จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2562

ลงทุนอะไรดีในช่วงดอกเบี้ยเงินฝาก 1.5 เปอร์เซ็นต์ (ตอนที่ 6)

ลงทุนอะไรดีในช่วงดอกเบี้ยเงินฝาก 1.5 เปอร์เซ็นต์ (ตอนที่ 6)  




          บทความที่แล้วผมเกริ่นเกี่ยวกับเรื่องการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยทางเทคนิค  บทความนี้มาดูกันครับว่าผมเลือกใช้ indicator ตัวไหนบ้างในการช่วยวิเคราะห์ และตัดสินใจในการจับไทม์มิ่งเพื่อซื้อหรือขายหุ้นกันครับ

         1. MOVING AVERAGE (MA) หรือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ มีหลายคนที่เริ่มศึกษาเรื่อง TECHNICAL ANALYSIS ใหม่ๆ มักจะชอบถามว่า ที่มาของ INDICATOR ทั้งหลายนั้น มีสูตรในการคำนวณเพื่อที่จะได้มาอย่างไร ผมเองก็เป็นคนหนึ่งในช่วงเวลาที่เริ่มศึกษาแนวทางนี้ ก็มีความสงสัยดังกล่าวเช่นกัน อาจจะเป็นเพราะสมัยเรียนหนังสือ วิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ผมชอบกระมัง ทำให้มีความอยากรู้ที่มาที่ไป แต่พอผ่านไปสักพัก ผมพบว่ามันไม่มีความจำเป็นแม้แต่น้อยที่จะรู้ที่มาของค่า INDICATOR ต่างๆ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของการวิเคราะห์แบบนี้คือ การดูที่ผลลัพธ์ หรือกราฟที่แสดงออกมา แล้วเราตีความว่าอย่างไร การวิเคราะห์ทางเทคนิคนี้ ผมมีความรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่จะต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ เพราะว่ากราฟรูปเดียวกัน นักวิเคราะห์หลายคนอาจจะเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ในรูปนั้นแตกต่างกัน ผู้ที่มีประสบการณ์ในการดูกราฟมานาน และมีความเชี่ยวชาญอาจจะเห็นหลายๆภาพซ้อนกันอยู่ในภาพเดียวกัน ซึ่งผมจะพูดถึงในโอกาสต่อไป 

ภาพที่ 1: MOVING AVERAGE (MA)    เครดิตภาพ : cns.bu.edu



           แต่ตอนนี้เรากลับมาที่ INDICATOR ตัวแรกก่อน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ผู้ที่เริ่มศึกษาการดูกราฟที่เริ่มต้น จะต้องเรียนรู้ก่อนเป็นตัวแรกๆ MOVING AVERAGE ที่นักลงทุนใช้จะมีหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น แบบ SIMPLE (ปกติ) WEIGHTED (แบบถ่วงน้ำหนัก) และแบบ EXPONENTIAL(แบบยกกำลัง) ตัวผมเองผมจะใช้แบบ EXPONENTIAL เป็นหลัก  เพราะว่ามักจะส่งสัญญาณเร็วกว่า 2 แบบที่เหลือ แต่บางครั้ง สำหรับหุ้นบางตัว ถ้าผมย้อนไปดูอดีตแล้วรู้สึกว่า แบบ EXPONENTIAL ไม่แม่นยำ ผมจะลองใช้แบบ SIMPLE หรือแบบ WEIGHTED ดูเพื่อหาดูว่ารูปแบบใดที่เหมาะกับหุ้นตัวนั้นๆ โดยดูจากความแม่นยำในอดีต โดยนักวิเคราะห์ทางเทคนิค มีความเชื่อเรื่อง HISTORY WILL REPEAT ITSELF หรือประวัติศาสตร์มักจะย้อนรอยตัวเอง นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เขามาดูรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นจากกราฟนั่นเอง ทีนี้เทคนิคในการดู MOVING AVERAGE มีอะไรบ้าง ก่อนอื่นเราต้องเลือกจำนวนวันที่จะใช้เสียก่อน ปกติผมจะใช้ MA 5 , 10 , 15 , 25 , 75 และ 200 วัน โดยเส้น 5 วันเป็นตัวแทนของระยะสั้นมากๆ เส้น 10 วันเป็นตัวแทนระยะสั้น ส่วนเส้น 25 วันเป็นตัวแทนระยะระหว่างระยะสั้นและระยะปานกลาง เส้น 75 วันเป็นตัวแทนระยะปานกลาง และ 200 วันเป็นตัวแทนระยะยาว

