ตลาดหุ้นกำลังจะมีการปรับตัว
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
มีรายการวิทยุรายการหนึ่ง Phone-In สัมภาษณ์ผมเกี่ยวกับสถานการณ์ของ
SET INDEX หลังจากที่ไต่บันไดขึ้นขาเดียว
หลังจากที่ไปทำจุดต่ำสุดในรอบปีนี้ที่ 1,205.44 จุด
เมื่อวันที่ 6 มกราคม แล้วก็ขึ้นมาตลอดด้วยความชันค่อนข้างมากจนมาสร้างสุดสูงสุดในรอบปีกว่าๆ
เมื่อวานนี้รวมแล้วขึ้นมามากกว่า 340 จุด หรือคิดเป็น 28%
กว่าๆ โดยที่ยังไม่มีการปรับตัวแรงๆ แม้แต่ครั้งเดียว ทั้งๆ
ที่เรามีความวุ่นวายประท้วงกันมายาวนานตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนกระทั่งเกิดการรัฐประหาร
ต่างชาติขายสุทธิอย่างหนักหน่วงมา 2 ปีแล้ว
แต่กลับไม่ระคายผิวของตลาดหุ้นไทยเรา
เชื่อหรือไม่ครับว่า SET INDEX เป็นหนึ่งใน TOP
10 ของตลาดหุ้นที่สร้างผลตอบแทนได้สูงสุด
ทำเอาฝรั่งงงกันเป็นไก่ตาแตกกันเป็นแถว ล้างความคิดเดิมๆ ที่ว่าตลาดหุ้นไทยเรา
ฝรั่งซื้อหุ้นขึ้น ฝรั่งขายหุ้นลง รอบนี้ฝรั่งเริ่มกลับมาซื้อแล้ว
แม้จะยังไม่มากนักเมื่อเทียบกับยอดขายสุทธิที่ผ่านมา ผมจะรอดูว่าหุ้นจะลงไหม
เมื่อฝรั่งกลับมา อย่างที่ผมได้เขียนไปว่า “ไม่มีงานเลี้ยงใด ที่ไม่เลิกรา”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมก็ยังยืนยันว่า SET INDEX ที่เหนือ 1,530
ขึ้นไป มีความเสี่ยงสูงมาก
ผมคาดการณ์ว่ารอบนี้ขึ้นอย่างไรก็ไม่น่าจะเกิน 1,560 จุด
เผลอๆ จะแป้กตรง 1,550 จุดเสียด้วยซ้ำ ปัจจุบัน Trailing P/E ของ
SET INDEX อยู่ที่ 18.54 เท่า
ส่วนของตลาด MAI อยู่ที่ 60.15 เท่า
และ P/BV ของ SET INDEX = 2.23 ส่วนของ
MAI = 3.86 นับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย P/E และ P/BV ของตลาดหุ้นไทยในอดีต
ถึงแม้ว่าเป็นเพราะความไม่สงบทำให้เศรษฐกิจไทยต้องหยุดชะงักลงตั้งแต่ไตรมาส 4
ปีที่แล้วจนถึงไตรมาส 2 ปีนี้
พลอยทำให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และตลาด MAI ได้รับผลกระทบตามไปด้วย ทั้งยอดขาย Margin และกำไรสุทธิลดลงไปตามๆ
กัน ทำให้ P/E ตลาดโดยรวมดูสูงผิดปกติชั่วคราวก็ตาม
แต่การปรับตัวขึ้นมาอย่างร้อนแรง โดยไม่มีการปรับตัวใหญ่ ทำให้เสถียรภาพของตลาดย่อมไม่มั่นคง
เมื่อมีการจุดพลุขายทำกำไรเกิดขึ้น ก็จะทำให้นักลงทุนทั้งรายใหญ่ รายย่อย
พร้อมใจกันเทขายตาม เนื่องจากทุกคนมีกำไรกันมากพอดูอยู่แล้ว อย่าลืมนะครับ
ถึงแม้ดัชนีตลาดหลักทรัพยจะขึ้นมามากกว่า 28% แต่หุ้นหลายๆ
ตัวขึ้นมามากกว่า 50% ไปแล้วจากจุดต่ำสุดเมื่อต้นปี
ผมจึงแนะนำว่าช่วงนี้นักเก็งกำไรควรจะทำพอร์ตให้เบาลง ไม่ควรจะถือหุ้นเกิน 30%
ของพอร์ต ส่วนนักลงทุนระยะกลางและยาวน่าจะถือหุ้นไม่เกิน 50 และ 70% ของพอร์ตตามลำดับ
เก็บสภาพคล่องส่วนหนึ่งไว้รอช้อนซื้อในช่วงที่หุ้นตกลงมา
ซึ่งผมคาดว่าน่าจะมีการปรับตัวร่วมร้อยจุด โดยมีแนวรับที่แข็งแกร่งอยู่แถว 1,420-1,440
จุด แล้วคงจะมีการปรับตัวขึ้นหลังจากนั้น
ผมยังมองว่าตลาดหุ้นปีหน้าก็ยังดูน่าจะสดใส เรากำลังจะมี AEC ในเดือนธันวาคมปีหน้าแล้วประเทศไทยเราน่าจะเป็นหนึ่งในประเทศที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด
เนื่องจากไทยเราเมื่อดูจากแผนที่เราเป็นประเทศศูนย์กลางที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน
ไม่ว่าจะเป็นพม่า ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย
ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจสูงในกลุ่ม ASEAN
ด้วยกัน
โอกาสที่บริษัทชั้นนำต่างๆ ทั่วโลก จะเลือกใช้ไทยเป็น HUB หรือสำนักงานใหญ่สำหรับการดูแลสินค้าหรือบริการใน ASEAN ด้วยการท่องเที่ยวไทยเราน่าจะยังคงความเป็นจุดศูนย์กลางเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศในกลุ่ม
ASEAN อื่นๆ เพราะว่าไทยเราเป็นประเทศที่มี Infrastructure
ที่เพียงพอและทันสมัยในราคาที่ถูกกว่ามาเลเซียหรือสิงคโปร์
เราคงจะเห็น Expat ที่มาจากประเทศในกลุ่ม ASEAN ด้วยกันมากขึ้น ความต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองสำหรับการลงทุนหรืออยู่อาศัยจะมีมากขึ้น
โดยเฉพาะคอนโดในใจกลางเมืองที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT
ช่วงนี้คงต้องหัดพูดคำทักทายในภาษาของเพื่อนบ้านใน ASEAN ทุกประเทศบ้างแล้ว เอาไว้ทักทายเพื่อนๆ ร่วม ASEAN ที่จะทยอยหลั่งใหลเข้ามาบ้านเราหลังมีการใช้
AEC ในช่วงสิ้นปีหน้าเป็นต้นไปกันแล้วนะครับ
กิติชัย เตชะงามเลิศ
23/07/57
ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
Linkedin : https://www.linkedin.com/in/homeproperty
Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/
หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Glow, L'Optimum และ Me(Market Evolution) ทุกเดือน
หาอสังหาทั้งถูกและดีเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ได้ที่ http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น