ฤดูผลประกอบการที่นักลงทุนรอคอย
ปกติบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET)
และตลาด MAI จะต้องส่งงบการเงินให้ตลาดปีละ 4
ครั้ง โดย 3 ไตรมาสแรกจะต้องส่งหลังจากปิดงบ ณ
สิ้นไตรมาสภายใน 45 วัน ยกเว้นไตรมาสสุดท้าย
ซึ่งบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่จะส่งเป็นงบปีโดยตลาดกำหนดให้ส่งภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์
ถ้าบริษัทใดส่งไม่ทันตลาดก็จะขึ้นเครื่องหมาย NP เพื่อแจ้งนักลงทุนให้ทราบว่าตลาดกำลังรอบริษัทจดทะเบียนนั้นๆ
ส่งงบการเงินมาให้ตลาดหลักทรัพย์ เพื่อจะเผยแพร่งบดังกล่าวให้นักลงทุนทราบ
หลังจากนั้นก็จะมีเทศกาล OPPORTUNITY DAY หรือเรียกกันสั้นๆ
ว่า OPP DAY ซึ่งเป็นงานที่บริษัทจดทะเบียนมาพบกับนักลงทุน
มาเล่าเรื่องราวของธุรกิจของตนในไตรมาสที่ผ่านมาแก่นักลงทุน รวมถึงชี้แจงงบการเงินผลประกอบการและพูดถึงโครงการที่ทำอยู่ในปัจจุบัน
และอนาคต ซึ่งจะจัดขึ้นที่ตลาดหลักทรัพย์
ความสนใจของนักลงทุนมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความนิยมในบริษัทนั้นๆ
ถ้าช่วงนั้นบริษัทจดทะเบียนรายใดมีมูลค่าการซื้อขาย/วัน
คึกคัก ก็คาดเดาได้เลยว่าวันที่บริษัทนั้นมานำเสนอข้อมูลในเทศกาล OPPDAY จะมีคนเข้าฟังล้นหลาม
ถ้าท่านนักลงทุนติดธุระไม่สามารถเข้าร่วมฟังผู้บริหารพูดด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน
ตลาดหลักทรัพย์ได้มีการถ่ายทอดทางอินเตอร์เน็ตในรูป WEBCAST ซึ่งสามารถจะดูสดๆ
ได้เสมือนกับการเข้าฟังในห้องประชุมของตลาดเลยทีเดียว หรือถ้าไม่สะดวกจะรับชมในช่วงขณะนั้น
ตลาดหลักทรัพย์ก็ยังทำเป็นวีดีโอให้ชมกันภายหลังอีกด้วย ถือว่าสะดวกมากๆ ซึ่งผมเองก็ใช้วิธีชมทางอินเตอร์เน็ตในรูปแบบ
WEBCAST และ VDO แล้วแต่ความสะดวกและถ้าชมสดๆ
ในรูป WEBCAST ท่านยังสามารถส่งข้อความถามผู้บริหารได้ในทันที
ส่วนคำถามของท่าน อาจจะได้รับการตอบหรือไม่
ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้บริหารบริษัทนั้นๆ และเวลามีเพียงพอหรือไม่ ผมขอชมเชยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่กรุณาจัดให้มีงาน
OPP DAY พร้อมทั้งมีการถ่ายทอดสดและอัดเป็น VDO ให้นักลงทุนได้มีโอกาสติดตามและสอบถามข้อมูลจากผู้บริหาร
เพื่อเป็นการพิจารณาที่จะตัดสินใจลงทุนในบริษัทจดทะเบียนเหล่านั้น
ถ้าผมจำไม่ผิดงาน OPP DAY เริ่มมีครั้งแรกในสมัยทีท่านกิตติรัตน์
ณ ระนอง เป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ และท่านก็เป็นผู้ก่อตั้งห้องสมุดมารวย (มารวย
เป็นชื่อของผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคนแรก
ที่นักลงทุนสมัยนั้นชื่นชมผลงานและการเอาใจใส่ต่อนักลงทุนเป็นอย่างมาก)
เป็นห้องสมุดที่มีหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนทั้งไทยและเทศ
ให้นักลงทุนเข้ามาใช้บริการ
และถ้าเป็นสมาชิกก็สามารถยืมหนังสือกลับไปอ่านที่บ้านได้ด้วย เมื่อเวลาผ่านไป
จากประสบการณ์ตรงของผม ผู้เข้าไปใช้บริการจะเป็นนิสิตนักศึกษามากกว่าครึ่ง
เข้าไปทำรายงานในห้องสมุด บางท่านมาคนเดียวแต่วางของบนโต๊ะและเก้าอี้ไว้เต็มหมดเลย
กะว่าคนอื่นไม่ต้องมานั่งด้วย ซ้ำร้ายไปกว่านั้น บางท่านเอาของมาวางเต็มโต๊ะและเก้าอี้แล้วออกไปข้างนอก
