถ้าแนะนำคนไทยตอนนี้ได้ 
ก็จะพูดว่า help yourself before god help you 
อย่าให้จิตใจขุ่นมัว 
กินอาหารให้ดี 
รักษาสุขภาพ 
มี social distancing 
สวมหน้ากาก 
สามัคคีกันในครอบครัว 
ให้กำลังใจกัน

- ส่วนคนรุ่นใหม่ 
โลกตอนนี้เป็นยุค Digital 
ไปค้นหาตัวเองหาอาชีพในอนาคต 
เพราะถ้ารัฐบาลยังเป็นแบบนี้ 
ก็จะหารายได้ลดลง 
เอกชนหาเงินยากขึ้น 
แล้วรัฐบาลก็ต้องกู้เงินตลอดไป 
แบบนี้ก็ชิบหายกันหมดครับ

- การกระจายวัคซีน 
เรามี network อยู่แล้ว 
ทั้งภาครัฐและเอกชน 
จะกี่ล้านโดสเราก็ทำไหว 
แต่ต้องกระจายอำนาจด้วย 

- ก่อนเปิดเศรษฐกิจ
ต้องปรับโครงสร้างหนี้
ให้ SMEs แข็งแรงก่อน 
คือ ต้องให้เขาสามารถผ่อนชำระหนี้
ในอัตราที่เขาสามารถจ่ายได้ 
ถ้าเขามีรายได้ 100 นึง 
ละคุณบอกให้เขาจ่ายหนี้ 200 
มันก็เป็นไปไม่ได้ 

- โทนี่เชื่อว่าป้องกันดีกว่ารักษา 
นั่นคือ การออกกำลังกายให้เหมาะสม 
ควบคุมอาหาร 
และทำให้อารมณ์แจ่มใส 
ส่วนอาหารเสริมพวกวิตามิน
ก็ขอให้ตรงกับ DNA ของเรา 
แต่คิดว่าคนไทยช่วงนี้
น่าจะขาดวิตามิน M คือ Money

- รัฐบาลต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด 
ทำยังไงก็ได้ให้เกินครึ่งหนึ่งของประชากรก่อน 
ถ้ามาน้อยก็ฉีดเข็มเดียวไปก่อน 
แบบที่อังกฤษทำ

- ถ้าฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมแล้ว 
การท่องเที่ยวน่าจะฟื้นตัวก่อนเพื่อน 
ต้องทำให้คนมาเที่ยวมั่นใจว่าปลอดภัย 
ต่อมาเกษตรกรรมก็ต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย 
ส่วนด้านอุตสาหกรรมบ้านเรา
กำลังอยู่ที่บ่าย 3 
คือพระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้ว

- สถานภาพตอนนี้เราลำบาก 
เรามีรัฐธรรมนูญฉบับผดุงเผด็จการ 
ไม่มีสิทธิเสรีภาพ และรวมศูนย์อำนาจ 
มีเพื่อนคนเมกาบอกว่า
การเมืองไทยเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี 
ทำให้ระบอบอำนาจนิยมในต่างประเทศ
ลอกเลียนแบบ เช่นในพม่า 

- ถ้าผมบริหารประเทศ 
งบประมาณ 2 แสนกว่าล้านที่เหลือ 
ผมจะไม่แจกเงิน 
แต่จะระดมมาทำให้
การแพร่ระบาดของไวรัส
คลี่คลายก่อนด้วยวัคซีน 
และเครื่องตรวจให้กว้างขวาง
เพื่อให้สามารถเปิดประเทศได้ก่อน 
สร้างความเชื่อมั่น 
แล้วเศรษฐกิจจะตามมา

- ถ้าบอกอะไรรัฐบาลได้ จะบอก
ให้เร่งฉีดวัคซีนระยะสั้นให้ประชาชน 
และมีระบบคัดกรองนักท่องเที่ยว
ที่จะเข้ามาว่าเป็นโควิดหรือไม่ 
จะได้เร่งเปิดเศรษฐกิจ 
ให้คนทำมาหากินได้ 
ผมจะไม่บอกให้แจกเงิน 
เพราะผมเป็นพวกไม่นิยมการแจกเงิน

- ใครก็ได้ที่กล้าตัดสินใจ 
และรับฟังความคิดเห็นของคนทั่วไป 
และเต็มใจที่จะเรียนรู้ในทุกเรื่อง 
มีประสบการณ์ในการบริหาร 
จะเป็นใครก็ได้ ที่มีคุณสมบัตินี้ 
จะพาประเทศพ้นวิกฤตนี้ไปได้

- ผมว่าดูไบเขาฉลาด 
ลงทุนพันเดียวฉีดวัคซีนฟรีให้นักท่องเที่ยว 
แต่เขาได้นักท่องเที่ยวขึ้นเครื่องบินของ Emirates 
(สายการบินของดูไบ) มาเที่ยว 
ก็ต้องพักโรงแรม ไปเที่ยวห้าง 
เที่ยวนั่นนู่นนี่ ใช่จ่ายเงินบาน 
แถมกลับก็ต้องกลับ Emirates อีก 
เรียกว่าใช้กุ้งฝอยตกปลากระพง 
ลงทุนพันเดียวได้คืนเป็นหมื่นเป็นแสน

#อ่านเอาเรื่องมุมมองวิสัยทัศน์

เครดิต : Annonymus

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น