จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ธนาคาร นี่โคตรเอาเปรียบ(ตอนที่ 1)

                                    ธนาคารนี่ โคตรเอาเปรียบ(ตอนที่ 1)


              หลายคนชอบเปรียบเปรยธนาคารว่า เวลาแดดออกก็รีบเอาร่มมากางให้เรา แต่เวลาฝนตกหนักก็จะรีบชักร่มกลับไป หลายๆธุรกิจที่กิจการกำลังไปได้ด้วยดี เวลาไปขอสินเชื่อที่ธนาคารก็จะได้การตอบรับที่ดีสามารถกู้ได้ตามจำนวนที่ต้องการ และอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำ  หลายๆครั้งธนาคารยังอยากจะปล่อยกู้ให้กับธุรกิจเหล่านั้น ด้วยจำนวนเม็ดเงินที่มากกว่าที่ธุรกิจต้องการด้วยซ้ำ  โดยเฉพาะธุรกิจขนาดใหญ่ ปัจจุบันนี้มีวิธีที่จะหาเม็ดเงินได้หลากหลายวิธี นอกเหนือจากการกู้ธนาคารแบบเดิมเดิม เช่นการออกหุ้นกู้ หรือออกตั๋วสัญญาใช้เงิน โดยมีระยะเวลาของตราสารหนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการของธุรกิจเหล่านั้น  ต้องการใช้เม็ดเงินเหล่านั้นในระยะเวลานานเพียงใด 

         ยิ่งธุรกิจเหล่านั้นถ้ามี Credit Rating ที่ดี เวลาออกหุ้นกู้ก็จะมีการแย่งกันจับจอง เพื่อซื้อหุ้นกู้เหล่านี้ จากนักลงทุนทั้งที่เป็นสถาบัน และประชาชนทั่วไป ที่มีเงินออม และต้องการผลตอบแทน ที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ที่ต่ำติดดินในปัจจุบันนี้  ทั้งๆที่เสนออัตราดอกเบี้ย ที่ค่อนข้างต่ำ หุ้นกู้ของบางบริษัทที่ออกมาบางรายการมีอายุถึง 10 ปีเสียด้วยซ้ำ ก็ปรากฏว่าสามารถขายได้หมดเช่นกัน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อถือที่ผู้ซื้อหุ้นกู้เหล่านี้มีต่อธุรกิจเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี ทำให้ธุรกิจที่มีเครดิตที่ดีไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลาง หรือขนาดใหญ่ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นที่หมายปองของธนาคารทั้งสิ้น กลายเป็นธุรกิจที่หล่อเลือกได้  ส่วนธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง ที่นอกเหนือจากกลุ่มข้างต้น ก็ยังมีช่องทางที่จะหาสินเชื่อ จากช่องทางอื่นๆ เช่นนำใบ Invoice ไปขายลดให้กับธุรกิจแฟคตอริ่งต่างๆ ฯลฯ ในยามที่ต้องใช้เงินระยะสั้น เพื่อที่จะไปสั่งซื้อวัตถุดิบ หรือเอาไว้ใช้จ่ายสำหรับขบวนการผลิตสินค้าหรือบริการเหล่านั้น

             แม้กระทั่งธุรกิจที่เป็น STARTUP ในปัจจุบันนี้ก็ยังมีช่องทางหาเงินทุน ในการเริ่มต้นธุรกิจ จากบรรดา Angel investor ซึ่งสามารถระดมทุนได้ โดยใช้สื่อออนไลน์ เพียงแค่ทำวีดีโอเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ ที่ต้องการจะนำเสนอ ให้ดูมีความน่าเชื่อถือและมีความเป็นไปได้ โอกาสที่จะระดมเงินทุนดังกล่าว ก็ไม่ยากจนเกินไป นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนที่เป็นปัจเจกบุคคลหรือธุรกิจต่างๆที่ให้ความสนใจที่จะเป็น Angel investor  อยู่มากมาย  เพราะเห็นผลตอบแทนที่ Angel investor รุ่นก่อนๆได้รับซึ่งหลายๆธุรกิจ startup ที่หลังจากประสบความสำเร็จ แล้วมูลค่าของเงินลงทุน ของกลุ่ม Angel investor  ได้เติบโตขึ้นมาหลายพันเปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเงินลงทุนครั้งแรก

