จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันพุธที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ลงทุนคอนโดกำไรเป็นล้าน(ตอนที่ 1)

                                ลงทุนคอนโดกำไรเป็นล้าน(ตอนที่ 1)

                                                    
            ปัจจุบันคนไทย สนใจหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องการลงทุนมากขึ้น จะเห็นได้จากหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องการลงทุนมีมากมาย บนชั้นหนังสือตามร้านหนังสือทั่วไป  ยิ่งสมัยนี้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของสถาบันการเงิน อยู่ในระดับที่ต่ำมาก  ทำให้คนที่พอจะมีเงินออมต้องขวนขวายช่องทาง ในการทำให้เงินงอกเงยมากขึ้น เพราะจะมาหวังดอกเบี้ยจากเงินฝากสถาบันการเงิน ก็คงไม่เพียงพอ 

            อสังหาริมทรัพย์ก็สามารถตอบโจทย์นี้ได้อย่างดีทีเดียว เพราะว่าโดยปกติ ราคาอสังหาริมทรัพย์  จากทวีมูลค่าขึ้นไปเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป โอกาสที่ราคาอสังหาริมทรัพย์จะตกลงก็ต่อเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ๆ อย่างเช่นวิกฤตต้มยํากุ้ง เมื่อปี 2540 ที่เริ่มเกิดขึ้นในประเทศไทย แล้วได้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อคนไทยและเศรษฐกิจไทย ทั้งยังส่งผลกระทบไปถึงประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย ลาว เวียดนาม เกาหลีใต้ ฯลฯ   

            ปีนี้ก็เป็นการครบรอบ20 ปีของวิกฤตดังกล่าว  ผมเชื่อว่าในชีวิตคนเราโอกาสที่จะเห็นวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ๆเช่นนี้ อย่างมากก็ 2-3 ครั้งเท่านั้น แต่ที่พูดแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่า วิกฤตเศรษฐกิจกำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้  ผมยังจำได้ว่าตอนช่วงนั้นคนตกงานกันมากมาย แถมยังมีหนี้สินรกรุงรังเต็มไปหมด  มีคนฆ่าตัวตายหลายคน เนื่องมาจากวิกฤตครั้งนั้น  ผมเองก็เอาตัวแทบไม่รอดเหมือนกันเพราะในช่วงนั้นผมก็มีหนี้กับสถาบันการเงินค่อนข้างมาก แต่โชคดีที่ยอมตัดขาดทุนหุ้นที่ลงทุน เพื่อนำเงินไปชำระหนี้กับสถาบันการเงินจนหมดหนี้ และยังเหลือเงินไว้ส่วนหนึ่งสำหรับไว้ใช้จ่ายในช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่ในขณะนั้น ด้วยคำนวณว่าในช่วง 5 ปีข้างหน้า ผมจะต้องมีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าใด  เพราะในช่วงเวลานั้น เหมือนกับอยู่ในอุโมงค์ที่มืดมิด ซึ่งไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายทางเลย นับว่าผมเป็นคนหนึ่งที่โชคดีที่สามารถเอาตัวรอดได้ในช่วงนั้น

            ทำให้ผมลดความ AGGRESSIVE  ในการลงทุนลงมาก จากการลงทุนที่มีสัดส่วนหนี้ต่อส่วนทุนของผม เกินหนึ่งเท่ามาตลอด จนกลายเป็นไม่มีหนี้ แม้อาจจะทำให้ทรัพย์สินผมลดลงก็ตาม  คงเป็นเพราะความคิดเข็ดขยาด  แล้วไม่อยากให้ตัวเองต้องอยู่ในภาวะเช่นนั้นอีก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผมก็เริ่มกลับมาการเป็นคนมีหนี้อีก อย่างไรก็ตามหนี้เหล่านี้ เกิดขึ้นมาจากความต้องการที่จะลงทุน  ในทรัพย์สินที่ผมเชื่อว่าจะทวีมูลค่าในอนาคต  เพียงแต่ผมเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นกว่าแต่ก่อน โดยผมเพิ่มพอร์ตการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ให้มากขึ้น และลดพอร์ตการลงทุนในหุ้นลง เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุน แต่ก็คงสภาพคล่องให้กับพอร์ตการลงทุนไว้ด้วย เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์ที่ถึงแม้จะทวีมูลค่าขึ้นไปเรื่อยๆ  แต่มีข้อเสียคือสภาพคล่องต่ำ ไม่ใช่คิดว่าอยากจะขาย ก็จะขายได้ทันที 

