จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ลดหย่อนประกันสุขภาพ ใครได้ประโยชน์?(ตอนที่ 1)

                                   ลดหย่อนประกันสุขภาพ  ใครได้ประโยชน์?(ตอนที่ 1)



         ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าการเพิ่มขึ้นของประชากรไทยมีอัตราที่ต่ำมาก ในทางกลับกันฐานอายุของประชากรไทยก็สูงขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลของคุณปัทมา ว่าพัฒนวงศ์ และคุณปราโมทย์ ประสาทกุล แห่งสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล  เมื่อกลางปี พ.ศ. 2548 ประเทศไทยมีประชากร 62.2 ล้านคน ผ่านไป 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็น 64.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านคน คิดเป็นอัตราเพิ่มประชากรเพียง 3.7% เฉลี่ย 0.37 เปอร์เซ็นต์ต่อปี  ซึ่งนับว่าเป็นอัตราการเพิ่มที่ต่ำมาก  ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะผลงานของคุณมีชัย วีระไวทยะ ที่รณรงค์ให้คนไทยให้มีบุตรน้อยคน ได้ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดีมากในสมัยนั้น ถ้าการเพิ่มของประชากรไทยยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปในอัตราการเพิ่มที่ต่ำมากเหมือนในอดีต คาดว่าในปี พ.ศ. 2565 จะเป็นปีที่ประชากรไทยถึงจุดอิ่มตัว(ภาพที่ 1) อัตราเกิดจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับอัตราตาย ทำให้อัตราการเพิ่มของประชากรใกล้เคียงกับศูนย์ จำนวนเกิดในแต่ละปีพอ ๆ กับจำนวนตาย จากการฉายภาพประชากรชุดนี้แสดงว่าประชากรไทยจะถึงจุดอิ่มตัวที่จำนวนประมาณ 65 ล้านคนในราวปี พ.ศ. 2565 หลังจากนั้น เป็นไปได้ว่าอัตราเพิ่มประชากรจะติดลบคือต่ำกว่าศูนย์บ้างเล็กน้อย ทำให้จำนวนประชากรแต่ละปีลดลง เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นในช่วงที่ผ่านมา
                                 
                                                    ภาพที่ 1 อัตราเพิ่มและจำนวนประชากร, .. 2548 – 2578
                    
              เป็นผลเนื่องมาจากภาวะเจริญพันธุ์ที่ลดต่ำลงและคนไทยมีชีวิตยืนยาวขึ้นอีก ลักษณะเช่นนี้ทำให้โครงสร้างอายุของประชากรเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดเจน หากดูที่จำนวนประชากร เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ในช่วงปี พ.ศ. 2548 – 2578 จะมีจำนวนลดลงจาก 14 ล้าน (ร้อยละ 23 ของประชากรทั้งหมด) เหลือ 9 ล้านคนเศษ (ร้อยละ 14) ส่วนประชากรวัยแรงงาน (อายุ 15 – 59 ปี) นั้นมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย กล่าวคือในช่วง พ.ศ. 2548 – 2558 จำนวนจะเพิ่มขึ้นจาก 41 ล้าน เป็น 43 ล้านคน หลังจากนั้นจะลดจำนวนลงเหลือ 38 ล้านคนในปี พ.ศ. 2578 อาจกล่าวได้ว่าจำนวนประชากรวัยแรงงานในอนาคตอีก 30 ปีข้างหน้าเกือบไม่เปลี่ยนแปลงเลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตาม การที่จำนวนประชากรวัยเด็กจะลดลงอย่างมากจะมีผลทำให้จำนวนประชากรในวัยเรียน (อายุ 6 – 21 ปี) ลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 16 ล้านคนในปี พ.ศ. 2548 เป็น 11 ล้านคนในปี พ.ศ. 2578(ภาพที่ 2)
                                         

