ลงทุนอะไรดีในช่วงดอกเบี้ยเงินฝาก 1.5 เปอร์เซ็นต์ (ตอนที่
2)
กิติชัย เตชะงามเลิศ
จากบทความตอนที่ 1
การฝากเงินปีละ 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 3
เปอร์เซ็นต์ต่อปี(หลังหักภาษีดอกเบี้ยเงินฝากแล้ว) เมื่อครบ 30 ปี คุณจะได้เงินรวม
4,822,958 บาท ดูเหมือนว่าจะเป็นจำนวนเงินที่มาก
แต่อย่าลืมนะครับว่า เงินจำนวนนี้เป็นเงินรวมที่คุณจะได้เมื่อเวลาผ่านไปอีก 30 ปี
นั่นหมายความว่าค่าของเงิน ณ ช่วงเวลานั้น เมื่อเทียบกับค่าของเงินในปัจจุบันนี้
อาจจะอยู่ที่ประมาณแค่ 600,000 บาทก็ได้
เพราะเมื่อเปรียบเทียบราคาข้าวแกงเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่จานละประมาณ 5 บาท
ในขณะที่ปัจจุบันนี้ราคาข้าวแกงอยู่ที่จานละ 40 บาท ดังนั้นจำนวนเงินเท่านี้ใน 30 ปีข้างหน้า
คงจะไม่สามารถทำให้ชีวิตของท่านอยู่ได้แบบสบายๆเป็นแน่
ในขณะที่ถ้าท่านนำเงินดังกล่าวไปลงทุนตามตารางที่ 2 จากบทความตอนที่
1 เมื่อครบ 30 ปีท่านจะได้เงินรวมอยู่ที่
46,463,388 บาท
ด้วยจำนวนเงินเท่านี้คงทำให้ท่านมีความเป็นอยู่ค่อนข้างสบาย
หมดกังวลเกี่ยวกับความเป็นอยู่หลังเกษียณ
ภาพที่ 1: ผลลัพธ์จากการฝากเงินเป็นเวลา 30 ปี เครดิตภาพ : หนังสือ "ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน"
ภาพที่ 1: ผลลัพธ์จากการฝากเงินเป็นเวลา 30 ปี เครดิตภาพ : หนังสือ "ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน"
ที่นี้เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องสินทรัพย์ที่เราควรจะลงทุน
เพื่อหวังผลตอบแทนที่สูง บนความเสี่ยงที่พอจะยอมรับได้กันครับ
โดยสินทรัพย์ที่จะลงทุนมีหลายชนิดเช่น ตราสารทุน
ซึ่งแบ่งออกเป็นตราสารทุนในประเทศและต่างประเทศ
ตราสารหนี้ซึ่งแบ่งเป็นตราสารหนี้ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
ทั้งยังแบ่งออกได้เป็นตราสารหนี้ในประเทศและต่างประเทศ อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ สินค้าโภคภัณฑ์
และสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ ในที่นี้ผมขอกล่าวถึงตราสารทุน ตราสารหนี้
และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นสินทรัพย์หลักที่เหมาะแก่การลงทุน ส่วนทองคำสินค้าโภคภัณฑ์และสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆอ้ายท่าคิดจะลงทุนผมแนะนำว่าไม่ควรลงทุนเกินอย่างละ
5 เปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุนทั้งหมด เพราะว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง
และไม่สามารถสร้างผลตอบแทน ถ้าราคาไม่สูงขึ้น ในขณะที่การลงทุนในตราสารทุน
นักลงทุนจะได้ผลตอบแทนจากเงินปันผล หรือการลงทุนตราสารหนี้ผู้ลงทุน
ก็ยังจะได้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ย หรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
ก็ยังได้ผลตอบแทนจากค่าเช่า
คำถามต่อมาก็คือ
ควรจะลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภท ด้วยสัดส่วนอย่างไรถึงจะเหมาะสม ในหนังสือ “ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน”
ผมได้ทำตารางสัดส่วนในการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ตามช่วงวัยของแต่ละบุคคลดังนี้
ช่วงอายุ
|
หุ้น
|
อสังหาริมทรัพย์
|
ตราสารหนี้
|
เริ่มทำงาน
- 30 ปี
|
60
|
20
|
20
|
31 - 40 ปี
|
50
|
30
|
20
|
41 - 50 ปี
|
30
|
30
|
40
|
51 - 60 ปี
|
20
|
30
|
50
|
หลังเกษียณ
61 ปีขึ้นไป
|
15
|
25
|
60
|
เครดิต : หนังสือ "ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน"
หมายเหตุ : แผนผังดังกล่าวเป็นการกระจายความเสี่ยงตามช่วงอายุ
อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนแต่ละคนมีความสามารถในการรับความเสี่ยง
ในแต่ละช่วงอายุและปัจจัยต่างๆที่แตกต่างกันไป
จึงอาจปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับตนเองได้ โดยผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง ก็อาจเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นมากหน่อย
ส่วนผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ ก็อาจเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้มากแทน
เพราะว่าหุ้นมีความผันผวนของราคาสูงมาก
ในขณะที่ตราสารหนี้มีความผันผวนของราคาต่ำมาก
สัดส่วนในการลงทุนขึ้นอยู่กับ
1.ขนาดของพอร์ตการลงทุน
2.ไลฟ์สไตล์ของผู้ลงทุน
3.ความสามารถในการยอมรับความเสี่ยง
4.อายุของผู้ลงทุน
5.ผลตอบแทนที่ต้องการ
ที่นี้เรามาดูหลักการในการลงทุนสินทรัพย์ทั้ง 3 ประเภทกันครับ
โดยเริ่มต้นจากตราสารหนี้
ตราสารหนี้ ซึ่งมีทั้งตราสารหนี้ระยะสั้นระยะกลางและระยะยาว
โดยปกติตราสารหนี้ที่ระยะยาวกว่า อัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่าตราสารหนี้ที่ระยะสั้นกว่า
และมีหลักง่ายๆว่า ถ้าอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดกำลังจะสูงขึ้น
มูลค่าของตราสารหนี้จะตกลง ในทางกลับกัน ถ้าอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดกำลังจะต่ำลง
มูลค่าของตราสารหนี้ก็จะสูงขึ้น นอกจากนั้นตราสารหนี้ยังมีทั้งตราสารหนี้ในประเทศและตราสารหนี้ต่างประเทศ
ซึ่งการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ จะมีความเสี่ยงอีกตัวหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้อง
นั่นคือความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ยิ่งค่าเงินในช่วงที่ผ่านมา
มีความผันผวนค่อนข้างสูง ซึ่งถ้าต้องการที่จะลดความเสี่ยงดังกล่าว ก็จะต้องป้องกันความเสี่ยง(Hedge) อัตราแลกเปลี่ยนไว้ด้วย
แต่นั่นก็หมายถึงว่าผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยก็จะลดลง
จากค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการ Hedge
บทความหน้าจะมาพูดถึงหลักการลงทุนในสินทรัพย์อีก
2 ประเภท นั่นคือ ตราสารทุน และ อสังหาริมทรัพย์
21/1/62
ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยกรอกอีเมลของท่าน ในช่องใต้ Follow by Email ทางด้านขวามือ เมื่อมีบทความใหม่ๆ ก็จะมีการส่งอีเมลแจ้งเตือนให้ท่านทราบ เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดีๆกันนะครับ
ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/c/KitichaiTaechangamlert
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : Gid_Kitichai
Blog : http://kitichai1.blogspot.com
You Tube : http://www.youtube.com/c/KitichaiTaechangamlert
หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"
2.วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส
ห้องที่จะขายดาวน์(คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ธันวาคม 2561)
ห้อง
2 นอน 1 น้ำ 43.5
ตารางเมตร ไม่ติดลิฟท์และห้องขยะ ไม่โดนบล็อควิว
เฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตกแต่งสวยมาก ราคา 7,000,000 บาท
สามารถดาวน์โหลดรูปภาพและวีดีโอทั้งหมดของ
อัลทีจูด ดีไฟน์ สามย่าน(Altitude
Define Samyan) ได้ที่ https://www.dropbox.com/sh/yydb77yvmhk1926/AAAOykYkVdsXAVOanCti6x0aa?dl=0
อาคารชุด 8 ชั้น และชั้นใต้ดิน ลึก 3 ระดับ 59 ห้องชุด ที่จอดรถ 59 คัน คิดเป็น 100 % บนที่ดิน 218 ตารางวา
พื้นที่ส่วนกลาง : สระว่ายน้ำ สวนสาธารณะ
ห้องสมุด ซาวน่า และ สปอร์ตคลับ / ฟิตเนส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น