จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

จบแล้วต้องโกง ไม่โกงน่ะสิโง่?


                                 จบแล้วต้องโกง ไม่โกงน่ะสิโง่?




        จริงๆแล้วสัปดาห์นี้ควรจะเป็นบทความเรื่อง  “ฝากเงินที่ไหนได้ดอกเบี้ยสูงสุด(ตอนจบ)”  แต่พอดีช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวกับนักศึกษาที่กู้ยืมเงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) แล้วชักดาบ จนทำให้คุณครูวิภา ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในกำแพงเพชร ถูกศาลตัดสินยึดทรัพย์เนื่องจากเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้กยศ. ให้นักเรียนชั้น ม.4 และ ม.5 จำนวน 60 คน ตั้งแต่ปี 2541 แต่ปรากฎว่า ลูกศิษย์จำนวน 23 ราย ไม่ชำระหนี้เงินกู้ให้กับกยศ. ทำให้คุณครูผู้ค้ำประกันต้องรับผิดชอบทั้งหมดนั้น จนนำไปสู่การฟ้องและบังคับคดีเอากับผู้ค้ำประกัน ที่ผ่านมาครูวิภาได้นำเงินไปชำระหนี้ให้กับกยศ.ตามหมายบังคับคดีแล้ว 3 คดี กระทั่งมีหมายบังคับคดียึดบ้าน และที่ดินใน จ.กำแพงเพชรอีกครั้ง โดยมีกำหนดขายทอดตลาดในเดือน ส.ค. นี้ ทำให้ครูไม่สบายใจ และเป็นกังวล เพราะ ไม่รู้ว่าจะถูกบังคับคดีอีกกี่ครั้ง และจะต้องหาเงินอีกเท่าไร จึงจะชำระหนี้แทนลูกศิษย์ครบทั้งหมด ผมอ่านข่าวเรื่องนี้แล้วรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง ครูวิภาให้ข้อมูลว่า ได้เซ็นค้ำประกันหนี้ กยศ. ให้กับนักเรียนมากถึง 60 ราย

       ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักว่ากยศ.ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2538 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2539 ในสมัยท่านนายก บรรหาร ศิลปอาชา ต่อมารัฐบาลได้พิจารณาเห็นความสำคัญของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษามากขึ้น จึงได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2541 ในสมัยท่านนายก ชวน หลีกภัย มีผลให้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษามีฐานะเป็นนิติบุคคล โดยอยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง มีวัตถุประสงค์ให้กู้ยืมเงินแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการครองชีพระหว่างศึกษา


      ต่อมาพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 ในยุคคสช ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2560 และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2560 มีผลให้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาอยู่ในการกำกับดูแลของรัฐมนตรี และมีฐานะเป็นนิติบุคคลที่ไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินหรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายอื่น เนื่องจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2541 และกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคตตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการบริหารกองทุนเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2549 ที่ออกตามพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. 2491 มีการบริหารจัดการและการดำเนินการที่มีข้อจำกัด และไม่สอดคล้องกับนโยบายการผลิตกำลังคนและการพัฒนาประเทศสมควรบูรณาการการบริหารจัดการและการดำเนินการของกองทุน กยศ. และกองทุน กรอ. ให้เป็นเอกภาพอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน และเพิ่มมาตรการในการบริหารจัดการกองทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

       ลองมาอ่านบทสัมภาษณ์ของผู้ที่เป็นหนี้กยศ. กันดูนะครับ "หลังจากที่ตนศึกษาจบทำให้เป็นหนี้ กยศ. ประมาณ 238,000 บาท โดยทาง กยศ. จะมีจดหมายเรียกให้ชำระหนี้ทุกปี ซึ่งตนได้ชำระไป 2 ปีแล้ว โดยจะนำเงินโบนัสที่จะได้รับช่วงสิ้นปีมาชำระเงินในส่วนนี้ ซึ่งในปีแรกทาง กยศ. แจ้งให้ชำระจำนวน 6,000 กว่าบาท ตนก็ชำระครบ ต่อมาปีที่ 2 ทาง กยศ.ก็แจ้งให้ตนชำระเงิน 6,000 กว่าบาทเช่นกัน แต่ตนประสบปัญหาเรื่องบัตรเครดิต จึงต้องนำเงินโบนัสไปปิดยอดบัตรเครดิต ทำให้เหลือชำระเงิน กยศ. ไปเพียงครึ่งเดียว ซึ่งทาง กยศ. ได้ทบยอดมาในปีนี้ โดยตนจะต้องชำระเงินประมาณ 14,000 รวมดอกเบี้ยในช่วงปลายปี ซึ่งตนคาดว่าชำระหมดคงไม่ไหว แต่จะชำระเงินจำนวนมากหน่อยเพื่อให้ยอดหนี้น้อยลง สาเหตุที่ทำให้ชำระเงินไม่ครบตามจำนวน เป็นเพราะตนได้รับเงินเดือนในอัตราระดับปริญญาตรี ค่าหอพัก ค่าโทรศัพท์ ค่าบัตรเครดิตที่มักใช้ในการซื้อของจิปาถะ การไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือกินข้าวกับเพื่อน ซึ่งตนก็เที่ยวค่อนข้างบ่อย ทำให้บางครั้งเหลือเงินไม่พอที่จะชำระหนี้ได้ตามจำนวน



