จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ANOTHER BLACK MONDAY

ANOTHER BLACK MONDAY

          วันจันทร์ที่ผ่านมากลายเป็น Black Monday สำหรับตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นตกแบบดิ่งพสุธาเลยทีเดียว คือ ลงมาถึง 1,375.99 จุด คิดเป็น 9.17% แต่ยังดีที่เด้งกลับมาช่วงบ่าย ทำให้ตอนปิดตลาด SET INDEX ปิดที่ 1,478,49 ลงไป 36.46 จุดคิดเป็น 2.4% เท่ากับเด้งขึ้นมาจากจุดต่ำสุดถึง 103.50 จุดคิดเป็น 7.45% จากข่าวลือต่างๆ เข้ามามากมาย ยิ่งปัจจุบัน Social Media ถูกใช้แพร่หลายมาก ยิ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ก็ใช้ Social Media เป็นประจำ ยิ่งทำให้ข่าวลือต่างๆ สะพัดไปได้ในวงกว้างและรวดเร็ว พอราคาหุ้นตกแรงก็ยิ่งทำให้คนหลงเชื่อข่าวลือ ประกอบกับการที่นักลงทุนรายย่อยใช้วงเงินมาร์จิ้น ซึ่งก่อนหน้านี้หุ้นหลายๆ ตัว ก็ตกลงมาก่อนแล้ว บางส่วนคงต้องถูกโบรกเกอร์บังคับขาย และนักลงทุนบางกลุ่มได้ใช้วิธีการซื้อขายแบบ Program Trading ทำให้เมื่อราคาหุ้นหรือ SET INDEX ตกลงมาถึงระดับหนึ่ง โปรแกรมดังกล่าวก็จะสั่งขายทันทีทำให้เราเห็น SET INDEX ที่ร่วงแรงอย่างวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ผมเชื่อว่าเราจะไม่เห็นราคาหุ้นหรือตลาดตกแรงเป็นร้อยจุดอีกในระยะอันใกล้นี้ ถ้าไม่มีข่าวร้ายที่ร้ายแรงสาหัสจริงๆ เพราะว่าลูกค้ามาร์จิ้นที่จะถูก Force Sell ก็ถูกบังคับขายไปมากแล้ว และ Program Trading ที่ตั้งไว้ก็ถูก Execute ไปเมื่อวันจันทร์แล้ว Program ที่ตั้งค่าใหม่ ก็จะต้องต่ำลงไปกว่านี้มาก กอรปกับราคาหุ้นหลายๆ ตัว ได้ลงมาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานมากแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นเราก็ลงมามากกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ทำให้ค่า P/E ตลาดที่เคยสูงในช่วงก่อน ก็เริ่มต่ำลงอยู่ในระดับที่ไม่แพงแล้วเมื่อเทียบกับตลาดเพื่อนบ้าน โอกาสที่จะเห็นฝรั่งขายหนักๆ  ก็น่าจะไม่มากแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องไม่ลืมคือ ประเทศไทยเป็นประเทศที่พึ่งพาน้ำมันเข้าในสัดส่วนที่สูงมาก การที่ราคาน้ำมันตกต่ำอย่างมากในช่วงนี้ ผลกระทบรวมๆ ที่เกิดขึ้นกับเรา น่าจะได้ผลลัพธ์ในแง่บวก เช่น กลุ่มสายการบินเดินเรือ โดยเฉพาะสายการบินที่ไม่ได้ทำการป้องกันราคาน้ำมันล่วงหน้าไว้ จะได้รับผลประโยชน์เต็มๆ เลยทีเดียว หรือกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องใช้พลังงานจากน้ำมันหรือใช้ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันเป็นวัตถุดิบก็จะมีต้นทุนที่ต่ำลง กลุ่มท่องเที่ยวอาจจะได้รับผลกระทบบ้าง เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญอันดับที่ 3 (ปี 2556 นักท่องเที่ยวรัสเซีย 1,736,990 คน) ของนักท่องเที่ยวทุกชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย จากการที่เศรษฐกิจรัสเซียซึ่งพึ่งพิงน้ำมันและก๊าซในสัดส่วนที่สูงมาก ปัจจุบันราคาน้ำมันและก๊าซในตลาดโลกก็ตกต่ำลงมาก จึงมีผลกระทบกับรัสเซียค่อนข้างมาก ทำให้ค่าเงินรูเบิลตกต่ำลงมาก