จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ช่วงนี้ลงทุนอะไรดี ?

ช่วงนี้ลงทุนอะไรดี ?


          จากสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศโดยเฉพาะการเมืองบนท้องถนนที่ฝ่ายประท้วงซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณเป็นผู้นำและเป็นเลขา การประท้วงเริ่มต้นจากการประท้วง พรบ.นิรโทษกรรมแล้วได้ขยายข้อเรียกร้องไปถึงขั้นล้มล้างระบบทักษิณ และขยายพื้นที่ในการชุมนุมแบบดาวกระจายไปยึดสถานที่ราชการหลายแห่ง การประท้วงรุนแรงถึงขั้นใช้แก๊สน้ำตา รวมทั้งความวุ่นวายที่บริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บอีกหลายสิบคนข่าวคราวบ้านเราได้ถูกถ่ายทอดสู่สายตาของชาวโลก ทำให้ยอดนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาประเทศไทยได้ชะลอหรือยกเลิกกันไปบ้างแล้ว โดยเฉลี่ยประมาณ 10-20% แต่โรงแรมแถวๆ ถนนข้าวสารออกมาร้องโอดโอยว่านักท่องเที่ยวลดลงไปถึง 50% ทั้งๆ ที่เป็นช่วง High Season ก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนตุลาคมก็ลดลงมาอยู่ที่ 47.4 ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนลดลง 4.90% ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงมาอยู่ที่ 76.60% ซึ่งตัวเลขเหล่านี้น่าจะแย่ลงอีกในเดือนพฤศจิกายน และถ้าการประท้วงยังไม่จบสิ้นประเทศไทยยังหาทางออกไม่ได้ เดือนธันวาคมก็จะแย่ด้วย ยังดีที่ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนตุลาคมที่ประกาศออกมาเกินดุล 376 ล้านเหรียญสหรัฐ และดุลการค้าเกินดุล 337 ล้านเหรียญ จากการนำเข้าที่หดตัวลง 4.00% YOY จากสภาวการณ์และตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ ทำให้การประชุม กนง. ครั้งล่าสุดได้ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ซึ่งก็เป็นการเซอร์ไพรส์นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่คาดการณ์ว่า กนง. คงจะคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว แสดงว่ากนง. ได้คำนึงถึงอัตราการเติบโตที่แย่ลงตั้งแต่ต้นปี และยังได้ปรับการคาดการณ์การเติบโตของ GDP ลดลงด้วย แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 1.92% เมื่อเทียบกับชองเดือนก่อนที่ 1.46% และเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.85% เทียบกับ 0.71% ในเดือนตุลาคมค่าเงินบาทในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา อ่อนตัวลงประมาณ 3% นับเป็นสกุลเงินที่อ่อนตัวมากเป็นอันดับ 2 รองจากอินโดนีเซียที่ค่าเงินรูเปี๊ยะห์อ่อนค่าลงไปถึง 6% การที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเหรียญสหรัฐ มาจากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวัง ทำให้มีการขายสุทธิของพันธบัตร 66,211 ล้านบาท และขายหุ้นไทยสุทธิ 54,456 ล้านบาท ในช่วงระหว่าง 1 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา เราเห็นต่างชาติขายสุทธิต่อวันในระดับ 4,000-7,000 ล้านบาทต่อวัน หลายวันทีเดียว ในขณะที่นักลงทุนในประเทศที่ประกอบไปด้วยสถาบันในประเทศ พอร์ตของบริษัทหลักทรัพย์ และนักลงทุนรายย่อยเป็นฝ่ายแบกรับแรงขาย ดัชนี SET INDEX จากวันที่ 31 ตุลาคม ปิดที่ 1,442.88 ไหลลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 1,345.02 เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน และปิดตลาดที่ 1,374.26 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ถ้าใช้ปัจจัยทางเทคนิคมาตรวจจับดู ชาร์ตของ SET INDEX จะพบว่ากำลังฟอร์มตัวเป็นรูปแบบ Reverse Head & Shoulder โดยเริ่มฟอร์มตัวมาตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม ปีนี้ โดยมีจุดสูงสุดที่ 1,649.77 แล้วสร้างบ่าซ้ายที่ 1,338.81 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน สร้างหัวที่ 1,260.08 เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม และสร้างบ่าขวาที่ 1,345.02 เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ถ้า SET INDEX ไม่ทำจุดต่ำสุดที่ต่ำกว่า 1,345.02 ก็พออนุมานได้ว่าบ่าขวาที่เห็นเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ถูกสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว SET INDEX น่าจะค่อยๆ Sideway Up ขึ้นไปแถวๆ 1,650 จุด เพื่อให้รูปแบบ Reverse Head & Shoulder สมบูรณ์แบบ คาดว่าปีหน้าเราคงได้เห็น SET INDEX วิ่งไปถึงจุดดังกล่าว ทีนี้ปัญหาคือเราจะลงทุนในหุ้นกลุ่มไหนดี ผมมีแนวคิดอย่างนี้ครับ โดยปกติเวลาเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวถ้า IMF, World Bank และหน่วยงานอื่นๆ ทำนายไม่ผิด อัตราการเติบโตของ GDP ของโลกปี 2557 จะสูงกว่าปี 2556 จาการที่เศรษฐกิจสหรัฐจะมีการฟื้นตัวอย่างเห็นได้ขัด เศรษฐกิจของญี่ปุ่นและจีนน่าจะดีขึ้น ส่วนหลายๆ ประเทศใน EU ก็ได้พ้นจากภาวะถดถอย เริ่มมีการฟื้นตัว สินทรัพย์ที่น่าลงทุนมากที่สุด ก็คือ ตราสารทุนหรือหุ้นนั่นเอง เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่ฝรั่งเขาเรียกว่า “The Great Rotation” คือ การเคลื่อนย้ายเงินลงทุนจากตลาดตราสารหนี้ เข้าสู่ตลาดตราสารทุน นั่นหมายถึง แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยจะทยอยสูงขึ้น ในขณะที่นักลงทุนจะยอมจ่ายเงินซื้อหุ้นในอัตราส่วน P/E ที่สูงขึ้น จาการคาดหมายว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนจะสูงขึ้น โดยปกติการขึ้นจะไม่ใช่เพียงระยะเวลาสั้นๆ จะกินเวลาไปหลายปีเลยทีเดียว ถ้าท่านเลือกกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะลงทุนได้ถูกต้อง ผลตอบแทนจาการลงทุนก็ยิ่งจะสูงขึ้นไปอีก โดยกลุ่มที่ผมคาดว่าน่าจะได้ผลตอบแทนดีกว่ากลุ่มอื่น น่าจะเป็นกลุ่มส่งออก จากากรที่เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าของเราฟื้นตัว และค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง ในปีหน้าจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้นรวมทั้งการ Tapering และยกเลิก QE กลุ่มขนส่งทางเรือก็จะได้อานิสงค์ไปด้วย จากราคาค่าระวางเรือมีแนวโน้มสูงขึ้นในปีหน้า กลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวน่าจะดี คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะมีปริมาณมากขึ้น กลุ่มปิโตรเคมีก็น่าจะดีขึ้นจาก Margin ที่สูงขึ้น กลุ่มหุ้นที่ Turn Around จากผลประกอบการที่แย่ในปีนี้และปีก่อนๆ แล้วเริ่มจะมีผลประกอบการที่เป็นบวก ซึ่งเมื่อมีการฟื้นตัวจริง ราคาหุ้นน่าจะมีการดีดตัวอย่างแรง จากราคาที่ตกลงมามากแล้ว และอยู่ในราคาที่ต่ำ ส่วนกลุ่มประกันภัย ประกันชีวิตก็ยังเป็นกลุ่มที่มีผลประกอบการดีต่อเนื่อง ช่วงนี้ถ้าหุ้นตกลงก็ทยอยซื้อแล้วถือยาวข้ามปีกันนะครับ
กิติชัย เตชะงามเลิศ
                                                                                          04/12/56
หนังสือ "จาก 1 ล้านเป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร" ยอดขายขื้นอันดับหนื่งตั้งแต่วันแรกจำหน่ายและครองอันดับ 1 ติดต่อกันมานาน

