จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สงครามทีวีดิจิตอล

                                                      สงครามทีวีดิจิตอล

                                     



          วงการทีวีบ้านเรา เริ่มต้นจากทีวีขาวดำ ซึ่งสมัยนั้นมีจำนวนช่องน้อยกว่าฟรีทีวีในปัจจุบัน คนไทยสมัยก่อนจะมานั่งรวมกันที่ห้องรับแขกนั่งดูทีวีร่วมกัน ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวไทยสมัยนั้นจะแนบแน่นกันมาก ยิ่งถ้าเป็นต่างจังหวัดแล้ว บางหมู่บ้านมีแค่บ้านบางหลังเท่านั้นที่มีทีวีดูกัน เพื่อนบ้านที่ไม่มีทีวีก็จะมาขอร่วมวงดูทีวีกัน ยิ่งถ้ามีการแข่งขันกีฬาโดยเฉพาะฟุตบอลนัดสำคัญที่ทีมชาติไทยแข่งกับชาติอื่น บ้านหลังที่มี TV ต้องเตรียมปูเสื่อต้อนรับเพื่อนบ้าน มีการเชียร์เป็นที่สนุกสนาน จนก้าวเข้ามาสู่ Generation ที่เป็นทีวีสี จำนวนช่องฟรีทีวีก็มีมากขึ้น ระดับรายได้ของคนไทยที่สูงขึ้นกอรปกับราคาเครื่อง TV สี ปัจจุบันในบ้านเรามีราคาถูกลงมาก ทำให้ปัจจุบันหลายๆ บ้านมีทีวีมากกว่า 2 เครื่อง ผมเองอยู่คนเดียวยังมีทีวี 3 เครื่องในห้องนอน ห้องทำงาน และห้องรับแขก ขนาดของทีวีสมัยก่อน 29 นิ้วก็นับว่าจอใหญ่แล้ว ปัจจุบันทีวีมีขนาดถึง 84 นิ้วแล้ว เป็นโชคดีของเด็กรุ่นใหม่ ซึ่งเด็กเหล่านี้เกิดมาพร้อมกับทีวีสี ไม่รู้จักหน้าตาของทีวีขาวดำกัน ผมคิดว่าราคาทีวีที่บ้านเราคงจะถูกกว่าราคาทีวีในกลุ่มประเทศเอเชียใต้ เพราะว่าผมเห็นคนอินเดียที่มาเที่ยวบ้านเรา ขนทีวีกลับบ้านเขากันคนละเครื่อง 2 เครื่อง น่าดีใจแทนผู้ผลิตทีวีในประเทศของเรา ที่เกริ่นมาตั้งนานก็เพราะว่าบทความสัปดาห์นี้ ผมอยากจะเขียนถึงเรื่องการประมูลทีวีดิจิตอลที่จะเริ่มทำการประมูลกันในวันที่ 26-27 ธันวาคมนี้ โดย กสทช. กำหนดให้มีการประมูลช่องเอชดี 7 ช่อง เวลา 8.00-14.00น.วาไรตี้อีก7 ช่องเวลา 14.00-20.00 น. ในวันที่ 26 ธันวาคมนี้ ส่วนวันที่ 27 ธันวาคมจะประมูลช่องข่าว 7 ช่องเวลา 8.00-14.00น. และช่องเด็กอีก 3 ช่อง เวลา 14.00-20.00 น. โดยใบอนุญาตทุกใบมีอายุ 15 ปี รวมจำนวนช่องที่ประมูล 24 ช่อง โดยมีผู้เข้าร่วมประมูลช่องเอชดีรวม 9 ราย ช่องวาไรตี้ 16 ราย ช่องข่าว 10 รายและช่องเด็ก 6 ราย  และช่องเอชดีมีราคาเริ่มต้นที่ 1,510 ล้านบาท ช่องวาไรตี้มีราคาเริ่มต้นที่ 380 ล้านบาท ช่องข่าวมีราคาเริ่มต้นที่ 220 ล้านบาท และช่องเด็กมีราคาเริ่มต้นที่ 140 ล้านบาท จะเห็นได้ว่าช่องที่จะขับเคี่ยวกันมากที่สุดน่าจะเป็นช่องวาไรตี้ที่มีช่องสำหรับการประมูลเพียง 7 ช่องแต่ผู้เข้าร่วมประมูลถึง 16 ราย ซึ่งผู้เข่าร่วมประมูลส่วนใหญ่ก็เป็นหน้าเดิมเกือบทั้งหมด คือ ทั้งที่รายที่เป็นผู้ให้บริการฟรีทีวีในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นช่อง 3,7,9 รวมทั้งกลุ่มเคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม กลุ่มหนังสือพิมพ์ และกลุ่ม Content Provide เช่น