จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

หลังจากสถานการณ์ระบาดของ #โควิด19 เราจะลงทุนกันอย่างไร?




   หลังจากสถานการณ์ระบาดของ #โควิด19 เราจะลงทุนกันอย่างไร?


         Photo Credit: Positioning




           ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาอัตราเงินเฟ้อของโลกเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำ เนื่องจากประสิทธิภาพในการผลิตของโลกดีขึ้น โดยเฉพาะเกิดการเปิดประเทศและปฏิวัติทางอุตสาหกรรมในประเทศจีน ซึ่งทำให้จีนกลายเป็นแหล่งผลิตสินค้าส่งออกทั่วโลก ในราคาที่ถูกกว่าประเทศอื่น ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น จึงส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกลดต่ำลง และจากการที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจที่สหรัฐ หรือ  มีการทำ #QE และเพิ่มปริมาณเม็ดเงินเข้ามาในระบบเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยต่ำลง จนอัตราดอกเบี้ยในบางประเทศถึงขั้นติดลบ อย่างที่เห็นกันอยู่ในประเทศสวิส หรือญี่ปุ่น

           
            ถ้าสถานการณ์การระบาดยังไม่ดีขึ้นภายในปีนี้ ปัญหาภาวะการว่างงานจะมีมากขึ้น จึงทำให้จะต้องมีการประหยัดรายจ่ายในครัวเรือนมากขึ้น คนจะหยุดซื้อสินค้าที่ want และจะซื้อสินค้าที่ Need เท่านั้น ธุรกิจทั้งใหญ่และเล็กที่ไม่แข็งแรง ก็จะไม่สามารถฟันฝ่าภาวะวิกฤตรอบนี้ไปได้ รัฐบาลทั่วโลกส่วนใหญ่ก็ไม่มีกำลังเพียงพอที่จะช่วยเหลือประชาชนและธุรกิจต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้ได้ในระยะยาว คงช่วยได้แต่ในระยะสั้นๆไม่กี่เดือนเท่านั้น ย่อมส่งผลให้กับความต้องการสินค้าที่ไม่จำเป็นลดลงอย่างฮวบฮาบ โดยเฉพาะสินค้าคงทนที่มีราคาสูง ก็จะมีการเลื่อนการตัดสินใจซื้อออกไป เนื่องจากประชาชนจะมีกำลังซื้อลดลงเป็นอย่างมาก และความมั่งคั่งของคนส่วนใหญ่บนโลกนี้ก็ลดลงด้วย ตามแนวโน้มของราคาสินทรัพย์ต่างๆ 

           จากภาวะการณ์แบบนี้จะส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการต่างๆลดลง ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เกิดภาวะเงินฝืด คนส่วนใหญ่จะยิ่งชะลอการซื้อ เพราะมีความเชื่อว่าราคาสินค้าในอนาคตจะถูกลง ซึ่งในภาวะปกติน่าจะเป็นตัวเร่งผลักดันให้อัตราดอกเบี้ยลดลง แต่ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำติดดินแบบนี้ โอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะลดลงไปได้อีกเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยติดลบอยู่แล้ว สถานการณ์แบบนี้ไม่เป็นที่ต้องการของภาครัฐและภาคเอกชนเป็นปัญหาที่แก้ยากมาก และยังส่งผลร้ายกับการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ


Photo Credit: weforum.org



        ยิ่งดูอัตราการเติบโตของจำนวนประชากรโลกที่เติบโตในอัตราถดถอยมาตั้งแต่ที่ทำจุดสูงสุดเมื่อปี 1962 ซึ่งมีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก กอปรกับประสิทธิภาพในการผลิตในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมาสูงขึ้นกว่าเดิม ทำให้อัตราเงินเฟ้อในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาเติบโตในอัตราที่ลดลง



        การทำ QE  และเพิ่มเม็ดเงินให้กับระบบการเงินเป็นจำนวนมาก ย่อมส่งผลกระทบต่อค่าเงินของประเทศนั้นๆ แต่ในภาวะการณ์แบบนี้ทุกประเทศก็จะมีมาตรการออกมาคล้ายๆกัน ในเรื่องการสนับสนุนและช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจได้แก่ประชาชนและธุรกิจของประเทศตน ค่าเงินของแต่ละประเทศจะแข็งค่าหรืออ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับค่าเงินของประเทศอื่น ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ใช้ออกมาในรอบนี้เมื่อเทียบกับ GDP ของประเทศของตน แต่ที่แน่ๆราคาทองคำก็จะสูงขึ้นอย่างที่เราเห็นการพุ่งขึ้นของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมานี้ ถึงกับมีการทำนายว่าราคาทองคำจะขึ้นไปถึง 3,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา 




        ภาวะการถดถอยทางเศรษฐกิจของโลกครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อ 2 ครั้งที่แล้ว #TheGreatDepression ปี 1982, 2008) ต้องใช้เวลาถึง 4 ปีและ 6 ปีตามลำดับ ในการที่จะทำให้มีการสร้างงานขึ้นมาใหม่ เพื่อรองรับภาวะการว่างงานที่เกิดจากการถดถอยทางเศรษฐกิจโลก ผมเชื่อว่าวิกฤตครั้งนี้จะหนักกว่า 2 ครั้งที่แล้ว 


       ถึงแม้ว่าราคาหุ้น หรือตัว P ในปัจจุบันจะถูกกว่าราคาหุ้นเมื่อปีที่แล้วก็ตาม แต่ในเมื่อกำไรหรือตัว E ที่ลดลง ก็ไม่ได้ทำให้ PE ลดลงถ้า ตัว P และตัว E ลดลงในเปอร์เซ็นต์ที่เท่ากัน แต่ในยามที่มีความไม่แน่นอนสูงแบบนี้ นักลงทุนควรที่จะลดความเสี่ยง โดยการให้ค่า PE แก่หุ้นที่จะลงทุนให้ต่ำลง หรือเป็นการเพิ่ม margin of Safety นั่นเอง ส่วนตัวผมขอเตรียมเสบียงกรังเอาไว้รอหุ้นปักหัวลงมากกว่านี้ ช่วงนี้ขอนั่งชมอยู่ข้างๆเวทีอย่างอดทน เฝ้าดูหุ้นที่ลงอย่างรวดเร็วแล้วเด้งกลับอย่างแรงภายในเวลาไม่นาน ซึ่งดูแล้วราคาหุ้นไม่สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาด #โควิด19 ซึ่งยังไม่มีใครสามารถทำนายได้ว่า เมื่อไหร่จะมีวัคซีนสำหรับโรคนี้ โดยเป็นตัวแปรสำคัญที่จะบอกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้เมื่อไหร่ ตราบใดที่ยังมีการระบาดอยู่ Physical distancing จะทำให้ความต้องการสินค้าและบริการลดลงไปอย่างมาก ซึ่งแน่นอนย่อมส่งผลกระทบกับรายได้และการจ้างงาน ซึ่งผลกระทบจะเป็นลูกโซ่ เมื่อคนตกงานก็จะทำให้กำลังซื้อของคนในประเทศลดลง ซึ่งจะส่งผลกระทบหมายถึงเรื่องการจ้างงานและการผลิต กลายเป็นวงเวียนวัฏจักรอุบาทว์

 




          ภาพนี้เป็นภาพที่ผมกลัวมากที่สุด เพราะถ้าเป็นไปตามในรูปนี้จริงๆ แสดงว่า #นรกยังมาไม่ถึง #MAYDAYMAYDAYเราช่วยกัน Photo credit, Jean Paul Rodrigue Dept.




กิติชัย เตชะงามเลิศ








  ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยกรอกอีเมลของท่าน ในช่องใต้ Follow by Email ทางด้านขวามือ เมื่อมีบทความใหม่ๆ ก็จะมีการส่งอีเมลแจ้งเตือนให้ท่านทราบ เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดีๆกันนะครับ



ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่

 Instagram : https://www.instagram.com/gid_kitichai/
 You Tube : http://www.youtube.com/c/KitichaiTaechangamlert





ห้องที่จะขายดาวน์(เข้าอยู่ได้เลย)

     ห้อง 2 นอน 1 น้ำ  43.5 ตารางเมตร ไม่ติดลิฟท์และห้องขยะ ไม่โดนบล็อควิว เฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตกแต่งสวยมาก ขายขาดทุน ราคา 6,800,000 บาท










ดู VDO ที่  https://youtu.be/MFkfks7Q3XM
            https://youtu.be/71DIiM0m4tM





สามารถดาวน์โหลดรูปภาพและวีดีโอทั้งหมดของ อัลทีจูด ดีไฟน์ สามย่าน(Altitude Define Samyan) ได้ที่



          อาคารชุด 8 ชั้น และชั้นใต้ดิน ลึก 3 ระดับ 59 ห้องชุด ที่จอดรถ  59 คัน คิดเป็น 100 % บนที่ดิน 218 ตารางวา
พื้นที่ส่วนกลาง : สระว่ายน้ำ สวนสาธารณะ ห้องสมุด ซาวน่า และ สปอร์ตคลับ / ฟิตเนส พิกัด 13.732066, 100.526276

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น