คนไทยกินทุเรียนแพงแต่คนทั้งโลกกินข้าวไทยถูก(ตอนที่
1)
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ผมสังเกตเห็นราคาผลไม้ไทยหลายๆอย่างมีราคาสูงขึ้นอย่างชัดเจน
ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน ซึ่งเป็นผลไม้โปรดของผม ที่ราคาเคยซื้อกิโลกรัมละประมาณ 35-50
บาทเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว แต่ปีนี้เป็นปีที่ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยคิดเลยว่า
จะต้องซื้อทุเรียนหมอนทองสนองความอยากส่วนตัว ที่ราคากิโลกรัมละ 140 บาท
คิดเป็นการขึ้นราคามากถึง 300% เมื่อเทียบกับดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ในช่วงเวลาเดียวกัน จากปี 2553 ที่อยู่ที่แถวๆ 94 ขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 107
เป็นการขึ้นมาเพียง 14% นับว่าราคาทุเรียนหมอนทองขึ้นมามากกว่า
CPI ถึง 21กว่าเท่า
และเป็นปีแรกที่ผมเห็นมีโฆษณาการจัดบุปเฟต์ทุเรียนที่จัดขึ้นในห้างใหญ่ใจกลางเมือง
2 แห่งในราคาหัวละ 349-549 บาท น่าดีใจแทนเจ้าของส่วนทุเรียน ที่ผลผลิตขายได้ราคา
สร้างความร่ำรวยให้แก่เจ้าของสวนกันถ้วนหน้า
ไม่เพียงแต่ทุเรียนเท่านั้นที่หลายปีที่ผ่านมามีราคาสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อย่างเช่นมะพร้าว ที่เมื่อ 5-6 ปีที่แล้วยังพอหาซื้อได้ในราคาลูกละ 10-15 บาท
แต่ปัจจุบัน ราคาขายปลีกพุ่งขึ้นไปถึง 30-45 บาท ราคาขึ้นมาประมาณ 200-300%
เลยทีเดียว และล่าสุดผลไม้ที่ผมสังเกตเห็นราคาขึ้นมาอย่างเงียบๆก็คือ กล้วย
ไม่ว่าจะเป็นกล้วยหอมที่เคยซื้อตกใบละประมาณ 3-5 บาท ต่อใบ ขึ้นอยู่กับขนาด
แต่ปัจจุบันราคาแอบขึ้นมาถึงใบละ 6-8 บาทแล้ว ราคากล้วยหอมก็ขึ้นถึง 60-100%
หรือกล้วยน้ำว้าที่ผมเคยซื้อหวีละ 20-30 บาท ปัจจุบันราคาหวีละ
50-60 บาทไปแล้ว ขึ้นมาประมาณ 100% เช่นกัน
ผมพยายามหาสาเหตุว่าทำไมราคาผลไม้เหล่านี้ ทำไมกี่ปีนี้ถึงมีราคาขึ้นมามากมายนัก
ทุเรียนเป็นตัวที่เข้าใจง่ายมากที่สุด เพราะว่ามีความต้องการจากจีน
หลังจากที่คนจีนได้รู้จัก และลิ้มลองทุเรียนบ้านเราแล้ว
ก็ติดอกติดใจในรสชาติผลไม้ที่ได้รับฉายาว่าเป็น “ราชาแห่งผลไม้” ของไทยเข้าไปอย่างจัง
ถึงขนาดที่มีล้งจากจีน มาเหมาทุเรียนบ้านเราเป็นสวนๆ
กันเลยทีเดียว
ทำให้ปริมาณการผลิตมีไม่เพียงพอที่จะรองรับความต้องการทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ตามหลัก Demand/Supply เมื่อ Demand
มีมากขึ้นในขณะที่ Supply ขยายตัวไม่ทัน
ราคาทุเรียนจึงสูงขึ้นอย่างมาก และรวดเร็วอย่างที่เราเห็นๆกัน
และทุเรียนไม่ใช่ปุปปัปอยากจะเพิ่มปริมาณก็สามารถเพิ่มชึ้นได้ทันที
การปลูกทุเรียนจนกว่าจะออกผลให้เรารับประทานกันได้ ก็ต้องใช้เวลาประมาณ 5-7 ปี แล้วแต่สภาพแวดล้อม
โดยทุเรียนชอบน้ำ แต่ไม่ถึงกับแฉะ แล้วแต่สภาพดิน
และภูมิอากาศรวมทั้งเมล็ดพันธุ์ ก็มีผลต่อรสชาติ และผลผลิตต่อไร่ รวมทั้งความชำนาญ
