จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ก.ส.ท. คิดผิดคิดใหม่ได้ (ตอนจบ)



                                          ก.ส.ท. คิดผิดคิดใหม่ได้ (ตอนจบ)

      เมื่อสัปดาห์ก่อนที่ผมเขียนบทความชื่อ ก.ส.ท. คิดผิดคิดใหม่ได้ (ตอนที่1)” หลังจากนั้น 2 วัน ก็บังเอิญท่านนายกได้มอบหมายให้ท่านรองสมคิดให้เข้ามาดูแลปัญหานี้ แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในด้านต่างๆเป็นอย่างดี โอกาสที่ THAILAND 4.0 เป็นจริงคงมีมากขึ้น
       ธุรกิจต่างๆในประเทศไทยเรา ก็อยู่ในการแข่งขันแบบเสรีไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการ การที่รัฐจะปล่อยให้มีการผูกขาดบริการใช้มอเตอร์ไซด์รับจ้างให้เป็นของวินที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นไม่น่าจะถูกต้อง ในเมื่อมีเอกชนที่มาเปิดให้บริการที่สามารถจะอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในราคาที่ถูกกว่า แถมบริการดีและสะดวกกว่า รวมทั้งยังมีความปลอดภัยมากกว่า เพราะบริการเอกชนดังกล่าวได้มีการเก็บประวัติการเดินทางทุกเที่ยวว่าใครขับให้ใคร สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน กรณีที่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ในขณะที่วินมอเตอร์ไซด์ไม่มีการบันทึกเลย ผู้โดยสารเองก็สามารถติดต่อกับผู้ขับขี่ และในทางกลับกัน ผู้ขับขี่ก็สามารถจะทราบเบอร์โทรของผู้โดยสารด้วยเช่นกัน
          ในเมื่อ ก.ส.ท.อ้างว่าผู้ขับขี่ในระบบ APP ดังกล่าวไม่ได้ขึ้นทะเบียน เอาอย่างนี้ดีไหมครับ ทาง ก.ส.ท.ก็อนุญาตให้ผู้ขับขี่ในระบบ APP เหล่านี้นำรถที่จะนำมาให้บริการไปจดทะเบียนเป็นรถรับจ้าง และให้ผู้ขับขี่เหล่านี้เข้าไปสอบใบอนุญาตขับขี่สาธารณะ และเมื่อผู้ขับขี่ได้ปฎิบัติตามขั้นตอนดังกล่าวแล้ว ก็สามารถที่จะมาสมัครเป็นผู้ให้บริการในระบบ APP โดยบริษัทที่ให้บริการระบบ APP จะต้องเป็นผู้ตรวจสอบ ผู้ขับขี่ที่จะมาเข้าในระบบ APP ว่าได้ปฏิบัติตามขั้นตอนครบถ้วนแล้ว ถ้ามีผู้ขับขี่ที่ไม่ผ่านกฎเกณฑ์ดังกล่าวมาให้บริการ ทางการเองสามารถเอาผิดได้ทั้งตัวผู้ขับขี่ และบริษัทดังกล่าว เท่านี้เอง ประชาชนก็จะได้มีทางเลือกของบริการที่ดีขึ้น เพราะว่าระบบ APP ดังกล่าวจะมีการให้ผู้โดยสารสามารถที่จะให้ดาวกับผู้ขับขี่จาก 1 ดาว ถึง 5 ดาว รวมทั้งยังสามารถส่ง Feed Back ในกรณีที่ผู้ขับให้บริการไม่ดี ทำให้ผู้ขับขี่เองต้องพยายามให้บริการที่ดี เพื่อจะได้ดาวมากๆ ซึ่งจะมีผลทำให้ผู้ขับขี่รายนั้นจะมีโอกาสได้รับงานมากกว่าคนอื่น รวมทั้งผู้ขับขี่ที่ได้รับดาวในระดับ 4-5 ดาว จะได้สิทธิประโยชน์พิเศษอื่นๆ จากบริษัท เช่น การเดินทางท่องเที่ยว เป็นต้น นี่ยังไม่รวมสวัสดิการ และการทำประกันอุบัติเหตุให้ทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสารอีก หรือ ก.ส.ท.จะปล่อยให้ประชาชนตาดำๆ ที่ขึ้นวินมอเตอร์ไซด์ ต้องอาศัยบุญ และกรรม ของตนเองอย่างนั้นหรือ กฎระเบียบที่ล้าหลังก็ต้องแก้ไขให้ทันยุคสมัย ไม่ใช่ตัดสินปัญหาโดยอ้างกฎระเบียบเดิมๆ ส่วนวินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ถ้าอยากจะมาเข้าให้บริการในระบบ APP ผมเชื่อว่าบริษัทเหล่านี้คงยินดีอ้าแขนต้อนรับเต็มที่ เพราะเท่าที่ทราบ ผู้ขับขี่หลายรายที่อยู่ในระบบ APP ก็เป็นวินมอเตอร์ไซด์อยู่แล้ว เป็นการเปิดเสรี ทั้งผู้ขับขี่ และ ผู้โดยสารอย่างแท้จริง
      แล้วในที่สุดก็จะมีการแข่งขันในการให้บริการระหว่าง APP กับวินมอเตอร์ไซค์ ก็จะทำให้การเรียกเก็บค่าบริการจนเกินไปของวินมอเตอร์ไซค์ลดลง ก็จะเป็นผลประโยชน์ตอ่ผู้โดยสาร อย่าลืมนะครับ ภาวะหนี้ครัวเรือนของประเทศไทยเราสูงเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนเลย อย่างน้อยจุดนี้ก็จะเป็นรายได้เสริมส่วนหนึ่งของผู้ขับขี่ที่อยู่ในระบบ APP ซึ่งจะช่วยผ่อนเบาภาระค่าครองชีพของเขาเหล่านั้น คนที่มีหนี้อยู่ก็จะสามารถนำรายได้เสริมไปชำระหนี้ นอกจากนั้นสรรพากรยังสามารถที่จะตามเก็บภาษีผู้ขับขี่ที่อยู่ในระบบ APP ได้อีกด้วย ในขณะที่วินไม่ได้จ่ายภาษีเลย เห็นอย่างนี้แล้วก.ส.ท.ยังกล้าที่จะปกป้องวินโดยอ้างกฏระเบียบโบราณอยู่อีกกระนั้นหรือ 


