จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2562

ลงทุนอะไรดีในช่วงดอกเบี้ยเงินฝาก 1.5 เปอร์เซ็นต์ (ตอนที่ 2)

ลงทุนอะไรดีในช่วงดอกเบี้ยเงินฝาก 1.5 เปอร์เซ็นต์ (ตอนที่ 2)  


                 
                จากบทความตอนที่ 1 การฝากเงินปีละ 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 3 เปอร์เซ็นต์ต่อปี(หลังหักภาษีดอกเบี้ยเงินฝากแล้ว) เมื่อครบ 30 ปี คุณจะได้เงินรวม 4,822,958 บาท  ดูเหมือนว่าจะเป็นจำนวนเงินที่มาก แต่อย่าลืมนะครับว่า เงินจำนวนนี้เป็นเงินรวมที่คุณจะได้เมื่อเวลาผ่านไปอีก 30 ปี นั่นหมายความว่าค่าของเงิน ณ ช่วงเวลานั้น เมื่อเทียบกับค่าของเงินในปัจจุบันนี้ อาจจะอยู่ที่ประมาณแค่ 600,000 บาทก็ได้ เพราะเมื่อเปรียบเทียบราคาข้าวแกงเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่จานละประมาณ 5 บาท ในขณะที่ปัจจุบันนี้ราคาข้าวแกงอยู่ที่จานละ 40 บาท  ดังนั้นจำนวนเงินเท่านี้ใน 30 ปีข้างหน้า คงจะไม่สามารถทำให้ชีวิตของท่านอยู่ได้แบบสบายๆเป็นแน่ ในขณะที่ถ้าท่านนำเงินดังกล่าวไปลงทุนตามตารางที่ 2 จากบทความตอนที่ 1 เมื่อครบ 30 ปีท่านจะได้เงินรวมอยู่ที่ 46,463,388 บาท ด้วยจำนวนเงินเท่านี้คงทำให้ท่านมีความเป็นอยู่ค่อนข้างสบาย หมดกังวลเกี่ยวกับความเป็นอยู่หลังเกษียณ



ภาพที่ 1:  ผลลัพธ์จากการฝากเงินเป็นเวลา 30 ปี   เครดิตภาพ : หนังสือ "ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน"



               ที่นี้เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องสินทรัพย์ที่เราควรจะลงทุน เพื่อหวังผลตอบแทนที่สูง บนความเสี่ยงที่พอจะยอมรับได้กันครับ โดยสินทรัพย์ที่จะลงทุนมีหลายชนิดเช่น ตราสารทุน ซึ่งแบ่งออกเป็นตราสารทุนในประเทศและต่างประเทศ ตราสารหนี้ซึ่งแบ่งเป็นตราสารหนี้ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ทั้งยังแบ่งออกได้เป็นตราสารหนี้ในประเทศและต่างประเทศ  อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ สินค้าโภคภัณฑ์ และสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ ในที่นี้ผมขอกล่าวถึงตราสารทุน ตราสารหนี้ และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นสินทรัพย์หลักที่เหมาะแก่การลงทุน ส่วนทองคำสินค้าโภคภัณฑ์และสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆอ้ายท่าคิดจะลงทุนผมแนะนำว่าไม่ควรลงทุนเกินอย่างละ 5 เปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุนทั้งหมด เพราะว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง และไม่สามารถสร้างผลตอบแทน ถ้าราคาไม่สูงขึ้น ในขณะที่การลงทุนในตราสารทุน นักลงทุนจะได้ผลตอบแทนจากเงินปันผล หรือการลงทุนตราสารหนี้ผู้ลงทุน ก็ยังจะได้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ย หรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ก็ยังได้ผลตอบแทนจากค่าเช่า

             คำถามต่อมาก็คือ ควรจะลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภท ด้วยสัดส่วนอย่างไรถึงจะเหมาะสม ในหนังสือ “ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน” ผมได้ทำตารางสัดส่วนในการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ตามช่วงวัยของแต่ละบุคคลดังนี้

ช่วงอายุ
หุ้น
อสังหาริมทรัพย์
ตราสารหนี้
เริ่มทำงาน - 30 ปี
60
20
20
31 - 40 ปี
50
30
20
41 - 50 ปี
30
30
40
51 - 60 ปี
20
30
50
หลังเกษียณ 61 ปีขึ้นไป
15
25
60
เครดิต : หนังสือ "ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน"

