บัตรเครดิต โหดได้อีก!
(ตอนจบ)
บทความที่แล้วผมได้กล่าวถึงมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่เพิ่งประกาศใช้เมื่อเร็วๆนี้เ กี่ยวกับธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล รวมถึงกรณีการใช้บัตรเครดิตของผม
ที่เป็นหนี้บัตรค้างชำระอยู่ 1,272.13 บาท
ถูกเรียกเก็บชำระดอกเบี้ยเป็นจำนวนเงิน ถึง 1,545.98 บาท ทั้งๆที่เป็นหนี้เพียงแค่ 4 วัน
อะไรจะโหดปานนั้น
เราลองมาดูวิธีการคำนวณดอกเบี้ยของพวกธุรกิจบัตรเครดิต
และสินเชื่อส่วนบุคคลกันครับ
บัตรเครดิตใบนี้ปิดยอดทุกวันที่ 23
ของเดือน และวันกำหนดชำระเงินทุกวันที่ 13 ของเดือน
อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตค้างชำระเท่ากับ 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
ในเดือนนั้นผมมีรายการค่าใช้จ่ายบัตรเครดิตดังต่อไปนี้
รายการที่
วันที่บันทึกรายการ
วันที่ใช้บัตร รายการ
จำนวนเงิน(บาท)
1 26/05 25/05
ค่าสาธารณูปโภค 1,068.93
2 29/05 26/05
ช้อปปิ้งทางอินเตอร์เน็ต 1,390.00
3 08/06 07/06
ค่าสาธารณูปโภค 319.93
4 15/06 15/06 รายการใช้จ่ายที่ห้างสรรพสินค้า 96,117.00
รวมเป็นเงิน
98,895.86
ผมชำระค่าใช้จ่ายบัตรเครดิตด้วยวิธีตัดผ่านบัญชีออมทรัพย์
ณวันที่ 13 กรกฎาคม 2560 มีเงินคงค้างอยู่ในบัญชีเพียง 97,623.73 บาท
ซึ่งทางศูนย์บัตรได้ตัดจำนวนเงินคงค้างในบัญชีผมออกไปทั้งหมดจนเหลือ 0 บาท
เท่ากับว่าผมยังค้างชำระอยู่ 1,272.13 บาท
ซึ่งผมได้โอนเงินชำระส่วนที่ค้างอยู่จำนวนนี้ ไปให้กับทางศูนย์บัตร
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2560 หลังจากโทรสอบถามกับ call center ของศูนย์บัตรดังกล่าว สรุปแล้วผมเป็นหนี้บัตรเครดิตเพียง 4
วันจากเงินต้นเพียง 1,272.13 บาท 1
เดือนถัดมาผมได้รับ statement แสดงรายการใช้จ่ายบัตรเครดิตของผม
ปรากฏว่ามีรายการดอกเบี้ยเป็นจำนวนเงิน 1,545.98 บาท
นี่เป็นการปล้นกันชัดๆเลย
มาดูวิธีการคิดดอกเบี้ยมหาโหดกันครับ
ว่าธุรกิจบัตรเครดิตเขาคิดกันอย่างไร
บัตรเครดิตเขาคิดดอกเบี้ยทีละรายการโดยยึดวันที่บันทึกรายการเป็นวันเริ่มต้น
จนไปถึงวันกำหนดชำระเงิน
รายการที่ 1 จำนวนวันที่นำมาคำนวณก็คือ 6 + 30 +
12 = 48 วัน
ดอกเบี้ย = (1,068.93x20/100) x 48/365 = 28.11 บาท
รายการที่ 2 จำนวนวันที่นำมาคำนวณก็คือ 3 + 30 +
12 = 45 วัน
ดอกเบี้ย = (1,390x20/100) x 45/365 = 34.27 บาท
รายการที่ 3 จำนวนวันที่นำมาคำนวณก็คือ 23 + 12
= 35 วัน
ดอกเบี้ย = (319.93x20/100) x 35/365 = 6.14 บาท
รายการที่ 4 จำนวนวันที่นำมาคำนวณก็คือ 16 + 12
= 28 วัน
ดอกเบี้ย = (96,117x20/100) x 28/365 = 1,474.67 บาท
รวมดอกเบี้ยของ 4 รายการ = 1,543.19 บาท แต่มียอดค้างชำระอยู่
1,272.13 บาท
เป็นเวลา 4 วัน ทำให้เกิดดอกเบี้ย
(1,272.13x20/100) x 4/365 = 2.79 บาท ดังนั้นเมื่อรวมดอกเบี้ยทั้งหมด จึงกลายเป็น 1,543.19 + 2.79 = 1,545.98 บาท
สิ่งที่ทางธุรกิจบัตรเครดิตเอาเปรียบผู้ใช้บัตรที่เห็นกันได้ชัดๆก็คือ
จำนวนวันที่เริ่มต้นนับจากวันที่บันทึกการใช้บัตร แทนที่จะเป็นวันครบกำหนดชำระเงิน
เพราะว่าถ้าชำระเต็มจำนวนเมื่อชำระตรงเวลา ก็จะไม่มีการคิดดอกเบี้ยเหล่านี้ โดยปกติธุรกิจบัตรเครดิตจะมีการคิดค่าธรรมเนียมกับร้านค้าที่รับบัตรเครดิตในอัตราประมาณ
2-3 เปอร์เซ็นต์ อยู่แล้ว โดยปกติระยะเวลาสูงสุดในการปลอดดอกเบี้ยไม่เกิน 50 วัน
ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับวันที่ใช้บัตรและวันที่บันทึกรายการ เมื่อนำมาคิดโดยเฉลี่ย
ก็จะเป็นช่วงปลอดดอกเบี้ยประมาณ 30 วันเท่านั้น
ซึ่งก็สามารถชดเชยได้อยู่แล้ว จากค่าธรรมเนียมที่บัตรเครดิตเก็บจากร้านค้า แล้วก็เช่นกัน
ไม่มีร้านค้าไหนที่จะไม่แอบบวกเพิ่มราคาสินค้าหรือบริการไปกับผู้บริโภค
ซึ่งเท่ากับว่าผู้บริโภคต้องแบกภาระค่าธรรมเนียมแทนร้านค้าอยู่แล้ว ดังนั้นเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง ที่ธุรกิจบัตรเครดิตจะนับจำนวนวัน
เพื่อคำนวณดอกเบี้ยแบบที่ทำกันอยู่ในปัจจุบัน
เพราะคิดอย่างไรก็ไม่สมเหตุสมผลกันเลยจริงๆ
ก็เพราะใช้วิธีการคิดดอกเบี้ยแบบนี้จึงทำให้ดอกเบี้ยที่ทางบัตรเครดิตคิดกับผู้ใช้บัตรอย่างผม เป็นค่าดอกเบี้ยที่สูงกว่าเงินต้น
ทั้งๆที่เป็นหนี้เพียงแค่ 4 วันเท่านั้น ไหนๆทางธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็เพิ่งออกมาตรการควบคุมธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลมาเมื่อเร็วๆนี้ จะไม่ช่วยเพิ่มเติมมาตรการควบคุมวิธีการคำนวณดอกเบี้ย
เพื่อไม่ให้มีการเอารัดเอาเปรียบกันอีกต่อไป ช่วยกันทั้งทีก็ควรจะทำให้สะเด็ดน้ำ หรือจะปล่อยให้ผู้ใช้บัตรเครดิตและหรือผู้ที่ใช้สินเชื่อส่วนบุคคล
จะต้องถูกมัดมือชกเอารัดเอาเปรียบอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแบบนี้อีกต่อไปหรือครับ
31/8/60
ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยเอาเม้าส์ไปทางด้านขวามือจะมีแถบแสดงออกมา แล้วเลือกคลิกไอคอนที่เขียนว่าสมัครรับข้อมูล เมื่อผมมีบทความใหม่ ท่านก็จะทราบทันที
ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/
หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"
2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน”
3.นิตยสาร Be Link ทุกเดือน
4.นิตยสาร GQ เดือนเว้นเดือน
5.นิตยสาร Me(Market Evolution) วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส
หาอสังหาทั้งถูกและดีเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ได้ที่ http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty
นอตติ้ง ฮิลล์ ดิ เอ็กซ์คลูซีฟ เจริญกรุง 93 (Notting Hill The Exclusive CharoenKrung 93) 3 ยูนิตสุดสวย ราคาพิเศษ
ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ห่างจากเอเชียทีคเพียง 140 เมตร
ห้องที่จะขายดาวน์
1.ห้อง
403 ชั้น 4 ประเภทห้อง B2 : 1 นอน 1 น้ำ ไม่ติดลิฟท์ พื้นที่ใช้สอย : 27 ตารางเมตร ระเบียงหันไปทิศตะวันออกเฉียงเหนือ วิวสระว่ายน้ำ
เฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตกแต่งสวยมาก ราคา 2,700,000 บาท
2.ห้อง
410 ชั้น 4 ประเภทห้อง B4 : 1 นอน 1 น้ำ ไม่ติดลิฟท์ พื้นที่ใช้สอย : 32 ตารางเมตร ระเบียงหันไปทิศตะวันออกเฉียงใต้ ไม่โดนบล็อควิว
เฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตกแต่งสวยมาก ราคา 3,200,000 บาท
3.ห้อง
810 ชั้น 8 ประเภทห้อง B4 : 1 นอน 1 น้ำ ไม่ติดลิฟท์ พื้นที่ใช้สอย : 32 ตารางเมตร ระเบียงหันไปทิศตะวันออกเฉียงใต้ ไม่โดนบล็อควิว
เฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตกแต่งสวยมาก ราคา 3,300,000 บาท
เส้นทางที่สามารถเข้าออกได้จากตัวโครงการ
-เจริญกรุง-เยาวราช
-เจริญราษฏร์-สาทร
-เจริญราษฏร์-พระราม 3
-รัชดาภิเษก-ท่าพระ
-เจริญราษฏร์-สาทร
-เจริญราษฏร์-พระราม 3
-รัชดาภิเษก-ท่าพระ