ลงทุนคอนโดกำไรเป็นล้าน(ตอนที่ 1)
ปัจจุบันคนไทย
สนใจหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องการลงทุนมากขึ้น
จะเห็นได้จากหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องการลงทุนมีมากมาย บนชั้นหนังสือตามร้านหนังสือทั่วไป
ยิ่งสมัยนี้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของสถาบันการเงิน
อยู่ในระดับที่ต่ำมาก
ทำให้คนที่พอจะมีเงินออมต้องขวนขวายช่องทาง ในการทำให้เงินงอกเงยมากขึ้น
เพราะจะมาหวังดอกเบี้ยจากเงินฝากสถาบันการเงิน ก็คงไม่เพียงพอ
อสังหาริมทรัพย์ก็สามารถตอบโจทย์นี้ได้อย่างดีทีเดียว เพราะว่าโดยปกติ ราคาอสังหาริมทรัพย์ จากทวีมูลค่าขึ้นไปเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป โอกาสที่ราคาอสังหาริมทรัพย์จะตกลงก็ต่อเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ๆ อย่างเช่นวิกฤตต้มยํากุ้ง เมื่อปี 2540 ที่เริ่มเกิดขึ้นในประเทศไทย แล้วได้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อคนไทยและเศรษฐกิจไทย ทั้งยังส่งผลกระทบไปถึงประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย ลาว เวียดนาม เกาหลีใต้ ฯลฯ
ปีนี้ก็เป็นการครบรอบ20 ปีของวิกฤตดังกล่าว ผมเชื่อว่าในชีวิตคนเราโอกาสที่จะเห็นวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ๆเช่นนี้ อย่างมากก็ 2-3 ครั้งเท่านั้น แต่ที่พูดแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่า วิกฤตเศรษฐกิจกำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ผมยังจำได้ว่าตอนช่วงนั้นคนตกงานกันมากมาย แถมยังมีหนี้สินรกรุงรังเต็มไปหมด มีคนฆ่าตัวตายหลายคน เนื่องมาจากวิกฤตครั้งนั้น ผมเองก็เอาตัวแทบไม่รอดเหมือนกันเพราะในช่วงนั้นผมก็มีหนี้กับสถาบันการเงินค่อนข้างมาก แต่โชคดีที่ยอมตัดขาดทุนหุ้นที่ลงทุน เพื่อนำเงินไปชำระหนี้กับสถาบันการเงินจนหมดหนี้ และยังเหลือเงินไว้ส่วนหนึ่งสำหรับไว้ใช้จ่ายในช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่ในขณะนั้น ด้วยคำนวณว่าในช่วง 5 ปีข้างหน้า ผมจะต้องมีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าใด เพราะในช่วงเวลานั้น เหมือนกับอยู่ในอุโมงค์ที่มืดมิด ซึ่งไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายทางเลย นับว่าผมเป็นคนหนึ่งที่โชคดีที่สามารถเอาตัวรอดได้ในช่วงนั้น
อสังหาริมทรัพย์ก็สามารถตอบโจทย์นี้ได้อย่างดีทีเดียว เพราะว่าโดยปกติ ราคาอสังหาริมทรัพย์ จากทวีมูลค่าขึ้นไปเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป โอกาสที่ราคาอสังหาริมทรัพย์จะตกลงก็ต่อเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ๆ อย่างเช่นวิกฤตต้มยํากุ้ง เมื่อปี 2540 ที่เริ่มเกิดขึ้นในประเทศไทย แล้วได้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อคนไทยและเศรษฐกิจไทย ทั้งยังส่งผลกระทบไปถึงประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย ลาว เวียดนาม เกาหลีใต้ ฯลฯ
