จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

อุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ

อุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ


          อุตสาหกรรมที่เป็นดาวเด่นของประเทศไทยดวงหนึ่ง ก็คือ อุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ไทยเราสามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้ โดยเมื่อปีที่แล้วประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 10 ของผู้ผลิตรถยนต์โลก โดยมีจีนเป็นอันดับหนึ่ง (19.2 ล้านคัน) ตามมาด้วยสหรัฐในอันดับที่ 2 (10.20 ล้านคัน) และญี่ปุ่นอันดับที่ 3 (9.4 ล้านคัน) เยอรมันอันดับที่ 4 (5.69 ล้านคัน) อินเดียอันดับที่ 5 (4.1 ล้านคัน) โดยปีที่แล้วประเทศไทยมีกำลังการผลิตที่ 2.45 ล้านคัน เพิ่มจากปี 2554 ถึง 68.32 % ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ รอบ 51 ปี ในการผลิตรถยนต์ของไทย แซงหน้าประเทศสเปน รัสเซีย ฝรั่งเศล จากอันดับที่ 14 ในปี 2554 ด้วยอานิสงค์ของโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาล กอรปกับช่วงปลายปี 2554 ภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี ทำให้ยอดการผลิตและยอดการซื้อรถยนต์เลื่อนมาปี 2555 โดยปีที่แล้วไทยเรามียอดผลิตรถยนต์ถึง 2.45 ล้านคัน และทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) คาดการณ์ว่าปีนี้เราน่าจะมียอดผลิตรถยนต์ในระดับ 2.55 ล้านคัน  แบ่งเป็นส่งออก 1.08 ล้านคันและขายในประเทศ 1.37 ล้านคัน เนื่องจากได้รับอานิสงค์จากโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐที่ยังไม่สามารถส่งมอบให้แก่ลูกค้าอีก 700,000 คัน ซึ่งมีสิทธิ์ต่ำให้ไทยก้าวไปสู่อันดับที่ 9 ของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก แซงประเทศแคนาดา โดยปีที่แล้วเรากับแคนาดาสูสีกัน ต่างกันเพียง 10,000 คันเท่านั้น ส่วนยอดการส่งออกรถยนต์ ของไทยอยู่ที่ 1.08 ล้านคัน คิดเป็นมูลค่า 490,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 40% อยู่ในอันดับที่ 7 ของโลก ส่วนยอดขายรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ 1.37 ล้านคันเพิ่มขึ้น 81% อยู่ในอันดับที่ 13 ของโลก โดยรายละเอียดประเภทของรถยนต์ที่ผลิต เมื่อปีที่แล้วแบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 957,000 คัน เพื่มขึ้น 78% รถกระบะ 1 ตัน 1,452,000 คัน เพิ่มขึ้น 11.50% ส่วนยอดขายรถยนต์ในประเทศปีที่แล้ว แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 672,000 คัน เพิ่มขึ้น 87% รถกระบะ 666,000 คัน เพิ่มขึ้น 82%
          อุตสาหกรรมรถกระบะ 1 ตันเป็นดาวเด่นของไทยมานาน จนกระทั่งนโยบายรถ ECO CAR ทำให้รถยนต์ ECO CAR เป็นอีกประเภทหนึ่งที่กำลังจรัสแสง เนื่องจากได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากรัฐ กอรปกับผู้ผลิตรถยนต์ชนใดสัญชาติเกาหลีและจีนเริ่มให้ความสนใจบ้านเรามากขึ้น หากมีผู้ผลิตเพิ่มขึ้น ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทย นอกจากนั้นเมื่อปีที่แล้ว บริษัทโตโยต้ามอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ส่งออกรถยนต์จากฐานการผลิตในประเทศไปยังตลาดตะวันออกกลางและละตินอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนส่งผลให้ฐานการผลิตรถยนต์โตโยต้าในไทยแซงหน้าจีนขึ้นมาเป็นฐานอันดับที่ 3 ทางบล.