ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าการเพิ่มขึ้นของประชากรไทยมีอัตราที่ต่ำมาก
ในทางกลับกันฐานอายุของประชากรไทยก็สูงขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลของคุณปัทมา
ว่าพัฒนวงศ์ และคุณปราโมทย์ ประสาทกุล แห่งสถาบันวิจัยประชากรและสังคม
มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อกลางปี พ.ศ. 2548 ประเทศไทยมีประชากร
62.2 ล้านคน
ผ่านไป 10 ปี
เพิ่มขึ้นเป็น 64.5 ล้านคน
เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านคน
คิดเป็นอัตราเพิ่มประชากรเพียง 3.7% เฉลี่ย 0.37 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
ซึ่งนับว่าเป็นอัตราการเพิ่มที่ต่ำมาก
ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะผลงานของคุณมีชัย วีระไวทยะ ที่รณรงค์ให้คนไทยให้มีบุตรน้อยคน
ได้ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดีมากในสมัยนั้น
ถ้าการเพิ่มของประชากรไทยยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปในอัตราการเพิ่มที่ต่ำมากเหมือนในอดีต
คาดว่าในปี พ.ศ. 2565 จะเป็นปีที่ประชากรไทยถึงจุดอิ่มตัว(ภาพที่
1) อัตราเกิดจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับอัตราตาย
ทำให้อัตราการเพิ่มของประชากรใกล้เคียงกับศูนย์ จำนวนเกิดในแต่ละปีพอ ๆ
กับจำนวนตาย
จากการฉายภาพประชากรชุดนี้แสดงว่าประชากรไทยจะถึงจุดอิ่มตัวที่จำนวนประมาณ 65 ล้านคนในราวปี
พ.ศ. 2565 หลังจากนั้น
เป็นไปได้ว่าอัตราเพิ่มประชากรจะติดลบคือต่ำกว่าศูนย์บ้างเล็กน้อย ทำให้จำนวนประชากรแต่ละปีลดลง
เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นในช่วงที่ผ่านมา
ภาพที่ 1 อัตราเพิ่มและจำนวนประชากร, พ.ศ. 2548 – 2578
เป็นผลเนื่องมาจากภาวะเจริญพันธุ์ที่ลดต่ำลงและคนไทยมีชีวิตยืนยาวขึ้นอีก
ลักษณะเช่นนี้ทำให้โครงสร้างอายุของประชากรเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดเจน
หากดูที่จำนวนประชากร เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ในช่วงปี พ.ศ. 2548 – 2578
จะมีจำนวนลดลงจาก 14 ล้าน (ร้อยละ 23 ของประชากรทั้งหมด) เหลือ 9 ล้านคนเศษ
(ร้อยละ 14) ส่วนประชากรวัยแรงงาน (อายุ 15 – 59 ปี) นั้นมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
กล่าวคือในช่วง พ.ศ. 2548 – 2558 จำนวนจะเพิ่มขึ้นจาก 41 ล้าน เป็น 43 ล้านคน
หลังจากนั้นจะลดจำนวนลงเหลือ 38 ล้านคนในปี พ.ศ. 2578 อาจกล่าวได้ว่าจำนวนประชากรวัยแรงงานในอนาคตอีก
30 ปีข้างหน้าเกือบไม่เปลี่ยนแปลงเลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตาม
การที่จำนวนประชากรวัยเด็กจะลดลงอย่างมากจะมีผลทำให้จำนวนประชากรในวัยเรียน (อายุ
6 – 21 ปี) ลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 16 ล้านคนในปี พ.ศ. 2548 เป็น 11 ล้านคนในปี
พ.ศ. 2578(ภาพที่ 2)
ภาพที่ 2 จำนวนประชากรวัยต่าง
ๆ พ.ศ. 2548 – 2578
สำหรับประชากรกลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่มผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป)
คนกลุ่มนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ ในปี
พ.ศ. 2548 มีประชากรสูงอายุอยู่ 6 ล้านคนเศษ (ร้อยละ 10) เมื่อถึงปี พ.ศ. 2578
จำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นเป็น 16 ล้านคน (ร้อยละ 25) เท่ากับเพิ่มขึ้นเกือบ 3
เท่าตัวในเวลาราว ๆ 30 ปีเท่านั้น(ภาพที่ 3)
ภาพที่ 3 ดัชนีผู้สูงอายุของประเทศไทย
พ.ศ. 2548 – 2578
เราอาจจะรู้สึกว่าแรงงานไม่ถึงกลับขาดแคลน
แต่แรงงานไทยก็ยังเลือกงานมากขึ้น
เพราะว่าเรามีแรงงานต่างชาติ โดยเฉพาะจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น
สิ่งที่เป็นน่าเป็นห่วงก็คือ ประเทศเหล่านี้เริ่มมีพัฒนาการ
และการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจดีขึ้น สักวันหนึ่งแรงงานเหล่านี้
คงไม่ต้องดิ้นรนที่จะมาทำงานในประเทศไทยอีกต่อไป สวนทางกับแรงงานของไทยที่จะลดลง
เพราะฐานประชากรที่มีอายุเกิน 60 ปีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดูแล้วช่างน่าเป็นห่วงจริงๆ เพราะเขาเหล่านั้นคงอยากทำงานในประเทศของเขามากกว่า
ถ้าสามารถหางานทำได้สะดวก และมีรายได้พอใช้ในแต่ละวัน
จะได้ไม่ต้องจากครอบครัวของตนเพื่อมาทำงานที่ประเทศไทย ซึ่งอาจทำให้เขารู้สึกว่าเป็นพลเมืองชั้นสอง เนื้อที่หมดแล้ว
มาตามอ่านบทความตอนหน้า ว่าการที่รัฐให้ลดหย่อนประกันสุขภาพ 15,000 บาทแท้จริงแล้วใครจะได้ประโยชน์กันครับ
กิติชัย เตชะงามเลิศ
21/12/60
ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยเอาเม้าส์ไปทางด้านขวามือจะมีแถบแสดงออกมา แล้วเลือกคลิกไอคอนที่เขียนว่าสมัครรับข้อมูล เมื่อผมมีบทความใหม่ ท่านก็จะทราบทันที
ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/c/KitichaiTaechangamlert
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/c/KitichaiTaechangamlert
หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"
2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน”
3.นิตยสาร Be Link ทุกเดือน
4.นิตยสาร GQ เดือนเว้นเดือน
5.นิตยสาร Me(Market Evolution) วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส
หาอสังหาทั้งถูกและดีเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ได้ที่ http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty
ชีวาทัย เรสซิเดนท์ อโศก (CHEWATHAI RESIDENCE ASOKE) 4 ยูนิต สุดสวย ซื้อมาในรอบ VVIP เจ้าของขายเอง เดิน 5 นาทีจากสถานี MRTพระราม 9 และ 4 นาทีจาก AIRPORT LINK สถานีมักกะสัน ติดกับทางด่วนศรีรัชที่ทางลงรัชดา
พื้นที่ใช้สอยรวม
35.14(28.63+6.51) ตรม. 1ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน
ตกแต่งสวยมาก มี ผ้าม่าน
เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน แอร์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้าฝาหน้า เครื่องอบผ้า Digital TV 40 นิ้ว
เครื่องทำน้ำอุ่น และ Microwave ราคา 4,700,000
บาท หันไปทางทิศเหนือ ไม่มีอะไรบล็อกวิว ไม่ใกล้ห้องขยะ พร้อมปล่อยเช่าในเดือนมกราคม
2561 ค่าเช่าเดือนละ 19,000
ดูวีดีโอได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=Ur4i41afEmU
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น