ปีนี้ก็เป็นการครบรอบ20 ปีของวิกฤตดังกล่าว ผมเชื่อว่าในชีวิตคนเราโอกาสที่จะเห็นวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ๆเช่นนี้ อย่างมากก็ 2-3 ครั้งเท่านั้น แต่ที่พูดแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่า วิกฤตเศรษฐกิจกำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ผมยังจำได้ว่าตอนช่วงนั้นคนตกงานกันมากมาย แถมยังมีหนี้สินรกรุงรังเต็มไปหมด มีคนฆ่าตัวตายหลายคน เนื่องมาจากวิกฤตครั้งนั้น ผมเองก็เอาตัวแทบไม่รอดเหมือนกันเพราะในช่วงนั้นผมก็มีหนี้กับสถาบันการเงินค่อนข้างมาก แต่โชคดีที่ยอมตัดขาดทุนหุ้นที่ลงทุน เพื่อนำเงินไปชำระหนี้กับสถาบันการเงินจนหมดหนี้ และยังเหลือเงินไว้ส่วนหนึ่งสำหรับไว้ใช้จ่ายในช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่ในขณะนั้น ด้วยคำนวณว่าในช่วง 5 ปีข้างหน้า ผมจะต้องมีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าใด เพราะในช่วงเวลานั้น เหมือนกับอยู่ในอุโมงค์ที่มืดมิด ซึ่งไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายทางเลย นับว่าผมเป็นคนหนึ่งที่โชคดีที่สามารถเอาตัวรอดได้ในช่วงนั้น
ทำให้ผมลดความ AGGRESSIVE ในการลงทุนลงมาก จากการลงทุนที่มีสัดส่วนหนี้ต่อส่วนทุนของผม
เกินหนึ่งเท่ามาตลอด จนกลายเป็นไม่มีหนี้ แม้อาจจะทำให้ทรัพย์สินผมลดลงก็ตาม คงเป็นเพราะความคิดเข็ดขยาด แล้วไม่อยากให้ตัวเองต้องอยู่ในภาวะเช่นนั้นอีก
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผมก็เริ่มกลับมาการเป็นคนมีหนี้อีก อย่างไรก็ตามหนี้เหล่านี้
เกิดขึ้นมาจากความต้องการที่จะลงทุน
ในทรัพย์สินที่ผมเชื่อว่าจะทวีมูลค่าในอนาคต เพียงแต่ผมเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
โดยผมเพิ่มพอร์ตการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ให้มากขึ้น และลดพอร์ตการลงทุนในหุ้นลง
เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุน
แต่ก็คงสภาพคล่องให้กับพอร์ตการลงทุนไว้ด้วย เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์ที่ถึงแม้จะทวีมูลค่าขึ้นไปเรื่อยๆ แต่มีข้อเสียคือสภาพคล่องต่ำ
ไม่ใช่คิดว่าอยากจะขาย ก็จะขายได้ทันที
ในขณะที่หุ้นเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง อยากจะขายเมื่อไหร่ ก็มีคนรอซื้ออยู่ แต่มีข้อเสียคือมีความผันผวนของราคาสูงมาก ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหาย ให้กับพอร์ตการลงทุนได้เป็นอย่างมาก ผมยังจำได้เลยว่า ในช่วงวิกฤตครั้งร้ายแรง ราคาหุ้นของบริษัทต่างๆ ลดลงไปอย่างน่าใจหายตั้งบริษัทราคาลงไปถึง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว จากเงินลงทุน 1 ล้านบาทเหลือไม่ถึง 100,000 บาท คุณทำใจได้ไหมครับ และยังมีสถาบันการเงินที่ต้องปิดไปหลายๆบริษัท ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ดูเป็นสถาบันการเงินที่แข็งแกร่ง มีการเจริญเติบโตของยอดรายได้และกำไรสูง ใบหุ้นของสถาบันการเงินที่ปิดไปเหล่านี้ มีนักลงทุนหลายท่านนำมันมาใช้เป็นวอลเปเปอร์ติดที่ข้างฝาบ้าน ไม่รู้ว่าเพื่อประชด หรือว่าเอาไว้เตือนสติตัวเองในการลงทุนครั้งต่อไป
