ลดหย่อนภาษีเพื่อการท่องเที่ยว
เมื่อเร็วๆนี้มีข่าวว่าทางผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) ได้ประชุมร่วมกับภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยว
มีผลสรุปว่าควรจะออกมาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อการท่องเที่ยว
โดยมีหลักการในการให้ประชาชนนำค่าใช้จ่ายด้านท่องเที่ยว ซึ่งประกอบด้วย ค่าที่พัก
อาหาร ของที่ระลึก ร้านค้าชุมชน ค่าบริการบริษัทนำเที่ยว มาหักลดหย่อนภาษีได้
ซึ่งจะมีการกำหนดโซนการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองหลัก เมืองรอง ลดหย่อนเป็นลำดับขั้นบันได โดยแบ่งเป็น
- โซน
1 เมืองท่องเที่ยวหลัก 14 จังหวัด มีทั้งหมด 14 จังหวัด
ได้แก่ กรุงเทพฯ นครราชสีมา กาญจนบุรี ชลบุรี
เชียงใหม่ ระยอง เพชรบุรี พระนครศรีอยุธยา ขอนแก่น สงขลา ประจวบคีรีขันธ์
สระบุรี ภูเก็ต นครปฐม ลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาท
- โซน
2 ได้แก่ 12 เมืองต้องห้ามพลาด จำนวน 12 จังหวัด มีทั้งหมด 12 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง น่าน เพชรบูรณ์ เลย
บุรีรัมย์ จันทบุรี ตราด สมุทรสงคราม ราชบุรี ชุมพร นครศรีธรรมราช และตรัง ลดหย่อนภาษีได้
30,000 บาท
- โซน
3 ก็คืออีก 51 จังหวัดที่เหลือ
ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวน้อย ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท
ตามความคิดเห็นของผมเมืองท่องเที่ยวหลักในโซน
1
เป็นเมืองที่ได้รับความนิยมจากคนไทยสูงสุดอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
กรุงเทพซึ่งเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทั้งของคนไทยและต่างชาติอยู่แล้ว ยิ่งไม่น่าจำเป็นที่จะต้องให้มาตรการภาษีท่องเที่ยวครอบคลุมไปด้วย แล้วที่ทำให้ผมแปลกใจว่า ทำไมจังหวัดสุราษฎร์ธานีซึ่งเป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่ทั้งคนต่างชาติและคนไทย
นิยมไปเที่ยวกัน ไม่ว่าจะเป็นในตัวเมือง หรือเกาะต่างๆ เช่น เกาะสมุย เกาะพงัน เป็นต้น จึงไม่ติดอยู่ในโซน 1 ด้วย
แต่ไม่ได้หมายความว่า ผมอยากให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นหนึ่งในเมืองที่ถูกครอบคลุมอยู่ในมาตรการนี้ด้วย
ในเมื่อทางฝ่ายรัฐเอง
ก็น่าจะทราบดีอยู่แล้วว่า รายได้ของคนในชาติมีความเหลื่อมล้ำกันสูงมาก
โดยเฉพาะคนในจังหวัดใหญ่ๆ เมื่อเทียบกับจังหวัดรองหรือจังหวัดเล็ก
แทนที่จะสร้างรายได้ให้กับจังหวัดรองและจังหวัดเล็ก เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้นมา
เพื่อลดความเหลื่อมล้ำดังกล่าว
ถึงแม้ว่ามาตรการดังกล่าว จะให้การลดหย่อนภาษีในอัตราที่แตกต่างกันก็ตาม
ผมคิดว่าน่าจะตัดเมืองในโซน 1 ทิ้งไป
แล้วเอางบในส่วนที่คิดว่าจะลดหย่อนให้กับเมืองในโซน 1 มาเพิ่มให้กับเมืองในโซน 3
