ถึงเวลาซื้อคอนโดที่หัวหินหรือยัง?
เสน่ห์ของหัวหินไม่เคยมีวันจืดจางไปจากสังคมไทย
ตั้งแต่สมัยแม่พลอยในเรื่องสี่แผ่นดิน ชนชั้นสูงในสมัยนั้นก็นิยมไปพักผ่อนที่หัวหินกันมากมาย
ตราบจนปัจจุบันนี้หัวหินก็ยังเป็นที่นิยมของคนไทยทั่วไป
ยิ่งปัจจุบันนี้การเดินทางไปหัวหินสะดวกขึ้นกว่าสมัยก่อนมาก ถ้าขับรถยนต์จากกรุงเทพไปหัวหิน
สามารถเดินทางได้ 2
เส้นทาง คือ
เส้นทางแรก
ใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร
สมุทรสงครามแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี
เข้าสู่ตัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมระยะทางประมาณ 280 กิโลเมตร
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง
เส้นทางที่สอง
ใช้เส้นทางสายเพชรเกษม ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านพุทธมณฑล นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี
เข้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมระยะทางประมาณ 320 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
ปัจจุบันนี้มีเรือโดยสารเฟอร์รี่บริการระหว่างพัทยาและหัวหิน
เป็นเรือโดยสาร Catamaran Ferry ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชม. 40
นาที ค่าโดยสารราคา 1,250 บาท/เที่ยว ประหยัดเวลาการเดินทางได้เกือบ
3 เท่าเมื่อเทียบกับการเดินทางโดยรถยนต์ ยิ่งปัจจุบันนี้สนามบินสัตหีบได้เปิดให้บริการแก่ผู้โดยสาร
ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการมาเที่ยวพัทยาสามารถมาลงที่สนามบินสัตหีบได้เลย
แล้วถ้าจะเดินทางไปเที่ยวต่อที่หัวหินก็สามารถนั่งเรือเฟอร์รี่ดังกล่าว
ซึ่งเป็นการประหยัดเวลาในการเดินทางและสะดวกมากเลยทีเดียว
นอกจากนั้นโครงการในอนาคตที่รัฐบาลกำลังจะทำอีกคือ
1.รถไฟทางคู่
5
เส้นทางหลังปรับทีโออาร์ใหม่ กำลังเปิดประมูลสายหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ 90 กม.
วงเงิน 8,500
ล้านบาท
2.รถไฟความเร็วสูง
กรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 211 กม. วงเงิน 94,673 ล้านบาท
ซึ่งเมื่อทำเสร็จแล้วก็จะทำให้การเดินทางไปหัวหินมีทางเลือกมากขึ้น
และสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้เกิดการคาดหวังว่าจะมีทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติเดินทางไปเที่ยวที่หัวหินเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก
และเมื่อมองย้อนดูการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนหัวหินในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา
จะพบว่ามีการเติบโตในระดับปานกลาง คือจากปี 2555 ที่มีนักท่องเที่ยวที่มาเยือนหัวหินประมาณ
4.1 ล้านคน
ในขณะที่ปี 2559 มีนักท่องเที่ยวที่มาเยือนหัวหินเกือบ
5 ล้านคน
เพิ่มขึ้นมามากกว่า 20% โดยมีสัดส่วนระหว่างนักท่องเที่ยวไทยกับต่างชาติอยู่ที่ประมาณ
80 : 20 ซึ่งเป็นสัดส่วนเดียวกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ส่วน Occupancy
rate จากปี 2555 ที่ 45.37% มีอัตราการเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก
โดยในปี 2558
Occupancy rate อยู่ที่ 65.70 % แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่พักในหัวหิน
มีการเติบโตในระดับสูง ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะจำนวนห้องพักในโรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้องตามพรบ.โรงแรมมีปริมาณลดลงโดยในปี
2555 มีจำนวนห้องพักรวมทั้งสิ้น 10,152 ห้องต่อมาปี 2558
ปริมาณห้องพักเหลือเพียง 8,969 ห้อง หรือลดลง 11.65%
ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนหัวหินมีปริมาณมากขึ้น 21.41% จึงทำให้ occupancy rate สูงขึ้นอย่างนั้น
ตามตารางที่ 1 และจำนวนวันโดยเฉลี่ยที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ
