หุ้นเพิ่มทุน IPO,
PP และ RO (ตอนที่ 2)
สัปดาห์ที่แล้วผมพูดถึงเรื่องหุ้น IPO กันไปแล้ว สัปดาห์นี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่องหุ้น PP
(PRIVATE PLACEMENT) และหุ้น RO (RIGHT OFFERING) กันครับ จริงๆแล้วหุ้นที่บริษัทจดทะเบียนขายหุ้นเพิ่มทุนในลักษณะ PP มีมานานแล้ว แต่มาฮือฮากันมากๆ ก็ในช่วงหลังๆนี้ เพราะว่ามีการขายหุ้น PP
ให้แก่ผู้ถือหุ้นใหม่ในลักษณะเฉพาะเจาะจงในราคาที่ต่ำกว่าราคาในตลาดเป็นอย่างมาก
จนผมเองก็รู้สึกว่าน่าเกลียดเกินไป สมมติว่าหุ้นบริษัทหนึ่งราคาตลาดอยู่ที่ 9 – 10
บาท วันร้ายคืนร้ายประกาศขายหุ้น PP ให้แก่กลุ่มบุคคลในวงจำกัด
ราคาหุ้นละ 0.50 บาท อย่างนี้ก็วงแตกสิครับ นักลงทุนรายย่อยที่โชคร้ายถือหุ้นบริษัทนี้อยู่ก็หงายเก๋งเลย
ราคาก็ตกระเนระนาดเป็นแน่ อาจจะลงไปเหลือ 2 – 3 บาทเลยทีเดียว จากสถิติในปี 2557 พบว่ามีจำนวน 27 บริษัท ที่มีการขายพีพีถึง 49
ครั้งและมี 13 บริษัทที่เพิ่มทุนเกิน 1 ครั้ง โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 73% ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์เริ่มให้ความสนใจในเรื่องนี้พอสมควร
เห็นจากการที่ทำ PUBLIC HEARING
เพื่อส่งให้ กลต.พิจารณาตัดสิน บจ.
ผมมีความเห็นอยากเสนอว่า บริษัทที่จะออก PP
ให้ราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด (โดยใช้ราคาถัวเฉลี่ยย้อนหลัง 1 – 3
เดือน) เกินกว่า 10% ขึ้นไป
บริษัทเหล่านี้ต้องแจ้งเหตุผลและตัวเลขผลประโยน์ซึ่งคาดว่าจะได้รับต่อผู้ถือหุ้น
ตลาดหลักทรัพย์และกลต หากขายหุ้น PP ให้กับนักลงทุนกลุ่มนี้ และจะต้องมีการว่าจ้างที่ปรึกษาการเงินอิสระให้ความเห็นเกี่ยวกับการเพิ่มทุนครั้งนั้น
รวมทั้งกรรมการอิสระทุกท่านต้องส่งความคิดเห็นของตนให้กับผู้ถือหุ้น
ตลาดหลักทรัพย์และกลต
เพราะว่าชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นกรรมการอิสระ
ดังนั้นควรจะให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์สูงสุดกับบริษัท
มิใช่กลุ่มผู้ถือหุ้นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
กรรมการอิสระเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนรายย่อยอยู่แล้ว
ดังนั้นควรจะทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด และควรจะมี SILENT PERIOD ในกรณีแบบนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการเทขายทำกำไรหลังจากหุ้น PP เหล่านี้เข้าเป็นหุ้นจดทะเบียนในตลาด
ซึ่งจะสร้างความเสียหายแก่นักลงทุนรายย่อยได้เป็นอย่างมาก
รวมไปถึงการกำหนดสัดส่วนของหุ้น PP ว่าไม่ควรจะเกิน 10% ของทุนจดทะเบียนก่อนเพิ่มทุน มิฉะนั้นนอกจาก DILUTION EFFECT ที่จะเกิดขึ้นหลังราคาหุ้น PP
ที่ตั้งไว้ราคาต่ำกว่าราคาตลาดมากๆ
ก็จะกลายเป็นหอกคอยทิ่มแทงนักลงทุนรายย่อยอย่างแสนสาหัส
โดยผมขอสรุปไว้เป็นข้อๆดังนี้ คือ
1.