ในขณะที่หุ้นเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง อยากจะขายเมื่อไหร่ ก็มีคนรอซื้ออยู่ แต่มีข้อเสียคือมีความผันผวนของราคาสูงมาก ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหาย ให้กับพอร์ตการลงทุนได้เป็นอย่างมาก ผมยังจำได้เลยว่า ในช่วงวิกฤตครั้งร้ายแรง ราคาหุ้นของบริษัทต่างๆ ลดลงไปอย่างน่าใจหายตั้งบริษัทราคาลงไปถึง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว จากเงินลงทุน 1 ล้านบาทเหลือไม่ถึง 100,000 บาท คุณทำใจได้ไหมครับ และยังมีสถาบันการเงินที่ต้องปิดไปหลายๆบริษัท ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ดูเป็นสถาบันการเงินที่แข็งแกร่ง มีการเจริญเติบโตของยอดรายได้และกำไรสูง ใบหุ้นของสถาบันการเงินที่ปิดไปเหล่านี้ มีนักลงทุนหลายท่านนำมันมาใช้เป็นวอลเปเปอร์ติดที่ข้างฝาบ้าน ไม่รู้ว่าเพื่อประชด หรือว่าเอาไว้เตือนสติตัวเองในการลงทุนครั้งต่อไป
บทความนี้จะขอเน้นเรื่องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ถ้าคุณสนใจที่จะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ก่อนอื่นคุณต้องตัดสินใจก่อนว่า
การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของคุณครั้งนี้เป็นการลงทุนเพื่ออะไร เพราะว่าในการลงทุนของคุณแต่ละครั้ง
อาจจะมีจุดประสงค์ไม่เหมือนกัน บางครั้งคุณอาจจะต้องการซื้อเพื่อเก็งกำไร
แต่บางครั้งอาจจะต้องการซื้อเพื่อลงทุน ดังนั้นวิธีการที่จะซื้ออสังหาจากจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน
ย่อมต้องมีวิธีการที่แตกต่างกันด้วยเช่นกัน ที่นี้เรามาดูจุดประสงค์ของการซื้ออสังหาโดยทั่วๆไปจะแบ่งได้เป็น
2 ประเภทคือ
1. เก็งกำไร
โดยหวังที่จะขายใบจองได้ก่อนที่โครงการจะสร้างเสร็จ หรือที่หลายๆคนมักเรียกว่า
"จับเสือมือเปล่า"
2. ลงทุน นั่นหมายความว่าคุณพร้อมที่จะโอนยูนิตที่คุณซื้อไว้
เมื่อโครงการสร้างเสร็จ ซึ่งยังอาจแบ่งได้เป็น 2 จุดประสงค์คือ
2.1 ตั้งใจที่จะขายยูนิตที่คุณซื้อไว้
หลังจากที่ตึกสร้างเสร็จ
2.2 ตั้งใจที่จะถือยูนิตที่ซื้อไว้
เพื่อหวังปล่อยเช่า
ติดตามอ่านบทความหน้า ซึ่งผมจะแนะนำวิธีการซื้ออสังหา
ไม่ว่าจุดประสงค์ของการซื้อครั้งนั้น จะเป็นการลงทุนหรือเก็งกำไรก็ตาม
เคล็ดลับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ให้ประสบความสำเร็จ(ตอนจบ) อ่านต่อที่ http://kitichai1.blogspot.com/2017/08/blog-post.html
เคล็ดลับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ให้ประสบความสำเร็จ(ตอนจบ) อ่านต่อที่ http://kitichai1.blogspot.com/2017/08/blog-post.html
กิติชัย เตชะงามเลิศ
2/8/60
ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยเอาเม้าส์ไปทางด้านขวามือจะมีแถบแสดงออกมา แล้วเลือกคลิกไอคอนที่เขียนว่าสมัครรับข้อมูล เมื่อผมมีบทความใหม่ ท่านก็จะทราบทันที
ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/
หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"
2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน”
3.นิตยสาร Be Link ทุกเดือน
4.นิตยสาร GQ เดือนเว้นเดือน
