ยุบสภาแล้วไงต่อ?
หลังจากการชุมนุมครั้งใหญ่ของมวลมหาประชาชน
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และการลาออกจาก สส. ทั้งพรรคของ สส.
พรรคประชาธิปัตย์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ ส่งผลให้นายกรัฐมนตรี
ประกาศยุบสภาเมื่อเช้าวันจันทร์ ทำให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี
กลายเป็นคณะรัฐมนตรีรักษาการ และจะจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 60
วัน ซึ่งประจวบเหมาะกับ พลพรรคบ้านเลขที่ 109 เพิ่งจะพ้นโทษแบนทางการเมือง
5 ปี บุคคลเหล่านั้นก็รับสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเดิมของคน
เพื่อจะได้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งตามเงื่อนเวลา 30 วันก่อนวันเลือกตั้ง
จากการที่มีประชาชนออกมาเดินขบวนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของไทย ทำสถิติใหม่เหนือวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาและเหตุการณ์ 14 ตุลามหาวิปโยค
โชคดีที่ไม่มีความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น น่าจะเป็นที่ประหลาดใจแก่คนทั่วโลก
ถึงแม้จะมีประกาศยุบสภาแล้วแต่ข้อเรียกร้องของกลุ่ม
กปปส.(คณะกรรมการประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
(ขื่อยาวจริงๆ)
ยังยืนยันให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการเพื่อขอคืนประชาธิปไตย
เพื่อเปิดโอกาสใช้อำนาจในมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ
โดยตั้งรัฐบาลรักษาการที่เป็นกลางที่ไม่ใช่นักการเมืองหรือพรรคการเมืองใดๆ เลย
คงต้องติดตามต่อไปว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่ผมมั่นใจมากๆ ก็คือ
การเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะมีขึ้นจะมีจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งมาใช้สิทธิกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งเป็นแน่
ซึ่งหลังจากเลือกตั้งเสร็จ ยังไม่รู้ว่าจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นอีกหรือไม่อย่างไร
จากกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม กปปส. หรือกลุ่มเสื้อแดง
คงได้แต่ภาวนาให้ประเทศชาติของเราได้ก้าวผ่านความขัดแย้งที่ได้ฝังรากลึก
ลงในสังคมไทย
ไปได้สักทีอย่าให้เราต้องกลายเป็นคนป่วยของเอเซียอย่างประเทศฟิลิปปินส์ในอดีตที่เคยเป็นประเทศที่เจริญมากที่สุดเมื่อหลายสิบปีที่แล้วเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
ในเอเชีย
แต่ผลจากได้ผู้ปกครองไม่ดีทำให้ฟิลิปปินส์ต้องก้าวช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน
เพิ่งจะมาไล่ตามประเทศอื่นๆ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จริงๆ
แล้วการเมืองที่มีอิทธิพลต่ออัตราการเจริญเติบโตของประเทศเป็นอย่างยิ่ง ลองดูสิครับหลังจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ได้รัฐบาลที่ดี
ความวุ่นวายทางการเมืองลดลงทั้ง 2 ประเทศมีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจแซงหน้าเพื่อนบ้านอย่างไทยเราอย่างเห็นได้ชัด
มีเงินทุน FDI และเงินลงทุนทางอ้อม
(เงินลงทุนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดตราสารหนี้) หลั่งไหลเข้าไป 2 ประเทศนี้มากกว่าไทยเรา จะเห็นได้ว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของ 2 ประเทศนี้ ช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้สูงขึ้น Out Perform ตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ผมยังจำได้หลายปีก่อนดัชนี SET INDEX กับดัชนี JAKARTA COMPOSITE เคยอยู่ในระดับเดียวกันแต่ปัจจุบันนี้
SET INDEX เรายังต้วมเตี้ยมอยู่แถว 1,300-1,400 ขณะที่ดัชนี JAKARTA COMPOSITE อยู่แถว 4,200
จุด คิดเป็น 3 เท่าของดัชนี SET INDEX นี่ขนาดว่า 3-4 ปีที่ผ่านมา SET INDEX
