จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2556

แนวโน้มของไลฟ์สไตล์


แนวโน้มของไลฟ์สไตล์

จะเห็นได้ว่า URBANIZATION (ความเป็นเมือง) เป็นแนวโน้มใหม่ของคนทั่วโลก จากการที่ไลฟ์สไตล์ของการอยู่ในเมือง ทำให้ชีวิตมีสีสันมากขึ้น ไม่ว่าคนชาติไหนๆ ก็ตาม เราจะเห็นคนอเมริกัน หลายคนอยากมาหางานทำในนิวยอร์ค คนจีนอยากจะเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่ๆ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ คนไทยก็อยากเข้ามาทำงานในกรุงเทพ ซึ่งมีรายได้สูงกว่าทำงานในท้องถิ่นของตนเอง รายได้ก็สูงกว่าแต่ก็ตามมาด้วยค่าครองชีพสูงกว่า ทำให้คุณภาพของชีวิตของคนต่างจังหวัดไร้ทักษะที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพจึงมีคุณภาพชีวิตที่ต่ำ จากนโยบายแรงงานขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน และความเจริญของจังหวัดหัวเมืองใหญ่ๆ จึงทำให้แรงงานดังกล่าว แทนที่จะมุ่งหน้าเข้ามาหางานทำในกรุงเทพ ก็มุ่งไปทำงานในหัวเมืองใหญ่ดังกล่าวแทน เราจะเห็นคนอีสานไปทำงานที่พัทยา ภูเก็ต นอกจากนั้น เราก็ยังเห็นแรงงานต่างชาติเข้ามาหางานทำในประเทศไทยมากมาย บางโรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะโรงงานอาหารทะเลมีติดป้ายข้อปฎิบัติตนในโรงงาน เป็นภาษาพม่าควบคู่กับภาษาไทยอยู่หลายโรงงานทีเดียวที่ผมไปเยี่ยมชม อัตราการว่างงานของไทยถือว่าต่ำมาก คือ น้อยกว่า 1% เป็นอัตราต่ำที่สุดใน ASEAN และจัดเป็นประเทศที่มีอัตราการว่างงานต่ำมากเมื่อเทียบกับทั่วโลก ปลายปี .. 2558 เราจะเริ่มใช้ AEC แล้ว หลังจากเลื่อนจากที่จะเปิดต้นปี 2558 ช้าลงเกือบปี เมื่อถึงเวลานั้น เราจะเห็นประชาชน ASEAN ใน 8 กลุ่มวิชาชีพ ซิ่งประกอบไปด้วย แพทย์ พยาบาล วิศวกร สถาปนิก นักบัญชี ช่างสำรวจ ทันตแพทย์ งานท่องเที่ยวสามารถย้ายเข้ามาทำงานในกลุ่ม ASEAN ด้วยกันอย่างเสรี แต่คาดว่า ในแต่ละประเทศในกลุ่ม ASEAN คงมีมาตรการสกัดกั้นเองทางอ้อม อย่างเช่น ต้องสอบข้อเขียน เพื่อขอใบอนุญาตทำงานวิชาชีพดังกล่าว ยิ่งถ้าใช้ข้อสอบเป็นภาษาของชาติตนเอง ก็จะทำให้คน ASEAN ชาติอื่นๆ จะเข้ามาทำงานได้ยากขึ้น

