จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558

สถิติ SET INDEX ที่ท่านอาจไม่รู้ ตอนที่ 1


พัฒนาการของตลาดทุนไทย  เริ่มต้นเมื่อเดือนกรกฏาคม 2505  โดยได้มีการจัดตั้งตลาดหุ้นกรุงเทพ (BANGKOK STOCK EXCHANGE)  ซึ่งเริ่มต้นจากจดทะเบียนในรูปห้างหุ้นส่วนจำกัด  แล้วมาจดทะเบียนเปลี่ยนเป็นรูปบริษัทจำกัดในปีต่อมา   โดยในสมัยนั้นมีมูลค่าซื้อชายที่น้อยมาก  เนื่องจากไม่ได้รับความสนใจ  จนปี พ.ศ.2511  มีมูลค่าการซื้อขายทั้งปีเป็นจำนวนเงิน 160 ล้านบาท  แล้วค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆ จนเหลือเพียง 28 ล้านบาทในปีพ.ศ. 2513  จนในที่สุดตลาดหุ้นกรุงเทพก็ปิดตัวลงในปี พ.ศ. 2515  โดยมีมูลค่าซื้อขายในปีนั้นเพียง 26 ล้านบาทเท่านั้นเทียบกับมูลค่าซื้อขายในปัจจุบันซึ่งตกวันละประมาณ 40,000-60,000 ล้านบาทต่อวัน เหมือนดูหนังคนละม้วนเลยทีเดียว การที่ตลาดหุ้นกรุงเทพไม่ประสบความสำเร็จ น่าจะเป็นเพราะประชาชนในสมัยนั้นยังขาดความรู้และความเข้าใจในเรื่องตลาดหุ้น  อีกทั้งยังขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ
แม้ว่าตลาดหุ้นกรุงเทพจะไม่ได้รับความนิยมก็ตาม  แต่ภาครัฐก็เริ่มเล็งเห็นความสำคัญของตลาดทุน  จะเห็นได้จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2510-2514)  ซึ่งได้เสนอแผนจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์  โดยให้มีมาตรการในการกำกับดูแลและเครื่องมืออำนวยความสะดวกต่างๆ  จนกระทั้งปี พ.ศ 2517 จึงได้มีประกาศใช้ พรบ.ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นสถานที่สำหรับซื้อขายหลักทรัพย์  เพื่อส่งเสริมการระดมทุนแก่  ธุรกิจที่ต้องการเงินทุนในการประกอบการ และเป็นช่องทางให้ประชาชนที่ต้องการนำเงินออมมาลงทุนในตลาดทุน  และตลาดหลักทรัพย์ได้เปิดทำการวันแรกเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2518  โดยชื่อภาษาอังกฤษในขณะนั้นคือ THE SECURITIES EXCHANGE OF THAILAND ซื่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็น THE STOCK EXCHANGE OF THAILAND (SET)  เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2534
เมื่อเรารู้จักที่มาที่ไปของตลาดหลักทรัพย์กันแล้ว  เรามาดูสถิติย้อนหลังที่น่าสนใจว่ามีการขึ้นลงอย่างไรกันครับ