และความรู้ในการทำสวนทุเรียน สิ่งที่ผมเป็นห่วงที่สุดคือ ทางการจีนเอง
อาจจะมีการทำวิจัย และพัฒนาพันธุ์ทุเรียน แล้วปลูกรับประทานเองในประเทศของเขา
และยิ่งนานไป เผลอๆจะมีผลผลิตมากพอที่นอกจากจะบริโภคภายในประเทศ
แล้วยังมีเหลือส่งออกด้วย ถึงเวลานั้นชาวสวนทุเรียนของไทยคงจะพากันเดือดร้อน
แล้วคงต้องมาร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐ เหมือนพืชเกษตรกรรมตัวอื่นๆ
จะเห็นได้ว่า มูลค่าและปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นทุกปี ยกเว้นปี 2558
ที่ปริมาณการส่งออกทุเรียนลดลงนิดหน่อย เมื่อเทียบกับปี 2557
ผมลองเอาปริมาณไปหารมูลค่าเพื่อจะได้ตัวเลขราคาเฉลี่ยต่อกิโกกรัม
พบว่าราคาเฉลี่ยของทุเรียนส่งออกตั้งแต่ปี 2553 จนถึง กรกฎาคม 2559 เป็นดังนี้
ปี พ.ศ.
|
2553
|
2554
|
2555
|
2556
|
2557
|
2558
|
2559
|
ราคา
|
17.78
|
17.14
|
17.64
|
20.01
|
33.65
|
36.98
|
44.22
|
จะเห็นได้ว่าราคาทุเรียนส่งออกต่อกิโลกรัม มีราคาสูงขึ้นตลอด(ยกเว้นปี 2554) แล้วมาเพิ่มแบบก้าวกระโดดในปี 2557 คือเพิ่มขึ้นถึง 68.17% (ดูแล้วน่าลงทุนกว่าหุ้นจริงๆ?)
น่าจะเป็นเพราะความต้องการจากจีนที่มีสูงขึ้นอย่างมาก
หลังจากที่ทุเรียนไทยเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคจีน
จากการที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทย ได้ลิ้มลองชิมทุเรียน รวมทั้งการที่หน่วยงานของรัฐและองค์กรเอกชน
ได้นำผลไม้ไทย (รวมทั้ง ทุเรียน)ไปแนะนำ และเปิดตลาดในจีน อย่างต่อเนื่อง
รสชาติที่โดดเด่นของทุเรียนไทยที่เทียบกับทุเรียนของประเทศอื่นๆ
กอรปกับปริมาณการผลิตทุเรียนในไทยที่มากที่สุดในโลก(ทั้งๆที่ทุเรียนเริ่มต้นปลูกกันบนเกาะบอร์เนียว
ในอินโดนีเซียและมาเลเซีย) ทำให้ไทยเป็นผู้ส่งออกทุเรียนสดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โดยตลาดหลักๆของไทย ก็คือ จีน ฮ่องกง ใต้หวัน สิงคโปร์ แคนาดา และสหรัฐอเมริกา
เนื้อที่หมดแล้ว บทความหน้ามาคุยกันถึงผลไม้ตัวอื่นๆกันครับ
กิติชัย เตชะงามเลิศ
20/10/59
1.คนไทยกินทุเรียนแพงแต่คนทั้งโลกกินข้าวไทยถูก(ตอนที่ 1) : http://kitichai1.blogspot.com/2016/10/1.html
2. คนไทยกินทุเรียนแพงแต่คนทั้งโลกกินข้าวไทยถูก(ตอนมังคุดกับมะพร้าว) : http://kitichai1.blogspot.com/2016/10/blog-post_0.html
1.คนไทยกินทุเรียนแพงแต่คนทั้งโลกกินข้าวไทยถูก(ตอนที่ 1) : http://kitichai1.blogspot.com/2016/10/1.html
2. คนไทยกินทุเรียนแพงแต่คนทั้งโลกกินข้าวไทยถูก(ตอนมังคุดกับมะพร้าว) : http://kitichai1.blogspot.com/2016/10/blog-post_0.html
3.คนไทยกินทุเรียนแพงแต่คนทั้งโลกกินข้าวไทยถูก(ตอนมะพร้าว) : http://kitichai1.blogspot.com/2016/10/blog-post_13.html
4.คนไทยกินทุเรียนแพงแต่คนทั้งโลกกินข้าวไทยถูก (ตอน กล้วยที่ไม่กล้วย) : http://kitichai1.blogspot.com/2016/10/blog-post_40.html
