จริงๆแล้วสัปดาห์นี้ควรจะเป็นบทความเรื่อง “ฝากเงินที่ไหนได้ดอกเบี้ยสูงสุด(ตอนจบ)” แต่พอดีช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวกับนักศึกษาที่กู้ยืมเงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา
(กยศ.) แล้วชักดาบ จนทำให้คุณครูวิภา ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในกำแพงเพชร
ถูกศาลตัดสินยึดทรัพย์เนื่องจากเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้กยศ. ให้นักเรียนชั้น ม.4
และ ม.5 จำนวน 60 คน
ตั้งแต่ปี 2541 แต่ปรากฎว่า ลูกศิษย์จำนวน 23 ราย ไม่ชำระหนี้เงินกู้ให้กับกยศ. ทำให้คุณครูผู้ค้ำประกันต้องรับผิดชอบทั้งหมดนั้น
จนนำไปสู่การฟ้องและบังคับคดีเอากับผู้ค้ำประกัน
ที่ผ่านมาครูวิภาได้นำเงินไปชำระหนี้ให้กับกยศ.ตามหมายบังคับคดีแล้ว 3 คดี กระทั่งมีหมายบังคับคดียึดบ้าน และที่ดินใน จ.กำแพงเพชรอีกครั้ง
โดยมีกำหนดขายทอดตลาดในเดือน ส.ค. นี้ ทำให้ครูไม่สบายใจ และเป็นกังวล เพราะ
ไม่รู้ว่าจะถูกบังคับคดีอีกกี่ครั้ง และจะต้องหาเงินอีกเท่าไร
จึงจะชำระหนี้แทนลูกศิษย์ครบทั้งหมด ผมอ่านข่าวเรื่องนี้แล้วรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง
ครูวิภาให้ข้อมูลว่า ได้เซ็นค้ำประกันหนี้ กยศ. ให้กับนักเรียนมากถึง 60 ราย
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักว่ากยศ.ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
28 มีนาคม พ.ศ. 2538 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
16 มกราคม พ.ศ. 2539 ในสมัยท่านนายก บรรหาร
ศิลปอาชา ต่อมารัฐบาลได้พิจารณาเห็นความสำคัญของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษามากขึ้น
จึงได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2541
ในสมัยท่านนายก ชวน หลีกภัย มีผลให้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษามีฐานะเป็นนิติบุคคล โดยอยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง มีวัตถุประสงค์ให้กู้ยืมเงินแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์
เพื่อเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา
และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการครองชีพระหว่างศึกษา
ต่อมาพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 ในยุคคสช ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2560 และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2560 มีผลให้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาอยู่ในการกำกับดูแลของรัฐมนตรี
และมีฐานะเป็นนิติบุคคลที่ไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินหรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายอื่น
เนื่องจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา
พ.ศ. 2541 และกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคตตามระเบียบกระทรวงการคลัง
ว่าด้วยการบริหารกองทุนเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2549 ที่ออกตามพระราชบัญญัติเงินคงคลัง
พ.ศ. 2491 มีการบริหารจัดการและการดำเนินการที่มีข้อจำกัด
และไม่สอดคล้องกับนโยบายการผลิตกำลังคนและการพัฒนาประเทศสมควรบูรณาการการบริหารจัดการและการดำเนินการของกองทุน
กยศ. และกองทุน กรอ. ให้เป็นเอกภาพอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน
และเพิ่มมาตรการในการบริหารจัดการกองทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ลองมาอ่านบทสัมภาษณ์ของผู้ที่เป็นหนี้กยศ.
