การลงทุนไม่ยากอย่างที่คิด โดย กิติชัย เตชะงามเลิศ

1.หนังสือ "จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร" เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ 2.หนังสือ "ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน" แนะวิธีออมเงินเพียงเดือนละหลักพัน ก็เป็นเศรษฐี 100 ล้าน ก่อนอายุ 50 ปี!

วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

SELL IN MAY AND GO AWAY

SELL IN MAY AND GO AWAY

ช่วงนี้ผมมีความรู้สึกเหมือนกับช่วงตอนที่ SET INDEX อยู่แถว 1,600 กว่าๆ เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วยังไงไม่รู้ รู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ในเขตดอยอินทนนท์ถ้ามองไป 1-2 เดือนข้างหน้า ทำไมผมจึงรู้สึกเช่นนั้นหรอครับผมมองว่า SET INDEX ได้ขึ้นจากจุดต่ำสุดที่ 1,205.44 เมื่อวันที่ 6 มกราคมปีนี้ มาสร้างจุดสูงสุดในรอบปีนี้ 1,426.53 เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมารวมแล้วขึ้นมา 221.09 จุดหรือคิดเป็น 18.34% ซึ่งเมื่อผมดูจากประวัติศาสตร์การขึ้นลงของ SET INDEX จะพบว่า ในแต่ละรอบขาขึ้นของ SET INDEX ส่วนใหญ่จะวิ่งขึ้นได้ประมาณ 18-26% โดยส่วนใหญ่จะขึ้นได้ประมาณ 18-20% ผมขอยกตัวอย่างให้ท่านดูสัก 3 รอบ

1) รอบที่ SET INDEX เมื่อวันที่ 5/6/55 จาก 1,99.15 จุดขึ้นไปถึง 1,314.59 จุด ณ วันที่ 9/10/55 ขึ้นไป 215.44 จุดหรือคิดเป็น 19.56% ใช้เวลา 4 เดือนกับ 4 วัน

2) รอบที่ SET INDEX เมื่อวันที่ 15/11/55 จาก 1,263.40 จุดขึ้นไปถึง 1,601.30 จุด ณ วันที่ 19/3/56 ขึ้นไป 337.90 จุด หรือคิดเป็น 26.75% ใช้เวลา 4 เดือนกับ 4 วัน เหมือนกัน

3) รอบที่ SET INDEX เมื่อวันที่ 28/8/56 จาก 1,260.08 จุดขึ้นไปถึง 1,487.91 จุด ณ วันที่ 23/9/56 ขึ้นไป 227.03 จุด หรือคิดเป็น 18.08% รอบนี้ใช้ระยะเวลาสั้นมากไม่ถึงเดือนเพียง 26 วันเท่านั้น

