จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

เศรษฐกิจครึ่งปีหลังจะเป็นอย่างไร

                                          เศรษฐกิจครึ่งปีหลังจะเป็นอย่างไร

          หลังจาก สศช.ประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ออกมา ก็มีหลายหน่วยงานปรับตัวเลขการคาดการณ์ GDP ลงแต่บางหน่วยงานทั้งของรัฐและเอกชนก็ได้ปรับลงไปก่อนหน้านี้ไปแล้ว แต่ที่น่าตกใจก็คือ การปรับลดการคาดการณ์ GDP ไทย โดยเครดิตสวิสซึ่งได้ปรับลดลงจากเดิม 4% เหลือเพียง 2.70% และปรับคาดการณ์เติบโตของการส่งออกของไทย เหลือเพียง 3% จากเดิมที่ 4.5% มิหนำซ้ำยังปรับลดการคาดการณ์ GDP ไทยปี 2557 ลงเหลือ 4.5% จากเดิมที่ 5% โดยเครดิตสวิสให้เหตุผลว่าการใช้จ่ายที่ลดลงของผู้บริโภคโดยเฉพาะครัวเรือนในชนบท และความล่าช้าในการลงทุน แต่มองว่าการส่งออกในครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก ส่วนกรรมการ กนง. บางท่านก็เป็นห่วงเรื่องการลดขนาดมาตรการผ่อนคลายการเงิน QE ของสหรัฐ จะมีผลต่อการลงทุนในเอเชียอีกนาน ดูแล้วมีโอกาสที่การประชุม กนง.ครั้งต่อไป 16 ตุลาคม อาจจะมีเซอร์ไพรส์ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% เพราะว่าครั้งที่แล้ว คำพูดของกนง. ออกมาในโทนเป็นห่วงภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงอยู่ด้วย ก็จะเป็นข่าวดีข่าวหนึ่งท่ามกลางข่าวร้ายมากมายในช่วงนี้ นอกจากนั้นเราคงยังต้องติดตามดูตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐหลายๆ ตัว ที่จะประกาศในเดือนนี้ รวมทั้งตัวเลขอื่นๆ  ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขยอดของรถยนต์ กิจกรรมทั้งภาคการผลิตและบริการ ที่จะทยอยประกาศ ซึ่งจะทำให้เราพอจะคาดเดาว่า FED จะมีการลดเม็ดเงิน QE ลงไหม หรือถ้าลด จะลดมากน้อยแค่ไหน ในเดือนกันยายนนี้ซึ่งจะมีผลต่อเม็ดเงินที่จะเข้ามาลงทุนในไทยด้วย ความเห็นของผมต่อการลดขนาดของมาตรการ QE ถ้าไม่เกิน 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน(ซึ่งไม่น่าจะเกิน) น่าจะไม่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก เพราะว่าเรื่องนี้ได้ถูก Priced in ไปเรียบร้อยแล้ว แต้ถ้าขนาดของเม็ดเงินที่ลดลงมากกว่านี้มากๆ เช่น ลดไป 40,000 ล้านเหรียญ(ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น) คงจะส่งผลให้ตลาดหุ้นมีการปรับตัวลงแน่นอน แต่จะเป็นการลดลงชั่วคราว เพราะว่าถ้า FED ลดขนาดของเม็ดเงินลงมากขนาดนี้ ก็น่าจะแสดงว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในมือ FED น่าจะมีตัวเลขที่ชี้ให้เห็นว่ามีการฟื้นตัว ของเศรษฐกิจสหรัฐอย่างชัดเจน ซึ่งน่าจะทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นได้ ในภายหลัง เพราะว่าในภาวะที่เศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว หุ้นเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนที่สุด เพราะว่าการที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว นั่นหมายความว่ายังมีเวลาอีกหลายปีที่เศรษฐกิจจะขึ้นไปถึงจุดอิ่มตัว ผลประกอบการของบริษัทห้างร้านต่างๆ จะดีขึ้น ทำให้นักวิเคราะห์และนักลงทุนปรับการคาดการณ์ตามไปด้วย และยอมจ่ายเงินซื้อหุ้นที่ระดับ  P/E สูงขึ้น ยิ่งทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นเป็นทวีคูณ หลังจากเศรษฐกิจดีขึ้นราคาหุ้นสูงขึ้น ก็จะมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ทำให้ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์มากขึ้นตามไปด้วย ก็จะเป็นจังหวะที่ควรจะลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์หรือหุ้นของกิจการที่ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ
          วกกลับมาดูเศรษฐกิจไทย ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค) มองว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 น่าจะเป็นจุดที่ต่ำสุดแล้ว เพราะว่ามีตัวเลขเศรษฐกิจบางตัวในเดือนกรกฎาคม เริ่มมีสัญญาณการปรับตัวดีขึ้น เช่น ตัวเลขการส่งออกเดือนกรกฏาคม เริ่มมีสัญญาณการปรับตัวดีขึ้น เช่น ตัวเลขการส่งออกเดือนกรกฎาคมที่ขยายตัว 0.8% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งได้อานิสงค์จากการขยายตัวของการส่งออกหมวดอิเลคทรอนิกส์ ส่วนการนำเข้าเดือนกรกฎาคมขยายตัว 1.10% ซึ่งเกิดจากการนำเข้าสินค้าประเภทวัตถุดิบที่ขยายตัวมากถึง 12.50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 2.50% จากเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แสดงว่าผู้ผลิตไทยน่าจะได้รับออร์เดอร์จากลูกค้ามาแล้ว จึงมีการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อมาใช้ในการผลิตเพื่อส่งออกและจำหน่ายในประเทศมากขึ้น ตัวเลขการบริโภคภาคเอกชนถึงแม้ยอดการจัดเก็บภาษี VAT ณ ราคาคงที่ในเดือนกรกฎาคมจะหดตัวลง 1.90% แต่ถ้าเจาะลึกลงไปจะเห็นว่า VAT บนฐานการบริโภคในประเทศยังขยายตัวเป็นบวกถึง 5.50% แต่ที่ขยายตัวติดลบ คือ VAT จากการนำเข้าโดยติดลบถึง 9.30% ส่วนปัจจัยที่น่าเป็นห่วงก็คือหมวดพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมัน ถ้าสหรัฐซีเรียจริง ก็จะทำให้ราคาน้ำมันโลกสูงขึ้นทันที เมื่อมารวมกับการขึ้นราคาของก๊าซ LPG ในประเทศ ก็อาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของเราสูงขึ้น แต่โชคดีที่เงินเฟ้อของเราช่วงนี้ค่อนข้างต่ำจึงไม่น่าจะส่งผลกระทบมากมายนัก ความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท) เองก็สอดคล้องกับการ สศค. ที่เห็นว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะทยอยปรับตัวดีขึ้นในครึ่งปีหลัง ส่วนรายงานภาวะอสังหาริมทรัพย์ในเขต. กรุงเทพฯและปริมณฑล ในเดือนกรกฏาคมยังมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่องทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน คุณอนันต์ อัศวโภคิน แห่งแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ก็เพิ่งให้สัมภาษณ์ว่าภาวะอสังหาครึ่งปีหลังจะชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก
          ส่วนตลาดหุ้นบ้านเรา น่าจะมีจุดต่ำสุดไม่ต่ำกว่า 1,250-1,260 จุด ยกเว้นแต่จะมีข่าวร้ายใหม่ๆ หรือ พรบ. 2 ล้านล้านบาท ซึ่งผมเชื่อว่าจะผ่านสภาได้แน่นอน แต่ไปตกม้าตายที่ศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าศาลตีความว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ พรบ.นี้ก็จะตกไป ตลาดหุ้นไทยก็คงลงไปอีกรอบเป็นแน่

