จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2560

นักท่องเที่ยวจีนกับคอนโดไทย(ตอนที่ 1)

                                     นักท่องเที่ยวจีนกับคอนโดไทย(ตอนที่ 1)




        ธุรกิจที่เชิดหน้าชูตาของประเทศไทย และสามารถต่อกรกับประเทศอื่นๆบนโลกใบนี้ได้อย่างดีทีเดียว ก็คือธุรกิจการท่องเที่ยว  จะเห็นได้จากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนประเทศไทย ติดอันดับที่ 9 ของประเทศทั่วโลก โดยปี 2559 มีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทย 32.60 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่ 29.9 ล้านคน เพิ่มขึ้นมา 2.7 ล้านคนหรือคิดเป็น 8.9%   (ที่มา : United Nations World Tourism Organization) ตามภาพที่ 1 จะเห็นได้ว่าประเทศที่ติดอันดับ Top 10 เป็นประเทศในทวีปยุโรปถึง 6 ประเทศ( ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี สหราชอาณาจักร และเยอรมันตามลำดับ)  ทวีปอเมริกาเหนือ 2 ประเทศ(สหรัฐอเมริกา และเม็กซิโก)  ทวีปเอเชีย 2 ประเทศ(สาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศไทย)  ที่เป็นเช่นนี้น่าจะเป็นเพราะว่าชาวยุโรปและชาวอเมริกา มีรายได้ประชากรต่อหัวสูง เมื่อเทียบกับคนชาติอื่นๆในทวีปอื่นๆ  และการที่ชาวยุโรปมีประเทศติดกัน การเดินทางสะดวก และไม่ต้องขอวีซ่าเวลาจะเข้าประเทศ  ในขณะที่ประเทศจีนมีขนาดพื้นที่กว้างใหญ่ มีทรัพยากรการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และในกลุ่มประเทศอาเซียนมีประเทศไทยเราประเทศเดียว ที่ติดอันดับ Top 10  น่าชื่นใจจริงๆ

                                  

                                 ภาพที่ 1 : จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวสากลปี 2559   ที่มา : WIKIPEDIA

       ในปัจจุบันบนโลกใบนี้มีประเทศถึง 195 ประเทศโดยที่ 193 ประเทศเป็นสมาชิกสหประชาชาติขณะที่อีก 2 ประเทศยังเป็นแค่เพียง  Non-Member Observer States ซึ่งได้แก่ประเทศ The Holy See และ The State of Palestine
(ที่มา : http://www.worldometers.info/) สะท้อนให้เห็นถึงความเข้มแข็งของธุรกิจท่องเที่ยวของไทย  นอกจากธุรกิจเหล่านี้จะดำเนินธุรกิจในประเทศไทยแล้วหลายปีที่ผ่านมา ทั้งไปรับบริหารกิจการโรงแรม และรีสอร์ทต่างๆในหลายประเทศ  ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไมเนอร์อินเตอร์ เซ็นทรัล ดุสิตธานี ๆลๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความแข็งแกร่งมาก ถึงขนาดที่ไปเทคโอเวอร์กลุ่มโรงแรมต่างชาติ อย่างเช่นกลุ่มไมเนอร์อินเตอร์ที่ไปเทคกลุ่มโรงแรม TIVOLI ในโปรตุเกส และบราซิล เมื่อต้นปี 2558 รวมทั้งโรงแรมในกลุ่มของ Oaks Hotels and Resorts

         เมื่อมาดูจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มาเข้ามาเที่ยวในเมืองไทยปี ตั้งแต่ ปี 2550 ถึง 2559(ภาพที่ 2) จะเห็นได้ว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นเกือบทุกปี ในอัตราที่โตพอสมควร โดยบางปีโตมากกว่า 30% เสียด้วย มีอยู่เพียง 2 ปีที่มีอัตราการเติบโตติดลบ คือปี 2552 ซึ่งในปีนั้นเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศไทย ช่วงเมษายน หรือ สงกรานต์เลือด เป็นเหตุการณ์การเดินขบวนทางการเมืองในกรุงเทพมหานครและพัทยา เพื่อขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และมีการสลายการชุมนุมด้วยทหารตามมา ช่วงที่การประท้วงถึงขีดสุด มีผู้ประท้วงมากถึง 100,000 คน จนรัฐบาลอภิสิทธิ์ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และปี 2557 ซึ่งได้เกิดเหตุการณ์รัฐประหาร โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่ 22 พฤษภาคม ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดฮวบลงอย่างน่าใจหาย ที่จองโรงแรมไปแล้วก็ขอยกเลิก ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจต่อเนื่องมีความซบเซา ซึ่งส่งผลกระทบกับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยใน 2 ปีนั้นเป็นอย่างมาก