คราวนี้เรากลับมาดูปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยกันครับว่าเป็นอย่างไรบ้างจาก Analyst Consensus ที่ประมาณการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดของตลาดหลักทรัยพ์ปีนี้อยู่ที่ประมาณ 104 บาท ซึ่งอาจจะมีการปรับลงได้อีก เมื่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาสหนึ่งปีนี้ประเทศออกมาครบทุกบริษัท คาดว่าการ Downgrade earning คงจะมีในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม เมื่อคำนวณ P/E ของตลาดหุ้นไทยโดยเอากำไรของปี 57 มาคิดหรือที่เรียกกันว่า Forward P/E 57 จะอยู่ที่ประมาณ 14 เท่า ซึ่งโดยปกติตลาดหุ้นไทยจะซื้อขายกันอยู่ที่ P/E ประมาณ 13 เท่า โดยที่กำไรของบริษัทในตลาดโดยรวมจะโตเป็นเลข 2 หลัก แต่กำไรปีนี้อาจจะโตเพียง 3-4% เท่านั้น โดยที่ปีหน้ายังคาดการณ์ได้ยากว่าอัตราการเติบโตของกำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเป็นอย่างไร เพราะว่าเรายังมี Unknown factors อยู่หลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง ว่าเราจะมีรัฐบาลใหม่เมื่อไร และรัฐบาลใหม่จะเน้นปฏิรูปประเทศทางด้านการเมืองแทนที่จะเน้นพัฒนาประเทศหรือไม่อย่างไร ความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนที่จะมีรัฐบาลใหม่ เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียประโยชน์ไม่ถูกใจ การประท้วงซึ่งจะนำมาซึ่งความวุ่นวายแค่ไหน รวมถึงผลตัดสินขององค์กรอิสระต่างๆ เมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ แล้ว ทำให้ผมมั่นใจว่าการขึ้นของ SET INDEX รอบนี้น่าจะขึ้นได้ประมาณ 18-20% ตามค่าเฉลี่ยของขาขึ้นแต่ละรอบเท่านั้น ซึ่งการขึ้นมาถึง 1,426.53 จุดรอบนี้ น่าจะมาจากตั้งแต่ต้นปีมี Fund flow ไหลเข้ามาในตลาดค่อนข้างมากโดยเงินพวกนี้เข้ามาซื้อทั้งตราสารหนี้ และตราสารทุน ทำให้เงินบาทที่เคยอ่อนตัวไปถึง 33.07 บาทเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา แข็งค่าขึ้นมาอยู่แถวๆ 32.25 บาทในปัจจุบัน การขึ้นรอบนี้จึงเป็นการขึ้นเพราะ Liquidity driven ไม่ใช่เพราะว่าพื้นฐานของตลาดหุ้นเราดี ทำให้การขึ้นแบบนี้น่าจะไม่เสถียรเมื่อ Fund flow หยุดไหลเข้ามา ความมีเหตุมีผลจะกลับเข้มาในสำนึกของนักลงทนในตลาด ถ้าพิจารณากันด้วยเหตุและผล ผมคิดว่า SET INDEX ควรจะซื้อขายกันแถวๆ 1,250-1,300 จุดเท่านั้น ลองเปรียบเทียบตลาดหุ้นไทยเป็นหุ้นตัวหนึ่ง เมื่อปีที่แล้วมีกำไรเพิ่มขึ้นเพียง 7.22% โดยที่ปีนี้คาดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 4% ถ้าเป็นท่านจะยอมจ่ายเงินซื้อหุ้นตัวนี้ที่ P/E เท่าไรครับ ถ้าเป็นผมคงจะเลือกซื้อหุ้น (ตลาดหุ้น) ตัวอื่นที่มีผลประกอบการหรือผลกำไรที่โตมากกว่านี้ หรือถ้าจะซื้อตลาดหุ้นไทย ก็คงต้องกดราคารับซื้อที่ P/E ไม่เกิน P/E เฉลี่ยในอดีตคือ 12-13 เท่า เท่านั้นโดยคาดหวังว่าผลกำไรของตลาดหุ้นไทยจะดีขึ้นในปีหน้า โดยควรจะโตเป็นเลข 2 หลักเหมือนกับในอดีตช่วงที่ผ่านมา Foreign houses หลายสำนักเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นในประเทศกลุ่ม ASEAN ไทยก็เลยพลอยได้อานิสงค์ไปด้วยจากการที่ตลาดหุ้นใน ASEAN ยังมีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นหลักๆ ของโลก บางครั้งเวลามีเงินไหลเข้ามาจึงเข้ามาในลักษณะซื้อเหมายกเข่ง

ช่วงนี้ผมชอบคำพูดนี้เป็นพิเศษครับ “SELL IN MAY AND GO AWAY”

อนึ่ง ผมกำลังจะจัดคอร์สอบรมหลักสูตรการลงทุนในหุ้นและอสังหาริมทรัพย์เต็มวันในชื่อคอร์ส ”จาก 1 ล้าน เป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ สนใจติอต่อ 088-2740434 สำหรับท่านผู้อ่าน BLOG ของผมมีราคาพิเศษครับ กรุณาแจ้งด้วยครับว่าทราบมาจาก BLOG ของผมครับ
อนึ่ง ผมกำลังจะจัดคอร์สอบรมหลักสูตรการลงทุนในหุ้นและอสังหาริมทรัพย์เต็มวันในชื่อคอร์ส ”จาก 1 ล้าน เป็น500 ล้าน ผมทำอย่างไร” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ สนใจติอต่อ 088-2740434 สำหรับท่านผู้อ่านหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ มีราคาพิเศษครับ กรุณาแจ้งด้วยครับว่าทราบมาจากหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ครับ

MILLIONAIRE COURSE
"จาก 1 ล้าน เป็น 500 ล้าน ต้องทำอย่างไร"
ในการจัดสัมมนา ครั้งที่ 91
โดย หนุ่ม อภิชา(โปรสัมมนา)

...เคล็ดลับความสำเร็จ...
"เรียนรู้จากคนที่มีผลลัพธ์"

ใครสนใจเรียนเชิญมาร่วม
งานสัมมนาครั้งนี้กันนะครับ

หนุ่มได้จัดสัมมนาเกี่ยวกับ
การลงทุนหุ้น (เนื้อหา 70%)
และอสังหาฯ (เนื้อหา 30%)
โดยเชิญเศรษฐี 500 ล้าน
มาถ่ายทอดเคล็ดลับความรู้
ในเรื่องการลงทุนที่ถูกต้อง

