TAXI แบบเดิมกำลังจะตาย...?
Photo from www.hariomtoursandtravelsbhuj.com
ในอดีตเวลาต้องใช้บริการรถ
TAXI เราก็ใช้วิธีโบกมือเรียกตามริมทาง
คนไหนบ้านอยู่ลึกก็ลำบากหน่อย ต่อมาก็มีศูนย์ให้บริการ TAXI เกิดขึ้นมากมาย
มี 2 รายที่ใช้หมายเลขโทรศัพท์ 4 หลัก คือ 1661 และ 1681 เพื่อจำง่าย
ส่วนรายอื่นๆก็ใช้เบอร์ 02-xxx-xxxx ซึ่งส่วนใหญ่จะคิดค่าบริการ
20 บาทในการเรียกรถ TAXI ให้ ทำให้คนที่บ้านอยู่ในซอยลึกๆ
ที่ไม่ค่อยมีรถ TAXI วิ่งผ่านสะดวกมากขึ้น ในขณะที่ TAXI
ที่วิ่งรถเปล่า ก็มีโอกาสได้ผู้โดยสารมากขึ้น โดยผู้ขับ TAXI
เพียงแค่เข้าไปร่วมเป็นรถในศูนย์ แล้วเสียค่าบริการเป็นรายเดือนให้กับศูนย์เรียกรถ
TAXI ซึ่งบริการเหล่านี้ก็ช่วยแก้ปัญหาให้ผู้โดยสารเกี่ยวกับการถูกปฏิเสธจาก
TAXI ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แม้กรมขนส่งทางบกจะพยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้มาเป็นเวลานาน
ปัจจุบัน การใช้ SMART PHONE แพร่หลายทำให้มี
APPLICATION ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันต่างๆมากขึ้น
จนเรามี APP ที่ให้บริการรถรับจ้างอย่างเช่น UBER, GRAB , EASY TAXI, ALL THAI TAXI ฯลฯ ซึ่งเป็นไปตาม SHARING ECONOMY TREND ซึ่งเป็นการใช้ทรัพย์สินของตนเองในบางช่วงที่ไม่ได้ใช้สอย
แบ่งปันให้ผู้อื่นได้ร่วมใช้ หรือการเจียดเวลาว่างของตัวเองมาให้บริการคนอื่น
โดยมี APP ต่างๆ เป็นศูนย์รวมการให้บริการในแต่ละประเภท
ไม่ว่าจะเป็น AIR BNB ที่เปิดโอกาสให้เจ้าของบ้าน หรือห้อง
สามารถที่จะแบ่งปันพื้นที่บางส่วนของบ้านหรือห้อง หรือทั้งบ้านเลย
ให้คนมาเช่าอาศัยอยู่เป็นรายวัน โดยเจ้าของบ้านก็จะได้ค่าเช่า
ส่วนคนเช่าก็มีทางเลือกใหม่ๆ นอกเหนือจากการเข้าพักตามโรงแรม หรือ GUEST
HOUSE อย่างที่เคยทำกันมา
นอกจากนั้นผู้ที่มาใช้บริการยังสามารถที่จะรีวิวบริการที่ได้รับ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับว่าที่ผู้รับบริการรายอื่นๆในอนาคต
และเป็นช่องทาง FEEDBACK ที่ผู้ให้บริการจะได้รับทราบความคิดเห็น
และความรู้สึกของผู้รับบริการ
ซึ่งผู้ให้บริการที่อยากจะได้ลูกค้ามากๆก็ต้องพยายามให้บริการที่ดีที่สุด
และเตรียมพร้อมทรัพย์สินที่จะนำมาให้บริการอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
เพื่อจะได้รีวิวดีๆจากผู้รับบริการ
กลับมาที่ APP ที่ใช้เรียก TAXI
ที่ให้บริการในประเทศไทยที่ยอดนิยมมากที่สุดคือ UBER กับ GRAB โดย UBER ให้บริการรถยนต์ UBER
BLACK ซึ่งเป็นรถเกรดดี แล้วต่อมาก็มี UBER X ให้บริการรถเกรดรองลงมา
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น CITY CAR แล้วล่าสุดก็มีบริการ UBER
MOTO ซึ่งเป็นการให้บริการโดยรถมอเตอร์ไซค์ โดยเริ่มให้บริการนี้หลังจาก