กิติชัย เตชะงามเลิศ
       31/5/59

ก.ส.ท. คิดผิดคิดใหม่ได้ (ตอนที่1) http://kitichai1.blogspot.com/2016/05/1_27.html

  
      ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
 Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
 Twitter : http://twitter.com/value_talk
 Instagram : Gid_Kitichai
 Blog : http://kitichai1.blogspot.com
 You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
 Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
 Linkedin : https://www.linkedin.com/in/homeproperty
 Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/

     หรือ
1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า A10 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"
2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน”
3.นิตยสาร Condo Guide ทุกเดือน
4.นิตยสาร คนรวยหุัน  Me(Market Evolution) และ วารสารเภตรา ทุกไตรมาส



           

วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ก.ส.ท. คิดผิดคิดใหม่ได้ (ตอนที่1)

                                           ก.ส.ท. คิดผิดคิดใหม่ได้ (ตอนที่1)

           สัปดาห์ที่แล้วมีข่าวเรื่องกรมการขนส่งทางบกได้ประชุมหารือร่วมกับกองพลที่รักษาพระองค์กองบัญชาการตำรวจนครบาล ฝ่ายเทศกิจเขตปทุมวัน และบริษัทผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นสำหรับเรียกรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล GRAB BIKE และ UBERMOTO เพื่อชี้แจงกฎระเบียบและประเด็นปัญหาที่ขัดต่อกฎหมายที่ ก.ส.ท. มีหน้าที่กำกับดูแล หลังจากที่คลิปที่ฮือฮาใน Youtube ที่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโต้เถียงกับมอเตอร์ไซด์รับจ้างหน้าหอพักแห่งหนึ่งใกล้มหาวิทยาลัยที่นิสิตคนนั้นไม่ใช้บริการวินมอเตอร์ไซด์เพราะว่าไม่เห็นมอเตอร์ไซด์วินในบริเวณนั้นซึ่งเคยใช้บริการเป็นประจำ แต่พอใช้ APP เรียกมอเตอร์ไซด์มารับ วินเจ้าถิ่นก็ขี่รถกลับมาที่วินพอดี จึงมีการทะเลาะกัน ตามที่เราได้เห็นกันในคลิปดังกล่าว
         โดยผลสรุปจากที่ประชุมคือ การให้บริการแอปพลิเคชั่น GRAB BIKE และ UBERMOTO เข้าข่ายผิดกฎหมายจึงขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายยุติการให้บริการทันที หากยังฝ่าฝืนจะถูกดำเนินตามกฎหมาย ดูแล้วการแก้ปัญหาของระบบราชการก็ยังเป็นเต่าล้านปี ไม่ดูว่าโลกยุคนี้มีสิ่งที่จะอำนวยความสะดวกแก่ผู้คนมากมาย