            ในขณะที่หุ้นเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง อยากจะขายเมื่อไหร่ ก็มีคนรอซื้ออยู่ แต่มีข้อเสียคือมีความผันผวนของราคาสูงมาก ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหาย ให้กับพอร์ตการลงทุนได้เป็นอย่างมาก ผมยังจำได้เลยว่า ในช่วงวิกฤตครั้งร้ายแรง ราคาหุ้นของบริษัทต่างๆ ลดลงไปอย่างน่าใจหายตั้งบริษัทราคาลงไปถึง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว  จากเงินลงทุน 1 ล้านบาทเหลือไม่ถึง 100,000 บาท คุณทำใจได้ไหมครับ และยังมีสถาบันการเงินที่ต้องปิดไปหลายๆบริษัท ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ดูเป็นสถาบันการเงินที่แข็งแกร่ง มีการเจริญเติบโตของยอดรายได้และกำไรสูง ใบหุ้นของสถาบันการเงินที่ปิดไปเหล่านี้ มีนักลงทุนหลายท่านนำมันมาใช้เป็นวอลเปเปอร์ติดที่ข้างฝาบ้าน ไม่รู้ว่าเพื่อประชด หรือว่าเอาไว้เตือนสติตัวเองในการลงทุนครั้งต่อไป

           บทความนี้จะขอเน้นเรื่องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์  ถ้าคุณสนใจที่จะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ก่อนอื่นคุณต้องตัดสินใจก่อนว่า การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของคุณครั้งนี้เป็นการลงทุนเพื่ออะไร เพราะว่าในการลงทุนของคุณแต่ละครั้ง อาจจะมีจุดประสงค์ไม่เหมือนกัน บางครั้งคุณอาจจะต้องการซื้อเพื่อเก็งกำไร แต่บางครั้งอาจจะต้องการซื้อเพื่อลงทุน ดังนั้นวิธีการที่จะซื้ออสังหาจากจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน ย่อมต้องมีวิธีการที่แตกต่างกันด้วยเช่นกัน ที่นี้เรามาดูจุดประสงค์ของการซื้ออสังหาโดยทั่วๆไปจะแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ

         1. เก็งกำไร โดยหวังที่จะขายใบจองได้ก่อนที่โครงการจะสร้างเสร็จ หรือที่หลายๆคนมักเรียกว่า "จับเสือมือเปล่า"

        2. ลงทุน  นั่นหมายความว่าคุณพร้อมที่จะโอนยูนิตที่คุณซื้อไว้ เมื่อโครงการสร้างเสร็จ ซึ่งยังอาจแบ่งได้เป็น 2 จุดประสงค์คือ

               2.1 ตั้งใจที่จะขายยูนิตที่คุณซื้อไว้ หลังจากที่ตึกสร้างเสร็จ

               2.2 ตั้งใจที่จะถือยูนิตที่ซื้อไว้ เพื่อหวังปล่อยเช่า

          ติดตามอ่านบทความหน้า ซึ่งผมจะแนะนำวิธีการซื้ออสังหา ไม่ว่าจุดประสงค์ของการซื้อครั้งนั้น จะเป็นการลงทุนหรือเก็งกำไรก็ตาม

 เคล็ดลับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ให้ประสบความสำเร็จ(ตอนจบ) อ่านต่อที่ http://kitichai1.blogspot.com/2017/08/blog-post.html

กิติชัย เตชะงามเลิศ
     2/8/60

ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยเอาเม้าส์ไปทางด้านขวามือจะมีแถบแสดงออกมา แล้วเลือกคลิกไอคอนที่เขียนว่าสมัครรับข้อมูล เมื่อผมมีบทความใหม่ ท่านก็จะทราบทันที

  
      ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่

 Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
 Twitter : http://twitter.com/value_talk
 Instagram : Gid_Kitichai
 Blog : http://kitichai1.blogspot.com
 You Tube : http://www.youtube.com/user/wittayu9
 Google+ : https://www.google.com/+KitichaiTaechangamlert
  Pinterest : http://www.pinterest.com/kitichai/

      หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"   
              2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน” 
              3.นิตยสาร Be Link ทุกเดือน 
              4.นิตยสาร GQ เดือนเว้นเดือน
              5.นิตยสาร Me(Market Evolution) วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส

หาอสังหาทั้งถูกและดีเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุน ได้ที่  http://www.pantipmarket.com/mall/homeproperty

