จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ทำไมคิดว่า ’เวลา’ ไม่มีค่า

ทำไมคิดว่าเวลาไม่มีค่า
          มนุษย์เราส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะให้ความสำคัญกับเวลาเท่าที่ควร ด้วยว่าเราได้เวลามาฟรีๆ ทุกๆ วัน เราจะได้เวลามาคนละ 24 ชั่วโมงเท่ากันทุกคน ไม่ว่าท่านจะเป็นใครก็ตาม เศรษฐีหรือยาจกก็มีคนละ 24 ชั่วโมงใน 1 วัน หลายๆ คนจึงไม่ค่อยเห็นคุณค่าของที่ได้มาฟรีๆ เพราะว่าวันนี้ใช้หมดไป พรุ่งนี้พระเจ้าก็ให้เวลาเรามาอีก 24 ชั่วโมง คุณลองถามคนที่ไปสนามบินไม่ทันเที่ยวบินของตัวเอง หรือคนที่พลาดรถไฟขบวนที่ตัวเองจะขึ้น แม้จะเพียงเสี้ยวนาทีก็ตาม นักเรียนที่ทำข้อสอบไม่ทัน เพราะข้อสอบยากหรือมากจนเวลาที่กำหนดไว้ไม่พอที่จะทำข้อสอบได้หมด เขาเหล่านั้นจะรู้สึกว่าเวลานั้นมีค่าจริงๆ แต่น่าเสียดายเมื่อเวลาผ่านไปเขาก็จะลืม และการให้ความสำคัญกับเวลาก็น้อยจนกลับไปเหมือนเดิม โดยเฉพาะคนไทยไล่ไปตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ ผมรู้สึกว่าคนส่วนใหญ่ยังให้ความสำคัญกับเวลาน้อยมาก จากการสังเกตชนชาติต่างๆ ที่ผมได้พบเห็นจากการเดินทางไปเที่ยวประเทศนั้นๆ ผมได้เห็นพฤติกรรมของคนเอเชียหลายชาติที่จะไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่ากับเรื่องไร้สาระ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมส์ Chat การใช้ Social Media ต่างๆ ฯลฯ เยาวชนจีนแผ่นดินใหญ่ หลังจากเลิกเรียนแล้วยังต้องไปเรียนกวดวิชาเพิ่มเติมเพราะว่าการแข่งขันในการเรียนของเยาวชนจีน มีสูงมาก ทุกคนมุ่งหน้าจะฟันฟ่าเพื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่ดี อย่างเช่น มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ว่าพลเมืองของประเทศจีนมีจำนวนมหาศาล ขณะที่เยาวชนไทยชอบที่จะไปเดินห้าง หรือเล่นเกมส์ Chat ฯลฯ เรามาดูที่ญี่ปุ่นกัน ทุกครั้งที่ผมขึ้นรถไฟใต้ดินหรือรถไฟชิงงังเซ็ง (รถไฟความเร็วสูง) ผมเห็นคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะอ่านหนังสือพิมพ์บ้าง พ็อกเก็ตบุ๊คบ้าง นิตยสารต่างๆ บ้าง แล้วที่ผมชอบมากที่สุด คือ แทบจะไม่ค่อยเห็นคนญี่ปุ่นคุยโทรศัพท์บนรถไฟใต้ดิน หรือรถไฟความเร็วสูงเลย เพราะว่าคนญี่ปุ่นถือว่าเป็นมารยาทที่จะไม่พูดโทรศัพท์บนรถไฟ เพราะว่าเป็นการรบกวนผู้อื่น ในขณะที่ทุกครั้งที่ผมขึ้นรถไฟฟ้า จะเห็นคนไทยคุยโทรศัพท์มือถือเสียงดัง หรือคุยกันเองเสียงดังหนวกหู โดยไม่สนใจว่าคนรอบข้างจะอิดหนาระอาใจกับพฤติกรรมเหล่านี้ หรือกระทั่งเวียดนามเอง ผมไปเที่ยวมา 2 ครั้ง และทุกครั้งที่ผมนั่งรถทัวร์ท่องเที่ยวไประหว่างเมืองต่างๆ ผมไม่เคยเห็นคนเวียดนามไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่นั่งเฉยๆ เลย ทุกคนจะมีกิจกรรมทำโน่นทำนี่กันทั้งนั้น ในทางกลับกันเวลาผมนั่งรถทัวร์ในประเทศไทย ผมเห็นขาวบ้านข้างทางน้อยคนนักที่จะกำลังทำงานอะไรอยู่ ส่วนใหญ่จะนั่งหรือนอนเฉยๆ หรือไม่ก็ล้อมวงเหมือนกับว่าเล่นไพ่กัน ทำให้ผมเข้าใจได้ว่าทำไมประเทศญี่ปุ่นถึงเป็นประเทศในเอเชียประเทศแรกที่เป็นประเทศพัฒนาแล้วทั้งๆ ที่เป็นประเทศที่แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 โดนระเบิดปรมาณูบอมบ์ไป 2 เมือง หรือกระทั่งจีนเองที่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วยังมี GDP ต่อประชากร ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของประเทศไทย มาปีที่แล้ว GDP ต่อประชากรของจีนอยู่ที่ 7,325$ ขณะที่ของไทยเราอยู่ที่ 7,907 หายใจรดต้นคอกันขนาดนี้ เชื่อได้เลยว่าปีหน้าจีนต้องแซงเราแน่ๆ แล้วถ้าเรายังต้วมเตี้ยมอยู่แบบนี้ อีกสิบกว่าปีข้างหน้าเวียดนามคงแซงเราไปอีก เราคงต้องไปแข่งกับพม่ากัมพูชาและลาว ผมสังเกตดูคนที่รวยจากการสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาเอง หรือที่ฝรั่งเขาเรียกว่า Self-Made Millionaire ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ไม่ยอมปล่อยเวลาให้ผ่านไปเพื่อหายใจเท่านั้น เขาจะขยันขันแข็งทำงาน และหลายๆ คนก็เลือกให้เวลาที่ว่างหมดไปกับการอ่านหนังสือ หรือเข้าคอร์สอบรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้ทั้งในหน้าที่การงานของตน Charlie Munger คู่หูการลงทุนของ Warren buffet เล่าว่า “If you were an observer, you ‘d see that Warren did most of it sitting on his ass and reading” ส่วนตัวของผมเองเนื่องจากต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่อายุ 12 ขวบ เพื่อทำการค้าทำให้ต้องไปเรียนกวดวิชาช่วงเย็น ทำให้คุ้นเคยกับการอ่านหนังสือ และเรียนด้วยตัวเอง และใช้ช่วงเวลาที่ไม่มีลูกค่าเข้าร้าน นั่งอ่านหนังสือ เวลาขึ้นรถเมล์ในสมัยเด็กๆ ผมก็จะมีหนังสือติดมือไปอย่างน้อย 1 เล่มเสมอ ไว้อ่านบนรถเมล์ ซึ่งก็เป็นนิสัยที่ติดตัวมาจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ผมจะต้องมีหนังสืออยู่ข้างตัวตลอดเวลา ผมอยากให้คนไทยรักการอ่านมากกว่าปัจจุบัน อย่าให้สถิติที่ว่าคนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยปีละ 6 บรรทัดมาบาดตาบาดใจเราอีกเลย