5.คนไทยกินทุเรียนแพง แต่คนทั้งโลกกินข้าวไทยถูก (ตอนข้าว) : http://kitichai1.blogspot.com/2016/10/blog-post_36.html
6.คนไทยกินทุเรียนแพงแต่คนทั้งโลกกินข้าวไทยถูก (ตอนจบ) : http://kitichai1.blogspot.com/2016/10/blog-post_73.html
ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
Linkedin : https://www.linkedin.com/in/homeproperty
Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
Linkedin : https://www.linkedin.com/in/homeproperty
Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/
หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า A10 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"
2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน”
3.นิตยสาร Tycoon ทุกเดือน
4.นิตยสาร คนรวยหุัน Me(Market Evolution) วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส
2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน”
3.นิตยสาร Tycoon ทุกเดือน
4.นิตยสาร คนรวยหุัน Me(Market Evolution) วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส
คอนโดTC Green พระราม 9 ใกล้ MRT 3 ห้อง ทั้งวิวและตกแต่งสวยมาก ราคาถูก
ที่ตั้งโครงการ :
ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT พระราม
9 ประมาณ 900 เมตร ติดถนน 2 ด้านคือ ถนนพระราม 9 และ ถนนจตุรทิศ(ถนนเลียบทางด่วนขั้นที่ 2 ศรีรัช) แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10320
ห้องที่จะขาย
1.ห้อง 882/81(C901) ชั้น 9
ประเภทห้อง G : 1 นอน 1
น้ำ ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร ไม่ติดลิฟท์ พื้นที่ใช้สอย : 41.48 ตารางเมตร ระเบียงหันไปทิศใต้ เป็นมุมที่สวยที่สุดของตึก C วิวสวนและคลองสวยมาก ไม่โดนบล็อควิว เฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตกแต่งสวยมาก ราคา 3,300,000 บาท ให้เช่าห้อง
18,000
บาท/เดือน
2.ห้อง
882/248(C2212) ชั้น 22 ประเภทห้อง F : 1 นอน 1 น้ำ ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร ไม่ติดลิฟท์ พื้นที่ใช้สอย : 34.86 ตารางเมตร ระเบียงหันไปทิศใต้ เป็นมุมที่สวยที่สุดของตึก C วิวสวนและคลองสวยมาก ไม่โดนบล็อควิว เฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตกแต่งสวยมาก ราคา 3,000,000 บาท ให้เช่าห้อง 16,000
บาท/เดือน
3.ห้อง 884/137(D1406)
ชั้น 14 ประเภทห้อง D : 1 นอน 1
น้ำ ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร ไม่ติดลิฟท์ พื้นที่ใช้สอย : 37.97 ตารางเมตร ระเบียงหันไปทิศใต้ เป็นมุมที่สวยที่สุดของตึก D วิวสวนและคลองสวยมาก ไม่โดนบล็อควิว เฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตกแต่งสวยมาก ราคา 3,100,000 บาท ให้เช่าห้อง