5.นิตยสาร Me(Market Evolution) วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส
หาอสังหาทั้งถูกและดีเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ได้ที่ http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty
นอตติ้ง
ฮิลล์ ดิ เอ็กซ์คลูซีฟ เจริญกรุง 93 (Notting Hill The Exclusive CharoenKrung 93) 3 ยูนิตสุดสวย
ราคาพิเศษ ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ห่างจากเอเชียทีคเพียง 140 เมตร
ห้องที่จะขายดาวน์
1.ห้อง 403 ชั้น 4 ประเภทห้อง B2 : 1 นอน 1
น้ำ ไม่ติดลิฟท์ พื้นที่ใช้สอย : 27 ตารางเมตร ระเบียงหันไปทิศตะวันออกเฉียงเหนือ วิวสระว่ายน้ำ เฟอร์นิเจอร์ครบครัน
ตกแต่งสวยมาก ราคา 2,700,000 บาท
2.ห้อง 410 ชั้น 4 ประเภทห้อง
B4 : 1 นอน 1
น้ำ ไม่ติดลิฟท์ พื้นที่ใช้สอย : 32 ตารางเมตร ระเบียงหันไปทิศตะวันออกเฉียงใต้
ไม่โดนบล็อควิว เฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตกแต่งสวยมาก ราคา 3,200,000
บาท
3.ห้อง 810 ชั้น 8 ประเภทห้อง
B4 : 1 นอน 1
น้ำ ไม่ติดลิฟท์ พื้นที่ใช้สอย : 32 ตารางเมตร ระเบียงหันไปทิศตะวันออกเฉียงใต้
ไม่โดนบล็อควิว เฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตกแต่งสวยมาก ราคา 3,300,000
บาท
|
||
ชื่อโครงการ
|
นอตติ้ง ฮิลล์ ดิ
เอ็กซ์คลูซีฟ เจริญกรุง 93 (Notting Hill The Exclusive CharoenKrung 93)
|
|
เจ้าของโครงการ
|
บริษัท ออริจิ้น
พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
|
|
เนื้อที่ทั้งหมด
|
1-1-79
ไร่
|
|
จำนวนตึก
|
1
อาคาร
|
|
จำนวนชั้น
|
8
ชั้น
|
|
จำนวนห้อง
|
132
ยูนิต
|
|
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
|
–
1 Bedroom : ขนาดเริ่มต้น
27.00
ตร.ม.
– 2 Bedrooms : ขนาดเริ่มต้น 41.00 ตร.ม. |
|
ที่จอดรถทั้งหมด
|
รอข้อมูลจากโครงการ
|
|
การเดินทาง
|
รถประจำทางสาย 1, 75, 15,
547 เพื่อมายังซอยเจริญกรุง
93
ซึ่งป้ายรถเมล์จะตั้งอยู่ปากซอย หรือหากอยากนั่งเรือสัมผัสบรรยากาศแบบชิลๆ ก็สามารถทำได้โดยขึ้นเรือที่ท่าสาทร (จุดเดียวกับสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน) โดยให้ขึ้นลำที่จะเดินทางมายังเอเชียทีค จากนั้นให้เดินทะลุเอเชียทีคมาที่ถนนเจริญกรุง เมื่อข้ามถนนมาก็จะเจอกับซอย โครงการ
|
|
ที่ตั้ง
|
ซอยเจริญกรุง 93 แขวงวัดพระยาไกร
เขตบางคอแหลม กทม.10120 (ห่างจาก BTS สะพานตากสิน
และจุดขึ้นลงทางด่วนบริเวณถนนจันทร์
2 กม.)
|
|
ปีที่สร้างเสร็จ
|
กรกฎาคม 2560
|
|
ค่าส่วนกลางและกองทุน
|
45 บาท/ตร.ม.และ 500 บาท/ตร.ม. ตามลำดับ
|
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
|
4.Chatrium
Riverside Bangkok 1.3 กม.
5. Four Seasons
Residence และ
Capella
1.5 กม.
6.โรงแรม รามาดา
ริเวอร์ไซด์ และ แม่น้ำ เรสซิเดนท์ 0.6 กม.
|
|
สิ่งอำนวยความสะดวก
|
|
|
เส้นทางที่สามารถเข้าออกได้จากตัวโครงการ
-เจริญกรุง-เยาวราช
-เจริญราษฏร์-สาทร
-เจริญราษฏร์-พระราม 3
-รัชดาภิเษก-ท่าพระ
-เจริญราษฏร์-สาทร
-เจริญราษฏร์-พระราม 3
-รัชดาภิเษก-ท่าพระ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น