หุ้น PP ที่ออก ถ้าราคาไม่ต่ำกว่าราคาตลาดเกิน 10% ขึ้นไป
สามารถออกขายได้ไม่เกิน 30% ของทุนจดทะเบียน
แต่ถ้าราคาต่ำกว่าราคาตลาดเกิน 10% ขึ้นไป
ไม่สามารถออกขายเกิน 10% ของทุนจดทะเบียนก่อนเพิ่มทุน
2.
การออกหุ้น PP ทุกครั้ง ที่มีการขายในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดมากกว่า 10% กรรมการอิสระทุกท่านต้องส่งความเห็นไปยังผู้ถือหุ้น ตลาดหลักทรัพย์และกลต
รวมทั้งบริษัทต้องว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงินอิสระมาวิเคราะห์และส่งความเห็นให้กับผู้ถือหุ้น
ตลาดหลักทรัพย์และกลต ล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ก่อนที่จะมีการขาย PP ครั้งนั้นๆ
3.
ผู้บริหารของบริษัทที่จะขาย
PP ที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาดมากกว่า 10%
ต้องชี้แจงเหตุผลและตัวเลขผลประโยชน์ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้รับ จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเฉพาะเจาะจงที่จะได้รับการจัดสรรหุ้น
PP ครั้งนั้นๆ
4.
กำหนด SILENT
PERIOD ดังนี้
4.1.
ราคาหุ้น
PP ต่ำกว่าราคาตลาดน้อยกว่า 10% ไม่มี SILENT
PERIOD
4.2.
ราคาหุ้น PP ต่ำกว่าราคาตลาดมากกว่า 10% แต่ไม่เกิน 30% ให้มี SILENT PERIOD ไม่ต่ำกว่า 3 เดือน
4.3.
ราคาหุ้น PP ต่ำกว่าราคาตลาดมากกว่า 30% แต่ไม่เกิน 50% ให้มี SILENT PERIOD ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
4.4.
ราคาหุ้น PP ต่ำกว่าราคาตลาดมากกว่า 50% ขึ้นไป ให้มี SILENT ไม่ต่ำกว่า 12 เดือน
เพราะว่าถ้ากลุ่มผู้ถือหุ้นเฉพาะเจาะจงที่ได้รับการจัดสรร
PP ในราคาต่ำๆนั่นหมายถึง บริษัทมองแล้วว่าผู้ถือหุ้นกลุ่ใหม่นี้น่าจะยังประโยชน์ให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี
ก็จะส่งผลให้กับบริษัทได้มีกำไรมากขึ้น
ราคาหุ้นก็จะสูงขึ้นตามผลประกอบการที่ดีขึ้น กลุ่มผู้จองหุ้น PP ก็จะขายได้กำไรดีขึ้นในระยะยาวไปด้วย อย่างนี้สิถึงจะเป็น WIN WIN
WIN ถึงได้ประโยชน์ทั้งบริษัท กลุ่มผู้จองหุ้น PP และผู้ถือหุ้นรายย่อย
หมายเหตุ ราคาตลาดควรจะใช้ราคาย้อนหลัง
1-3 เดือนและสิ่งที่กล่าวมานี้ ควรจะยกเว้นกรณีที่บริษัทมีปัญหาทางการเงิน
แล้วเจ้าหนี้ยอมแปลงสภาพหนี้เป็นทุน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้ที่เป็น SUPPLIER หรือสถาบันการเงินก็ตาม และหรือการที่เจ้าหนี้เหล่านี้ยอมใส่เม็ดเงินใหม่เข้ามาเพื่อฟื้นฟูกิจการ
เนื้อที่หมดแล้ว ผมขอยกยอดเรื่องหุ้น RO
ไว้ในสัปดาห์หน้าครับ
กิติชัย เตชะงามเลิศ
25/02/58
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
Linkedin : https://www.linkedin.com/in/homeproperty
Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/
หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B8 หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Glow, และ Me(Market Evolution) ทุกเดือน ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยเอาเม้าส์ไปทางด้านขวามือจะมีแถบแสดงออกมา แล้วเลือกคลิกไอคอนที่เขียนว่าสมัครรับข้อมูล เมื่อผมมีบทความใหม่ ท่านก็จะทราบทันที หาอสังหาทั้งถูกและดีเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ได้ที่ http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty