จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ทิศทาง SET INDEX หลังรัฐประหาร

ทิศทาง SET INDEX หลังรัฐประหาร
          ในที่สุดการขัดแข้งของสังคมไทยก็หยุดลง (ชั่วคราว?) หลังจากมีการทำรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช) ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นหัวหน้าคณะถึงแม้จะมีการประท้วงเป็นหย่อมๆ อยู่บ้าง แต่ดูเหมือนว่าบ้านเราเริ่มมีความสงบมากขึ้น ไหนๆ ก็ทำรัฐประหารแล้ว ผมอยากให้ คสช.ตราไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญที่จะร่างขึ้นใหม่ว่าห้ามพรรคการเมืองหาเสียงโดยใช้นโยบายประชานิยม และบริหารบ้านเมืองต่อแต่ไปนี้ห้ามนำนโยบายประชานิยมมาใช้อีกต่อไป เราได้เห็นบทเรียนไม่ว่าจะเป็นนโยบายจำนำข้าว นอกจากจะสร้างความเสียหายแก่งบประมาณรัฐเป็นเม็ดเงินมหาศาลข้าวที่เก็บไว้ในโกดังเสียหายและสูญหาย ราคาข้าวก็ตกต่ำลงทุกครั้งเมื่อมีข่าวว่ารัฐบาลจะเอาข้าวในโกดังออกมาโละขาย มีการทุจริตเกือบทุกขั้นตอน จนปปช.ชี้มูลความผิด ชาวนาจำนำข้าวไปนานแล้ว ก็ยังไม่ได้เงินพออกมาทางเงินจำนำข้าว ก็ยังถูกแดกดันว่าให้กินใบประทวนไปก่อน จนชาวนาหลายคนต้องผูกคอตาย หรือโครงการรถคันแรก ที่ทำให้รัฐต้องนำงบประมาณที่ควรจะไว้พัฒนาประเทศไม่ว่าจะเป็นการสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ กลับนำมาสนับสนุนโครงการนี้นอกจากจะทำให้ถนนที่มีไม่เพียงพอกับปริมาณรถอยู่แล้ว ยิ่งสร้างปัญหาการจราจรมากขึ้น การที่รถยนต์ต้องมาจอดแช่กลางถนนเพราะว่ารถติดทำให้ประเทศเราต้องสูญเสียเงินตราต่างประเทศมากขึ้นจากการนำเข้าน้ำมันมากขึ้น นอกจากนั้นอุบัติเหตุบนท้องถนนก็มีมากขึ้น จากกลุ่มมือใหม่หัดขับ พวกที่ซื้อรถในโครงการนี้ที่ใช้เงินผ่อนบางรายก็ต้องถูกยึดรถไป เพราะว่าผ่อนไม่ไหว จากการที่ไม่วางแผนทางการเงินให้ดีและบางส่วนก็ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจบ้านเราที่มีการเติบโตแย่ลงมาตลอดในช่วง 2 ปีนี้ กลุ่มที่จองแล้วทิ้งใบจองไปก็มีมากมายสร้างปัญหาต่อกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ เพราะว่าได้รับเร่งผลิตรถยนต์เพื่อมาตอบสนองความต้องการของลูกค้า อุตส่าห์ให้พนักงานทำงานกันวันละ 3 คาบเวลา แล้วยังเร่งไม่ทัน แต่พอผลิตรถยนต์ออกมาได้ กลับมีการคืนใบจองกันมากมาย จนบริษัทรถยนต์ต่างๆ ต้องจัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม เพื่อดึงดูดให้คนมาซื้อรถยนต์ โดยบางแคมเปญคำนวณแล้วยังถูกกว่าโครงการรถคันแรกเสียอีกถึงขนาดทำให้บางคนทิ้งใบจองที่ได้สิทธิโครงการรถคันแรกที่ต้องมีเงื่อนไขผูกมัด ในขณะที่แคมเปญใหม่ๆ ในช่วงนั้นของบริษัทรถยนต์ดีกว่าและไม่มีเงื่อนไขผูกมัด ที่น่าสงสารอีกกลุ่มคือพวก Supplier ต่างๆ ที่ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างขยายกำลังการผลิต บางรายมีการสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่และรับพนักงานใหม่เข้ามาหมากเพื่อมารองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นมามาก แล้วถูกลดคำสั่งซื้อลงจะกลับตัวก็ไม่ท้นแล้ว โดยเฉพาะกลุ่ม Second tier supplier นี้จะน่าสงสารมาก เพราะว่าบางรายในกลุ่มนี้ เป็นโรงงานเล็กๆ ใช้สินเชื่อธนาคารเพื่อขยายกำลังการผลิตแล้วถูก Stop order สภาพกล่องหมุนไม่ทัน บางรายก็ต้องกลายเป็น NPL ไป สิ่งเหล่านี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจให้คอยเตือนใจเราถึงความชั่วร้านของนโยบายประชานิยมที่ฉาบหน่าด้วยความสวยงาม

          กลับมาที่ตลาดหุ้นบ้านเรา หลังจากที่มีการทำรัฐประหารแล้วปรากฏว่าตลาดหุ้นเรามีความแข็งแกร่งมาก มีการปรับตัวลดลงของดัชนี SET INDEX น้อยลงกว่าทุกๆ รอบที่มีการทำรัฐประหารครั้งก่อนๆ นักลงทุนรายย่อยไทยส่วนใหญ่เริ่มกลายเป็นกลุ่ม“สีทนได้”ยืนหยัดต่อกรกับแรงขายของต่างขาติที่เป็นกลุ่ม “สีทนได้” ที่มีการขายสุทธิวันละ 3,000-6,000 กว่าล้าน เท่าที่ผมติดตามการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทย ผมรู้สึกว่าตลาดหุ้นไทยช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างแข็งแกร่ง แม้มีข่าวร้ายเข้ามาอยู่เรื่อยๆ ก็ตาม คงสร้างความแปลกใจให้ใครหลายๆ คนรวมทั้งผมด้วย ทั้งๆ ที่ยังมีข่าวร้ายๆ รออยู่ ไม่ว่าจะเป็นการลดลงของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย FDI และการขยับขยายกิจการคงต้องหยุดชะงักลงการปรับลดคาดการณ์ของผลประกอบการหลังจากที่ตัวเลข GDP ไตรมาส 1 และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่แย่กว่า Analyst Consensus โดยคาดการณ์ว่า GDP ปี 57 จะโตเพียง 1.10-3% และผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดของปี 57 จะอยู่ที่ 98-103 บาท เมื่อคำนวณ P/E ของสิ้นปี 57 จะอยู่ที่ประมาณ 14 เท่า ซึ่งก็ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย P/E ของบ้านเราที่จะอยู่ประมาณ 13-14 เท่า แต่อย่าลืมนะครับว่าอดีตการเติบโตของผลกำไรบริษัทจดทะเบียนเป็นเลข 2 หลักซึ่งสูงกว่าการเติบโตของปีที่แล้วและปีนี้ GDP เราก็ไม่ได้โตต่ำแบบนี้ในอดีต ผมจึงเห็นว่า SET INDEX ณ ขณะนี้ยังแพงเกินไปสำหรับการลงทุนครับ

กิติชัย เตชะงามเลิศ
                                                                                          28/05/57


ติดตามแนวทางการลงทุนของผมได้ที่ 
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk 
Youtube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Blog :  http://kitichai1.blogspot.com
Instagram : Gid_Kitichai

หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 หรือหน้า B10 และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide,  Me(Market Evolution), และ Glow ทุกเดือน
     

สนใจซื้ออสังหาเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ลองเข้า http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น