แมคคอยรี่ประเมินว่ากำลังการผลิตรถยนต์ของไทย น่าจะอยู่ที่ 3 ล้านคันภายในปี 2558 ดูแล้วไทยเราเป็นดีทรอยด์แห่งเอเชียจริงๆ ส่วนทาง บล.บาร์เคลย์ ระบุค่าไทยเป็นตลาดที่มีความสำคัญต่อธุรกิจขนส่งสินค้าทางเรือ จากยอดการส่งออกรถยนต์ของไทยที่เติบโตขึ้นมาอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากยอดขายรถยนต์ที่พุ่งกระฉูดเมื่อปีที่แล้ว ยอดส่งออกเครื่องยนต์ชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ก็มีมูลค่าถึงเกือบ 220,000 ล้านบาท เพราะว่าไทยเรามีผู้ผลิตชิ้นส่วนทั้ง TIER 1 และ TIER 2 ที่มีความสามารถและคุณภาพการผลิตที่ดีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นสาเหตุให้เรามียอดผลิตรถยนต์ที่สูง และทำให้การตัดสินใจขยายกำลังการผลิตของค่ายรถยนต์ที่อยู่ในประเทศไทยอยู่แล้ว และผู้ผลิตรถยนต์ค่ายอื่นๆ ที่ยังไม่เคยเข้ามาผลิตในไทย จะย้ายหน่วยการผลิตมาไทย หรือเพิ่มกำลังการผลิตในไทยซึ่งแรงงานในไทยในอุตสาหกรรมนี้ไม่แพ้แรงงานชาติอื่นในด้านคุณภาพ แถมยังมีค่าแรงที่ไม่สูงนัก ยกตัวอย่างเช่น โตโยต้ากับอีซูซุที่กำลังสร้างโรงงานที่เกตเวย์  ขณะที่นิสสันสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ที่บางนา-ตราด มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท มิตซูบิชิขยายกำลังการผลิตที่โรงงานแหลมฉบัง มาสด้าก็ลงทุนเพิ่มอีก 10,000 กว่าล้านบาทเพื่อสร้างโรงงานเกียร์ และฮอนด้าสร้างโรงงานใหม่ ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิตถึง 420,000 คัน ในปี 2558 จากการขยายกำลังการผลิตของค่ายรถยนต์ต่างๆ จะทำให้ยอดผลิตรถยนต์ ในไทยขึ้นแตะระดับ 3 ล้านคันภายในปี 2558 -2559 ดูแล้วแทบไม่น่าเชื่อเลยนะครับ เมื่อย้อนไปสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เริ่มมีนำเข้ารถยนต์จากยุโรปมาใช้ในประเทศไทย จนต่อมาจึงได้เริ่มมีการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยเมื่อประมาณปี 2505 จนมีพัฒนาการต่อเนื่องจนมาถึงปัจจุบันนี้
          ปีนี้ ยอดการผลิตรถยนต์จะได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ อยู่ที่ยอดขายในประเทศซึ่งน่าเป็นห่วงอย่างมาก จากการทิ้งใบจองรถในโครงการรถคันแรกเป็นจำนวนมาก โดยคาดการณ์กันว่าน่าจะมีไม่น้อยกว่า 20% มิฉะนั้นโชว์รูมรถยนต์หลายๆ ยี่ห้อ คงไม่อัดแคมเปญกันน่าดูในช่วงนี้ ดูท่าผู้ผลิตรถยนต์คงต้องออกแรงดันด้านการส่งออกให้มากขึ้น เพื่อทำให้เป้ารวมของยอดขายในประเทศบวกกับยอดส่งออกแล้ว จะพิชิตเป้าหมายได้ ส่วนนักลงทุนที่ลงทุนหุ้นในกลุ่มนี้ คงต้องคอยดูรายงานยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ประเทศเป็นรายเดือน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการลงทุน โดยอาจจะรอให้ตัวเลขที่ประกาศออกมาไม่ค่อยดี แล้วราคาหุ้นที่ท่านศึกษาแล้วว่าเป็นธุรกิจที่ดีร่วงลงมา เป็นจังหวะที่จะทยอยเก็บลงทุน เนื่องจากอุตสาหกรรมรถยนต์ยังน่าจะเป็นดาวจรัสแสงของไทยไปอีกหลายปี
กิติชัย เตชะงามเลิศ
หนังสือ "จาก 1 ล้านเป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร" ยอดขายขื้นอันดับหนื่งตั้งแต่วันแรกจำหน่ายและครองอันดับ 1 ติดต่อกันมานาน

