รูปแบบถัดมา DOUBLE TOP และ TRIPLE TOP ซึ่งทั้ง 2
รูปแบบเป็นการเคลื่อนไหวที่มีการสร้างจุดสูงสุดอยู่ในระดับเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน
โดยที่ DOUBLE TOP จะเป็นจุดสูงสุด 2 จุดในขณะที่ TRIPLE
TOP จะมีจุดสูงสุด 3 จุด โดยปกติเมื่อราคาหุ้นเมื่อเกิด DOUBLE
TOP หรือ TRIPLE TOP แล้ว
ถ้ามีการดีดราคาขึ่นมาอีกครั้ง ส่วนใหญ่จะมีจุดสูงสุดดังกล่าวนั้นเป็นแนวต้าน
ทำให้ราคาหุ้นต้องปรับตัวลง ยกเว้นแต่การปรับขึ้นมารอบหลังมีมูลค่าการซื้อขายมากกว่า
2 หรือ 3 รอบ กรณี DOUBLE TOP และ TRIPLE TOP ตามลำดับ ก็อาจจะทำให้ราคาหุ้นที่ขึ้นมารอบหลังสามารถตีทะลุขึ้นไปได้
ซึ่งจุดสูงสุดเดิมก็จะกลายเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งในทันที ในทางกลับกัน DOUBLE BOTTOM และ TRIPLE BOTTOM โดยทั้ง 2 รูปแบบเป็นการเคลื่อนไหวที่มีการสร้างจุดต่ำสุดอยู่ในระดับเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน
โดยที่ DOUBLE BOTTOM จะเป็นจุดต่ำสุด 2 จุด ในขณะที่ TRIPLE
BOTTOM จะมีจุดต่ำสุด 3 จุด
โดยปกติเมื่อราคาหุ้นเมื่อเกิด DOUBLE BOTTOM หรือ TRIPLE
BOTTOM แล้วถ้ามีการปรับตัวลงมาอีกรอบหนึ่ง ส่วนใหญ่จะมีจุดต่ำสุดดังกล่าวเป็นแนวรับ
ทำให้ราคาหุ้นมีการเด้งกลับขึ้นไป
เว้นแต่การปรับตัวลงมารอบนี้มีมูลค่าซื้อขายเข้ามาหนาแน่นกว่าเดิมมากๆ
โอกาสที่จะทะลุจุดต่ำสุดเดิม สร้างจุดต่ำสุดใหม่ก็จะมีมากขึ้น
ซึ่งจุดต่ำสุดเดิมก็จะกลายเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่งขึ้นมาทันที
เมื่อราคาหุ้นมีการดีดกลับขึ้นมา
ภาพที่ 1: DOUBLE TOP เครดิตภาพ : forex
รูปแบบต่อมาที่ผมคิดว่านักลงทุนที่ใช้เทคนิคการดูกราฟควรจะทำความเข้าใจก็คือ รูปแบบ HEAD & SHOULDER (หัวและไหล่) (H&S) เป็นรูปแบบที่มีการฟอร์มตัวของราคาคล้ายๆรูปหัวคน และมีไหล่ซ้ายและไหล่ขวา โดยที่ระดับของไหล่ทั้ง 2 ข้างโดยปกติจะอยู่ใกล้เคียงกัน ในขณะที่ส่วนหัวจะมีจุดสูงกว่าจุดสูงของไหล่ทั้ง 2 ข้าง โดยที่เมื่อไรก็ตามที่รูปแบบฟอร์มตัวไหล่ซ้าย และส่วนหัวเสร็จแล้ว กำลังจะฟอร์มตัวเป็นไหล่ขวา เมื่อราคาลงมาทะลุเส้นที่ลากจากส่วนไหล่ซ้าย มาที่ไหล่ขวา ก็จะเป็นสัญญาณขาย ซึ่งรูปแบบนี้ที่จริงก็คือการเปลี่ยนรูปแบบจากเดิม ขาขึ้นกลายเป็นขาลงนั่นเอง ในทำนองกลับกัน รูปแบบ HEAD & SHOULDER BOTTOM ซึ่งเป็นรูปแบบที่ตรงกันข้ามกับ HEAD & SHOULDER คือ เป็นการฟอร์มตัวของราคาคล้ายรูปคน มีไหล่ซ้ายและไหล่ขวา โดยที่ระดับของไหล่ทั้ง 2 ข้างโดยปกติจะอยู่ใกล้เคียงกันแต่คราวนี้กลายป็นรูปแบบคว่ำ โดยทั้งหัวและไหล่ กลับหัวลงไปอยู่ด้านล่าง โดยเมื่อราคาหุ้นมีการฟอร์มตัวเป็น ไหล่ซ้าย และส่วนหัวเสร็จแล้ว กำลังจะฟอร์มตัวเป็นไหล่ขวาอยู่ เมื่อราคาทะลุเส้นที่ลากจากส่วนไหล่ซ้าย มาที่ไหล่ขวาขึ้นไปก็จะกลายเป็นสัญญาณซื้อ ซึ่งรูปแบบนี้คือการเปลี่ยนรูปแบบจากเดิมที่เป็นขาลงกลายเป็นขาขึ้นนั่นเอง
