จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2562

ลงทุนอะไรดีในช่วงดอกเบี้ยเงินฝาก 1.5 เปอร์เซ็นต์ (ตอนที่ 7)

ลงทุนอะไรดีในช่วงดอกเบี้ยเงินฝาก 1.5 เปอร์เซ็นต์ (ตอนที่ 7)  




        บทความที่แล้วผมพูดถึง INDICATOR ตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Moving average เรามาดู INDICATOR ตัวถัดไปกันครับว่ามีอะไรอีกบ้าง

            2. MACD (MOVING AVERAGE CONVERGENCE DIVERGENCE)  INDICATOR ตัวนี้เป็นตัวที่ดูไม่ยาก เพราะว่า ประกอบด้วยเส้น 2 เส้นเท่าน้น โดยเส้นแรกคือ เส้น MACD ส่วนเส้นที่ 2 คือ เส้นสัญญาน เมื่อเส้น MACD ตัดเส้นสัญญานขึ้นเหนือแกนศูนย์ นั้นคือสัญญาณบ่งบอกถึงภาวะBULLISH ในทำนองกลับกัน ถ้าเส้น MACD ตัดเส้นสัญญานลง ที่เหนือแกนศูนย์ แสดงว่าภาวะBEARISH มาแล้ว ยิ่งการตัดกันอยู่ใกล้กับแกนศูนย์ ความน่าเชื่อถือของสัญญาณที่เกิดขึ้นจะมีความแม่นยำมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการตัดขึ้นหรือตัดลงก็ตาม แต่ถ้าเป็นการตัดกันใต้เส้นศูนย์ ไม่ว่าจะเป็นการตัดขึ้นหรือตัดลงก็ตาม จากประสบการณ์ของผมบอกว่าความแม่นยำมีน้อย

ภาพที่ 1: MACD   เครดิตภาพ : Commodity

             เช่นเดียวกัน เวลาดู MACD ผมก็ดูทั้งรายวัน สัปดาห์ และรายเดือน เพราะว่าจะทำให้เห็นภาพทั้งระยะสั้น กลาง ยาว โดยปกติผมจะเริ่มดูจากเส้นรายเดือนก่อน เพื่อที่จะดูภาพระยะยาว ถ้าระยะยาวบอกว่าดี ด็มาดูระยะกลางต่อ แล้วตามด้วยระยะสั้น ถ้าสั้น กลาง ยาว เส้น MACD ตัดเส้นสัญญาณขึ้นในระดับเหนือเส้นศูนย์ แล้วเส้นระยะสั้นพึ่งจะตัดขึ้นด้วย ยิ่งดีใหญ่เลย แสดงว่าหุ้นตัวนี้เพิ่งส่งสัญญาณซื้อในระยะสั้น  อย่างนี้คงต้องรีบลุยกันเลย บางทีท่านอาจจะมีคำถามว่า แล้วจะตั้งค่า MACD และเว้นสัญญาณเท่าใดจึงจะดี จากที่ผมเคยใช้เป็นประจำคือใช้ตามค่า DEFAULT ที่ APPLICATION ตั้งค่าไว้

               3. RSI ( RELATIVE STRENGTH INDEX ) เป็นตัวที่บอกว่าราคาหุ้นตัวนั้นๆ OVERBOUGHหรือ OVERSOLD โดยปกติถ้าเส้น RSI ลงมาต่ำกว่า 30 แสดงว่าหุ้นตัวนั้นอยู่ในภาวะ OVERSOLD ในทางกลับกัน ถ้าเส้น RSI อยู่สูงกว่า 70 ก็แสดงว่าหุ้นตัวนั้นอยู่ในภาวะ OVERBOUGHT แต่จากประสบการณ์ของผมบอกว่า ถ้ายึดติดตัวเลข 30 และ 70 ก็มีโอกาสซื้อแพงขายหมูได้ตามลำดับ ดังนั้นทางที่ดีก็ควรดูอดีตของค่า RSI สำหรับหุ้นตัวนั้นๆว่าเคยลงไปต่ำสุดและขึ้นไปสูงสุดแค่ไหน แล้วสามารถอยู่ในระดับนั้นๆได้กี่วัน เพื่อเลี่ยงการซื้อแพงและขายหมู และโดยปกติผมจะใช้ RSI 14 วันเป็นหลัก นอกจากนั้นผมยังสร้างเส้นค่าเฉลี่ยแบบ EXPONENTIAL 7 วัน โดยเมื่อ RSI ตัดทะลุเส้นค่าเฉลี่ยขึ้นไป เป็นการแสดงสัญญาณที่ดี ในขณะที่เมื่อเส้น RSI ตัดเส้นค่าเฉลี่ยลง ก็เป็นแนวโน้มที่ไม่ดีและอย่าลืมดูทั้งรายวัน สัปดาห์ และรายเดือน เพื่อดูทั้ง ระยะสั้น กลาง และยาว