 นอตติ้ง ฮิลล์ ดิ เอ็กซ์คลูซีฟ เจริญกรุง 93 (Notting Hill The Exclusive CharoenKrung 93) 3 ยูนิตสุดสวย ราคาพิเศษ ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ห่างจากเอเชียทีคเพียง 140 เมตร




ห้องที่จะขายดาวน์
1.ห้อง 403 ชั้น 4 ประเภทห้อง B2 : 1 นอน 1 น้ำ ไม่ติดลิฟท์ พื้นที่ใช้สอย : 27 ตารางเมตร ระเบียงหันไปทิศตะวันออกเฉียงเหนือ วิวสระว่ายน้ำ เฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตกแต่งสวยมาก ราคา 2,700,000 บาท

2.ห้อง 410 ชั้น 4 ประเภทห้อง B4 : 1 นอน 1 น้ำ ไม่ติดลิฟท์ พื้นที่ใช้สอย : 32 ตารางเมตร ระเบียงหันไปทิศตะวันออกเฉียงใต้ ไม่โดนบล็อควิว เฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตกแต่งสวยมาก ราคา 3,200,000 บาท

3.ห้อง 810 ชั้น 8 ประเภทห้อง B4 : 1 นอน 1 น้ำ ไม่ติดลิฟท์ พื้นที่ใช้สอย : 32 ตารางเมตร ระเบียงหันไปทิศตะวันออกเฉียงใต้ ไม่โดนบล็อควิว เฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตกแต่งสวยมาก ราคา 3,300,000 บาท
ชื่อโครงการ
 นอตติ้ง ฮิลล์ ดิ เอ็กซ์คลูซีฟ เจริญกรุง 93 (Notting Hill The Exclusive CharoenKrung 93)

เจ้าของโครงการ
 บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

เนื้อที่ทั้งหมด
 1-1-79 ไร่

จำนวนตึก
 1 อาคาร

จำนวนชั้น
 8 ชั้น

จำนวนห้อง
 132 ยูนิต

ลักษณะห้องและขนาดห้อง
– 1 Bedroom : ขนาดเริ่มต้น 27.00 ตร.ม.
– 2 Bedrooms : ขนาดเริ่มต้น 41.00 ตร.ม.

ที่จอดรถทั้งหมด
 รอข้อมูลจากโครงการ







การเดินทาง
 รถประจำทางสาย 1, 75, 15, 547 เพื่อมายังซอยเจริญกรุง 93 ซึ่งป้ายรถเมล์จะตั้งอยู่ปากซอย หรือหากอยากนั่งเรือสัมผัสบรรยากาศแบบชิลๆ ก็สามารถทำได้โดยขึ้นเรือที่ท่าสาทร (จุดเดียวกับสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน) โดยให้ขึ้นลำที่จะเดินทางมายังเอเชียทีค จากนั้นให้เดินทะลุเอเชียทีคมาที่ถนนเจริญกรุง เมื่อข้ามถนนมาก็จะเจอกับซอย โครงการ

ที่ตั้ง
 ซอยเจริญกรุง 93 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม.10120 (ห่างจาก BTS สะพานตากสิน และจุดขึ้นลงทางด่วนบริเวณถนนจันทร์ 2 กม.)




ปีที่สร้างเสร็จ
 กรกฎาคม 2560

ค่าส่วนกลางและกองทุน
 45 บาท/ตร.ม.และ 500 บาท/ตร.ม. ตามลำดับ







สถานที่สำคัญใกล้เคียง
  1. เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ 0.1กม.
  2. โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ (Shrewsbury International School) 1 กม.
  3. รร.วัดสุทธิฯ
4.Chatrium Riverside Bangkok 1.3 กม.
5. Four Seasons Residence และ Capella 1.5 กม.
6.โรงแรม รามาดา ริเวอร์ไซด์ และ แม่น้ำ เรสซิเดนท์ 0.6 กม.

สิ่งอำนวยความสะดวก
  • Lobby
  • Mailbox
  • สระว่ายน้ำ
  • ฟิตเนส
  • สวนหย่อม
  • Access Card Control
  • CCTV
  • รปภ. 24 ชม.





    เส้นทางที่สามารถเข้าออกได้จากตัวโครงการ

-เจริญกรุง-เยาวราช
-เจริญราษฏร์-สาทร
-เจริญราษฏร์-พระราม 3
-รัชดาภิเษก-ท่าพระ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น