เราลองมาดูประเทศไทยของเรา ความเจริญได้แผ่กระจายไปตามหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่  อุดร ขอนแก่น โคราช  ชลบุรี  ระยอง  ภูเก็ต หาดใหญ่ หัวหิน เป็นต้น  ยิ่งมีโครงการรถไฟความเร็วสูงจากจีน ซึ่งจะผ่านลงมาผ่านไทยไปจบที่สิงคโปร์ จะทำให้จังหวัดเชียงราย หนองคาย เป็นจังหวัดที่น่าสนใจ  รวมทั้งกาญจนบุรี จะเป็นเมืองสำคัญ หลังจากพม่าเปิดประเทศ มีการซื้อขายเก็งกำไรในที่ดินในจังหวัดดังกล่าวมากมายราคาเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยเฉพาะเชียงใหม่ดูเหมือนจะมีฟองสบู่นิดๆ แล้ว ที่ดินโดยเฉพาะในเมืองเริ่มแพงขึ้นอย่างมาก  จากการที่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ๆ ในกรุงเทพ  ได้เข้าไปกว้านซื้อที่ดินในเมือง มาทำคอนโด เพื่อสนองตอบ URBAN LIFESTYLE ของคนปัจจุบัน รถไฟฟ้ามีให้บริการแค่ในกรุงเทพ อนาคตเราจะเห็นรถไฟฟ้าเปิดบริการในภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่และหัวเมืองใหญ่อื่นๆ เราเห็น CONVENIENCE STORE, DEPARTMENT STORE, CATEGORY KILLER STORE,  MODERN STORE หลายๆ ประเภทขยายสาขาทั่วไทย คนมีรายได้มากขึ้นก็ต้องการความสะดวกสบาย  ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น  ยอดผู้ใช้ SMART  PHONE  มากขึ้นเรื่อยๆ  ในอนาคตคงจะมีผู้ใช้มากกว่า FEATURE PHONE  คนจะใช้บริการต่างๆ ผ่านทาง  SMART PHONE  เช่นใช้บริการทางการเงินกับสถาบันการเงิน  การสั่งซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ผ่าน APPLICATION ต่างๆ บน SMART PHONE  และหรือ TABLET  เรากำลังจะมี 3G, 4G  และ DIGITAL TV อีก 48 ช่อง  รายได้ NON VOICE  จะโตมากกว่า VOICE  ในธุรกิจสื่อสารไร้สาย  การใช้ SMS และ MMS ก็จะน้อยลง  เพราะว่าปัจจุบันมี WHATSAPP, LINE  มาทดแทนการส่งข้อความ  หรือรูปภาพในวิธีเดิมๆ  กรุงเทพก็ติดอันดับผู้ใช้ FACEBOOK  หนึ่งในสิบของโลก แต่น่าเสียดาย  ที่คนไทยติดอันดับชาติที่อ่านหนังสือน้อยที่สุดในโลก  ทั้งๆ ที่คนไทยส่วนใหญ่อ่านออกเขียนได้ และปีนี้กรุงเทพก็ได้รับเกียรติเป็นเมืองหนังสือโลก  หวังว่าคนไทยเราจะรักการอ่านมากขึ้น  จากปีละๆ บรรทัดต่อคน กลายเป็น 1 หน้ากระดาษต่อคน  ก็น่าชื่นใจแล้ว ท่านผู้อ่านทราบไหมครับว่า คนเวียดนามอ่านหนังสือมากกว่าคนไทยเราเสียอีก  จำนวนคนใช้อินเตอร์เน็ตต่อจำนวนประชากรของเวียดนาม ก็มีมากกว่าเราเสียอีก

       ในฐานะนักลงทุน คงต้องวิเคราะห์ดูว่ามีธุรกิจไหนบ้างที่จะสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบัน เช่น ธุรกิจ MODERN  STORE, DEPARTMENT STORE, CONVENIENCE  STORE  บริษัทที่ทำธุรกิจสื่อสารแบบไร้สาย ธุรกิจเจ้าของ CONTENT ทั้งข่าวและบันเทิง ธุรกิจ TV ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดิน ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง  เป็นต้น แต่หุ้นกลุ่มเหล่านี้ ก็ขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว มีโอกาสจะปรับตัวลงตามตลาดหลักทรัพย์  ที่ผมคาดว่าจะปรับตัวลงในเดือนมีนาคมนี้  หลังจากบริษัทต่างๆ ประกาศผลประกอบการหมดแล้ว ถึงเวลานั้น ก็ค่อยๆ เลือกดูหุ้นที่มีผลประกอบการดี แต่ P/E ยังต่ำ มีการเติบโตของธุรกิจสูง โดยเลือกหุ้นที่มี PEG ต่ำ ยิ่งต่ำกว่า 1 เท่าใดยิ่งดี  พวกหุ้นเก็งกำไรตัวเล็กๆ ที่ขึ้นมาเป็นร้อยๆ เปอร์เซ็นต์ โดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ พอเขาเลิกเล่นกัน ท่านอาจจะติดดอยก็ได้ อย่าลืมนะครับว่า ลำปาง หนาวมาก นะครับ






ติดตามแนวทางการลงทุนของผมได้ที่ 
https://www.facebook.com/VI.Kitichai , http://twitter.com/value_talk , http://www.youtube.com/user/wittayu9 และ http://kitichai1.blogspot.com

หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 หรือหน้า B10 และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Stock Review, Me(Market Evolution), Glow และ Lisa  ทุกเดือน
     
สนใจซื้ออสังหาเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ลองเข้า http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty

กิติชัย เตชะงามเลิศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น