                                                                                                                                             กิติชัย เตชะงามเลิศ
                                                                                          17/9/56
หนังสือ "จาก 1 ล้านเป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร" ยอดขายขื้นอันดับหนื่งตั้งแต่วันแรกจำหน่ายและครองอันดับ 1 ติดต่อกันมานาน

ติดตามแนวทางการลงทุนของผมได้ที่ 
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk 
Youtube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Blog :  http://kitichai1.blogspot.com

หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 หรือหน้า B10 และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Stock Review, Me(Market Evolution), Glow และ Lisa  ทุกเดือน
     

สนใจซื้ออสังหาเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ลองเข้า http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty

ขายดาวน์คอนโดสุขุมวิทลีฟวิ่งทาวน์ อโศก เดิน 2 นาที จากรถไฟใต้ดินเพชรบุรี, 8 นาทีจากสถานีแอร์พอร์ตลิ้ง และ 1 นาทีจากท่าเรือเพชรบุรี ราคาต่ำกว่าโครงการสุด ๆ

          โครงการ มี 36ชั้น 453 ยูนิต ที่จอดรถ 540 คัน   มี สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย และห้องล็อคเกอร์ ซาวน่า สตีม แยกชายหญิง
            ห้องเลขที่ 299/40(502) ชั้น 5 แบบห้องเอ เนื้อที่ 60 ตารางเมตร ไม่มีตึกบัง ราคา 4,800,000 บาท มี   1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ  1ห้องรับแขก เฟอร์นิเจอร์บางส่วน พร้อมเครื่องปรับอากาศ  2 เครื่อง รวมทั้งที่จอดรถ 1 คัน ห้องหันทิศเหนือ ให้เช่าห้อง 22,000 บาท/เดือน โครงการใกล้กันขนาดเท่ากัน ขายกันที่ 9,000,000 บาท

ดู VDO ที่ผมถ่ายภายในห้อง ที่ http://youtu.be/MejmuRp3pGQ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น