          อนึ่ง    ผมกำลังจะจัดคอร์สอบรมหลักสูตรการลงทุนในหุ้นและอสังหาริมทรัพย์เต็มวันในชื่อคอร์สจาก 1 ล้าน เป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ สนใจติอต่อ 088-2740434 สำหรับท่านผู้อ่านหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ มีราคาพิเศษครับ กรุณาแจ้งด้วยครับว่าทราบมาจากหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ครับ

MILLIONAIRE COURSE
"จาก 1 ล้าน เป็น 500 ล้าน ต้องทำอย่างไร"
ในการจัดสัมมนา ครั้งที่ 91
โดย หนุ่ม อภิชา(โปรสัมมนา)

...เคล็ดลับความสำเร็จ...
"เรียนรู้จากคนที่มีผลลัพธ์"

ใครสนใจเรียนเชิญมาร่วม
งานสัมมนาครั้งนี้กันนะครับ

หนุ่มได้จัดสัมมนาเกี่ยวกับ
การลงทุนหุ้น (เนื้อหา 70%)
และอสังหาฯ (เนื้อหา 30%)
โดยเชิญเศรษฐี 500 ล้าน
มาถ่ายทอดเคล็ดลับความรู้
ในเรื่องการลงทุนที่ถูกต้อง

เราจะได้ไม่ต้องไปลองผิดลองถูก
และอาจสูญเงินหลายแสนเหมือนหนุ่ม
ในช่วงแรกๆ ของการลงทุนหุ้น
ที่กินเวลาไม่ถึงเดือนเพราะ
ไม่ได้ศึกษาให้ดีก่อนลงทุน
โดยมีแต่ความโลภเป็นทุน
เพียงอย่างเดียวแต่ไม่มีความรู้เลย

MILLIONAIRE COURSE
"จาก 1 ล้าน เป็น 500 ล้าน ต้องทำอย่างไร"
ในการจัดสัมมนา ครั้งที่ 91
โดย หนุ่ม อภิชา(โปรสัมมนา)

"การลงทุน คือ...
ปัจจัยที่ 5 สำหรับคนรวย"
...คุณกิติชัย เตชะงามเลิศ...
ผู้แต่งหนังสือขายดีติดอันดับ 1 ทั่วประเทศ
"จาก 1 ล้าน เป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร"

...ประโยคทองคำที่ออกจากปากเศรษฐี
เพียงประโยคเดียวอาจพลิกชีวิตเราได้เลย...