รูปแบบต่อมาที่ผมคิดว่านักลงทุนที่ใช้เทคนิคการดูกราฟควรจะทำความเข้าใจก็คือ รูปแบบ HEAD & SHOULDER (หัวและไหล่) (H&S) เป็นรูปแบบที่มีการฟอร์มตัวของราคาคล้ายๆรูปหัวคน และมีไหล่ซ้ายและไหล่ขวา โดยที่ระดับของไหล่ทั้ง 2 ข้างโดยปกติจะอยู่ใกล้เคียงกัน ในขณะที่ส่วนหัวจะมีจุดสูงกว่าจุดสูงของไหล่ทั้ง 2 ข้าง โดยที่เมื่อไรก็ตามที่รูปแบบฟอร์มตัวไหล่ซ้าย และส่วนหัวเสร็จแล้ว กำลังจะฟอร์มตัวเป็นไหล่ขวา เมื่อราคาลงมาทะลุเส้นที่ลากจากส่วนไหล่ซ้าย มาที่ไหล่ขวา ก็จะเป็นสัญญาณขาย ซึ่งรูปแบบนี้ที่จริงก็คือการเปลี่ยนรูปแบบจากเดิม ขาขึ้นกลายเป็นขาลงนั่นเอง ในทำนองกลับกัน รูปแบบ HEAD & SHOULDER BOTTOM ซึ่งเป็นรูปแบบที่ตรงกันข้ามกับ HEAD & SHOULDER คือ เป็นการฟอร์มตัวของราคาคล้ายรูปคน มีไหล่ซ้ายและไหล่ขวา โดยที่ระดับของไหล่ทั้ง 2 ข้างโดยปกติจะอยู่ใกล้เคียงกันแต่คราวนี้กลายป็นรูปแบบคว่ำ โดยทั้งหัวและไหล่ กลับหัวลงไปอยู่ด้านล่าง โดยเมื่อราคาหุ้นมีการฟอร์มตัวเป็น ไหล่ซ้าย และส่วนหัวเสร็จแล้ว กำลังจะฟอร์มตัวเป็นไหล่ขวาอยู่ เมื่อราคาทะลุเส้นที่ลากจากส่วนไหล่ซ้าย มาที่ไหล่ขวาขึ้นไปก็จะกลายเป็นสัญญาณซื้อ ซึ่งรูปแบบนี้คือการเปลี่ยนรูปแบบจากเดิมที่เป็นขาลงกลายเป็นขาขึ้นนั่นเอง
ภาพที่ 2: HEAD & SHOULDER เครดิตภาพ : medium
เรื่องต่อไปที่ท่านควรจะศึกษาเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวข้องกับเรื่อง GAP
คือการที่ราคามีการเปิดช่องว่างของราคาซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้งช่วงที่หุ้นมีราคาขึ้น
หรือช่วงที่หุ้นมีราคาลงมาก็ตาม เช่น ราคาวันก่อนหน้าของหุ้น DEF มีจุดสูงสุดที่ 3.70 ต่ำสุดที่ 3.30 บาท และมีราคาปิดที่ 3.50
วันถัดมาราคาเปิดกระโดดที่ 4 บาทเลย เนื่องจากมีข่าวดีบางอย่าง
ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาตั้งแต่ช่วงเปิดตลาดเช้า แล้วขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 4.50
จะเห็นได้ว่า ราคาต่ำที่สุดของวันล่าสุด
กับราคาสูงสุดของวันก่อนมีช่องว่างของราคา
นี่คือสิ่งที่เราเรียกว่า GAP นั่นเอง ซึ่งปกติ GAP
จะเป็นการแสดงถึงความแข็งแรงของทิศทางราคาไม่ว่าจะเป็นทิศทางขาขึ้นหรือลง
ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการที่มีข่าวดีหรือข่าวร้ายที่เหนือความคาดหมายของนักลงทุนในตลาด
โดย GAP มี 3 รูปแบบคือ
1. BREAKAWAY GAP เป็นการสร้าง GAP ชุดแรก
โดยปกติจะเกิดจากการที่ราคาหุ้นสามารถทะลุเส้นแนวรับหรือแนวต้านสำคัญ