Grammy RS เนชั่น อมรินทร์การพิมพ์ โพสต์พับบลิชชิ่ง เวิร์คพอยท์ ไทยรัฐ เป็นต้น โดยเฉพาะกลุ่ม Content Provider เป็นกลุ่มที่เคยเจ็บช้ำน้ำใจ เป็นกลุ่มที่ต้องกินน้ำใต้ศอกของเจ้าของสถานีฟรีทีวีในปัจจุบัน ที่บางครั้งรายการถูกปลดออกจากผังรายการไปเสียดื้อๆ ผลิตรายการหรือละครออกมาแล้วไม่มีช่องที่จะออนแอร์ได้หรือได้ช่วงเวลาที่ไม่ค่อยดี กลุ่มนี้ได้หันมาทำทีวีดาวเทียมกันแล้วส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็น แกรมมี่ RS ซึ่งมีหลายช่องเลยทีเดียว รวมทั้ง เวิร์คพอยท์ เนชั่น ฯลฯ การประมูลคงจะสู้กันดุเดือดเป็นแน่ อย่างไรก็ตามก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับรายที่ประมูลได้ ซึ่งบริษัทเหล่านี้ก็จะมีค่าใช้จ่ายจากจำนวนเงินที่ประมูลรวมทั้งค่าเช่าโครงข่าย ซึ่งก็มีผู้ที่พร้อมจะให้บริการอยู่หลายราย ซึ่งราคาค่าเช่าของแต่ละรายจะไม่เท่ากัน ดูเหมือนว่าค่าเช่าโครงข่ายของอสมท.จะแพงที่สุด ในขณะที่ของไทยพีบีเอสจะราคาถูกที่สุด ผมไม่ทราบว่าราคาที่แตกต่างกันเป็นเพราะคุณภาพของโครงข่ายและหรือการเข้าถึง Eyeballs  มากกว่ากันหรือไม่อย่างไร แต่สิ่งที่ผมมั่นใจก็คือ ราคาค่าโฆษณาจากนี้ไป คงจะถูกลงโดยเฉพาะช่องฟรีทีวี เพราะว่าจะมีช่องทีวีดิจิตอลเกิดใหม่ถึง 48 ช่อง โดย 24 ช่องเป็นเพื่อธุรกิจ และอีก 24 ช่องที่เหลือจะเป็นช่องเพื่อสังคม เมื่อจู่ๆ มี Supply มากขึ้นจาก 6 ช่องเป็น 30 ช่อง (นับเฉพาะช่องธุรกิจ) เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ช่องฟรีทีวีเดิมที่เคยรับบทเป็นโดมผู้จองหอง คงจะต้องรับบทตรงกันข้ามแล้ว จากที่ Content Provider และเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ จะซื้อเวลาโฆษณาแทบจะต้องกราบกรานเพื่อจะได้เวลาในช่วง Prime time และยังต้องจ่ายค่าโฆษณาที่แพงขึ้นเกือบทุกปี หลังการประมูลสัก 1-2 ปี เมื่อช่องทีวีดิจิตอลเข้าถึงผู้ชมทางบ้านได้มากกว่า 90% ขึ้นไป เวลานั้นเราจะเห็นค่าโฆษณาที่ถูกลง และนับจากเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าที่เราจะได้ดูช่องทีวีดิจิตอลกันแล้ว กลุ่ม Content Provider คงจะกลายเป็นตัวเงินตัวทองขึ้นมาเลยทีเดียว เพราะว่า 24 ช่องใหม่คูณกับจำนวนชั่วโมงที่ออนแอร์ สมมติว่าออนแอร์ช่วง 05.00-01.00 คิดเป็นวันละ 20 ชั่วโมง นั่นหมายความว่า ช่องทีวีดิจิตอลใหม่ต้องการ Content สำหรับออนแอร์ถึงวันละ 480 ชั่วโมง อาทิตย์ละ 3,360 ชั่วโมง คิดแล้วเห็นทีคงต้องไปขอร่วมทุนกับบริษัทที่ผลิต Content ดีๆ ขนาดเล็กสัก 2-3 บริษัท เอาไว้ป้อนช่องทีวีเกิดใหม่เหล่านี้แล้วล่ะครับ
กิติชัย เตชะงามเลิศ
                                                                                          18/12/56
หนังสือ "จาก 1 ล้านเป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร" ยอดขายขื้นอันดับหนื่งตั้งแต่วันแรกจำหน่ายและครองอันดับ 1 ติดต่อกันมานาน

