จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

GDP ไตรมาส 4 ดีกว่าคาด เพราะอะไร?


GDP    ไตรมาส   4   ดีกว่าคาด   เพราะอะไร?



          GDP ของไทยในไตรมาส 4 ปี 2555 ซึ่งรายงานโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช) เมื่อวันก่อนขยายตัวถึง 18.90 % เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งดีกว่าตัวเลขที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 15.30% ถือว่าเป็นผลงานของรัฐบาลชุดนี้ การที่มีการขยายตัวมากดังกล่าวน่าจะเกิดจากฐานที่ต่ำของไตรมาส 4 ปี 2554 ซึ่งช่วงนั้นไทยเราประสบปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่และรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี ทำให้ GDP ไตรมาส 4 ตกลง 10,70% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2554 และตกลง 9.0% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2553 ในช่วงนั้นโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ต้องปิดโรงงาน หยุดผลิตไปมากมาย ประชาชนลดการจับจ่ายใช้สอยลงอย่างมากนักท่องเที่ยวเปลี่ยนหรือเลื่อนแผนการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย การส่งออกก็ลดตัวลงมาอย่างมากโดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ และชื้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์  ไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา อัตราการขยายตัวของการส่งออกโตขึ้น 13.50%  เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2554 แต่เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2554มูลค่าการส่งออกลดลง ตามภาวะอ่อนแอของเศรษฐกิจในประเทศหลักๆ ไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเยือนประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 39.30%   เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2554  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวชาวจีนมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่า 500,000 คน หรือขยายตัวถึง 163% ซึ่งสูงกว่าไตรมาส 3 ปี  2554 ที่ขยายตัวถึง 47% ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับอิทธิพลจากภาพยนต์จีนเรื่อง “LOST IN THAILAND” ซึ่งเป็นหนังตลกต้นทุนต่ำ แต่ทำรายได้ BOX OFFICE สูงที่สุดในปี 2555 ซึ่งได้ข่าวว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จริงๆ แล้วการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท) ควรจะสนับสนุนภาพยนต์ทั้งไทยและเทศที่ถ่ายทำในเมืองไทยให้มากขึ้น เมื่อเห็นว่าบางส่วนของภาพยนตร์ดังกล่าว จะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น อย่างเช่นที่ประเทศเกาหลี ซึ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเขา ทำให้ผู้ชมภาพยนตร์ดังกล่าวอยากจะเข้าไปท่องเที่ยวที่เกาหลี และซื้อสินค้าเกาหลีใช้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือเครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องสำอาง บางฉากในภาพยนตร์เรื่อง “LOST IN THAILAND” ได้เข้าไปถ่ายทำในจังหวัดเชียงใหม่ ปรากฏว่าหลังจากภาพยนตร์ออกฉาย นักท่องเที่ยวจีนที่ปกติจะเที่ยวแค่กรุงเทพ พัทยา ภูเก็ต ก็เริ่มไปท่องเที่ยวที่เชียงใหม่มากขึ้น ยอดจองห้องพักที่เชียงใหม่ดีขึ้นเป็นอันมาก ทำให้เศรษฐกิจในภูมิภาคดีขึ้น อย่างเห็นได้ชัด ปัจจุบันดาราไทยหลายคน ก็ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงและได้รับรางวัลจากสถาบันภาพยนตร์ของจีนทาง (ททท) น่าจะทำโฆษณาโปรโมทการท่องเที่ยว โดยให้ดาราดังกล่าว แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในไทยไปออกอากาศในสถานีโทรทัศน์ของจีน ประชากรจีนมีเกือบ 1,400 ล้านคน ขอแค่ 1% ของประชากรจีนก็ปาเข้าไป 14 ล้านคนแล้ว ปี 2555 เรามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเยือน รวมทั้งหมด 22.30 ล้านคน  โดยมีนักท่องเที่ยวชาวจีนมากเป็นอันดับ 1 ถึงมากกว่า 2 ล้านคน ตามมาด้วยมาเลเซีย ญี่ปุ่น  และเกาหลีใต้