ภาพที่ 3: BREAKAWAY GAP เครดิตภาพ : stock charts
2. RUNAWAY GAP เป็น GAP ที่เกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากเกิด
BREAKAWAY GAP ไปแล้ว
แสดงว่าทิศทางของราคามีความแข็งแกร่งไม่ว่าจะเป็นการขึ้นหรือลงก็ตาม
ภาพที่ 4: RUNAWAY GAP เครดิตภาพ : Investopedia
3. EXHAUSTION GAP เป็น GAP ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากการเกิด
GAP 2 ตัวข้างบนซึ่งเป็น GAP ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายขาขึ้นที่มีการอ่อนกำลังลง
ทำให้คาดการณ์ได้ว่า หุ้นกำลังจะมีการเปลี่ยนทิศทางในอีกไม่นาน นั่นคือ
ถ้าเดิมเป็นทิศทางขาขึ้น นั่นก็หมายความว่ากำลังจะเปลี่ยนเป็นทิศทางลงแล้ว
ในทางกลับกัน ถ้าเดิมเป็นทิศทางลง
นั่นก็หมายความว่ากำลังจะเปลี่ยนเป็นทิศทางขึ้นแล้ว
ภาพที่ 5: EXHAUSTION GAP เครดิตภาพ : tradingsim
และแล้วหลักการลงทุนในตราสารทุนก็จบลงไปแล้วนะครับ บทความหน้าผมจะมาพูดถึงหลักการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์กันครับ
21/1/62
ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยกรอกอีเมลของท่าน ในช่องใต้ Follow by Email ทางด้านขวามือ เมื่อมีบทความใหม่ๆ ก็จะมีการส่งอีเมลแจ้งเตือนให้ท่านทราบ เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดีๆกันนะครับ
ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/c/KitichaiTaechangamlert
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/c/KitichaiTaechangamlert
หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"
2.วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส
ชีวาทัย เรสซิเดนท์ อโศก (CHEWATHAI RESIDENCE ASOKE) Duplex
สุดสวย ขายพร้อมผู้เช่า ผลตอบแทนจากการเช่าดีมาก
ห้องที่จะขายพร้อมผู้เช่า
ห้อง Duplex พื้นที่ใช้สอยรวม 35.70(29.18+6.52) ตรม. 1 นอน 1 น้ำ
เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน ตกแต่งสวยมาก มี ผ้าม่าน 2 ชั้น เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน แอร์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้าฝาหน้า
เครื่องอบผ้า Digital TV 49 นิ้ว เครื่องทำน้ำร้อน และ
Microwave ไม่มีอะไรบล็อกวิว ไม่ใกล้ห้องขยะ ราคา 5,200,000 บาท ขายพร้อมผู้เช่า ค่าเช่า 24,000 บาท/เดือน
สัญญาเช่าสิ้นสุด 21/5/62 ผลตอบแทนจากการเช่า 5.54%
สามารถดาวน์โหลดรูปภาพและวีดีโอทั้งหมดของ
ชีวาทัย เรสซิเดนท์ อโศก(CHEWATHAI RESIDENCE ASOKE) ได้ที่ https://www.dropbox.com/sh/rxfzyw96b5jv6h8/AABxwO6BYYBJeMcDlniNXsgVa?dl=0
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น