16,000
บาท/เดือน
ดูVDOห้องตัวอย่างที่ http://youtu.be/6b_RjhKFbhA
ประเภทโครงการ : ขนาดที่ดิน 16-0-0 ไร่ พิกัด 13.754371,100.5767 ตึก High
Rise 4 อาคาร จำนวนชั้น 32 ชั้น จำนวนห้อง
1,980:
มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก มีจำนวนห้องต่อชั้นไม่เกิน 12 ห้อง มีลิฟท์โดยสารแต่ละอาคาร
3 ตัวและลิฟท์บริการ
1 ตัว
ที่จอดรถ ที่จอดรถประมาณ 470 คัน
รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 50% พื้นที่ส่วนกลางหารจำนวนห้องสูงกว่าตระกูล
LPN เกิน
2 เท่า
แต่ราคาเท่ากัน (ราคาต่อ ตร.ม.) มี
สระว่ายน้ำและห้องออกกำลังกายทุกตึก หา Taxi ง่าย
เพราะติดถนนใหญ่ 2 ด้าน
ปลอดภัยไม่เปลี่ยว มีบริการ Shuttle Service รับส่งสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน
MRT พระรามเก้า
สำหรับคนที่มองอนาคตไกลๆ ข้างๆโครงการตรงโรงแรม
Maxx ซึ่งอยู่ใกล้โครงการมาก จะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มมาตั้งอยู่
รอบๆ สถานี จะมีการเปลี่ยนแปลงด้านความเจริญขึ้นอีกเยอะ ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าและศักยภาพให้กับโครงการอีกไม่น้อย
ใกล้ทางขึ้นทางด่วน, RCA ,เซ็นทรัลพระรามเก้า, Show DC, Esplanade,
Fortune Town, Central Rama 9, New CBD โรงพยาบาลปิยะเวท, โรงพยาบาลกรุงเทพฯ
มี 7-11
ร้านกาแฟ , หมอฟัน
, ซักรีด
, ร้านยา
, ร้านอาหาร
, ร้านเสริมสวย
ในบริเวณโครงการหรือจะเดินไป RCA นั่งเล่นที่รูท66 ก็ไม่ถึง
300 เมตร
ร้านอาหาร ของกิน ของใช้ เพียบ แถมปิดดึกอีกต่างหาก
ตรง RCA
ยังเป็นที่พึ่งสำหรับหาร้านอาหารดีๆ มี TOPS มี
FUJI โรงหนังเล็กๆ
และสนามไดร์ฟกอล์ฟด้วย โครงการจัดให้มีพื้นที่สีเขียว รอบโครงการ
อีกทั้งยังมีคลองเล็ก ๆ กั้นกลางระหว่างเพส 1 และ
เฟส 2 ซึ่งเป็นคลองธรรมชาติ
ที่จะทำให้โครงการมีความเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น มีพื้นที่เยอะ
แต่ไม่ อัด Unit มากๆ แน่นๆ
ก็น่าจะทำให้อยู่สบายหน่อย ผมว่าเขาทำออกมาได้ดีเกินระดับราคาและไม่โลภเอาพื้นที่ขายเยอะๆ ทั้งๆที่จะออกแบบให้มีพื้นที่ขายมากกว่านี้ก็ได้
การออกแบบ อยู่สบายกว่าเยอะครับ
เรื่องการออกแบบ ตัวห้องออกแบบมาค่อนข้างโอเค แถมได้ระยะพื้นถึงฝ้า
2.7 เมตร ค่าส่วนกลาง
35 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน ค่ากองทุน
350 บาทต่อตารางเมตร
ค่าที่จอดรถ 300 บาท ต่อคันต่อเดือน (แฟร์สำหรับคนไม่ใช้รถ)
- เฟส 1 คอนโด 32 ชั้น 2 อาคาร 958 ยูนิต + อาคาร 3 ชั้น 3 อาคาร 26 ร้านค้า
-เฟส 2 คอนโด 32 ชั้น 2 อาคาร ประมาณ 950 ยูนิต
-ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 15 ยูนิต
-ที่จอดรถประมาณ 50%
สาธารณูปโภค ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว และลิฟท์บริการ 1 ตัวต่ออาคาร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น