หลังจากที่ Smart Phone ได้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย จริงๆแล้วระบบราชการมีไว้เพื่อดำรงความผาสุกให้แก่ประชาชน สร้างความสงบเรียบร้อยให้แก่คนในชาติ รวมทั้งอะไรที่จะทำให้เกิดความสะดวกสบายแก่ประชาชน ล้วนแต่เป็นหน้าที่ที่จะต้องทำ นอกจากไม่ทำแล้วยังกลับดำเนินการสวนนโยบายชองรัฐบาลชุดปัจจุบันที่จะนำประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่ THAILAND 4.0 ให้ทันกับประชาคมโลก อนึ่ง ประเทศไทยได้เปลี่ยนผ่านจาก Thailand 1.0 ที่เน้นภาคการเกษตร ไปสู่ Thailand 2.0 ที่เน้นภาคอุตสาหกรรม และก้าวไปสู่ Thailand 3.0 ที่เน้นอุตสาหกรรมหนักในปัจจุบัน โดย Thailand 3.0 ส่งผลให้เราต้องเผชิญกับ 1.กับดักประเทศรายได้ปานกลาง 2.กับดักความเหลื่อมล้ำ 3.กับดักความไม่สมดุลของการพัฒนา โดย Thailand 4.0 จะเป็นการค้นหา New Engines of Growth เครื่องยนต์สร้างการเจริญเติบโตตัวใหม่ ที่จะสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนให้กับประเทศไทยในศตวรรษที่ 21 ซื่ง SHARING ECONOMY และ LOGISTICS ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้
กลับมาที่เรื่องวินมอเตอร์ไซด์ในระบบเดิมๆ กับผู้ให้บริการ APP เรียกรถจากอดีตที่ประชาชนไม่มีทางเลือกมากนัก มีเพียงวินมอเตอร์ไซด์ เมื่อต้องการใช้มอเตอร์ไซด์รับจ้าง ซึ่งหลายๆวินคิดค่าบริการที่ไม่สมเหตุสมผล โดยเฉพาะอย่ายิ่งวินที่อยูในย่าน CBD เมื่อต้นปีที่แล้ว(ขณะนั้นยังไม่มีการให้บริการ GRAB BIKE และ UBERMOTO) ผมเคยใช้บริการวินมอเตอร์ไซด์จากบริเวณปากซอยสุขุมวิท ซอย 2 ไปโรงแรมแชงกริลา ผมต้องจ่ายถึง 150 บาท จากการต่อราคาที่พี่วินเรียกมาตอนแรกที่ 200 บาท เนื่องจากวันนั้นการจราจรติดขัดมาก และเป็นราคาที่วินมอเตอร์ไซด์ยังไม่ค่อยพอใจเสียด้วย ขณะที่ผมทดลองใช้ APP ในปัจจุบันดู ปรากฎว่าค่าบริการที่เรียกเก็บ เพียง 49 บาทเท่านั้น ค่าบริการที่ต่างกันถึง 3 เท่าเลยทีเดียว หรือเราจะปล่อยให้วินมอเตอร์ไซด์ที่ผูกขาดการให้บริการมอเตอร์ไซด์รับจ้างขูดรีดค่าบริการแบบนี้ ทั้งๆที่ ก.ส.ท. ให้กำหนดอัตราค่าบริการที่จะเรียกเก็บกับผู้โดยสาร แต่ทางปฏิบัติก็ไม่สามารถควบคุมค่าบริการได้อย่างทั่วถึง มิเช่นนั้นผมคงไม่โดนฟันหัวขาดมาหลายๆครั้งแล้ว เสียดายเนื้อที่หมดแล้ว มาอ่านตอนต่อไปในบทความหน้ากันครับ ซึ่งผมจะเสนอแนะแนวทางที่จะช่วยให้ WIN WIN WIN WIN WIN ทั้งก.ส.ท. วินมอเตอร์ไซด์ ผู้ให้บริการ APP ผู้ขับขี่ที่ให้บริการในระบบ APP และประชาชนผู้ใช้บริการ