           Disruption ต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางการเงินหรือที่เราเรียกกันว่า FINTECH ไม่ว่าจะเป็น Alibaba Pay, WeChat Pay, Promtpay ฯลฯ ซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่ายธุรกรรมทางการเงิน ทำให้ประชาชนสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายดังกล่าว ทั้งยังได้รับบริการที่สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ผมเชื่อว่าในอนาคตยังจะมี FINTECH ในรูปแบบอื่นๆที่จะมีขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ขึ้นมาแข่งขันกับธนาคาร และจะเป็นตัวเบียดบังรายได้ที่ธนาคารต่างๆ เคยได้รับมาอย่างง่ายๆเหมือนเสือนอนกิน  จนทำให้ธนาคารต้องหารายได้จากช่องทางอื่นเพิ่มขึ้น เราจึงได้เห็นค่าบริการแปลกๆ ซึ่งสมัยก่อนตอนเราเป็นเด็ก ก็ไม่เคยมีค่าบริการแบบนี้ ทั้งๆที่ธนาคารก็ให้บริการเหล่านี้ฟรี(และควรจะฟรีด้วย)มาตั้งนานแล้ว  อาทิเช่น ค่านับเหรียญ เวลาลูกค้าธนาคารนำเงินเหรียญในปริมาณที่มากหน่อย ไปฝากเงินที่ธนาคารปัจจุบันนี้มีหลายธนาคารที่เรียกเก็บค่านับเหรียญกันแล้ว  ซึ่งเป็นค่าบริการที่ทุเรศมาก 

          ลองคิดดูสิครับ ถ้าเราไปซื้อเครื่องซักผ้าที่ห้างสรรพสินค้าราคาตัวละ 15,000 บาท ถ้าเราชำระด้วยเหรียญกษาปณ์ ถามว่าห้างสรรพสินค้าจะมีการคิดค่าบริการนับเหรียญหรือไม่ แน่นอนครับว่าไม่มี แค่คุณลูกค้าไปซื้อสินค้าที่ห้าง ทางห้างก็รู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งกับลูกค้าท่านนั้นเป็นอย่างมากอยู่แล้ว ยิ่งในสมัยนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่ได้หันไปซื้อสินค้าทางออนไลน์ค่อนข้างมาก ห้างสรรพสินค้าแทบจะกลายเป็นโชว์รูม ให้ลูกค้ามาเดินดู หรือทดสอบสินค้าเหล่านั้น แล้วกลับไปสั่งซื้อผ่านโลกออนไลน์ เพราะว่าราคาถูกกว่าซื้อจากห้างกันเกือบหมดแล้ว พูดก็พูดเถอะธุรกิจห้างสรรพสินค้า ถ้าไม่รีบหาช่องทางเพื่อจะดึงดูดลูกค้ากลับมา ใช้จ่ายในห้างอนาคตก็เป็นธุรกิจอับแสงแน่นอน  เพราะปัจจุบันนี้ศูนย์การค้าส่วนใหญ่ พื้นที่ที่ลูกค้าไปใช้บริการจับจ่ายใช้สอย ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารหรือซุปเปอร์มาร์เก็ต ส่วนร้านค้าประเภทอื่นจะเห็นว่าเงียบเหงาเหลือเกิน หลายครั้งที่ผมไปทำธุระในห้างสรรพสินค้าช่วงประมาณ 2 ทุ่มกว่าถึง 3 ทุ่ม ปรากฏว่าผมเห็นจำนวนพนักงานขายมากกว่าลูกค้าเสียอีก ทั้งๆที่เป็นห้างที่อยู่ใจกลางเมืองแท้ๆ ซึ่งเราเริ่มเห็นการปิดสาขาของร้านค้าประเภท category Killer ต่างๆในอเมริกามากขึ้นเรื่อยๆ  สินเชื่อว่าอีกไม่นานสิ่งเหล่านี้ก็จะเกิดขึ้นที่เมืองไทยเช่นกัน ติดตามอ่านตอนที่ 2 ในบทความหน้ากันนะครับ

อ่านบทความ 1. ธนาคาร นี่โคตรเอาเปรียบ(ตอนที่ 2)  ได่ที่  http://kitichai1.blogspot.com/2017/07/2.html

                      2. ธนาคารนี่โคตรเอาเปรียบ(ตอนจบ) ได่ที่  http://kitichai1.blogspot.com/2017/07/blog-post_21.html

กิติชัย เตชะงามเลิศ
      6/7/60

ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยเอาเม้าส์ไปทางด้านขวามือจะมีแถบแสดงออกมา แล้วเลือกคลิกไอคอนที่เขียนว่าสมัครรับข้อมูล เมื่อผมมีบทความใหม่ ท่านก็จะทราบทันที

  
      ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่

 Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
 Twitter : http://twitter.com/value_talk
 Instagram : Gid_Kitichai
 Blog : http://kitichai1.blogspot.com
 You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
 Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
 Linkedin : https://www.linkedin.com/in/homeproperty
 Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/

     หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"
              2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน”
              3.นิตยสาร Be Link ทุกเดือน
              4.นิตยสาร Me(Market Evolution) วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส

 หาอสังหาทั้งถูกและดีเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ได้ที่  http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty


 นอตติ้ง ฮิลล์ ดิ เอ็กซ์คลูซีฟ เจริญกรุง 93 (Notting Hill The Exclusive CharoenKrung 93) 3 ยูนิตสุดสวย ราคาพิเศษ ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ห่างจากเอเชียทีคเพียง 140 เมตร



ห้องที่จะขายดาวน์
1.ห้อง 403 ชั้น ประเภทห้อง B2 : 1 นอน น้ำ ไม่ติดลิฟท์ พื้นที่ใช้สอย 27 ตารางเมตร ระเบียงหันไปทิศตะวันออกเฉียงเหนือ วิวสระว่ายน้ำ เฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตกแต่งสวยมาก ราคา 2,700,000 บาท

2.ห้อง 410 ชั้น ประเภทห้อง B4 : 1 นอน น้ำ ไม่ติดลิฟท์ พื้นที่ใช้สอย 32 ตารางเมตร ระเบียงหันไปทิศตะวันออกเฉียงใต้ ไม่โดนบล็อควิว เฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตกแต่งสวยมาก ราคา 3,200,000 บาท

3.ห้อง 810 ชั้น ประเภทห้อง B4 : 1 นอน น้ำ ไม่ติดลิฟท์ พื้นที่ใช้สอย 32 ตารางเมตร ระเบียงหันไปทิศตะวันออกเฉียงใต้ ไม่โดนบล็อควิว เฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตกแต่งสวยมาก ราคา 3,300,000 บาท
ชื่อโครงการ
 นอตติ้ง ฮิลล์ ดิ เอ็กซ์คลูซีฟ เจริญกรุง 93 (Notting Hill The Exclusive CharoenKrung 93)

เจ้าของโครงการ
 บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

เนื้อที่ทั้งหมด
 1-1-79 ไร่

จำนวนตึก
 1 อาคาร

จำนวนชั้น
 8 ชั้น

จำนวนห้อง
 132 ยูนิต

ลักษณะห้องและขนาดห้อง
– 1 Bedroom : ขนาดเริ่มต้น 27.00 ตร.ม.
– 2 Bedrooms : ขนาดเริ่มต้น 41.00 ตร.ม.

ที่จอดรถทั้งหมด
 รอข้อมูลจากโครงการ







การเดินทาง
 รถประจำทางสาย 1, 75, 15, 547 เพื่อมายังซอยเจริญกรุง 93 ซึ่งป้ายรถเมล์จะตั้งอยู่ปากซอย หรือหากอยากนั่งเรือสัมผัสบรรยากาศแบบชิลๆ ก็สามารถทำได้โดยขึ้นเรือที่ท่าสาทร (จุดเดียวกับสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน) โดยให้ขึ้นลำที่จะเดินทางมายังเอเชียทีค จากนั้นให้เดินทะลุเอเชียทีคมาที่ถนนเจริญกรุง เมื่อข้ามถนนมาก็จะเจอกับซอย โครงการ

ที่ตั้ง
 ซอยเจริญกรุง 93 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม.10120 (ห่างจาก BTS สะพานตากสิน และจุดขึ้นลงทางด่วนบริเวณถนนจันทร์ กม.)




ปีที่สร้างเสร็จ
 คาดว่าแล้วเสร็จ กรกฎาคม 2560







ค่าส่วนกลางและกองทุน
 รอข้อมูลจากโครงการ

สถานที่สำคัญใกล้เคียง
  1. เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ 0.1กม.
  2. โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ (Shrewsbury International School) 1 กม.
  3. รร.วัดสุทธิฯ
4.Chatrium Riverside Bangkok 1.3 กม.
5. Four Seasons Residence และ Capella 1.5 กม.
6.โรงแรม รามาดา ริเวอร์ไซด์ และ แม่น้ำ เรสซิเดนท์ 0.6 กม.

สิ่งอำนวยความสะดวก
  • Lobby
  • Mailbox
  • สระว่ายน้ำ
  • ฟิตเนส
  • สวนหย่อม
  • Access Card Control
  • CCTV
  • รปภ. 24 ชม.




    เส้นทางที่สามารถเข้าออกได้จากตัวโครงการ
-เจริญกรุง-เยาวราช
-เจริญราษฏร์-สาทร
-เจริญราษฏร์-พระราม 3
-รัชดาภิเษก-ท่าพระ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น