จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

หมีตัวใหญ่กำลังตะปบ SET

หมีตัวใหญ่กำลังตะปบ SET

          ช่วงนี้ผมค่อนข้างเขียนถึง SET INDEX ค่อนข้างบ่อย เนื่องจากกำลังเป็นที่สนใจและหนักใจของนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาด จากการที่ตลาดหุ้นถูกเทขายถล่มทลายจากนักลงทุนต่างชาติทำให้ SET INDEX ตกลงไปมากกว่า 300 จุด ภายในเวลา 1 เดือน นอกจากนั้นยังมีการเทขายพันธบัตรรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาร่วมแสนล้านบาท ส่งผลให้ Bond yield ระยะตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปเพิ่มขึ้น 0.50% พลอยทำให้ค่าเงินบาทจากเคยไปแข็งที่ 28.67 อ่อนมาแตะ 31.18 บาท นักลงทุนหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาดมาปีนี้ คงจะหนักใจ เพราะยังไม่เคยผ่านประสบการณ์แบบนี้มาก่อน ในฐานะที่ผมเป็นนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มานานร่วม 20 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายวิกฤตการณ์แล้ว ก็รู้สึกเฉยๆ เพราะว่าเดี๋ยวมันก็จะผ่านไปเอง เรามาดูสาเหตุของการตกลงรอบนี้ว่าเกิดจากอะไรและในอนาคตอันใกล้ตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไรกันดีกว่า ผมพยายามรวบรวมปัจจัยต่างๆ ที่มีและจะมีผลกระทบตลาดหุ้นไทยไว้ดังนี้ครับ
          1. FED จะลดมาตรการ QE ภายในปีนี้หรือไม่ ถ้าลดจะลดเท่าไร จากที่ปัจจุบันปริมาณ QE เดือนละ 85,000 ล้าน $ และเริ่มลดเดือนไหน
          2.  FED จะยกเลิกมาตรการ QE ในปีหน้าหรือไม่ ถ้าเลิกจะเลิกเดือนไหน
          3.  FED จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ ถ้าขึ้นจะขึ้นเท่าไร และเมื่อไร โดยคณะกรรมการ FED 16 คน จาก 19 คน มีความเห็นว่าควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายภายในปี 2558 ฟองสบู่ตลาดพันธบัตรใกล้จะแตกแล้ว
          4.  แรงเทขายพันธบัตรรัฐบาลไทยของนักลงทุนต่างชาติ จะยังมีต่อเนื่องอีกหรือไม่จากการเทขายจนปริมาณการถือครองลดลงจาก 870,000 ล้านบาท เมื่อปลายเดือนเมษายน ซึ่งคิดเป็น 9.92% ลงเหลือ 789,000 ล้านบาทเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
          5.  ค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มอ่อนมากเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์จะทำให้นักลงทุนต่างชาติ นอกจากจะชะลอที่จะเข้าซื้อหุ้นไทย ยังมีแรงขายหุ้นไทยต่อเนื่อง
          6.  ตัวเลขดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมที่รายงานโดย HSBC ได้ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนได้มีการชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้หลายๆ หน่วยงานได้ปรับคาดการณ์การเติบโตของ GDP จีน ลดลงจากเดิมประมาณ 8% เหลือเพียง 7.30-7.50% ซึ่งสอดคล้องกับทีมผู้นำใหม่ของจีน ที่ไม่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
          7.  เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นของจีนพุ่งขึ้นแตะระดับ 13% สะท้อนถึงภาวะตึงตัวในตลาดเงิน และยังมีข่าวลือว่าธนาคารยักษ์ใหญ่ของจีนคือ ICBC และ BANK OF CHINA กู้เงินลุกเฉินจากธนาคารกลางจีน (PBOC) แต่ทั้ง 2 ธนาคารได้ออกมาปฏิเสธข่าวไปเรียบร้อย สภาวะสภาพคล่องฝืดเคือง เกิดจาก PBOC ต้องการที่จะควบคุมสินเชื่อบางประเภท  โดยเฉพาะสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ เพราะเกรงว่าจะเกิดฟองสบู่ซึ่ง PBOC ได้ดำเนินการมาต่อเนื่องมาตลอด และช่วงที่ผ่านมา PBOC ก็ไม่ได้เข้ามาเติมสภาพคล่องในตลาดอินเตอร์แบงค์เลย แสดงถึงนโยบายที่ไม่เน้นการผ่อนคลาย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงในระยะกลาง และระยะยาวของหนี้สาธารณะที่มีเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะของรัฐบาลท้องถิ่น ถึงแม้ว่าจะมีเสียงเรียกร้องจากหน่วยงานเอกชนให้ PBOC ช่วยอัดฉีดเงินเข้าตลาดก็ตาม ผมคิดว่านักลงทุนทั่วโลก จะให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจของจีนมากขึ้นในระยะต่อไปนี้ โดยเฉพาะประเทศไทยเรา ที่มีจีนเป็นคู่ค้าหลัก ย่อมต้องได้รับผลกระทบไปด้วย เป้าหมายการส่งออก มีการปรับลดลง ส่งผลไปถึงเป้าหมายเติบโตของ GDP ของไทยก็มีการปรับการคาดการณ์ลงจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งแน่นอนนักวิเคราะห์น่าจะมีการปรับการคาดการณ์ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และตลาด MAI ลง หลังจากมีการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ทำให้ EXPECTED P/E สูงขึ้น จากค่า E (EPS) ที่ลดลงซ้ำร้ายไปกว่านั้น ตัวคูณ(MULTIPLIER) ที่นักวิเคราะห์ที่เคยให้ในอัตราที่สูงก็จะให้น้อยลง เนื่องจากอัตราการเติบโตของกำไรที่ลดลงตัวคูณที่ใช้ก็จะมีค่าลดลง กลายเป็นนักลงทุนเจอ 2 เด้งเลย กลุ่มอุตสาหกรรมที่นักลงทุนเคยยอมรับที่ P/E ระดับสูงก็จะกลายเป็นอดีตถ้าผลประกอบโตไม่ดีเท่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะกลุ่มพาณิชย์ซึ่งเป็นกลุ่มที่ซื้อขายกันในระดับ P/E ที่สูงที่สุดในตลาดหลักทรัพย์  จึงถูกเทขายล่วงหน้า หลายๆ ตัวลงแรงกว่าตลาดเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งผมคาดว่า ยังเป็นกลุ่มที่ต้องระมัดระวังในการลงทุน เพราะว่าระดับ P/E ยังสูงมาก เมื่อเทียบกับ SET INDEX ยังน่าจะมีแรงเทขายในกลุ่มนี้อีกสักระยะหนึ่ง
          8.  ธปท. จะตัดสินอย่างไรเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 2.50% คนละคนต้องเปรียบเทียบน้ำหนักระหว่างภาวะเศรษฐกิจของโลกที่ชะลอตัวลงรวมทั้งเศรษฐกิจไทยด้วยกับความเสี่ยงในระดับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงและเริ่มเห็นอัตราหนี้เสียที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้

          จากปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมา  คาดว่าเราน่าจะได้เห็นจุดต่ำสุดของ SET INDEX ใหม่จากที่เคยทำไว้ที่ 1,351.95 (13/6/56) แนวรับถัดไปอยู่ทีแถวบริเวณ 1,300 บวกลบซึ่งเป็น TRIPPLE TOP ที่สร้างไว้เดือนตุลาคม-พฤศจิกายนปีที่แล้ว และมีแนวรับที่แข็งแกร่งที่ 1,250-1,260 ซึ่งเป็นแนวรับ 50% ของ Fibonacci Retracement  ที่คำนวณจาก Low 843.69 (4/10/54) กับ High 1,649.77 (21/5/56) ปกติข่วงปลายเดือนมิถุนายนของทุกปี จะมีการทำ Window Dressing ถ้าปีนี้มีทำอีกถือเป็นโอกาสที่ดีที่นักลงทุนมีโอกาสขายหุ้นในราคาที่สูงขึ้นแล้วรอแถวๆ 1,250-1,300 ซึ่งตลาดหุ้นไทยจะค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของกำไรของบริษัทจดทะเบียน เป็นจุดที่น่าลงทุนมากครับ 
กิติชัย เตชะงามเลิศ
หนังสือ "จาก 1 ล้านเป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร" ยอดขายขื้นอันดับหนื่งตั้งแต่วันแรกจำหน่ายและครองอันดับ 1 ติดต่อกันมานาน

ติดตามแนวทางการลงทุนของผมได้ที่
https://www.facebook.com/VI.Kitichai , http://twitter.com/value_talk , http://www.youtube.com/user/wittayu9 และ http://kitichai1.blogspot.com

รายการถอดระหัสหุ้น ทุกวันจันทร์ และ วันศุกร์ เวลา 9.00-9.45 น. ทางTruevisions(Platinum/Gold) ช่อง 87, Truevisions(Knowledge) ช่อง 53, PSI ช่อง24, IPM ช่อง 313, GMM Z ช่อง 64, Big 4 ช่อง 90, Sunbox ช่อง 105 หรือwww.hplus.co.th
หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 หรือหน้า B10 และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Stock Review, Me(Market Evolution), Glow และ Lisa  ทุกเดือน
    

สนใจซื้ออสังหาเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ลองเข้าhttp://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty

คอนโดหรูในซอยสุขุมวิท 23 (ประสานมิตร) (เดิน 6 นาที จาก MRT,BTS อโศก) ราคาถูก

ขาย-เช่า คอนโดเพรสทรีจคอนโด อยู่ในซอยสุขุมวิท 23 (ประสานมิตร) ห่างจากสถานีรถไฟใต้ดิน (สุขุมวิท) และสถานีรถไฟฟ้า BTS (อโศก) ไม่ถึง 500 เมตร ทางไปตึกเริ่มจากปากซอยสุขุมวิท23(ซอยนี้เป็นทางลัดไปออกสุขุมวิท55ทองหล่อและถนนเพชรบุรีได้)ตรงเข้าซอยไป200ม.ถึง3แยกเลี้ยวขวา ตรงไป50ม.เป็น4แยกเล็กๆเลี้ยวซ้าย ตรงไป100ม.เป็น4แยกเล็กๆให้ตรงไปอีก30ม.ตึกอยู่ขวามีอ ในโครงการมีสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ห้องล๊อคเกอร์แยกชายหญิง ห้องที่จะขายอยู่ชั้น 5 อาคาร B เลขที่ห้อง 168/40 พื้นที่ 174.49 ตารางเมตร พร้อมที่จอดรถส่วนตัว 1 คัน ในห้องนี้ มี 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ รับแขก ครัว ซักล้าง และห้องคนรับใช้พร้อมห้องน้ำในตัว 1 ห้อง เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า สวยมาก ครบถ้วน ขายที่ราคา 8.5 ล้านบาทถ้วน  ให้เช่าห้อง 35,000 บาท/เดือน ค่าส่วนกลางเดือนละ4,300บาท 
***Still available. ติดต่อ 081-5549777


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น