กิติชัย เตชะงามเลิศ
       25/5/59
  
      ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
 Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
 Twitter : http://twitter.com/value_talk
 Instagram : Gid_Kitichai
 Blog : http://kitichai1.blogspot.com
 You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
 Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
 Linkedin : https://www.linkedin.com/in/homeproperty
 Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/

     หรือ
1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า A10 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"
2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน”
3.นิตยสาร Condo Guide ทุกเดือน
4.นิตยสาร คนรวยหุัน  Me(Market Evolution) และ วารสารเภตรา ทุกไตรมาส

วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ภาษีกับแอลกอฮอล์ ตอนที่ 1



                                                            ภาษีกับแอลกอฮอล์ ตอนที่ 1 


            ช่วงนี้มีเรื่องราวที่ผมอยากเขียนถึงมากมาย ต่างกับบางช่วงที่ไม่รู้จะเขียนถึงเรื่องอะไรดี บทความนี้ผมยังคงวนเวียนอยู่กับเรื่องภาษีกับเครื่องดื่ม ล่าสุดสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้ให้ความเห็นชอบรายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการส่งรายงานให้คณะกรรมการร่วม 3 ฝ่ายที่มี สปท. สนช. และครม. เพื่อพิจารณาอีกครั้ง ในระหว่างนี้สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทยได้ทักท้วงและคัดค้านอย่างรุนแรง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่คาดหมายได้อยู่แล้ว ถ้าหน่วยงานของรัฐไม่ออกกฎหมายนี้ คนไทยก็จะถูกห้อมล้อมด้วยอาหารและเครื่องดื่มที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพ ยิ่งนิสัยของคนไทยที่ติดหวานด้วยแล้ว ผมจึงอยากจะเห็นกฎหมายนี้ออกมาเร็วๆเสียด้วยซ้ำ
            นอกจากเรื่องภาษีกับน้ำตาลในเครื่องดื่มแล้ว เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ควรจะเป็นเรื่องต่อไปที่อยากจะฝากให้ทางกมธ. ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมช่วยดูแลและผลักดันเป็นเรื่องต่อไป เคยสังเกตกันไหมครับว่าเรามีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นากการเมาสุรามากแค่ไหน ผมค้นสถิติล่าสุดจาก www.worldatlas.com พบว่าสถิติการตายจากอุบัติเหตุบนท้องถนนต่อจำนวนประชากร 1 แสนคน ไทยเราเป็นประเทศที่ติดอันดับที่ 2 ของโลกคือ มีการตายจากอุบัติเหตุบถนนสูงถึง 38.1คน ต่อประชากร 1 แสนคน ในขณะที่ประเทศที่มาเป็นอันดับที่ 1 คือ Dominican Republic มีตัวเลขสูงถึง 41.7 ในขณะที่มาเลเซียอยู่ที่ 25 ทั้งๆที่มาเลเซียเป็นประเทศที่มีอัตราการครอบครองยานพาหนะต่อประชากร 1,000 คนอยู่ที่ 361 ขณะที่ไทยอยู่ที่ 206 เท่านั้น (ข้อมูลจาก WIKIPEDIA.ORG) แปลกดีนะครับ ทั้งๆที่ไทยเราได้สมญานามเป็น Detroit of Asia แต่ปริมาณการครอบครองยานพาหนะน้อยกว่ามาเลเซียเกิน 40% เสียอีก