      
      ล่าสุดมีพรรคการเมืองพักหนึ่งได้เสนอให้มีการแก้หนี้กยศ โดยการให้พักชำระหนี้ 5 ปี เพื่อต่อลมหายใจนักศึกษาที่จบใหม่ โดยอ้างว่าการพักชำระหนี้ไม่ได้เป็นการยกหนี้ให้ เพียงแต่ให้พักการชำระใช้หนี้ไว้ก่อน โดยจะทำให้ประหยัดงบประมาณในการฟ้องร้องลูกหนี้จำนวน 2.5 ล้านราย คิดเป็นงบกว่า 20,000 ล้านบาท ไม่รู้ใช้อวัยวะส่วนไหนมาคิด ถึงคิดได้แบบนี้ นี่กำลังจะส่งเสริมให้คนไทย โดยเฉพาะนักศึกษาที่จบใหม่ ที่กำลังจะเป็นอนาคตของชาติ ขาดวินัยทางการเงินเป็นอย่างยิ่ง  แล้วสังคมไทยในอนาคตจะเป็นอย่างไรกัน

      นอกจากนั้น ผมยังเห็นค่านิยมของเด็กรุ่นใหม่ตามสื่อต่างๆ รวมทั้ง Social Media  ที่จะชมเชยผู้ที่กู้เงินกับกยศ.แล้วไม่ชำระหนี้ว่าเป็นคนเก่ง เป็นฮีโร่ ในขณะที่ตราหน้าคนที่ชำระหนี้กยศ.ว่าเป็นไอ้โง่ เราต้องลบล้างค้านิยม "จบแล้วต้องโกง ไม่โกงน่ะสิโง่" ให้หมดไป ผมเห็นว่าควรจะเป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ควรจะบรรจุบทเรียนหลักสูตรเกี่ยวกับเรื่องการออมเงิน ไว้ในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และปลูกฝังค่านิยม “จบแล้วจะไม่โกง” เพื่อที่อนาคตของชาติเหล่านี้ จะเป็นพลเมืองที่ดี และนำสังคมไทยและประเทศชาติใ ห้เจริญรุ่งเรืองต่อไปในภายภาคหน้า

 กิติชัย เตชะงามเลิศ


    28/7/61

อ่าน ฝากเงินที่ไหนได้ดอกเบี้ยสูงสุด(ตอนที่ 1) ได้ที่ http://kitichai1.blogspot.com/2018/07/1.html


          ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยเอาเม้าส์ไปทางด้านขวามือจะมีแถบแสดงออกมา แล้วเลือกคลิกไอคอนที่เขียนว่าสมัครรับข้อมูล เมื่อผมมีบทความใหม่ ท่านก็จะทราบทันที

ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่


      หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"   
              2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน” 
              3.วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส

     
แอสปาย สาธร-ราชพฤกษ์ Aspire Sathorn-Rajpruek ขายดาวน์ 6 ยูนิตสุดสวย เพียง 2 ล้านบาทเท่านั้น 1 ก้าวจาก SKY WALK รถไฟฟ้าบางหว้า และรถไฟฟ้า MRT (เป็นสถานี INTERCHANGE)



        
        ห้องที่จะขายดาวน์(คาดว่าจะแล้วเสร็จ กย. 2561) ขนาด 26 ตรม. แบบ STUDIO ห้องหันไปทางทิศใต้ รับลมตลอดทั้งปี ราคา 2,000,000 บาท ปัจจุบันโครงการขายที่ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาทแล้วครับ

CALL   : 081-8118229
LINE   : gid_kitichai
Wechat : gid_kitichai

       Aspire Sathorn-Rajpruek, 1 step from BTS Bangwah & MRT, only 2 million baht.


Down Payment sales : Studio type, 26 sqm., the balcony facing south, only 2 million baht. Now, the developer's starting price is 2.29 million Baht.

CALL   : 081-8118229
LINE   : gid_kitichai
Wechat : gid_kitichai
EMAIL  : gid1998@gmail.com


     
                                              

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น