            ปกติเวลาที่ราคาหุ้นอยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ย หมายถึงยังดูไม่ค่อยดี ยิ่งถ้าราคาหุ้นอยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ยทั้ง 5 เส้น ยิ่งแสดงว่า หุ้นตัวนั้นอยู่ในภาวะ BEARISH หรือภาวะหมี คืออยู่ในแนวโน้มไม่ดี ในทางตรงกันข้าม ขณะที่ราคาหุ้นตัวใดอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยทั้ง 5 เล้น และค่าเฉลี่ยเหล่านั้นเรียงตัวโดยเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นอยู่ข้างบน แล้วไล่เรียงลำดับลงมาจนถึงเส้นระยะยาวที่สุด ในที่นี้คือ เส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยที่สั้นที่สุดที่ผมใช้  อยู่บนสุด ตามมาด้วย 10 ,25 ,75 วัน โดยเส้น 200 วัน อยู่ล่างสุด รูปกราฟแบบนี้แหละเป็นรูปกราฟที่สวย เพราะว่าหุ้นตัวนั้นอยู่ในภาวะ BULLISH หรือภาวะกระทิง ยิ่งถ้าราคาหุ้นอยู่เหนือเส้น 5 วันไม่มากยิ่งดี แต่ถ้าราคาหุ้นอยู่เหนือเส้น 5 วันมากๆ แสดงว่าอาจจะอยู่ในภาวะ  OVERBOUGHT ในช่วงสั้น คือเป็นภาวะที่มีการซื้อมากเกินไป อาจจะมีการปรับตัวลงในระยะสั้นได้ เป็นต้น นอกจากนี้ เวลาราคาหุ้นตัดทะลุเส้นค่าเฉลี่ยลงไป จะทำให้แนวโน้มดูไม่ดี และเส้นค่าเฉลี่ยเส้นนั้นจะเป็นแนวต้าน เวลาที่หุ้นตัวนั้นมีราคาปรับตัวขึ้นมา 

                   ในทางกลับกัน ถ้าราคาหุ้นปรับตัวทะลุเส้นค่าเฉลี่ยขึ้นไป แสดงว่า เริ่มมีแนวโน้มที่ดี เส้นค่าเฉลี่ยเส้นนั้นก็จะกลายเป็นแนวรับไปโดยอัตโนมัติ  และในกรณีเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นตัดทะลุเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวขึ้นไป หมายถึงแนวโน้มได้เปลี่ยนไปในทางที่ดี และจุดตัดนั้นก็จะเป็นแนวรับที่ดีจุดหนึ่ง เวลาที่หุ้นตัวนี้มีราคาปรับตัวลงมา ในทางกลับกัน ถ้าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นตัดทะลุเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวลงไป ก็แสดงว่าหุ้นตัวนี้เริ่มมีแนวโน้มไม่ดีเสียแล้ว และเมื่อหุ้นตัวนี้มีราคาปรับตัวขึ้นมา จุดตัดนี้ก็จะเป็นแนวต้าน  เวลาที่หุ้นกลับขึ้นมา ที่ผมพูดถึง กราฟรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน เส้นค่าเฉลี่ยทั้ง 5 เส้น ผมก็ดูทั้งรายวัน สัปดาห์ และรายเดือนด้วยเหมือนกัน เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว บางครั้ง ผมก็ปรับแต่งจากเส้น 5 วันเป็น 7 วัน เส้น 10 วันเป็น 12, 13 หรือ 14 วัน จนกว่าจะเห็นว่าเส้นนั้นแสดงผลได้แม่นยำที่สุด โดยดูจากช่วงอดีตที่ผ่านมา  มาถึงตอนนี้ ท่านผู้อ่านพอจะเข้าใจถึงวิธีการใช้ INDICATOR ตัวนี้กันแล้ว เรามาดู INDICATOR ตัวถัดไปในบทความหน้ากันครับ