กันดูนะครับ "หลังจากที่ตนศึกษาจบทำให้เป็นหนี้ กยศ. ประมาณ 238,000 บาท โดยทาง กยศ. จะมีจดหมายเรียกให้ชำระหนี้ทุกปี ซึ่งตนได้ชำระไป 2
ปีแล้ว โดยจะนำเงินโบนัสที่จะได้รับช่วงสิ้นปีมาชำระเงินในส่วนนี้ ซึ่งในปีแรกทาง
กยศ. แจ้งให้ชำระจำนวน 6,000 กว่าบาท ตนก็ชำระครบ ต่อมาปีที่
2 ทาง กยศ.ก็แจ้งให้ตนชำระเงิน 6,000 กว่าบาทเช่นกัน
แต่ตนประสบปัญหาเรื่องบัตรเครดิต จึงต้องนำเงินโบนัสไปปิดยอดบัตรเครดิต
ทำให้เหลือชำระเงิน กยศ. ไปเพียงครึ่งเดียว ซึ่งทาง กยศ. ได้ทบยอดมาในปีนี้
โดยตนจะต้องชำระเงินประมาณ 14,000 รวมดอกเบี้ยในช่วงปลายปี
ซึ่งตนคาดว่าชำระหมดคงไม่ไหว แต่จะชำระเงินจำนวนมากหน่อยเพื่อให้ยอดหนี้น้อยลง
สาเหตุที่ทำให้ชำระเงินไม่ครบตามจำนวน
เป็นเพราะตนได้รับเงินเดือนในอัตราระดับปริญญาตรี ค่าหอพัก ค่าโทรศัพท์
ค่าบัตรเครดิตที่มักใช้ในการซื้อของจิปาถะ การไปเที่ยวต่างจังหวัด
หรือกินข้าวกับเพื่อน ซึ่งตนก็เที่ยวค่อนข้างบ่อย
ทำให้บางครั้งเหลือเงินไม่พอที่จะชำระหนี้ได้ตามจำนวน
ล่าสุดมีพรรคการเมืองพักหนึ่งได้เสนอให้มีการแก้หนี้กยศ
โดยการให้พักชำระหนี้ 5 ปี เพื่อต่อลมหายใจนักศึกษาที่จบใหม่ โดยอ้างว่าการพักชำระหนี้ไม่ได้เป็นการยกหนี้ให้
เพียงแต่ให้พักการชำระใช้หนี้ไว้ก่อน โดยจะทำให้ประหยัดงบประมาณในการฟ้องร้องลูกหนี้จำนวน
2.5 ล้านราย คิดเป็นงบกว่า 20,000 ล้านบาท ไม่รู้ใช้อวัยวะส่วนไหนมาคิด
ถึงคิดได้แบบนี้ นี่กำลังจะส่งเสริมให้คนไทย โดยเฉพาะนักศึกษาที่จบใหม่
ที่กำลังจะเป็นอนาคตของชาติ ขาดวินัยทางการเงินเป็นอย่างยิ่ง แล้วสังคมไทยในอนาคตจะเป็นอย่างไรกัน
นอกจากนั้น
ผมยังเห็นค่านิยมของเด็กรุ่นใหม่ตามสื่อต่างๆ รวมทั้ง Social Media ที่จะชมเชยผู้ที่กู้เงินกับกยศ.แล้วไม่ชำระหนี้ว่าเป็นคนเก่ง
เป็นฮีโร่ ในขณะที่ตราหน้าคนที่ชำระหนี้กยศ.ว่าเป็นไอ้โง่ เราต้องลบล้างค้านิยม
"จบแล้วต้องโกง ไม่โกงน่ะสิโง่" ให้หมดไป ผมเห็นว่าควรจะเป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ
ที่ควรจะบรรจุบทเรียนหลักสูตรเกี่ยวกับเรื่องการออมเงิน ไว้ในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
และปลูกฝังค่านิยม “จบแล้วจะไม่โกง” เพื่อที่อนาคตของชาติเหล่านี้ จะเป็นพลเมืองที่ดี
และนำสังคมไทยและประเทศชาติใ ห้เจริญรุ่งเรืองต่อไปในภายภาคหน้า
28/7/61
อ่าน ฝากเงินที่ไหนได้ดอกเบี้ยสูงสุด(ตอนที่ 1) ได้ที่ http://kitichai1.blogspot.com/2018/07/1.html
ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยเอาเม้าส์ไปทางด้านขวามือจะมีแถบแสดงออกมา แล้วเลือกคลิกไอคอนที่เขียนว่าสมัครรับข้อมูล เมื่อผมมีบทความใหม่ ท่านก็จะทราบทันที
ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/c/KitichaiTaechangamlert
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/c/KitichaiTaechangamlert
หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"
2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน”
3.วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส
แอสปาย สาธร-ราชพฤกษ์ Aspire
Sathorn-Rajpruek ขายดาวน์ 6 ยูนิตสุดสวย เพียง 2 ล้านบาทเท่านั้น 1 ก้าวจาก SKY
WALK รถไฟฟ้าบางหว้า และรถไฟฟ้า MRT (เป็นสถานี
INTERCHANGE)
ห้องที่จะขายดาวน์(คาดว่าจะแล้วเสร็จ กย. 2561) ขนาด 26 ตรม. แบบ STUDIO ห้องหันไปทางทิศใต้
รับลมตลอดทั้งปี ราคา 2,000,000 บาท ปัจจุบันโครงการขายที่ราคาเริ่มต้น
2.29 ล้านบาทแล้วครับ
CALL : 081-8118229
LINE : gid_kitichai
Wechat : gid_kitichai
Aspire Sathorn-Rajpruek, 1 step
from BTS Bangwah & MRT, only 2 million baht.
Down Payment sales : Studio type, 26
sqm., the balcony facing south, only 2 million baht. Now, the developer's starting price is 2.29 million Baht.
CALL :
081-8118229
LINE :
gid_kitichai
Wechat : gid_kitichai
EMAIL : gid1998@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น