ตลาดให้เช่าที่อยู่อาศัยสำหรับชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย
ผมได้อ่านรายงานของ CBRE เกี่ยวกับเรื่องตลาดให้เช่าที่อยู่อาศัยสำหรับชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย
รู้สึกว่าน่าจะมีประโยชน์กับผู้อ่าน โดยเนื้อหาของบทความนี้มีดังนี้ครับ
มีผู้ลงทุนมากมายที่ลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อให้เช่า
เพื่อหวังรายรับคงที่และผลกำไรส่วนต่างจากราคาอสังหาริมทรัพย์ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต และหรือเพื่อที่จะได้รับค่าเช่าที่ดีที่สุดและหาผู้เช่าง่าย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนจะต้องเข้าใจถึงความต้องการของผู้เช่าว่า
ผู้เช่าเป็นใคร, ต้องการเช่าที่ไหน, สิ่งที่ต้องการคืออะไร
และมีงบเช่าที่อยู่อาศัยเท่าไร
ผู้เช่าในตลาดเช่าที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ
แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
ระดับสูงคือผู้เช่าซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย และ ระดับรองลงมาคือ
ผู้เช่าที่สามารถเช่าได้ในวงเงินโดยส่วนใหญ่ไม่เกิน 10,000
บาท ได้แก่คนไทยที่ไม่สามารถซื้อที่อยู่อาศัย หรือต้องการเช่าในระยะเวลาสั้นๆ
ได้แก่ นักศึกษามหาวิทยาลัย
ตลาดให้เช่าที่อยู่อาศัยในตัวเมืองสำหรับความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยของคนไทยมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับความต้องการที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ของชาวต่างชาติที่มาทำงานในประเทศไทยเพียง
2-3 ปี
ที่ต้องการจะเช่ามากกว่าจะซื้อที่อยู่อาศัยแบบถาวร
ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา
บรรดาชาวต่างชาติที่มาทำงานในประเทศไทย ส่วนใหญ่ต้องการอาศัยเพียงบางจุดในกรุงเทพฯ
ได้แก่ บริเวณสุขุมวิทซอย 1-63,
บริเวณลุมพินี และบางส่วนของสาธร โดยบริเวณอยู่อาศัยที่หนาแน่นเป็นจำนวนมากได้แก่
สุขุมวิทบริเวณ พร้อมพงศ์ และทองหล่อ, ลุมพินี, ศาลาแดง
และนางลิ้นจี่ในเขตสาธร
บริเวณสุขุมวิทยังคงเป็นที่ตั้งที่นิยมอาศัยกันมากที่สุด เพราะพร้อมพรั่งไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง
ได้แก่ รถไฟฟ้า BTS, ร้านค้า, โรงพยาบาล, โรงเรียนนานาชาติ
และภัตตาคารหลากหลาย
ผู้เช่าต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย
ปัจจุบันพิจารณาเช่าในบริเวณรอบสุขุมวิทที่ไกลออกไปถึงเอกมัยและอ่อนนุช
ชาวต่างชาติที่มาทำงานในประเทศไทยและอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ
มีประมาณ 87,000 คน ด้วยอัตราการเพิ่มจำนวน 2.8%ต่อปี
ชาวญี่ปุ่นซึ่งเคยเป็นผู้เช่าอาศัยที่มีจำนวนสูงสุดมากกว่า 25% แต่ใน 4 เดือนแรกของปี 2018
ได้ลดจำนวนลงเหลือเพียง 21.2%
ซึ่งเป็นผลมาจากจำนวนชาวจีนที่มาทำงานในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 2 เท่าในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา และกลายเป็นชาวต่างชาติที่มีจำนวนมาก
เป็นอันดับสองของชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย โดยปัจจุบันคิดเป็น 13.9% ของชาวต่างชาติที่มีใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย
ทางเลือกในการเช่าที่อยู่อาศัยคือ
ถ้าไม่เช่าอพาร์ทเมนต์(อาคารที่มีเจ้าของคนเดียว) ก็เช่าเป็นยูนิตจากเจ้าของห้องในตึกคอนโดมิเนียม(อาคารที่ถูกแบ่งขายให้เจ้าของหลายๆ
ราย)
หรือไม่ก็เช่าเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ที่เจ้าของอพาร์ทเมนต์ตกแต่งและให้บริการเหมือนโรงแรม
ความต้องการในการเช่าเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์มาจากผู้เช่าที่ต้องการห้องแบบสตูดิโอหรือห้องที่มี
1 เตียงมากกว่าห้องใหญ่ๆ สำหรับพักเป็นแบบครอบครัว
CBRE
ได้วิเคราะห์จำนวนสถานที่ให้เช่า 3,500 แห่ง
ที่เก็บรวมรวมข้อมูลโดยทีมงานเช่าซื้อที่อยู่อาศัยของทีม Advisory and
Transaction Services Residential Leasing ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาก พบว่าปริมาณความต้องการเช่าห้อง 2 – 3 ห้องนอนมีความคงที่ ในขณะที่การตกแต่ง, Layout,
คุณภาพของเฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์เครื่องใช้ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
ภายในที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องสำคัญกว่าขนาดของที่อยู่อาศัย
แม้ที่พักขนาดเล็กจะอยู่ที่ประมาณ 80 และ150 ตร.ม. ในงบประมาณค่าเช่า 73,000 บาท – 90,000 บาท สำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอนและ 3 ห้องนอนตามลำดับ แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมเอง
ขนาดดังกล่าวน่าจะเป็นตึกเก่าเพราะปัจจุบันนี้ขนาดของ 2 ห้องนอนและ 3
ห้องนอนของตึกที่สร้างใหม่ จะเล็กกว่านี้มาก หลายโครงการจะทำแบบ 2
ห้องนอนที่ประมาณขนาด 60 ตารางเมตร และ 3 ห้องนอนที่ประมาณ 90 ตารางเมตร และค่าเช่าต่อตารางเมตรสำหรับห้องที่อยู่ใน Prime
area จะอยู่ที่ประมาณ 800 ถึง 1,100
บาทต่อตารางเมตร
นั่นหมายถึงค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 50,000 ถึง 100,000 บาทต่อเดือน ซึ่งงบประมาณการเช่าจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งของพนักงาน
ไม่ใช่ตามขนาดครอบครัวของพนักงาน
ผู้เช่าอาศัยหลายรายมักจะต้องการเช่าอพาร์ทเมนต์ในอาคารที่มีเจ้าของคนเดียว
เพราะผู้เช่าสามารถติดต่อเรื่องการแจ้งซ่อมและบำรุงรักษาห้องได้ง่ายๆ ที่คนๆเดียว
ในขณะที่การเช่าห้องในคอนโดมิเนียม ผู้จัดการอาคารจะรับผิดชอบเฉพาะพื้นที่ส่วนกลาง
ไม่รวมถึงพื้นที่ภายในห้องพักซึ่งอยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบของเจ้าของห้องหรือผู้ให้เช่า
แต่ความเห็นส่วนตัวของผมปัจจุบันกลุ่ม Expat เวลาต้องการหาห้องเช่า
ส่วนมากจะติดต่อผ่านทาง agent ซึ่ง Agent ส่วนใหญ่ก็จะนำห้องที่เป็นยูนิตจากเจ้าของห้องในตึกคอนโดมิเนียม ยกเว้นแต่บางรายที่ต้องการเช่าในรูปแบบของเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์
เมื่อเข้าใจแล้วว่าที่พักอาศัยลักษณะใดที่ผู้เช่าต้องการ
นักลงทุนคอนโดมิเนียมจึงจำเป็นต้องเลือกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในบริเวณที่ผู้เช่านิยมอาศัย
ที่มีขนาด, การตกแต่ง, รายละเอียด และคุณลักษณะอื่นๆ
ที่เอื้ออำนวยในการปล่อยให้เช่าง่าย
โดยจะต้องทำรายได้จากค่าเช่าต่อตร.ม.ให้ได้มากที่สุด
ซึ่งจะทำให้ได้รับผลตอบแทนการลงทุนสูงสุด
เมื่ออ่านจบบทความนี้แล้วนักลงทุนที่สนใจที่จะลงทุนในคอนโดเพื่อปล่อยเช่า
โดยมุ่งจับลูกค้ากลุ่มที่เป็นชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย
พอที่จะมีแนวทางในการเลือกซื้อคอนโดกันแล้วนะครับ
กิติชัย เตชะงามเลิศ
12/7/61
ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยกรอกอีเมลของท่าน ในช่องใต้ Follow by Email ทางด้านขวามือ เมื่อมีบทความใหม่ๆ ก็จะมีการส่งอีเมลแจ้งเตือนให้ท่านทราบ เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดีๆกันนะครับ
ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/c/KitichaiTaechangamlert
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/c/KitichaiTaechangamlert
หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"
2.วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส
ณ วรา เรสซิเดนท์ หลังสวน ขายดาวน์ยูนิตสุดสวย ชั้นเพนท์เฮ้าส์ พร้อมเฟอร์นิเจอร์พรีเมียมครบชุด
ซื้อมาในรอบ VVIP เจ้าของขายเอง ราคาพิเศษ เดิน 3 นาที จาก BTS
ชิดลม
ห้องที่จะขายดาวน์(คาดว่าจะเสร็จภายใน กย. ปี 2561) : ห้อง ชั้น 8(ชั้นเพนท์เฮ้าส์ ) พื้นที่ 44.37 ตรม.1
นอน 1 น้ำ หันไปทางทิศเหนือ ชั้นนี้
มีสวนลอยฟ้า สระว่ายน้ำ และฟิตเนส วิวดี พร้อมเฟอร์นิเจอร์พรีเมียมครบชุด
ตกแต่งสวยมาก ราคา 10,600,000 บาท
สามารถดาวน์โหลดรูปภาพและวีดีโอทั้งหมดของ
ณ วรา เรสซิเดนท์ หลังสวน ได้ที่ https://www.dropbox.com/sh/8fp6fwrp4kiejzp/AABAbXTgEiPBXaYba4sV37Aaa?dl=0
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://thinkofliving.com/2016/02/24/navarang-press-navara/#QIelJ0rQfTXROa15.99
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น