             หมายเหตุ  : แผนผังดังกล่าวเป็นการกระจายความเสี่ยงตามช่วงอายุ อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนแต่ละคนมีความสามารถในการรับความเสี่ยง ในแต่ละช่วงอายุและปัจจัยต่างๆที่แตกต่างกันไป จึงอาจปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับตนเองได้ โดยผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง ก็อาจเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นมากหน่อย ส่วนผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ ก็อาจเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้มากแทน เพราะว่าหุ้นมีความผันผวนของราคาสูงมาก ในขณะที่ตราสารหนี้มีความผันผวนของราคาต่ำมาก
      
            สัดส่วนในการลงทุนขึ้นอยู่กับ

1.ขนาดของพอร์ตการลงทุน

2.ไลฟ์สไตล์ของผู้ลงทุน

3.ความสามารถในการยอมรับความเสี่ยง

4.อายุของผู้ลงทุน

5.ผลตอบแทนที่ต้องการ

            ที่นี้เรามาดูหลักการในการลงทุนสินทรัพย์ทั้ง 3 ประเภทกันครับ โดยเริ่มต้นจากตราสารหนี้

           ตราสารหนี้ ซึ่งมีทั้งตราสารหนี้ระยะสั้นระยะกลางและระยะยาว โดยปกติตราสารหนี้ที่ระยะยาวกว่า อัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่าตราสารหนี้ที่ระยะสั้นกว่า และมีหลักง่ายๆว่า ถ้าอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดกำลังจะสูงขึ้น มูลค่าของตราสารหนี้จะตกลง ในทางกลับกัน ถ้าอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดกำลังจะต่ำลง มูลค่าของตราสารหนี้ก็จะสูงขึ้น นอกจากนั้นตราสารหนี้ยังมีทั้งตราสารหนี้ในประเทศและตราสารหนี้ต่างประเทศ ซึ่งการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ จะมีความเสี่ยงอีกตัวหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้อง นั่นคือความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ยิ่งค่าเงินในช่วงที่ผ่านมา มีความผันผวนค่อนข้างสูง ซึ่งถ้าต้องการที่จะลดความเสี่ยงดังกล่าว ก็จะต้องป้องกันความเสี่ยง(Hedge) อัตราแลกเปลี่ยนไว้ด้วย แต่นั่นก็หมายถึงว่าผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยก็จะลดลง จากค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการ Hedge

           บทความหน้าจะมาพูดถึงหลักการลงทุนในสินทรัพย์อีก 2 ประเภท นั่นคือ ตราสารทุน และ อสังหาริมทรัพย์


       กิติชัย เตชะงามเลิศ


    21/1/62


          ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยกรอกอีเมลของท่าน ในช่องใต้ Follow by Email ทางด้านขวามือ เมื่อมีบทความใหม่ๆ ก็จะมีการส่งอีเมลแจ้งเตือนให้ท่านทราบ เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดีๆกันนะครับ





ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่


      หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"   
              2.วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส






ห้องที่จะขายดาวน์(คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ธันวาคม 2561)
     ห้อง 2 นอน 1 น้ำ  43.5 ตารางเมตร ไม่ติดลิฟท์และห้องขยะ ไม่โดนบล็อควิว เฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตกแต่งสวยมาก ราคา 7,000,000 บาท

สามารถดาวน์โหลดรูปภาพและวีดีโอทั้งหมดของ อัลทีจูด ดีไฟน์ สามย่าน(Altitude Define Samyan) ได้ที่ https://www.dropbox.com/sh/yydb77yvmhk1926/AAAOykYkVdsXAVOanCti6x0aa?dl=0

          อาคารชุด 8 ชั้น และชั้นใต้ดิน ลึก 3 ระดับ 59 ห้องชุด ที่จอดรถ  59 คัน คิดเป็น 100 % บนที่ดิน 218 ตารางวา
พื้นที่ส่วนกลาง : สระว่ายน้ำ สวนสาธารณะ ห้องสมุด ซาวน่า และ สปอร์ตคลับ / ฟิตเนส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น