จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2561

บางหว้า-เพชรเกษม ทำเลที่เป็นมากกว่าอินเตอร์เชนจ์


               บางหว้า-เพชรเกษม ทำเลที่เป็นมากกว่าอินเตอร์เชนจ์




             นับตั้งแต่ปี 2556 ที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มส่วนต่อขยายได้เปิดให้บริการ ทำเลบางหว้า-เพชรเกษม ก็มีการเติบโตของคอนโดมิเนียมอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในปี 2556 ที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มเปิดให้บริการในปีแรก มี supply คอนโดมิเนียมสูงถึงเกือบ 2,000 ยูนิต สะท้อนให้เห็นความต้องการที่อยู่อาศัยใน ทำเลบางหว้า-เพชรเกษม ได้เป็นอย่างดี ซึ่งปรากฎการณ์เช่นนี้กำลังจะกลับมาที่ ทำเลบางหว้า-เพชรเกษม อีกครั้ง เมื่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง-บางแค ที่มีความคืบหน้าในการก่อสร้างกว่า 98% กำลังจะเปิดให้บริการในปี 2562 นี้ ทำไมต้อง รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน?


            เหตุผลที่ TerraBKK Research ให้ความสำคัญกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่กำลังจะเปิดขึ้นใน ทำเลบางหว้า-เพชรเกษม เนื่องจากมองว่ารถไฟฟ้าสายสีำน้ำเงิน เป็นรถไฟฟ้าที่สร้างขึ้นมาเพื่อ รองรับการเดินทางภายในเมือง สำหรับคนชานเมืองฝั่งธนฯ ด้วยลักษณะของเส้นทางที่มีรูปแบบการเดินรถแบบวิ่งวนลูป ระหว่าง ใจกลางเมือง-ธนบุรี-ชานเมือง โดยการเข้ามาของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินใน ทำเลบางหว้า-เพชรเกษม จะเชื่อมระหว่างพื้นที่ชานเมืองสู่โครงข่ายในเมือง ซึ่งจะเป็นปัจจัยดึงดูดสำคัญ ให้เกิดการเกาะกลุ่มของที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้นในบริเวณแนวเส้นรถไฟฟ้า ที่จะไม่ได้กระจุกตัวอยู่แค่ในบริเวณพื้นที่เมืองเท่านั้น ทำให้ทำเลบริเวณเมืองรอบนอกอย่างช่วง บางแค-เพชรเกษม-จรัญสนิทวงศ์ มีศักยภาพของทำเลมากขึ้นอย่างยิ่งยวด เนื่องจากสามารถเดินทางเข้าสู่ในเมืองได้อย่างสะดวก โดยที่ราคาที่ดินและที่อยู่อาศัย ยังไม่ได้เพิ่มสูงมากเกินไปเมื่อเทียบกับบริเวณใจกลางเมือง นอกจากนั้น รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ยังเข้ามาช่วยทำให้โครงข่ายการคมนาคมใน ทำเลบางหว้า-เพชรเกษม สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นทั้งรถ-เรือ-ราง

             โดยสรุปก็คือ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เป็นรถไฟฟ้าสายที่เอื้อประโยชน์ต่อคนฝั่งธนบุรีมากที่สุด เนื่องจากเส้นทางส่วนต่อขยายนั้นพาดผ่านย่านสำคัญของฝั่งธนบุรีทั้งหมดตั้งแต่ จรัญสนิทวงศ์, ปิ่นเกล้า ไปจนถึงแนวเส้นถนนเพชรเกษม ทำให้คนฝั่งธนฯ สามารถย่นระยะเวลาการเดินทางเข้าสู่แหล่งงานในเมืองชั้นในที่เป็นย่านสำคัญ จากเดิมที่ใช้รถยนต์เพื่อเข้าเมืองต้องใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หากใช้รถไฟฟ้าจะเหลือเพียง 20-30 นาที ด้วยปัจจัยนี้จึงทำให้เกิดแรงดึงดูดการเข้ามาของกลุ่มคนที่อาศัยอยู่บริเวณชานเมืองที่แต่เดิมเป็นชุมชนบ้านเดี่ยวจำนวนมาก โดยการเปลี่ยนแปลงจะเห็นได้ชัดเจนว่าเปลี่ยนจากการ “กระจาย” ของที่อยู่อาศัยเป็นการ “กระจุก” ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า โดยเฉพาะที่ ทำเลบางหว้า-เพชรเกษม ซึ่งเป็น Interchange ของรถไฟฟ้าสายสำคัญทั้ง 2 สายนั่นเอง บางหว้า-เพชรเกษม ย่นระยะการเดินทาง ไปได้ทุกที่





             ถึงแม้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายจะยังไม่เปิดให้บริการ แต่ทำเลบางหว้า-เพชรเกษมก็เป็นทำเลตั้งต้นการเดินทาง ที่สำคัญของคนฝั่งธนบุรีอยู่แล้ว โดยเฉพาะที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย สถานีบางหว้า ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าสายหลักในการเดินทางเข้าสู่ทำเล CBD ของคนฝั่งธนบุรี ที่สามารถทำให้ชาวธนบุรีที่อาศัยบริเวณสถานีบางหว้า สามารถเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้าสู่สยาม ที่มีระยะทางห่างกันประมาณ 17 กม. ได้ภายในระยะเวลาเพียง 25-30 นาทีเท่านั้น

            แต่หาก รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย หัวลำโพง-บางแค เปิดให้ใช้บริการในปี 2562 จะทำให้ทำเลบางหว้า-เพชรเกษม เป็นทำเลของฝั่งธนบุรีที่สามารถเดินทางไปได้ทุกที่อย่างสมบูรณ์ โดยทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีน้ำเงินจากสถานีบางหว้า จะสามารถเชื่อมต่อกับสถานี Interchange ที่เปิดให้บริการแล้วได้รวมกันถึง 8 สถานี เพิ่มเติมศักยภาพการเดินทางแต่เดิมที่รองรับการเชื่อมต่อกับทำเล CBD ให้สามารถเดินทางสู่ชานเมืองได้สะดวกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น แอร์พอร์ตลิงค์ (สนามบินสุวรรณภูมิ), สวนจตุจักร และ สายสีม่วง (เตาปูน-นนทบุรี)

             และในอนาคตหากรถไฟฟ้าหลากสีของกรุงเทพฯ สามารถเปิดให้บริการพร้อมกันทุกสาย จาก ทำเลบางหว้า-เพชรเกษม จะสามารถเชื่อมต่อกับ Interchange สถานีรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ได้ถึง 22 สถานี ครบทุกสายที่จะมีในอนาคต เรียกได้ว่าหากอยู่ที่ บางหว้า-เพชรเกษม ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางอีกต่อไป เพราะสามารถเข้าถึงได้ทุกสายทั่วกรุงเทพฯ บางหว้า-เพชรเกษม คือบ้านหลังที่สองของคน เพชรเกษม-ธนบุรี อย่างเต็มรูปแบบ      
      
            สำหรับ ทำเลบางหว้า-เพชรเกษม เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบที่อยู่อาศัยเข้าสู่แนวสูงมาตั้งแต่เริ่มมีข่าวการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ซึ่งทำให้ ทำเลบางหว้า-เพชรเกษม เริ่มกลายเป็นบ้านหลังที่สองของคนเพชรเกษม (ตอนปลาย) ที่ทำงานอยู่ใน CBD เนื่องจากสามารถใช้รถไฟฟ้าไปทำงานและอยู่ไม่ห่างจากภูมิลำเนาเดิม

             แต่ในปี 2562 ที่ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย หัวลำโพง-บางแค เปิดให้ใช้บริการ จะทำให้ ทำเลบางหว้า-เพชรเกษม จะไม่ได้เป็นเฉพาะแค่บ้านหลังที่สองของคนที่มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ในเพชรเกษมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบางแค พุทธมณฑล และบรมราชชนนีด้วย หรือก็คือครอบคลุมเพชรเกษม-ธนบุรีแทบทั้งหมด เนื่องจากสามารถใช้ถนนที่เป็นเส้นทางหลักในการเชื่อมต่อภูมิลำเนาเดิมได้สะดวก อาทิ ถนนเพชรเกษม, ถนนราชพฤกษ์, ถนนพุทธมณฑล, ถนนพรานนก-กาญจนาภิเษก, ถนนบรมราชชนนี และ ถนนจรัญสนิทวงศ์ และสามารถเข้าถึงที่ทำงานในทำเล CBD หรือแม้กระทั่ง New CBD (พระราม9) หรือ New Town (สถานีกลางบางซื่อ) ได้อย่างสะดวกได้ทั้ง รถไฟฟ้าสายสีเขียว และ สายสีน้ำเงิน

            ซึ่งคอนโดฯในโซนเพชรเกษมนี้ ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าเหมาะกับคนที่เดิมมีบ้านอยู่ฝั่งธนบุรี-เพชรเกษม หรือแถวพุทธมณฑล เพื่อกลายเป็นบ้านหลังที่ 2 ไว้สำหรับการเดินทางเข้าเมืองที่สะดวกกว่าเดิม แต่อีกกลุ่มหนึ่งก็ซื้อไว้ปล่อยเช่าโดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาม.สยามที่ถือว่าเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของโซนนี้เลยทีเดียว จึงไม่แปลกใจหากแถวสถานีเพชรเกษม 48-บางหว้า จะเป็นโซนยอดนิยมสำหรับนักลงทุนที่ต้องการปล่อยเช่านักศึกษา นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนทำงานที่ทำงานย่านสีลม-สาทร ที่จะได้อานิสงค์จากโซนนี้ไปด้วยเช่นกัน ด้วยความง่ายของการเดินทางต่อเดียวถึง โซนนี้จึงสามารถปล่อยเช่าได้เรทค่าเช่าที่ดีกว่าโซนอื่นบนเส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ด้วยค่าเช่าที่สูงกว่าถึง 50%!!





           สำหรับทำเลเพชรเกษม ที่ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าในปีหน้า (2562) ที่มีกำหนดเปิดใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแค) ก่อนเดือนสิงหาคม น่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งสำหรับทำเลนี้ ในอนาคตเราน่าจะได้เห็นอะไรใหม่ๆในเพชรเกษมมากขึ้น ด้วยการเดินทางที่ง่ายขึ้นกว่าเดิม ไม่ต้องปวดหัวกับรถติดบนถนนอีกต่อไป อีกทั้งตอนนี้ยังเป็นช่วงที่รถไฟฟ้ายังไม่เปิด ราคาคอนโดก็ยังไม่ได้สูงมากนัก เพราะหากรถไฟฟ้าเปิดใช้บริการ ราคาของคอนโดมิเนียมจะยิ่งปรับสูงขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน

Credit : TerraBKK.com



      ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยกรอกอีเมลของท่าน ในช่องใต้ Follow by Email ทางด้านขวามือ เมื่อมีบทความใหม่ๆ ก็จะมีการส่งอีเมลแจ้งเตือนให้ท่านทราบ เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดีๆกันนะครับ



ลงทุนอะไรดีในช่วงดอกเบี้ยเงินฝาก 1.5 เปอร์เซ็นต์ (ตอนที่ 18)



ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่


      หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"   
              2.วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส




แอสปาย สาธร-ราชพฤกษ์ Aspire Sathorn-Rajpruek ขายดาวน์ 6 ยูนิตสุดสวย เพียง 2 ล้านบาทเท่านั้น 1 ก้าวจาก SKY WALK รถไฟฟ้าบางหว้า และรถไฟฟ้า MRT (เป็นสถานี INTERCHANGE)


        

        ห้องที่จะขายดาวน์(คาดว่าจะแล้วเสร็จ กย. 2561) ขนาด 26 ตรม. แบบ STUDIO ห้องหันไปทางทิศใต้ รับลมตลอดทั้งปี ราคา 2,000,000 บาท ปัจจุบันโครงการขายที่ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาทแล้วครับ

CALL   : 081-8118229
LINE   : gid_kitichai
Wechat : gid_kitichai

       Aspire Sathorn-Rajpruek, 6 beautiful units, 1 step from BTS Bangwah & MRT, only 2 million baht.



Down Payment sales : Studio type, 26 sqm., the balcony facing south, only 2 million baht. Now, the developer's starting price is 2.29 million Baht.

CALL   : 081-8118229
LINE   : gid_kitichai
Wechat : gid_kitichai
EMAIL  : gid1998@gmail.com


อ่าน ฝากเงินที่ไหนได้ดอกเบี้ยสูงสุด(ตอนที่ 1) ได้ที่ http://kitichai1.blogspot.com/2018/07/1.html


          ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยเอาเม้าส์ไปทางด้านขวามือจะมีแถบแสดงออกมา แล้วเลือกคลิกไอคอนที่เขียนว่าสมัครรับข้อมูล เมื่อผมมีบทความใหม่ ท่านก็จะทราบทันที

ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่


      หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"   
              2.หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจหน้า 15 เดือนละครั้ง ในคอลัมน์ “จับช่องลงทุน” 
              3.วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น