ติดตามแนวทางการลงทุนของผมได้ที่ 
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk 
Youtube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Blog :  http://kitichai1.blogspot.com
Instagram : Gid_Kitichai

หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 หรือหน้า B10 และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Stock Review, Me(Market Evolution), Glow และ Lisa  ทุกเดือน
     

สนใจซื้ออสังหาเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ลองเข้า http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty


คอนโดลาสโคลินาส ติดสี่แยกอโศก-สุขุมวิท 100เมตรจากBTS & MRT เพิ่งตกแต่งเสร็จ ราคา XX,000/ตรม.
                     

      ขาย คอนโดลาสโคลินาส อยู่บนถนนอโศกติดสี่แยกอโศก-สุขุมวิท (เดินครึ่งนาที จาก MRT,BTS อโศก) ตรงข้ามมี ตลาดสดอโศก Terminal 21 (Supermarket โรงหนัง ร้านอาหาร มอลล์) Robinson, Tops market place, สวนเบญจกิตติ มหาวิทยาลัยประสานมิตร ศูนย์สิริกิตต์
โครงการมีสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ห้องล๊อคเกอร์ ซาวน่า สตีม แยกชายหญิง สควอช คอร์ท ห้องสนุกเกอร์ ห้องตีปิงปอง สนามเด็กเล่น ห้องที่จะขายอยู่ชั้น 29 เลขที่ 6/134 พื้นที่ 192.62 ตารางเมตร พร้อมที่จอดรถส่วนตัว 1 คัน ในห้องนี้ มี 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ รับแขก ครัว ซักล้าง และห้องคนรับใช้พร้อมห้องน้ำในตัว 1 ห้อง เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า เพิ่งตกแต่งเสร็จ สวยมาก ครบถ้วน ขายที่ราคา 19 ล้านบาทถ้วน
 ดู VDO ที่ผมถ่ายภายในห้อง ที่ http://youtu.be/fZ5HU0HoyCY

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น