"เครื่องมือที่คนรวยใช้มีอยู่ 3 อย่าง คือ
ธุรกิจ หุ้นและอสังหาริมทรัพย์"
"ผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในตลาดหุ้น
มักมีเบื้องหลังมาจากการทำงานอย่างหนัก
ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ เหมือนที่คนทั่วไปเข้าใจกัน"
"นอกจากเรื่องกฎแห่งแรงดึงดูดแล้ว
เราต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนและ
แผนดำเนินการที่ดีประกอบด้ว
ชีวิตถึงจะประสบความสำเร็จได้"
เป็นอีกหลากหลายประโยคทองคำ
ที่มาจากปากของ
...คุณกิติชัย เตชะงามเลิศ...
ผู้แต่งหนังสือขายดีติดอันดับ 1 ทั่วประเทศ
"จาก 1 ล้าน เป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร"

ขอเชิญฟังประโยคทองคำอีกมากมาย
และมาเรียนรู้สุดยอดเคล็ดลั
ที่ไม่ได้เปิดเผยในหนังสือขายดี
"จาก 1 ล้าน เป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร"

- เคล็ดลับที่ใช้ลงทุนต่อเนื่องมา 20 ปี
- วิธีการจากคนที่ลงทุนจริง และมีผลลัพธ์จริง
- เครื่องมือที่ใช้คำนวณราคาหุ้นที่เหมาะสม
จากการวิเคราะห์งบการเงิน และ ปัจจัยพื้นฐาน
จะได้ไม่เกิดอาการที่ระบาดหนักในตลาดหุ้น
คือ "ขายหมู" หรือ "ติดดอย"

โดยมีรายละเอียดเนื้อหาดังนี้
Section 1
แนวทางการลงทุนของคุณกิติชั
และนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ
Section 2
การวิเคราะห์โดยใช้ปัจจัยทางพื้นฐาน
และวิเคราะห์งบการเงินแบบง่ายๆ
Section 3
การวิเคราะห์โดยใช้ปัจจัยทางเทคนิค
และการดูกราฟแบบง่ายๆ
Section 4
วิธีลงทุนอสังหาริมทรัพย์

ในการจัดสัมมนา ครั้งที่ 91
MILLIONAIRE COURSE
"จาก 1 ล้าน เป็น 500 ล้าน ต้องทำอย่างไร"
โดย หนุ่ม อภิชา(โปรสัมมนา)

วัน : อาทิตย์ที่ 25 พ.ค. 2557
เวลา : 9.00 - 17.00 น.
สถานที่ : The Emerald Hotel
วิทยากร : คุณกิติชัย เตชะงามเลิศ

- สอบถามเพิ่มเติมโทร. 088-274-0434
- ราคาคอร์สปกติมูลค่า 5,500 บาท
- พิเศษ !!! ลงทะเบียนก่อน 18 พ.ค. 2557
- ได้ราคา Promotion มา 2 ท่านเหลือเพียง 5,000 บาท/ท่าน
(เฉพาะท่านที่โอนเงินลงทะเบียนเท่านั้น)

ข้อมูลการสำรองที่นั่ง
MILLIONAIRE COURSE
1. กรุณาโอนเงินเข้า
นายอภิชา ธนากรวรกิจ (หนุ่ม)
SCB 374-211111-5
2. หลังโอนเงินกรุณาส่งหลักฐานมาที่
Line ID : num.55555 หรือ
E-mail : apicha090909@gmail.com
3. กรุณาแจ้งชื่อ นามสกุล
ชื่อเล่น มือถือและอีเมล์
สำหรับข้อมูลการลงทะเบียน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที
http://on.fb.me/1gmZNeU

ติดตามแนวทางการลงทุนของผมได้ที่ 
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk 
Youtube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Blog :  http://kitichai1.blogspot.com
Instagram : Gid_Kitichai

หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 หรือหน้า B10 และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Stock Review, Me(Market Evolution), Glow และ Lisa  ทุกเดือน
     

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น