          ปีที่แล้วอานิสงค์ของโครงการรถคันแรก  ประกอบกับแรงซื้อที่อัดอั้นมาตั้งแต่ปลายปี 2554 ทำให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศ 1,400,127 คัน และการผลิตรถยนต์ในประเทศ 2,453,717 คัน สร้างสถิติสูงสุดใหม่ในประวัติศาสตร์ และยอดส่งออก 1,053,590 คัน ถ้าดูเฉพาะไตรมาส 4 ปี 2555 กลุ่มรถยนต์มียอดขายโตขึ้น 169.30% YOY ทำให้บริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์  ต้องใช้กำลังผลิตเต็มที่และขยายกำลังการผลิต  โดยสร้างโรงงานใหม่เพิ่มเติม เช่น กลุ่ม มาสด้า , ฮอนด้า เป็นตันจริงๆ แล้ว ในความเห็นส่วนตัวของผม รัฐบาลไม่จำเป็นต้องออกมาตรการนี้ เพราะว่ายังไงปี 2555 รถยนต์น่าจะขายดี เพราะแรงซื้อที่อั้นมาจากปลายปี 2554 บวกกับความต้องการของปี 2555 สู้นำงบประมาณตรงส่วนนี้ ซึ่งเป็นมูลค่าเกือบหนึ่งแสนล้านบาทมาทำโครงการรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครหรือหัวเมืองใหญ่ๆ จะดีกว่ารถใหม่ในปี 2555 รวมกับรถจองเมื่อปลายปี 2555 ซึ่งจะส่งมอบภายในครึ่งปีแรกปีนี้ จะทำให้รถติดวินาศสันตะโรเพียงไหนไม่อยากจะคิด  ปริมาณน้ำมันและก๊าซที่ใช้ในรถยนต์ทุกคันติดเครื่องจอดรถบนถนนเป็นการสูญเสียค่าใช้จ่ายด้านพลังงานนำเข้าเป็นจำนวนที่มหาศาล  ผู้คนต้องใช้เวลาบนท้องถนนนานขึ้น ประสิทธิภาพของคนทำงาน LOGISTICS ลดลง
          ปี 2556 อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจของไทยคงได้รับผลดีจากการขยายการลงทุนของอุตสาหกรรมต่าง ๆ จะเห็นได้จากยอดขอรับการส่งเสริม BOI สูงมาก และรัฐบาลเองก็ยังมีโครงการ MEGA PROJECT มูลค่า 2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะทยอยลงทุน ตลาดหุ้นก็ขึ้นมาพอสมควร ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ยอดการใช้จ่ายภายในประเทศ ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ก็ดีขึ้นเป็นอันมาก เศรษฐกิจอเมริกากับจีน เริ่มเห็นตัวเลขทางเศรษฐกิจหลายตัวดีขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว รัฐบาลใหม่ของญึ่ปุ่นก็มีนโยบายเพิ่มสภาพคล่องและกระตุ้นเศรษฐกิจ  เหลือแต่ยุโรปซึ่งยังไม่ฟื้น  แต่ก็น่าจะพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว อะไรๆ ก็ดูดีขึ้นเรื่อยๆ แต่การที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขึ้นมาจาก 380.05 จุด เมื่อเดือนพฤศจิกายน  2551 มาถึง 1,523.29 จุด ณ 18 กุมภาพันธ์ปีนี้  ขึ้นมาแล้วถึง 300.81% หรือเมื่อเทียบกับ 1,391.93 ณ สิ้นปีที่แล้ว SET INDEX ก็ขึ้นมาแล้ว 9.44 %  ผมคาดว่าภายใน 2 อาทิตย์นับจากนี้ เราน่าจะเห็นการปรับตัวของดัชนี  SET INDEX  ซึ่งผมคาดว่าจะเกิน 100 จุด  ซึ่งก็จะเป็นโอกาสที่ดี สำหรับท่านที่ยังมีพอร์ตการลุงทุนว่างอยู่ มาเลือกซื้อลงทุนหุ้นดีในราคาที่เหมาะสม  หวังว่าท่านผู้อ่านจะประสบความสำเร็จในการลงทุนนะครับ


ติดตามแนวทางการลงทุนของผมได้ที่ 
https://www.facebook.com/VI.Kitichai , http://twitter.com/value_talk , http://www.youtube.com/user/wittayu9 และ http://kitichai1.blogspot.com

หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 หรือหน้า B10 และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Stock Review, Me(Market Evolution), Glow และ Lisa  ทุกเดือน
     
สนใจซื้ออสังหาเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ลองเข้า http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty

กิติชัย เตชะงามเลิศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น