นักท่องเที่ยวรัสเซียออกเดินทางมาเที่ยวต่างประเทศรวมทั้งเข้ามาเที่ยวในไทยน่าจะน้อยลงไปด้วย เพราะว่าค่าใช้จ่ายในการเดินทางและท่องเที่ยวจะแพงขึ้นในสายตาของชาวรัสเซีย การที่ชาวรัสเซียมาเที่ยวเมืองไทยมาก นอกจากเป็นเพราะว่าทะเลสวยแล้วยังเป็นเพราะค่าใช้จ่ายในเมืองไทยค่อนข้างถูก แต่พอค่าเงินบาทแข็งแรงค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินรูเบิล ก็พลอยทำให้ค่าใช้จ่ายต่างๆ เริ่มไม่ถูก และจากเศรษฐกิจของรัสเซียเองที่อ่อนแอลง ก็มีส่วนทำให้เราอาจจะเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียน้อยลง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคงต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ นักลงทุนคงต้องดูว่ากลุ่มโรงแรมไหนที่มีลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวรัสเซียมากหน่อย ก็คงต้องเปลี่ยนไปลงทุนในกลุ่มโรงแรมอื่นๆ แทน
          นอกจากนั้นกลุ่มพนักงานและปิโตรเคมี รวมกันแล้วมีน้ำหนักต่อ SET INDEX ค่อนข้างมาก ทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไม่สะท้อนความเป็นไปของเศรษฐกิจไทยอย่างแท้จริง พอหุ้น 2 กลุ่มนี้ราคาตกลงมาก ก็พลอยทำให้ SET INDEX ตกลงมากตามไปด้วย จึงส่งผลกระทบต่อ Sentiment ของตลาด ทำให้นักลงทุนแห่เทขายหุ้นกลุ่มต่างๆ ตามไปด้วย ที่น่าแปลกใจก็คือ กลุ่มสายการบินที่เมื่อวานช่วงที่ลงหนักๆ หุ้นกลุ่มนี้หลายตัวก็ลงไปเกิน 10% เสียด้วย ทั้งๆ ที่น่าจะได้อานิสงค์จากราคาน้ำมันที่ลดลง ผมเชื่อว่าจากนี้ถึงสิ้นปี  น่าจะไม่เห็น SET INDEX ต่ำกว่า 1,400 จุด แล้วจาก
1)    เงินที่จะไหลเข้ามา 2 สัปดาห์สุดท้ายของปีใน LTF และ RMF
2)    TRIGGER FUNDS ที่กำลังตั้งขึ้นมาในเร็วๆ นี้
3)    นักลงทุนมาร์จิ้น โดย FORCE SELL ไปมากแล้ว
4)    TRADING PROGRAM ที่ตั้งค่าไว้ต่ำกว่าปัจจุบันมาก ซึ่งไม่น่าจะมีโอกาสที่จะ EXECUTE ได้ง่าย
5)    ราคาหุ้นลงมามากแล้ว ทำให้ความรู้สึกว่าหุ้นไทยแพงเริ่มหมดไป
6)    อัตราการเติบโตของกำไรของบริษัทจดทะเบียนปีหน้าประมาณ 13% ซึ่งสูงกว่าปีนี้มาก
7)    GDP ไทยปีหน้าจะโตเฉลี่ย 4-4.50% ในขณะที่ปีนี้อาจจะไม่ถึง 1%
8)    WINDOW DRESSING ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี




    กิติชัย เตชะงามเลิศ
           17/12/57

ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai Twitter : http://twitter.com/value_talk Instagram : Gid_Kitichai Blog : http://kitichai1.blogspot.com You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9 Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert Linkedin : https://www.linkedin.com/in/homeproperty Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/ หรือหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 และนิตยสารคนรวยหุัน, Condo Guide, Glow, และ Me(Market Evolution) ทุกเดือน รายการ Whats's up Spring ช่อง Spring News TV ทุกวันพุธ ช่วง What's up Money เบรค 4 เวลา 10.45-11.00 น. หาอสังหาทั้งถูกและดีเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ได้ที่ http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น