GRAB มี GRAB BIKE โดยไทยเป็นประเทศแรกๆในโลกของ
UBER ที่ให้บริการนี้
ถ้าพูดถึงความหลากหลายดู GRAB จะได้เปรียบกว่า
เพราะว่ามีบริการทั้ง GRAB XL ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง
12 คน หรือแบบ 7-SEATER ที่รองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 คน
รวมทั้งมี GRAB CAR+ ไว้ต่อกรกับ GRAB
BLACK และ GRAB CAR ECONOMY ไว้แข่งกับ UBER
X แล้วยังมี GRAB TAXI เพื่อดึง MARKET
SHARE กับ EASY TAXI และ ALL THAI TAXI
ส่วน GRAB BIKE มีทั้งส่งผู้โดยสาร และส่งของ
เมื่อเร็วๆนี้
ผมได้ทดลองใช้บริการทั้ง UBER MOTO และ GRAB BIKE พบว่าสะดวกดี
และบริการที่ได้รับ ก็ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ใช้เวลารอรถประมาณ 1-10 นาที
ค่าบริการโดยเฉลี่ยจะถูกกว่ามอเตอร์ไซด์รับจ้างนิดหน่อย แต่บริการดีกว่ากันมาก
ผมได้คุยกับคนขี่หลายๆคนด้วยตามความอยากรู้อยากเห็น สรุปได้ความว่า อัตราส่วนคนขี่
GRAB BIKE เป็นผู้ชาย : ผู้หญิง =
10:1 ช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารขอรับบริการมากสุดคือช่วงเช้า 7.00-9.00
น. และช่วงเวลาหลังเลิกงาน 17.00-20.00 น. มีชาวต่างชาติใช้บริการประมาณ 5-10% อัตราผู้โดยสาร ผู้ชาย : ผู้หญิง = 80: 20 ไม่น่าแปลกใจที่ผู้หญิงน่าจะกลัวแดด และอันตรายมากกว่าผู้ชาย
ส่วนรายได้ที่ผู้ขี่ได้รับ สร้างความประหลาดใจให้ผมเป็นอย่างมาก
สำหรับคนที่ขี่ทั้งวันตั้งแต่ 6.30-22.30 ทำรายได้ถึงเดือนละ 40,000-60,000
บาท เลยทีเดียว ส่วนคนที่วิ่งขี่หลังเลิกงานก็ทำรายได้ประมาณ 4,000-12,000 บาท แล้วแต่ความขยันในการรับผู้โดยสาร
ผู้ขี่บางคนบอกว่ารายได้เกือบเท่ารายได้จากงานประจำเลยทีเดียว
แต่รายได้นี้ไม่น่าจะยั่งยืน ผมเข้าใจว่าช่วงนี้ BRAB BIKE กับ
UBER MOTO กำลังแย่งทั้งคนขี่ และผู้โดยสารให้เข้ามาในระบบ
จึงอัดโปรโมชั่นให้ทั้งคนขี่ และคนนั่ง มีทั้งการันตีค่าโดยสารขั้นต่ำต่อชั่วโมงหรือต่อเที่ยวให้กับคนขี่
ส่วนคนนั่งที่ใช้บัตรเครดิตก็ให้ขึ้นฟรีทุกเที่ยวภายใน 7 วัน เป็นต้น ดูท่าอวสานของคนขับ
TAXI และวินมอเตอร์ไซด์ที่โขกค่าบริการ และปฏิเสธผู้โดยสารคงใกล้เข้ามาแล้ว
กิติชัย เตชะงามเลิศ
5/5/59
5/5/59
ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
Linkedin : https://www.linkedin.com/in/homeproperty
Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/
1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า A10 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"
2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน”
3.นิตยสาร Condo Guide ทุกเดือน
4.นิตยสาร คนรวยหุัน Me(Market Evolution) และ วารสารเภตรา ทุกไตรมาส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น