จะไม่ดีกว่าหรือ โดยเพิ่มจำนวนเงินที่สามารถนำมาลดหย่อนได้ให้มากขึ้น
ผมอยากให้มาตรการลดหย่อนภาษีเกี่ยวกับการท่องเที่ยวนี้ มีต่อเนื่องไปทุกปี เพราะเป็นการกระจายรายได้
ไปยังท้องถิ่นที่มีรายได้ต่อหัว ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศ
ถ้ารัฐทำให้ธุรกิจต่างๆมั่นใจว่า มาตรการนี้จะเป็นมาตรการระยะยาวต่อเนื่องไปไม่ต่ำกว่า
10 ปี ก็จะเป็นการกระตุ้นทางอ้อม ให้กับธุรกิจต่างๆที่อยู่ในเมืองในโซน 2 และโซน
3 ที่อยู่ในเกณฑ์ที่ใกล้เคียง
ที่จะเข้าระบบภาษี มีความมั่นใจ แล้วมาเข้าระบบกันเพิ่มขึ้น
เพื่อที่จะสามารถออกใบกำกับภาษีให้กับลูกค้า เพื่อนำไปลดหย่อนภาษีเกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้
รัฐเองก็เก็บภาษีได้มากขึ้น
ก็จะทำให้สามารถคงมาตรการดังกล่าว ให้มีต่อไปได้เรื่อยๆ
ส่วนแม่ค้ารายเล็กรายย่อย ก็พลอยจะมีรายได้มากขึ้นไปด้วย
จากการที่มีนักท่องเที่ยวต่างถิ่น เข้ามาท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น
ถึงแม้ว่าจะไม่อยู่ในระบบภาษีก็ตาม ยิงธนูเพียงดอกเดียว แต่ได้นกตั้งหลายตัว
จากตารางที่
1 จะเห็นได้ว่ารายได้ครัวเรือนต่อเดือนของคนไทยในปี
2558 เฉลี่ยเท่ากับ
26,915 บาท
โดยจังหวัดที่มีรายได้ของครัวเรือนมากกว่า 40,000 บาทต่อเดือน มี 3 จังหวัดได้แก่
กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี และนครปฐม จังหวัดที่มีรายได้ของครัวเรือน อยู่ในระหว่าง 30,000 แต่ไม่ถึง 40,000 บาทต่อเดือน มี 6 จังหวัดได้แก่
นนทบุรี ระยอง จันทบุรี กระบี่ ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี
ส่วนจังหวัดที่มีรายได้ครัวเรือนต่อเดือนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมี 59 จังหวัด
เมื่อเห็นตัวเลขเหล่านี้แล้วเมืองที่ควรจะอยู่ในโซน 2 และ 3
ควรจะเป็นเมืองที่อยู่ในรายชื่อ 59 จังหวัดดังกล่าว
ไม่ควรจะมีเมืองที่อยู่ในโซน 1 เลย แล้วนำเมืองใน 59 จังหวัดดังกล่าว มาจัดเป็นโซน 2 และ 3 โดยเมืองที่มีรายได้ครัวเรือนต่อเดือนต่ำกว่า
20,000 บาท
ให้อยู่ในโซน 3 ส่วนที่เหลือก็เป็นโซน
2 พร้อมทั้งเร่งให้ทางททท.พยายามค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็น
unseen แล้วโปรโมทสถานที่เหล่านั้น
ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั้งในคนไทยและต่างชาติ มาตรการเหล่านี้ควรจะรีบประกาศเพื่อให้ธุรกิจต่างๆในเมืองที่อยู่ในโซน
2 และโซน 3 ได้รีบเตรียมตัว เพื่อจะรับมือกับปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้น
รวมทั้งธุรกิจที่คิดจะเข้าสู่ระบบภาษี
เพื่อหวังที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากนักท่องเที่ยว จะได้มีเวลาในการเตรียมตัว
และจดทะเบียนเข้าสู่ระบบภาษีดังกล่าวได้ทันท่วงที แล้วผมยังเห็นว่ามาตรการนี้