ติดตามแนวทางการลงทุนของผมได้ที่
https://www.facebook.com/VI.Kitichai , http://twitter.com/value_talk , http://www.youtube.com/user/wittayu9 และ http://kitichai1.blogspot.com

รายการถอดระหัสหุ้น ทุกวันจันทร์ และ วันศุกร์ เวลา 9.00-9.45 น. ทางTruevisions(Platinum/Gold) ช่อง 87, Truevisions(Knowledge) ช่อง 53, PSI ช่อง24, IPM ช่อง 313, GMM Z ช่อง 64, Big 4 ช่อง 90, Sunbox ช่อง 105 หรือwww.hplus.co.th
หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 หรือหน้า B10 และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Stock Review, Me(Market Evolution), Glow และ Lisa  ทุกเดือน
    

สนใจซื้ออสังหาเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ลองเข้าhttp://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty

ขาย คอนโด วิช สามย่าน เดิน 2 นาที จาก รถไฟใต้ดิน สถานี สามย่าน ราคาต่ำกว่าโครงการสุด ๆ 2 ห้อง(ชั้น19) ราคา 4.2 ล้าน
                
   โครงการนี้มี 25 ชั้น มีจำนวนห้องทั้งหมด ประมาณ 500 ยูนิต, ถนนสี่พระยา บางรัก ห่างจาก สถานี รถไฟใต้ดิน  สามย่าน ประมาณ 100 เมตร ใกล้ อาคารจามจุรีสแควร์ ตลาดสามย่าน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เตรียมอุดมศึกษา สาธิตจุฬา อาคารชาญอิสระ โรงพยาบาลจุฬาฯ สวนลุมพินี ฯลฯ  มีสวนลอยฟ้า สระว่ายน้ำพร้อมสระเด็ก และห้องออกกำลังกาย ที่ชั้น 19    
การเดินทางโดยทางด่วน
ขึ้นลง ทางด่วนสามย่าน หัวลำโพง
ขึ้นลง ทางด่วนเชื้อเพลิง พระรามสี่
ขึ้นลง ทางด่วนสุรวงศ์ สีลม
      การเดินทางโดยรถประจำทาง สายที่ผ่าน คือ 1 , 16 ,36 , 45 , 75, 93 และ 187

   ห้องที่จะขายอยู่ชั้น 19
1.ห้อง  18/112  ชั้น 19   พื้นที่ 36.51 ตรม. ราคา 4,200,000 บาท ชั้นนี้ มีสวนลอยฟ้า     ให้เช่าห้อง 22,000 บาท/เดือน
2.ห้อง  18/113  ชั้น 19   พื้นที่ 36.51 ตรม. ราคา 4,200,000 บาท ชั้นนี้ มีสวนลอยฟ้า     ให้เช่าห้อง 22,000 บาท/เดือน

  โปรโมชั่นพิเศษ 
- ฟรีเงินกองทุนคอนโด มูลค่าเกือบ 20,000 บาท
- ฟรีเงินค่ามิเตอร์น้ำ/ไฟ มูลค่า 3,250 บาท


หมายเหตุ ทุกห้องของผมวิวดี ไม่มีตึกบัง
ดู VDO ที่ผมถ่ายภายในห้อง ที่ http://youtu.be/Y9j1a7pm-xk
     

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น