เข้ามาเช่าห้องพักในโรงแรมที่หัวหินอยู่ที่ประมาณ 3 วัน
ตารางที่ 1 : สถานการณ์ที่พักในหัวหินปี
2555-2559
ปี
|
จำนวนผู้มาเยือน
|
จำนวน
ห้องพัก
|
Occupancy
rate
|
ส่วนแบ่งที่พัก
|
||||||||
ไทย
|
%
|
ต่างชาติ
|
%
|
รวม
|
%
|
ไทย
|
%
|
ต่างชาติ
|
%
|
|||
2555
2556
2557
2558
2559
|
3,249,413
3,500,499
3,730,587
3,868,173
3,997,638
|
7.73
6.57
3.69
3.35
|
866,327
916,526
930,407
967,198
999,410
|
5.79
1.52
3.95
3.32
|
4,115,740
4,417,025
4,660,994
4,835,371
4,997,048
|
7.32
5.52
3.74
3.34
|
10,152
10,133
9,157
8,969
|
45.37
54.47
60.84
65.70
|
71.68
71.16
72.55
72.41
|
28.32
28.84
27.45
27.59
|
ถึงแม้ว่าจะมีที่พักที่ไม่ได้จดทะเบียนตามพรบ.โรงแรม
เช่น Guesthouse, Homestay ฯลฯ อีกเป็นจำนวนมาก
ซึ่งรวมทั้งอสังหาในรูปแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์
อาคารพาณิชย์ ที่มาให้บริการผ่าน airbnb โดยมีสัดส่วนการเข้าพักในโรงแรมที่จดทะเบียนตามพรบ.โรงแรม
ระหว่างคนไทยกับคนต่างชาติอยู่ที่ประมาณ 72 : 28 ตามตารางที่ 2
ตารางที่ 2 :
จำนวนผู้ที่ไปเที่ยวหัวหิน และจำนวนวันที่พักช่วงระหว่างปี 2555-2560
ปี
|
จำนวนผู้มาเยือน
|
จำนวนวันที่พัก
|
||||||||||
ไทย
|
%
|
ต่างชาติ
|
%
|
รวม
|
%
|
ไทย
|
%
|
ต่างชาติ
|
%
|
รวม
|
%
|
|
2555
2556
2557
2558
2559
|
3,249,413
3,500,499
3,730,587
3,868,173
3,997,638
|
7.73
6.57
3.69
3.35
|
866,327
916,526
930,407
967,198
999,410
|
5.79
1.52
3.95
3.32
|
4,115,740
4,417,025
4,660,994
4,835,371
4,997,048
|
7.32
5.52
3.74
3.34
|
3.20
3.17
3.06
2.97
|
3.67
3.55
3.51
3.43
|
3.33
3.28
3.18
3.10
|
ทั้งๆที่สัดส่วนระหว่างนักท่องเที่ยวไทยกับต่างชาติอยู่ที่ประมาณ
80 : 20 นี่แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวไทยน่าจะมีที่พักเป็นของตนเอง
หรืออาจจะมาพักกับญาติพี่น้อง หรืออาจจะพักกับที่พักที่ไม่ได้จดทะเบียนตามพรบ.โรงแรมประมาณ
8 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ จากสัดส่วนดังกล่าวถ้าผมเป็น Property Developer ผมคงจะพุ่งความสนใจไปที่กลุ่มคนไทยมากกว่าคนต่างชาติ
จากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด ทำให้เห็นว่าราคาอสังหาที่หัวหิน อีกภายใน 5
ปีข้างหน้าน่าจะมีโอกาสที่ราคาขึ้นไปได้อีกพอสมควร
ดังนั้นการลงทุนในอสังหาที่หัวหินก็ยังพอมีอนาคตอยู่ เนื่องจากที่ดินติดทะเลมีน้อยลง จากการที่พื้นที่ดังกล่าว
ถูกนำไปพัฒนาไปมากแล้ว ราคาที่ดินจึงสูงขึ้นเกือบทุกปี ท่านที่คิดจะซื้อคอนโดติดทะเลที่หัวหิน
ก็น่าจะศึกษาหาข้อมูลของโครงการต่างๆ
เพื่อไว้เปรียบเทียบในการพิจารณาที่จะซื้อกันนะครับ
มีอยู่โครงการหนึ่ง ที่ผมรู้สึกว่าน่าสนใจ โครงการนั้นคือ วีรันดา
เรสซิเดนซ์ หัวหิน (Veranda Residence Hua-Hin)
ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยตากอากาศสุดพรีเมี่ยม
ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 2.5 พันล้านบาท
บนที่ดินแปลงใหญ่ทำเลทองผืนสุดท้าย ริมชายหาดหัวหิน พื้นที่รวมกว่า 14 ไร่ ใกล้กับเขาตะเกียบ อีกทั้งยังสะดวกสบายสำหรับการเดินทาง ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอาทิ เพียง 3 นาทีจากท่าเรือเฟอร์รี่หัวหิน
- พัทยา และตลาดไนท์มาร์เก็ต ซิคาด้า หรือเพียง 5 นาทีจากโรงพยาบาลกรุงเทพ
หัวหิน และศูนย์การค้า บลูพอร์ต หัวหิน หรือเพียง 10 นาทีจากสวนน้ำวานา
นาวา นอกจากนี้ วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน
ยังจัดเป็น First Hotel Serviced Beachfront Design Residence หรือเป็นที่พักอาศัยริมชายหาดแห่งแรก ที่มาพร้อมกับการบริการแบบโรงแรม
เพราะว่าภายในโครงการจะมีส่วนของบูทีคโฮเทล ภายใต้แบรนด์น้องใหม่ “A