            เป็นเรื่องที่เราคนไทยต้องยอมรับกันนะครับว่า คนไทยเป็นคนที่ไร้ระเบียบวินัย ขาดความรับผิดชอบ มีสำนึกการอยู่ร่วมกันในสังคมต่ำ ดังนั้นถ้ารัฐไม่ออกกฎระเบียบ หรือกฎหมายรวมทั้งมาตรการต่างๆมาช่วยกำกับดูแล สังคมไทยก็จะยังเป็นแบบนี้อีกนาน เรามาดูคนสิงคโปร์กันหน่อยครับ จากก่อนหน้านี้ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของประเทศมาเลเซีย ตราบจนกระทั่งวันที่ 9 สิงหาคม 2508 จึงได้แยกตัวเป็นประเทศเอกราช ในสมัยนั้นคนสิงคโปร์เองก็เป็นคนที่ไร้ระเบียบวินัย ขาดความรับผิดชอบ และมีสำนึกในการอยู่ร่วมกันในสังคมต่ำคล้ายๆกับคนไทยเรา อาจจะแย่กว่าคนไทยในปัจจุบันด้วยซ้ำ ขากถุยเรี่ยราดบนถนน แล้วรัฐบาลของสิงคโปร์โดย พณ. ท่านลีกวนยู ก็มาบริหารประเทศ จัดการบ้านเมืองได้อย่างเรียบร้อย ตั้งกฎระเบียบมากมาย ทำให้คนสิงคโปร์ในปัจจุบันเป็นชาติที่มีระเบียบวินัย ถนนหนทางสะอาดสะอ้าน และเมื่อดู The Asian Green Index ที่เปรียบเทียบนโยบาย และสิ่งแวดล้อมจากเมืองชั้นนำของ ASIA  ที่จัดทำโดยกลุ่ม SIEMENS  ปรากฎว่า สิงคโปร์เป็นประเทศเดียวที่ได้รับการจัดอันดับขั้น Well Above Average ในขณะที่ฮ่องกง โตเกียว โซล ยังได้แค่ Above Average ขณะที่กรุงเทพเราได้เพียงแค่ Average เท่านั้น ผมย้ำนะครับว่า นี่ขนาดสิงคโปร์เป็นประเทศเกิดใหม่ มีอายุไม่ถึง 51 ปีเสียด้วยซ้ำ นึกถึงทีไร ก็อดอิจฉาคนสิงคโปร์ไม่ได้ ที่มีผู้นำดีๆ ที่เรียกได้เต็มปากว่าเป็นรัฐบุรษจริงๆ นี่ถ้าเราสลับตัวนายกไทยในอดีตไปบริหารสิงคโปร์ แล้วเราได้ท่านลีกวนยูมา เมืองไทยเราคงเจริญผิดหูผิดตา มีระเบียบเรียบร้อยเป็นแน่ แล้วสิงคโปร์จะเป็นอย่างไร ก็ดูประเทศไทยในปัจจุบันเอาแล้วกันครับ
            กลับมาเรื่องแอลกอฮอล์กันครับ ผมสังเกตุว่าเหตุการณ์ฆ่าคนตาย หรือทำร้ายร่างกายที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีแฮลกอฮอล์ และของมึนเมาชักถี่ขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดคดีวัยรุ่นหลายคนร่วมกันรุมทำร้าย และฆ่าชายพิการ โดยที่แฟนสาวของวัยรุ่นกลุ่มนั้น ยังพูดเชียร์  ฆ่ามันเลยซึ่งต่อมาถูกตำรวจจับได้ และให้การสารภาพว่าทำไปด้วยความเมาสุรา แล้วตำรวจก็เอาขนมปังของร้านที่ชายพิการทำงานด้วยมาให้ทาน(เพื่ออะไร?) และกลุ่มวัยรุ่นที่ทำร้ายครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่หัวหิน ซึ่งหลายๆท่านคงได้ผ่านตาใน YOUTUBE  กันแล้ว หลังจากถูกจับได้ ก็สารภาพว่าทำไปด้วยความเมาสุรา (อีกแล้ว!) ซึ่งครอบครัวชาวอังกฤษให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า จะไม่กลับมาเมืองไทยอีกต่อไปตลอดชีวิต เหตุการณ์และบทสัมภาษณ์นี้คงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยไม่มากก็น้อย แหม ! เสียดายเนื้อที่หมดแล้ว เอาไว้ต่อบทความหน้ากันครับ

