Work from Home ที่เหล่าคนเหงายังคงต้องเวิร์กต่อไป
หลังจากที่ปรากฏการณ์โควิด- 19 ได้สร้างผลกระทบไปทั่วโลก
ธุรกิจหลายแห่งต้องปิดทำการชั่วคราว องค์กรและบริษัทต่าง ๆ
ไม่สามารถเปิดให้พนักงานมาทำงานร่วมกันที่ออฟฟิศได้เหมือนปกติ
ถึงเวลาที่ผู้คนต้องปรับตัวครั้งใหญ่อันนำมาซึ่งวิถีการใช้ชีวิตแบบใหม่ หรือ New Normal ที่นอกจากจะทำให้สังคมทางกายภาพเปลี่ยนแปลงแล้ว ยังทำให้สภาพจิตใจของผู้คนได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน
เมื่อวันที่ชีวิตเดินเข้ามาถึงจุดเปลี่ยน เมื่อ “การเว้นระยะห่างทางสังคม”
หรือ Social Distancing กลายเป็นมาตรการหลักที่ภาครัฐใช้ เพื่อพยายามให้ประชาชนลดการเดินทางและใกล้ชิดกันให้น้อยลง หลายบริษัทจึงประกาศให้พนักงานส่วนใหญ่เริ่มทำงานจากที่บ้าน # Work From Home #WFH กันมากขึ้น ซึ่งการสำรวจของบริษัท
Thrive Global จากกลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกัน 5,000 คน พบว่า สถานการณ์โรคระบาดครั้งนี้ ทำให้ผู้คนกว่าร้อยละ 80 มีระดับความกังวลและความเครียดเพิ่มมากขึ้น อีกร้อยละ 70 ยังรู้สึกว่าการทำงานที่บ้าน ทำให้พวกเขาไม่มีสมาธิ และยังมีรายงานว่าเวลาทำงานมากกว่าร้อยละ
45 โดยเฉลี่ยถูกใช้ไปกับความกังวลเกี่ยวกับโรคระบาด และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
นอกจากนี้ teamblind.com ที่ผู้ใช้บริการ ส่วนใหญ่เป็นพนักงานจากบริษัทยักษ์ใหญ่ในอเมริกาอย่าง Apple, Amazon, Bloomberg และ Facebook ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานจากบริษัทเหล่านี้ เกี่ยวกับ “ความกลัว”
ในชีวิตการทำงานเอาไว้ ซึ่งพบว่า โดยเฉลี่ยแล้ว มากกว่าครึ่ง ( 57%) รู้สึกกลัวว่าตัวเองอาจถูกให้ ออกจากงาน มีส่วนหนึ่ง ( 23.7%) ยอมรับว่ากำลังหาช่องทางสร้างรายได้เสริม และพนักงาน 40.6% เชื่อว่าต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 6 - 12 เดือน กว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ
ความเหงาเป็นขั้วบวกขั้วลบ หนุ่มสาวไม่ได้พบกันในวันร้าวราน ขณะที่ผู้คนปฏิสัมพันธ์กันน้อยลงและการเว้น
ระยะห่างก็ช่วยลดอัตราการติดต่อของโรค ถึงแม้จะสร้างความอุ่นใจในระดับหนึ่ง
แต่การอยู่กับตัว เองและไม่ได้พบเจอผู้คนนาน ๆ ก็คงต้องรู้สึก “เหงา” เป็นธรรมดา
และความเหงานี้ยังส่งผลกระทบต่อ ประสิทธิภาพการทำงานของแต่ละคนไม่มากก็น้อย
สืบเนื่องจากการสำรวจของ teamblind.com เกี่ยวคุณภาพชีวิตด้านสภาพจิตใจซึ่งเป็นผลจาก #SocialDistancing จากกลุ่มตัวอย่าง 10,107 คน
พบว่า คนเหงามากขึ้น 52.9% ตอบว่าการทำงาน ที่บ้านทำให้รู้สึกเหงามากกว่าปกติ
(พนักงาน Apple เหงาเพิ่มขึ้น 52.3% พนักงาน
Intel เหงาเพิ่มขึ้น 50% และพนักงาน Facebook
เหงาเพิ่มขึ้น 58.1%) ประสิทธิภาพในการทำ
งานลดลง 53% บอกว่าประสิทธิภาพในการทำงาน ของพวกเขาได้รับผลกระทบจากการ