ติดตามแนวทางการลงทุนของผมได้ที่ 
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk 
Youtube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Blog :  http://kitichai1.blogspot.com
Instagram : Gid_Kitichai

หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 หรือหน้า B10 และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Stock Review, Me(Market Evolution), Glow และ Lisa  ทุกเดือน
     

สนใจซื้ออสังหาเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ลองเข้า http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty
ขาย SMART TV Samsung UA40ES6220RXXT ซีรีส์ 6 3D 40นิ้ว ลดพิเศษ แค่ 20,000 บาทเท่านั้น(Power Buy ขายราคา 29,900 บาท)
Smart TV Samsung UA40ES6220RXXT 3D 40 inches only 20,000 baht.

ผลิตภัณฑ์ TV ซัมซุง Samsung UA40ES6220RXXT
LED แบบบาง ซีรีส์ 6 ซีรี่ส์ 3D 40นิ้ว
·          
·         


·         ข้อมูลจำเพาะ / Specifications:

·         สเปกสินค้า
ภาพ
* ดีไซน์แบบ Cystal Design เอกสิทธิเฉพาะของซัมซุง สะท้อนถึงความหรูหรา สง่างาม
* จอภาพแบบ Full HD ความละเอียดภาพระดับ 1920x1080 จุด
* เทคโนโลยี 3D TV เปิดประสบการณ์มันส์ ทะลุจอ
* เทคโนโลยี HyperReal Engine ช่วยปรับปรุงคุณภาพ รายละเอียด ความคมชัด ของภาพให้ดีที่สุด
* เทคโนโลยี 400 Hz Clear Motion Rate ให้ภาพเคลื่อนไหว ต่อเนื่อง นุ่มนวล
* Wide Color Enhancer Plus ให้ภาพมีความสดใน สวย สมจริงเป็นธรรมชาติ
* Digital Noise Filer ลดสัญญาณรบกวน เพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจนตลอดเวลา
เสียง
* ระบบเสียง Dolby Digital Plus และ SRS TheaterSound จำลองเสียงรอบทิศทางเสมือนได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์
* ลำโพงพลังเสียงรวม 20 วัตต์ (RMS) (10W + 10W)
* ส่งสัญญาณเสียงแบบ DTS 2.0 ผ่านช่องต่อ Optical เพื่อเชื่อมต่อชุดเครื่องเสียงภายนอก เพื่อตอบสนองความต้องการระบบเสียงที่สมบูรณ์แบบ
การเชื่อมต่อ
* Wifi Built-in เชื่อมโลกออนไลน์ผ่านเครือข่ายไร้สาย ให้สามารถส่งต่อข้อมูลหรือความบันเทิงถึงกันอย่างรวดเร็ว
* ช่องต่อ HDMI x 3 เพื่อการเชื่อมต่อระบบภาพและเสียงแบบ Digital 100%
* ช่องต่อ USB x 3 รองรับไฟล์ ภาพ เพลง และ ภาพยนต์ จาก flash memory และ HDD
* ครบครัน ด้วยการเชื่อมต่อแบบ AV x 1 , DVD Component x 1
* รองรับการส่งสัญญาณเสียงออกแบบ Digital ผ่านช่องต่อ Optical Output และแบบ Analog ผ่านช่องต่อ Mini Jack
ฟังค์ชั่นเสริม
* ระบบ SMART TV นำคอนเทนต์ต่างๆ มารวมไว้บนหน้าจอเพื่อประสบการณ์การรับชมทีวีที่ไร้ขีดจำกัด ด้วยฟังก์ชั่น Social TV, Search All และ Your Video
* Web browser ให้คุณท่องโลกอินเตอร์เนทผ่านทีวี ให้คุณสนุกกับการคลิกชมเว็บไซต์ทั่วโลกอย่างง่ายดาย
* ระบบ All Share รองรับการ แชร์ข้อมูลผ่านระบบ DLNA กับหลากหลายอุปกรณ์ ไม่ว่า จะเป็น Notebook, เครื่องเล่น MP3, หรือกล้องดิจิตอล
* ระบบ All Share Cloud รองรับการ แชร์ข้อมูลผ่าน
* ระบบ Anynet+ (HDMI CEC) รองรับการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ อย่างสมบูรณ์แบบ ผ่าน Remote Control อันเดียว
* ระบบ ภาพซ้อนภาพ (PIP) 1 จูนเนอร์
* รองรับเมนูภาษาไทย (Thai OSD)
ขนาด (กว้างxสูงxลึก)
·         ตัวเครื่องไม่มีขาตั้ง (W x H x D): 927.4 x 554.7 x 46.9มม.
·         ตัวเครื่องมีขาตั้ง (W x H x D): 927.4 x 620.4 x 241.3มม.
·         หีบห่อบรรจุ (W x H x D): 1154 x 646 x 132มม.
น้ำหนัก
  • ตัวเครื่องไม่มีขาตั้ง: 10.3กก.
  • ตัวเครื่องมีขาตั้ง: 11.6กก.
  • ลดพิเศษ แค่ 20,000 บาทเท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น