ภาษีกับแอลกอฮอล์(ตอนที่ 2)   http://kitichai1.blogspot.com/2016/06/2.html
ภาษีกับแอลกอฮอล์(ตอนจบ)    http://kitichai1.blogspot.com/2016/06/blog-post.html

กิติชัย เตชะงามเลิศ
      20/5/59
  

      ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่

 Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
 Twitter : http://twitter.com/value_talk
 Instagram : Gid_Kitichai
 Blog : http://kitichai1.blogspot.com
 You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
 Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
 Linkedin : https://www.linkedin.com/in/homeproperty
 Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/
     หรือ

1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า A10 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"
2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน”
3.นิตยสาร Condo Guide ทุกเดือน
4.นิตยสาร คนรวยหุัน  Me(Market Evolution) และ วารสารเภตรา ทุกไตรมาส



ขายดาวน์คอนโด ริทึ่ม (RHYTHM) รางน้ำ 2 นาที จาก BTS สถานีอนุสาวรีย์ชัย 5 ยูนิตสุดสวย ราคาพิเศษ
               รายละเอียดโครงการ  ขนาด 1-3-93 ไร่ 28 ชั้น ห้องพักอาศัย 385 ยูนิต ร้านค้า 1 ร้าน ที่จอดรถ 171 คัน (ไม่รวมซ้อนคัน) = 44%
-สวน KARESANSUI และ READING GARDEN ชั้น G และชั้น 6
-สระว่ายน้ำแบบ INFINITY EDGE 180 องศา
- SKY FITNESS และ STEAM ROOM ที่ชั้น 27-28
- Sinking fund = 450/Sqm., Common fee = 58/Sqm. .
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ มีค. 2561



               ห้องที่จะขาย
                              1. A08B02 ชั้น 8 1 ห้องนอน 1ห้องน้ำ 35 ตรม. เฟอร์นิเจอร์บางส่วน หันไปทางทิศเหนือ วิวสวนสวยมาก ไม่ใกล้ลิฟต์ และห้องขยะ  ราคา 6,400,000 บาท
                              2. A09B02 ชั้น 9 1 ห้องนอน 1ห้องน้ำ 35 ตรม. เฟอร์นิเจอร์บางส่วน หันไปทางทิศเหนือ วิวสวนสวยมาก ไม่ใกล้ลิฟต์ และห้องขยะ  ราคา 6,450,000 บาท
                              3.A16A16 ชั้น 16 แบบ STUDIO  28 ตรม. เฟอร์นิเจอร์บางส่วน หันไปทางทิศใต้ ลมเย็นตลอดปี ไม่ใกล้ลิฟต์ วิวสวย ไม่โดนบล็อกวิว ราคา 5,400,000 บาท
                              4.A18B10 ชั้น18 1 ห้องนอน 1ห้องน้ำ 35 ตรม. เฟอร์นิเจอร์บางส่วน หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ รับลมตลอดทั้งปี วิวสวย ไม่โดนบล็อกวิว ไม่ใกล้ลิฟต์ และห้องขยะ  ราคา 6,700,000 บาท
                              5.A20B10 ชั้น 20 1 ห้องนอน 1ห้องน้ำ เฟอร์นิเจอร์บางส่วน หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ รับลมตลอดทั้งปี วิวสวย ไม่โดนบล็อกวิว ไม่ใกล้ลิฟต์ และห้องขยะ  ราคา 6,800,000 บาท

รีวิวคอนโด ริทึ่ม รางน้ำ(Rhythm Rangnam) https://www.youtube.com/watch?v=YHWeVkKek94