                                                            ภาพที่ 2 จำนวนประชากรวัยต่าง ๆ พ.. 2548 – 2578
        สำหรับประชากรกลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่มผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) คนกลุ่มนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ ในปี พ.ศ. 2548 มีประชากรสูงอายุอยู่ 6 ล้านคนเศษ (ร้อยละ 10) เมื่อถึงปี พ.ศ. 2578 จำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นเป็น 16 ล้านคน (ร้อยละ 25) เท่ากับเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัวในเวลาราว ๆ 30 ปีเท่านั้น(ภาพที่ 3)
                        


                                       ภาพที่ 3 ดัชนีผู้สูงอายุของประเทศไทย พ.ศ. 2548 – 2578

เราอาจจะรู้สึกว่าแรงงานไม่ถึงกลับขาดแคลน แต่แรงงานไทยก็ยังเลือกงานมากขึ้น  เพราะว่าเรามีแรงงานต่างชาติ โดยเฉพาะจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น สิ่งที่เป็นน่าเป็นห่วงก็คือ ประเทศเหล่านี้เริ่มมีพัฒนาการ และการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจดีขึ้น สักวันหนึ่งแรงงานเหล่านี้ คงไม่ต้องดิ้นรนที่จะมาทำงานในประเทศไทยอีกต่อไป สวนทางกับแรงงานของไทยที่จะลดลง เพราะฐานประชากรที่มีอายุเกิน 60 ปีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ดูแล้วช่างน่าเป็นห่วงจริงๆ  เพราะเขาเหล่านั้นคงอยากทำงานในประเทศของเขามากกว่า ถ้าสามารถหางานทำได้สะดวก และมีรายได้พอใช้ในแต่ละวัน จะได้ไม่ต้องจากครอบครัวของตนเพื่อมาทำงานที่ประเทศไทย  ซึ่งอาจทำให้เขารู้สึกว่าเป็นพลเมืองชั้นสอง เนื้อที่หมดแล้ว มาตามอ่านบทความตอนหน้า ว่าการที่รัฐให้ลดหย่อนประกันสุขภาพ 15,000 บาทแท้จริงแล้วใครจะได้ประโยชน์กันครับ


 กิติชัย เตชะงามเลิศ
     21/12/60

ลดหย่อนประกันสุขภาพ  ใครได้ประโยชน์?(ตอนที่ 2)  http://kitichai1.blogspot.com/2017/12/2.html
ลดหย่อนประกันสุขภาพ  ใครได้ประโยชน์?(ตอนจบ) http://kitichai1.blogspot.com/2017/12/blog-post.html

ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยเอาเม้าส์ไปทางด้านขวามือจะมีแถบแสดงออกมา แล้วเลือกคลิกไอคอนที่เขียนว่าสมัครรับข้อมูล เมื่อผมมีบทความใหม่ ท่านก็จะทราบทันที

  
      ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่


      หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"   
              2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน” 
              3.นิตยสาร Be Link ทุกเดือน 
              4.นิตยสาร GQ เดือนเว้นเดือน
              5.นิตยสาร Me(Market Evolution) วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส

หาอสังหาทั้งถูกและดีเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ได้ที่  http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty


     ชีวาทัย เรสซิเดนท์ อโศก (CHEWATHAI RESIDENCE ASOKE) ยูนิต สุดสวย ซื้อมาในรอบ VVIP เจ้าของขายเอง เดิน 5 นาทีจากสถานี MRTพระราม 9 และ 4 นาทีจาก AIRPORT LINK สถานีมักกะสัน ติดกับทางด่วนศรีรัชที่ทางลงรัชดา

  พื้นที่ใช้สอยรวม 35.14(28.63+6.51) ตรม. 1ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน ตกแต่งสวยมาก มี ผ้าม่าน เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน แอร์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้าฝาหน้า เครื่องอบผ้า Digital TV 40 นิ้ว เครื่องทำน้ำอุ่น และ Microwave ราคา 4,700,000 บาท หันไปทางทิศเหนือ ไม่มีอะไรบล็อกวิว ไม่ใกล้ห้องขยะ พร้อมปล่อยเช่าในเดือนมกราคม 2561 ค่าเช่าเดือนละ 19,000



ดูวีดีโอได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=Ur4i41afEmU








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น