                                                        ภาพที่ 2 : สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทย ปี 2550 ถึง 2559
                    ที่มา : กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

เมื่อมาชำแหละดูจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มาเข้ามาเที่ยวในเมืองไทยปี 2553 ถึง 2559(ภาพที่ 3) ถ้านับเป็นรายประเทศ จะเห็นได้ว่านักท่องเที่ยวจีนเป็นอันดับที่ 1 ซึ่งเริ่มเข้ามาติดอันดับที่ 1 ตั้งแต่ปี 2555 แล้วก็ติดอันดับที่หนึ่งมาตลอด ถ้าดูจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งมีจำนวน 777,508 คน จนถึงปีล่าสุดคือปี 2559  มีจำนวน 8,757,466 คน  เท่ากับว่าในช่วง 7 ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นมาถึง 7,979,958 คน หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นมาถึง 1,026.35%  ถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่สูงมาก

          ในขณะที่นักท่องเที่ยวในประเทศกลุ่มอาเซียน ถ้าเปรียบเทียบตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งมีจำนวน 3,968,579 คน จนถึงปีล่าสุดคือปี 2559  มีจำนวน 8,658,051 คน  เท่ากับว่าในช่วง 7 ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นมาถึง 4,689,472 คน หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นมาถึง 118.17%  ถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่น่าพอใจเลยทีเดียว

10 อันดับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่ปี 2549 ถึง 2559



          
* ประเทศในกลุ่มอาเซียน                                     
                                                 ภาพที่ 3 : 10 อันดับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่ปี 2549 ถึง 2559
                  ที่มา : กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ยังไม่ทันเข้าเรื่อง เนื้อที่ก็หมดเสียแล้ว ติดตามอ่านตอนต่อได้ที่ http://kitichai1.blogspot.com/2017/12/blog-post_88.html

กิติชัย เตชะงามเลิศ
     21/12/60

นักท่องเที่ยวจีนกับคอนโดไทย(ตอนจบhttp://kitichai1.blogspot.com/2017/12/blog-post_88.html
ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยเอาเม้าส์ไปทางด้านขวามือจะมีแถบแสดงออกมา แล้วเลือกคลิกไอคอนที่เขียนว่าสมัครรับข้อมูล เมื่อผมมีบทความใหม่ ท่านก็จะทราบทันที

  
      ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่


      หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"   
              2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน” 
              3.นิตยสาร Be Link ทุกเดือน 
              4.นิตยสาร GQ เดือนเว้นเดือน
              5.นิตยสาร Me(Market Evolution) วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส


หาอสังหาทั้งถูกและดีเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ได้ที่  http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty



แอสปาย สาธร-ราชพฤกษ์ Aspire Sathorn-Rajpruek ขายดาวน์ 6 ยูนิตสุดสวย เพียง 2 ล้านบาทเท่านั้น 1 ก้าวจาก SKY WALK รถไฟฟ้าบางหว้า และรถไฟฟ้า MRT (เป็นสถานี INTERCHANGE)
        

        ห้องที่จะขายดาวน์(คาดว่าจะแล้วเสร็จ กย. 2561) ขนาด 26 ตรม. แบบ STUDIO ห้องหันไปทางทิศใต้ รับลมตลอดทั้งปี ราคา 2,000,000 บาท

CALL   : 081-8118229
LINE   : gid_kitichai
Wechat : gid_kitichai

       Aspire Sathorn-Rajpruek, 1 step from BTS Bangwah & MRT, only 2 million baht.



Down Payment sales : Studio type, 26 sqm., the balcony facing south, only 2 million baht.

CALL   : 081-8118229
LINE   : gid_kitichai
Wechat : gid_kitichai
EMAIL  : gid1998@gmail.com



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น