ภาพที่ 2: RSI   เครดิตภาพ : Investors Underground



               4. DMI ( DIRECTIONAL MOVEMENT INDEX ) ซึ่งเป็นตัวที่บอกแนวโน้มว่าในขณะนั้นๆ หุ้นตัวนี้อยู่ในแนวโน้ม ขึ้น ลง หรือ SIDEWAY โดย INDICATOR ตัวนี้ประกอบด้วยเส้นชี้วัด 3 เส้นคือ



ภาพที่ 3: DMI  เครดิตภาพ : BigTrends

                              4.1 เส้น DI+ ( DIRECTIONAL INDICATOR + ) เมื่อไรก็ตามที่เส้น DI+ อยู่เหนือเส้น DI- เมื่อนั้นหุ้นดังกล่าวมีแนวโน้มขึ้น

                              4.เส้น DI - ( DIRECTIONAL INDICATOR - ) เมื่อไรก็ตามที่เส้น DI- อยู่เหนือเส้น DI+ เมื่อนั้นหุ้นดังกล่างมีแนวโน้มลง

                              4.3 เส้น ADX ( AVERAGE DIRECTIONAL INDEX ) เป็นตัวตอกย้ำความมั่นใจของแนวโน้มขึ้นหรือลง โดยถ้าเส้น ADX ขึ้นมากกว่า 25 ( บางครั้งผมก็ใช้ค่าระหว่าง 20-25 โดยดูจากในอดีตว่าค่าไหนมีความแม่นยำ และให้สัญญาณที่รวดเร็วและดีที่สุด) อย่างเช่นช่วงที่ DI+ ตัด DI- ขึ้นไปแล้วเส้น ADX ไต่ระดับขึ้นไป โดยมีค่าเกิน 25 และยังไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ  ยิ่งตอกย้ำความมั่นใจในการขึ้นของหุ้นตัวนั้น ในทางกลับกันถ้าเส้น DI- ตัดเส้นตัดส้น DI+ ขึ้นไป และเส้น ADX ไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆจนเกิน 25 และยังไต่ระดับขึ้นไปต่ออีก หมายความว่าหุ้นตั้วนั้นอยู่ในขาลงค่อนข้างแน่นอน

           ซึ่งก็อีกเช่นเคย ผมใช่ DMI 3 เส้นนี้ ดูทั้งระดับ รายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน เช่นกัน เพื่อที่จะเห็นภาพที่ชัดเจนทั้งระยะสั้น กลาง และยาว

               มาถึงบทความตอนที่ 7 แล้วได้รู้จัก INDICATOR ไป 4 ตัวแล้วครับ น่าจะพอได้แนวทางในการวิเคราะห์ทางเทคนิคกันบ้างพอสมควร แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้นะครับ บทความหน้าจะเอา INDICATOR ตัวอื่นๆมานำเสนออีก เพื่อทำให้การวิเคราะห์มีความถูกต้องและแม่นยำมากขึ้นครับ


     กิติชัย เตชะงามเลิศ


    21/1/62


         ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยกรอกอีเมลของท่าน ในช่องใต้ Follow by Email ทางด้านขวามือ เมื่อมีบทความใหม่ๆ ก็จะมีการส่งอีเมลแจ้งเตือนให้ท่านทราบ เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดีๆกันนะครับ





ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่


      หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"   
              2.วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส



TC Green พระราม ยูนิตที่สวยที่สุด ทั้งวิวสวนและการตกแต่ง ขายพร้อมผู้เช่า


      ห้องที่จะขายพร้อมผู้เช่า 1 นอน 1 น้ำ 37.97 ตารางเมตร ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร ไม่ติดลิฟท์ เป็นมุมที่สวยที่สุดของตึก D วิวสวนและคลองสวยมาก ไม่โดนบล็อควิว เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน ตกแต่งสวยมาก มี ผ้าม่าน 2 ชั้น เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน แอร์ 2 ตัว ตู้เย็น เครื่องซักผ้าฝาหน้า Digital TV 40 นิ้ว เครื่องทำน้ำร้อน และ Microwave ไม่ติดลิฟท์และห้องขยะ ราคา 3,400,000 บาท ค่าเช่า 17,000 บาท/เดือน ครบสัญญา 24/9/62 ผลตอบแทนจากการเช่า = 6.00%

สามารถดาวน์โหลดรูปภาพและวีดีโอทั้งหมดของ TC Green พระราม 9  ได้ที่ https://www.dropbox.com/sh/emat3nvre55qiy6/AADkaFSXO9scXpwFElDTBw_va?dl=0

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น