เราจะได้ไม่ต้องไปลองผิดลองถูก
และอาจสูญเงินหลายแสนเหมือนหนุ่ม
ในช่วงแรกๆ ของการลงทุนหุ้น
ที่กินเวลาไม่ถึงเดือนเพราะ
ไม่ได้ศึกษาให้ดีก่อนลงทุน
โดยมีแต่ความโลภเป็นทุน
เพียงอย่างเดียวแต่ไม่มีความรู้เลย

MILLIONAIRE COURSE
"จาก 1 ล้าน เป็น 500 ล้าน ต้องทำอย่างไร"
ในการจัดสัมมนา ครั้งที่ 91
โดย หนุ่ม อภิชา(โปรสัมมนา)

"การลงทุน คือ...
ปัจจัยที่ 5 สำหรับคนรวย"
...คุณกิติชัย เตชะงามเลิศ...
ผู้แต่งหนังสือขายดีติดอันดับ 1 ทั่วประเทศ
"จาก 1 ล้าน เป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร"

...ประโยคทองคำที่ออกจากปากเศรษฐี
เพียงประโยคเดียวอาจพลิกชีวิตเราได้เลย...

"เครื่องมือที่คนรวยใช้มีอยู่ 3 อย่าง คือ
ธุรกิจ หุ้นและอสังหาริมทรัพย์"
"ผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในตลาดหุ้น
มักมีเบื้องหลังมาจากการทำงานอย่างหนัก
ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ เหมือนที่คนทั่วไปเข้าใจกัน"
"นอกจากเรื่องกฎแห่งแรงดึงดูดแล้ว
เราต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนและ
แผนดำเนินการที่ดีประกอบด้วย
ชีวิตถึงจะประสบความสำเร็จได้"
เป็นอีกหลากหลายประโยคทองคำ
ที่มาจากปากของ
...คุณกิติชัย เตชะงามเลิศ...
ผู้แต่งหนังสือขายดีติดอันดับ 1 ทั่วประเทศ
"จาก 1 ล้าน เป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร"

ขอเชิญฟังประโยคทองคำอีกมากมาย
และมาเรียนรู้สุดยอดเคล็ดลับ
ที่ไม่ได้เปิดเผยในหนังสือขายดี
"จาก 1 ล้าน เป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร"

- เคล็ดลับที่ใช้ลงทุนต่อเนื่องมา 20 ปี
- วิธีการจากคนที่ลงทุนจริง และมีผลลัพธ์จริง
- เครื่องมือที่ใช้คำนวณราคาหุ้นที่เหมาะสม
จากการวิเคราะห์งบการเงิน และ ปัจจัยพื้นฐาน
จะได้ไม่เกิดอาการที่ระบาดหนักในตลาดหุ้น
คือ "ขายหมู" หรือ "ติดดอย"

โดยมีรายละเอียดเนื้อหาดังนี้
Section 1
แนวทางการลงทุนของคุณกิติชัย
และนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ
Section 2
การวิเคราะห์โดยใช้ปัจจัยทางพื้นฐาน
และวิเคราะห์งบการเงินแบบง่ายๆ
Section 3
การวิเคราะห์โดยใช้ปัจจัยทางเทคนิค
และการดูกราฟแบบง่ายๆ
Section 4
วิธีลงทุนอสังหาริมทรัพย์

ในการจัดสัมมนา ครั้งที่ 91
MILLIONAIRE COURSE
"จาก 1 ล้าน เป็น 500 ล้าน ต้องทำอย่างไร"
โดย หนุ่ม อภิชา(โปรสัมมนา)

วัน : อาทิตย์ที่ 25 พ.ค. 2557
เวลา : 9.00 - 17.00 น.
สถานที่ : The Emerald Hotel
วิทยากร : คุณกิติชัย เตชะงามเลิศ

- สอบถามเพิ่มเติมโทร. 088-274-0434
- ราคาคอร์สปกติมูลค่า 5,500 บาท
- พิเศษ !!! ลงทะเบียนก่อน 18 พ.ค. 2557
- ได้ราคา Promotion มา 2 ท่านเหลือเพียง 5,000 บาท/ท่าน
(เฉพาะท่านที่โอนเงินลงทะเบียนเท่านั้น)

ข้อมูลการสำรองที่นั่ง
MILLIONAIRE COURSE
1. กรุณาโอนเงินเข้า
นายอภิชา ธนากรวรกิจ (หนุ่ม)
SCB 374-211111-5
2. หลังโอนเงินกรุณาส่งหลักฐานมาที่
Line ID : num.55555 หรือ
E-mail : apicha090909@gmail.com
3. กรุณาแจ้งชื่อ นามสกุล
ชื่อเล่น มือถือและอีเมล์
สำหรับข้อมูลการลงทะเบียน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://on.fb.me/1gmZNeU

กิติชัย เตชะงามเลิศ

30/04/57