1.                   SET INDEX  ที่เริ่มตันจากฐานที่ 100 จุด เมื่อวันแรกเปิดตลาด  ได้ไปสร้างจุดสูงสุดที่ 1,789.16 จุด  ในเดือนมกราคม 2537  นับว่าเป็นการขึ้นที่ดีมาก คือขึ้นไปถึง  1,689.16 จุดภายในเวลา 18 ปี 9 เดือน  เท่านั้น   คิดเป็นผลตอบแทนในการลงทุนแบบทบตันประมาณ 16.50 %  นั่นหมายความว่าถ้าท่านลงทุนในช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว   สามารถสร้างผลกำไรตอบแทนจากการลงทุนได้เทียบเท่าการขึ้นมาของดัชนีตลาดหลักทรัพย์  ก็จะได้รับผลตอบแทนดังกล่าว  บวกกับ อัตราเงินปันผลที่ท่านได้รับจากการถือครองหุ้นเหล่านี้อีก  ซึ่งปกติ DIVIDEND YIELD เฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ  3-4%  ดังนั้นผลตอบแทนรวมที่ท่านได้รับจะเท่ากับ 20%  (แบบทบต้น)  โดยประมาณ  และถ้าท่านสามารถบริหารพอร์ทการลงทุนของท่านได้ดี  โดยสร้างผลตอบแทนจาการลงทุนได้ดีกว่า SET INDEX ที่ผมใช้เป็น BENCHMARK ผลตอบแทนยิ่งจะสูงขึ้นไปอีก  นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ดึงดูดผู้มีเงินออมให้นำเงินออมมาลงทุนในตลาดหุ้นทั้งทางตรง  (ลงทุนซื้อหุ้นเอง)  และทางอ้อม (ลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารทุน)  แม้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าว  จะครอบคลุมไปถึงเหตุการณ์ BLACK MONDAY  (ตุลาทมิฬ)  ที่สร้างความเสียหายให้แก่นักลงทุนทั่วโลกรวมทั้งไทย ที่มีจุดเริ่มตันจากสหรัฐอเมริกาที่มีการเทขายอย่างหนักหน่วง  ทำให้ตลาดหุ้นอเมริกาตกระเนระนาดพลอยทำให้ตลาดอื่นๆ ทั่วโลก  ต้องพลอยถูกแรงขายเทกระหน่ำ  ราวกับว่าตลาดหลักทรัพย์จะเจ๊ง  โดยเฉพาะ SET INDEX ของเราลงจาก 472.86 จุด  ไปทำจุดต่ำสุดที่ 243.97  จุด  คิดเป็น 48.41 % ภายในเวลาเพียง 2 เดือน  ลองคิดดูเล่นๆครับ  ถ้าท่านมีพอร์ดลงทุน 1 ล้านบาท  ท่านจะขาดทุนเท่าใด ลองเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจในการลงทุนครั้งต่อๆ ไปของท่าน  เพื่อให้การลงทุนของท่านมีความระมัดระวัง  และรอบคอบมากขึ้น  และลงทุนไม่เกินตัว   สำหรับนักลงทุนมาร์จิน  ถ้าเจอสภาพแบบนี้เงินลงทุนของท่านจาก 1 ล้านซื้อหุ้นไป 2 ล้านบาท  (ใช้วงเงินมาร์จินจากโบรคเกอร์อีก 1 ล้าน)  หุ้นตก 48.41 %  เท่ากับขาดทุนไป 968,200  เมื่อบวกกับดอกเบี้ยเงินกู้มาร์จิน   ท่านแทบจะไม่เหลือเงินเลย   นั่นหมายถึงการสูญเงินลงทุนทั้งจำนวนภายในเวลา 2 เดือนเลยครับ  เห็นอย่างนี้แล้วรู้สึกอย่างไรกันครับ  ฉบับหน้าผมจะนำสถิติของ SET INDEX มาเล่าให้ฟังกันต่อครับ


    กิติชัย เตชะงามเลิศ
           07/01/58

        ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยเอาเม้าส์ไปทางด้านขวามือจะมีแถบแสดงออกมา แล้วเลือกคลิกไอคอนที่เขียนว่าสมัครรับข้อมูล เมื่อผมมีบทความใหม่ ท่านก็จะทราบทันที

       เพียงคุณออมแบบผมทุกเดือนๆละ 8,333 บาทผ่านไป 30 ปีคุณจะกลายเป็นเศรษฐี 100 ล้านแบบง่ายๆ รายละเอียดอยู่ในหนังสือ"ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน"ซึ่งวางจำหน่ายแล้วตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปครับ
หนังสือ "จาก 1 ล้านเป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร" ยอดขายขื้นอันดับหนื่งตั้งแต่วันแรกจำหน่ายและครองอันดับ 1 ติดต่อกันมานาน
    ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
 Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
 Twitter : http://twitter.com/value_talk
 Instagram : Gid_Kitichai
 Blog : http://kitichai1.blogspot.com
 YouTube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
 Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
 Linkedin : https://www.linkedin.com/in/homeproperty
 Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/
   หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Glow, และ Me(Market Evolution) ทุกเดือน รายการ Whats's up Spring ช่อง Spring News TV ทุกวันพุธ ช่วง What's up Money เวลา 10.15-11.00 น. ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยเอาเม้าส์ไปทางด้านขวามือจะมีแถบแสดงออกมา แล้วเลือกคลิกไอคอนที่เขียนว่าสมัครรับข้อมูล เมื่อผมมีบทความใหม่ ท่านก็จะทราบทันที
   หาอสังหาทั้งถูกและดีเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ได้ที่ http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น