OUTPERFORM ตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกแล้วก็ตามผมอยากให้ท่านผู้อ่านลองจินตนาการดูนะครับว่า
ถ้าเมื่อ 20-30 ปีที่แล้วเราได้คนอย่างท่านลีกวนยูผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของสิงคโปร์
มาปกครองประเทศเราสัก 20-30 ปี
แล้วเราสลับเอานัการเมืองไทยไปเป็นรัฐบาลปกครองประเทศสิงคโปร์สัก 20-30 ปี ท่านคิดว่าประเทศไทยของเรากับประเทศสิงคโปร์จะเป็นอย่างไรครับ
ส่วนตัวผมเองคิดว่าประเทศไทยคงเจริญไปกว่านี้มากมายเลย GDP ต่อประชาการน่าจะสูงกว่านี้อย่างน้อย
2-3 เท่า เห็นหรือยังครับว่า
ความสำคัญของการเมืองมีมากแค่ไหน ดังนั้นเมื่อมีการเลือกตั้ง
ทุกคนที่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งควรจะไปใช้สิทธิของตนเอง
เลือกผู้แทนที่ดีที่คาดว่าจะสร้างคุณูปการให้กับชาติบ้านเมือง อย่าเลือกเพราะว่า
เขาดีกับท้องถิ่นเท่านั้นหรือเลือกเพราะเห็นแก่อามิสสินจ้าง
ยิ่งผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ใช้เงินหว่านล้อมให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งให้มาเลือกตนเอง
บุคคลเหล่านี้คาดได้เลยว่าจะต้องมีการถอนทุนคืนแน่ๆ
กลับมาดูที่ตลาดหุ้นเรากันบ้างครับ
ปัจจัยภายในประเทศยังเป็นปัจจัยหลักที่จะกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวของ SET
INDEX อย่างไรก็ตามถ้าไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นผมยังเชื่อมั่นว่า
แนวรับแถวๆ 1,340 บวกลบยังแข็งแกร่ง ดังนั้น นับจากนี้
ถ้ามีการหย่อนตัวลงของตลาดหุ้น ท่านนักลงทุนควรจะถือเป็นโอกาส่ที่ดีในการทยอยเก็บสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่ย่อตัวลงมา
และสำหรับผู้เสียภาษี นั่นก็คือโอกาสในการซื้อกองทุน LTF&RMF ในราคาที่ต่ำลง และแถมได้ลดหย่อนภาษีด้วยตามอัตราภาษีเงินได้ใหม่ที่มีผลใช้ในปีภาษีนี้เลย
กิติชัย เตชะงามเลิศ
11/12/56
หนังสือ "จาก 1 ล้านเป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร" ยอดขายขื้นอันดับหนื่งตั้งแต่วันแรกจำหน่ายและครองอันดับ 1 ติดต่อกันมานาน
ติดตามแนวทางการลงทุนของผมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Youtube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
Instagram : Gid_Kitichai
หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 หรือหน้า B10 และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Stock Review, Me(Market Evolution), Glow และ Lisa ทุกเดือน
สนใจซื้ออสังหาเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ลองเข้า http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty
คอนโดหรูในซอยสุขุมวิท 23 (ประสานมิตร) (เดิน 6 นาที จาก MRT,BTS อโศก) ราคา 50,000/ตรม.
ขาย-เช่า คอนโดเพรสทรีจคอนโด อยู่ในซอยสุขุมวิท 23 (ประสานมิตร) ห่างจากสถานีรถไฟใต้ดิน (สุขุมวิท) และสถานีรถไฟฟ้า BTS (อโศก) ไม่ถึง 500 เมตร ทางไปตึกเริ่มจากปากซอยสุขุมวิท23(ซอยนี้เป็นทางลัดไปออกสุขุมวิท55ทองหล่อและถนนเพชรบุรีได้)ตรงเข้าซอยไป200ม.ถึง3แยกเลี้ยวขวา ตรงไป50ม.เป็น4แยกเล็กๆเลี้ยวซ้าย ตรงไป100ม.เป็น4แยกเล็กๆให้ตรงไปอีก30ม.ตึกอยู่ขวามีอ ในโครงการมีสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ห้องล๊อคเกอร์แยกชายหญิง ห้องที่จะขายอยู่ชั้น 5 อาคาร B เลขที่ห้อง 168/40 พื้นที่ 174.49 ตารางเมตร พร้อมที่จอดรถส่วนตัว 1 คัน ในห้องนี้ มี 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ รับแขก ครัว ซักล้าง และห้องคนรับใช้พร้อมห้องน้ำในตัว 1 ห้อง เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า สวยมาก ครบถ้วน ขายที่ราคา 8.5 ล้านบาทถ้วน ให้เช่าห้อง 35,000 บาท/เดือน ค่าส่วนกลางเดือนละ4,300บาท
ติดต่อ 081-5549777
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น