Veranda Collection” เพื่อสร้างมาตรฐานการบริการและมอบประสบการณ์วันพักผ่อน
ที่ลูกค้าไม่เคยได้รับจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่น ที่คอนโดเหล่านั้นส่วนใหญ่ถูกบริหารโดยนิติบุคคลอาคารชุดทั่วๆไป
วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน จึงเหมาะกับการเป็นบ้านหลังที่สอง ทั้งเพื่อการพักผ่อนและการลงทุน นอกจากนั้นโครงการยังถูกออกแบบในแนว Modern
Contemporary ด้วยการนำลักษณะและศิลปะของพื้นที่ มาผสมผสานให้เข้ากับความทันสมัยที่เหมาะแก่การพักผ่อนที่เน้นการออกแบบการตกแต่งภายใน
รวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ระดับไฮเอนด์ที่มีดีไซน์เฉพาะตัว ซึ่งออกแบบโดย Quattro
design
และเสริมความโดดเด่นที่ทำให้วีรันดาแตกต่างจากโครงการคอนโดมิเนียมทั่วไปคือ
การเน้นพื้นที่ของ Landscape ให้มาก ออกแบบให้มีสระว่ายน้ำเป็นองค์ประกอบหลักของพื้นที่
เรียกได้ว่าเป็นที่พักริมทะเล ที่มีพื้นที่สระว่ายน้ำมากที่สุดของหัวหินเลยทีเดียว
นับว่าเจ้าของโครงการใจปล้ำมาก เพราะว่าการทำเช่นนั้น
จะทำให้มีพื้นที่ขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
ทั้งยังเป็นการเพิ่มต้นทุนในการพัฒนาโครงการให้สูงขึ้น แต่ในทางกลับกันก็เป็นผลดีกับลูกค้า
ที่จะได้พื้นที่ส่วนกลางซึ่งเป็นสระว่ายน้ำมากกว่าโครงการอื่นๆ
ทำให้มีความน่าอยู่มากขึ้น
บริษัท
วีรันดา รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด เจ้าของโครงการเอง
ได้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับโครงการวีรันดา รีสอร์ท หัวหิน, วีรันดา เชียงใหม่ เดอะ ไฮ รีสอร์ท, วีรันดา รีสอร์ท พัทยา และ วีรันดา เรสซิเดนซ์ พัทยา มาก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งยังได้รับรางวัลจาก Tripadvisor ถึง
4 ปีซ้อน
จึงสามารถสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่สนใจจะซื้อ วีรันดา
เรสซิเดนซ์ หัวหิน ได้เป็นอย่างดี
อนึ่ง
ในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่มีการก่อสร้างโครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะ Beachfront
Residence ใน อ.หัวหิน อีกทั้งพื้นที่ติดทะเลริมหาดผืนใหญ่ หาได้ยากขึ้น
ถึงแม้ว่าอาจจะยังมีที่ดินว่างเปล่าอยู่บริเวณ เขาเต่า ปึกเตียนและปราณบุรีอยู่บ้าง
แต่พื้นที่เหล่านั้นยังไกลจากศูนย์กลางเมืองและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงหาดทรายก็ยังไม่สวยเท่าหัวหิน
จึงยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก ในขณะที่ความต้องการของผู้ซื้อคอนโดติดชายหาดหัวหินยังมีจำนวนมาก
การเปิดตัวของ วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน
น่าจะตอบโจทย์กลุ่มผู้สนใจที่จะซื้อคอนโดในหัวหินได้เป็นอย่างดี ทั้งในแง่ทำเล
ราคา การตกแต่ง(สไตล์รีสอร์ท) และการที่มี
Hotel Service ซึ่งเป็นการให้บริการแบบเหนือระดับกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
www.verandaresidence.com หรือ โทร. 088-895-2121
กิติชัย เตชะงามเลิศ
4/5/60
ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
Linkedin : https://www.linkedin.com/in/homeproperty
Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
Linkedin : https://www.linkedin.com/in/homeproperty
Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/
หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"
2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน”
3.นิตยสาร Be Link ทุกเดือน
4.นิตยสาร Me(Market Evolution) วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส
2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน”
3.นิตยสาร Be Link ทุกเดือน
4.นิตยสาร Me(Market Evolution) วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น