  
      กิติชัย เตชะงามเลิศ


    21/1/62


          ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยกรอกอีเมลของท่าน ในช่องใต้ Follow by Email ทางด้านขวามือ เมื่อมีบทความใหม่ๆ ก็จะมีการส่งอีเมลแจ้งเตือนให้ท่านทราบ เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดีๆกันนะครับ





ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่


      หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"   
              2.วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส





ห้องที่จะขายพร้อมผู้เช่า

1. ห้อง 1 นอน 1 น้ำ ชั้น 24, 59.29 ตารางเมตร เป็นมุมที่สวยของตึก ตกแต่งสวยมาก เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน ตกแต่งสวยมาก มี ผ้าม่าน เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน แอร์ 2 ตัว ตู้เย็น 7.9 คิว เครื่องซักผ้าฝาหน้า Digital TV 43 นิ้ว เครื่องทำน้ำร้อน และ Microwave ไม่ติดลิฟท์และห้องขยะ ขายพร้อมผู้เช่า ราคา 7.40 ล้านบาท ค่าเช่า 32,000 บาท/เดือน  ผลตอบแทนจากการเช่า = 5.2%


สามารถดาวน์โหลดรูปภาพห้อง 12/478(2405) ได้ที่  https://www.dropbox.com/sh/xtizl1r3lg4kkk8/AACCfFXIGSzPIrQsQ0UmGCR_a?dl=0


2.ห้อง 1 นอน 1 น้ำ ชั้น 20, 59.29 ตารางเมตร ตกแต่งสวยมาก วิวสวยมาก เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน มี ผ้าม่าน เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน แอร์ 2 ตัว ตู้เย็น 7.9 คิว เครื่องซักผ้าฝาหน้า Digital TV 40 นิ้ว เครื่องทำน้ำร้อน และ Microwave เป็นมุมที่สวยของตึก ไม่ติดลิฟท์และห้องขยะ ขายพร้อมผู้เช่า ราคา 7.20 ล้านบาท ค่าเช่า 32,000 บาท/เดือน  ผลตอบแทนจากการเช่า = 5.33%

สามารถดาวน์โหลดรูปภาพและวีดีโอห้อง 12/400(2003) ได้ที่ https://www.dropbox.com/sh/im2mpjoom0dpx1u/AACyWi0Ye6wUImFQLkZHB6jJa?dl=0

3. ห้อง 2 นอน 2 น้ำ ชั้น 20, 80.71 ตารางเมตร เป็นมุมที่สวยที่สุดของตึก ตกแต่งสวยมาก วิวสวยมาก เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน ตกแต่งสวยมาก มี ผ้าม่าน เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน แอร์ - ตัว ตู้เย็น 7.9 คิว เครื่องซักผ้าฝาหน้า Digital TV 40 และ 32 นิ้ว เครื่องทำน้ำร้อน และ Microwave ไม่ติดลิฟท์และห้องขยะ ขายพร้อมผู้เช่า ราคา 9.70 ล้านบาท ค่าเช่า 42,000 บาท/เดือน  ผลตอบแทนจากการเช่า = 5.2%
สามารถดาวน์โหลดรูปภาพและวีดีโอห้อง 12/413(2017) ได้ที่ https://www.dropbox.com/sh/gipvla36vbvj7c3/AACeusA_7HbyKmQcMgpTI26na?dl=0

สามารถดาวน์โหลดรูปภาพและวีดีโอของ 15 สุขุมวิท เรสซิเดนซ์ ทั้งหมดได้ที่ https://www.dropbox.com/sh/a4v6us2c38eptej/AACG1eg2B-xUE5Sl4sTAjrYla?dl=0

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น