ไม่ควรจะจำกัดอยู่ในช่วงระยะเวลาใดระยะเวลาหนึ่ง ควรเป็นมาตรการที่
ให้นักท่องเที่ยวสามารถนำค่าใช้จ่ายดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นวันใดๆก็ตามในรอบปีภาษีนั้นๆ
มาลดหย่อนภาษีได้
เพื่อจะได้เป็นการกระจายรายได้เฉลี่ยทั้งปีของเมืองท่องเที่ยวนั้นๆ
ไม่ใช่ไปกระจุกกันเพียงแค่ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของปี หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ต่อไปนี้การออกมาตรการใดๆของรัฐในอนาคต
จะมองเป็นระบบบูรณาการ เพื่อแก้ไขปัญหาของชาติทั้งระบบ อย่าให้เหมือนกับที่แล้วๆมาอีกเลย
กิติชัย เตชะงามเลิศ
18/8/60
ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยเอาเม้าส์ไปทางด้านขวามือจะมีแถบแสดงออกมา แล้วเลือกคลิกไอคอนที่เขียนว่าสมัครรับข้อมูล เมื่อผมมีบทความใหม่ ท่านก็จะทราบทันที
ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/
หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"
2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน”
3.นิตยสาร Be Link ทุกเดือน
4.นิตยสาร GQ เดือนเว้นเดือน
5.นิตยสาร Me(Market Evolution) วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส
หาอสังหาทั้งถูกและดีเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ได้ที่ http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty
ขายดาวน์คอนโด ริทึ่ม (RHYTHM) รางน้ำ 4
ยูนิตสุดสวย ราคาพิเศษ 2 นาที จาก BTS สถานีอนุสาวรีย์ชัย
ห้องที่จะขาย
1. A08B02
ชั้น 8 1 ห้องนอน 1ห้องน้ำ 35 ตรม. เฟอร์นิเจอร์บางส่วน
หันไปทางทิศเหนือ
วิวสวนสวยมาก ไม่ใกล้ลิฟต์ และห้องขยะ
ราคา 6,600,000 บาท
2. A09B02 ชั้น 9 1 ห้องนอน 1ห้องน้ำ 35 ตรม. เฟอร์นิเจอร์บางส่วน หันไปทางทิศเหนือ
วิวสวนสวยมาก ไม่ใกล้ลิฟต์ และห้องขยะ
ราคา 6,700,000 บาท
3.A16A16 ชั้น 16 แบบ STUDIO 28 ตรม. เฟอร์นิเจอร์บางส่วน หันไปทางทิศใต้
ลมเย็นตลอดปี ไม่ใกล้ลิฟต์ วิวสวย ไม่โดนบล็อกวิว ราคา 5,600,000 บาท
4.A18B10 ชั้น18 1 ห้องนอน 1ห้องน้ำ 35 ตรม. เฟอร์นิเจอร์บางส่วน หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
รับลมตลอดทั้งปี วิวสวย ไม่โดนบล็อกวิว ไม่ใกล้ลิฟต์ และห้องขยะ ราคา 6,900,000 บาท
รายละเอียดโครงการ
ขนาด 1-3-93 ไร่ 28 ชั้น แขวงพญาไท เขตพญาไท ห้องพักอาศัย 385 ยูนิต ร้านค้า 1 ร้าน
ที่จอดรถ 171 คัน (ไม่รวมซ้อนคัน) = 44%
-สวน KARESANSUI และ READING GARDEN ชั้น G และชั้น 6
-สระว่ายน้ำแบบ INFINITY EDGE 180
องศา
-
SKY FITNESS และ STEAM ROOM ที่ชั้น 27-28
-
ค่าส่วนกลางและกองทุน 58 บาท/ตร.ม.และ 450 บาท/ตร.ม.
ตามลำดับ
-
คาดว่าจะแล้วเสร็จ
ธค. 2560
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น