ผมสังเกตหลายๆ โต๊ะมีแต่ของพะรุงพะรังที่วางไว้ โดยเจ้าของไม่อยู่เป็นเวลานานเกิน 2-3
ชั่วโมงหลายโต๊ะ (อันที่จริงอาจจะนานกว่านั้น
เพราะว่าตั้งแต่ผมเข้าไปในห้องสมุดก็เห็นสภาพนั้นอยู่แล้ว หลังจากผมออกจากห้องสมุดเป็นการเห็นแก่ตัวอย่างมากเบียดเบียนผู้ที่อยากจะใช้บริการ
ทำให้มีที่นั่งไม่เพียงพอ แล้วถ้ามีผู้ประสงค์ร้ายเอาระเบิดเวลายัดใส่ในสัมภาระดังกล่าวมาวางไว้ในห้องสมุด
ถึงแม้ทางเข้าห้องสมุดจะมี รปภ.และเครื่องตรวจวัตถุก็ตาม แต่หลายครั้งผมก็ไม่เห็น
รปภ. ตรงหน้าทางเข้าผมเข้าใจว่าเขาอาจจะเข้าห้องน้ำ
แต่ถ้าผู้ประสงค์ร้ายรอจังหวะนั้นเข้ามาอะไรจะเกิดขึ้น
ผมเคยไปร้องเรียนเจ้าหน้าที่ห้องสมุด 2 ครั้ง แต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น
อันที่จริงทางเจ้าหน้าที่ควรจะมีการสอดส่องดูแล
ถ้าเห็นโต๊ะไหนมีสัมภาระทิ้งไว้บนโต๊ะนานเกิน 30 นาที
ควรจะนำสัมภาระดังกล่าวไปเก็บไว้ รอให้เจ้าของสัมภาระเหล่านั้นมารับไป
พร้อมทั้งปรับเขาเหล่านั้น เพื่อจะได้เข็ดหลาบ ไม่ทำพฤติกรรมเยี่ยงนี้อีก ตั้งใจจะเขียนถึงเทศกาลประกาศงบการเงิน ไม่รู้มาเขียนถึงเรื่องนี้ได้อย่างไร
ช่วงประกาศผลประกอบการจะเป็นที่ลุ้นระทึกของนักลงทุนหลายๆ ท่าน
โดยเฉพาะนักลงทุนแบบ VI
จะได้ตรวจสอบดูว่าผลประกอบการที่บริษัทจดทะเบียนที่ถืออยู่หรือติดตามอยู่
มีผลประกอบการสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตนหรือไม่ ถ้าไม่เพราะเหตุใด
ผมเองนอกจากจะดูบรรทัดสุดท้าย (กำไร/หุ้น)
แล้วผมก็จะวิเคราะห์งบการเงินที่ประกาศออกมาดูไส้ในว่ากำไร/ขาดทุนเกิดจากอะไร
ดูทุกๆ บรรทัดเปรียบเทียบทั้ง YoY และ QoQ ถ้าลักษณะของรายได้หรือกำไรเป็นฤดูกาล (SEASONAL)
จะทำให้ตีความหมายผิดๆ รวมทั้งผมจะอ่านหมายเหตุประกอบงบการเงิน
และความเห็นของผู้สอบบัญชี ประกอบด้วย ถ้าผลประกอบการไม่สอดคล้องกับความคาดหมายของผม
จากปัจจัยบางอย่างที่ผมคาดไม่ถึง
ผมก็อาจปรับการคาดการณ์ผลประกอบการของไตรมาสถัดไปและผลประกอบการรายปี
เพื่อให้การคาดการณ์มีความแม่นยำมากขึ้น ช่วงนี้ผมจะต้องทำงานหนักมากกว่าปกติ คือ ต้องติดตามและงบการเงินบริษัทที่ผมน่าสนใจ
และเฝ้าดูการชี้แจงของผู้บริหารที่มาออกงาน OPP DAY นี้คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมพยายามถือหุ้นไม่เกิน
8 ตัว
ผมไม่สามารถจะติดตามข้อมูลข่าวสารโดยเฉพาะช่วงเวลาประกาศงบการเงินได้ทัน
และวิเคราะห์เจาะลึกได้อย่างละเอียดลออ ผมเห็นนักลงทุนบางท่านมีหุ้นมากกว่า 30
ตัวในพอร์ตอยู่หลายท่าน
ผมจินตนาการไม่ออกเลยว่าช่วงเวลานี้เขาจะต้องทำงานหนักแค่ไหน
ถ้าเขาต้องทำแบบที่ผมทำ นั่นคือ
สาเหตุที่นักลงทุนหลายท่านเลือกที่จะลงทุนหุ้นน้อยตัว แค่เพิ่มน้ำหนักในหุ้นแต่ละตัวที่ถือให้มากหน่อย
การใส่ไข่ไว้หลายตะกร้าเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าใส่ไว้ใน 30 ตะกร้า
คุณมีแค่ 2 มือจะถืออย่างไรครับ
ติดตามแนวทางการลงทุนของผมได้ที่
TWITTER : http://twitter.com/value_talk
YOUTUBE : http://www.youtube.com/user/wittayu9
หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 หรือหน้า B10
และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Stock Review, Me(Market Evolution), Glow และ Lisa ทุกเดือน
กิติชัย เตชะงามเลิศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น