เปลี่ยนแปลงของสภาพจิตใจเนื่องจาก การทำงานที่บ้าน (พนักงาน # Facebook ได้รับผลกระทบด้านประสิทธิภาพในการ ทำงาน 69.7% พนักงาน # Google 64.3% และพนักงาน # Amazon 57%) Stay
Alone Together และ # 5G คือคำ ตอบแห่งอนาคต แม้ตัวจะห่างกัน
แต่ปัจจุบันเทคโนโลยี Video Conference ก็เป็นช่องทางที่ทำให้เรายังติดต่อสื่อสาร เครื่องมืออย่าง # Zoom หรือ # GoogleMeet จึงมียอดดาวน์โหลดทั่วโลกสูงถึง 62 ล้านครั้ง ภายใน 1
สัปดาห์ (ระหว่างวันที่ 14 - 21 มีนาคม
2563) ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 90 จากยอดดาวน์โหลดเฉลี่ยของปีก่อนหน้า
VIDEO
รายงานจาก Doodle แพลตฟอร์มนัดประชุม และปฏิทินออนไลน์ระบุว่า
ผู้คนหันมาประชุมผ่านจอ ( Virtual Meeting) กันมากขึ้นถึง 42%
ซึ่งนอกจากการประชุมงานในองค์กรแล้ว ยังพบว่ายังมีการนัดประชุมผ่านจอเพื่อทำกิจกรรมอื่น ๆร่วมกันด้วย เช่น นัดกัน #ออกกำลังกาย #เล่นโยคะ #เต้นแอโรบิก หรือแม้กระทั่งฝึก #พีลาทีส ผ่าน # VirtualMeeting มากขึ้นถึง 100% นัดกันเล่นเกม
ไม่ว่าจะเป็นเกมออนไลน์ หรือเกมทั่วไปอย่างเกมเล่นทายคำ หรือ ตอบคำถามมากขึ้น 44%
นัดสังสรรค์ เช่น #ดื่มเบียร์ หรือ #จิบไวน์ ซึ่งเพิ่มมากขึ้นถึง 296%
แนวโน้มของการทำงานทางไกลที่กำลัง เติบโตขึ้น ทำให้คุณภาพในการเชื่อมต่อกลายเป็นสิ่งจำเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเทคโนโลยี 5G จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการรองรับการเชื่อมต่อระหว่างผู้คน ทำให้การทำงานทางไกลมีความเสถียรมากขึ้น และเป็นกุญแจสำคัญที่จะทลายกำแพงเรื่องสถานที่
เพื่อทำให้การทำงานร่วมกันของผู้คนที่อยู่ต่างสถานที่กัน มีความเป็นไปได้และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เคล็ดไม่ลับตั้งสติ Work from Home ระหว่างที่สถานการณ์โรคระบาดของยังไม่มีข้อสรุป
และบ้านกลายเป็น ออฟฟิศเฉพาะกิจ หลายคนเริ่มพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ทำงานที่บ้าน
แล้วไม่มีสมาธิ” รายงานจาก Headway Capital จึงได้รวบรวม 9
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญสำหรับเพิ่มสมาธิ ที่สามารถนำไปปรับใช้ เพื่อทำให้การทำงานจากที่บ้านมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
1. เพิ่มสิ่งรบกวน (เล็กน้อย) :
มีการศึกษาพบว่าสิ่งรบกวนในระดับที่ไม่มากเกินไป เช่น การเปิดดนตรีบรรเลงเบา ๆ
สามารถช่วยเพิ่มสมาธิขณะทำงานได้
2.
พักบ้าง : การพักสมองจากการทำงานสักครู่ และลองคิดเรื่องอื่น ที่ไม่เกี่ยวกับงานจะช่วยเติมพลังและทำให้มีสมาธิมากขึ้น เมื่อกลับมาทำงานอีกครั้ง
3. หาต้นตอความเครียด :
หาให้เจอว่าอาการเครียดของคุณ เกิดจากอะไร แล้วลองเคลียร์สมองให้โล่ง
โดยการจินตนาการว่า นำความเครียดนั้นไปเก็บไว้ในที่ไกล ๆ เช่นในลิ้นชัก หรือ เอาไปโยนทิ้งทะเล ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า จะช่วยให้สามารถจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้าได้ดีขึ้น
4. จิบกาแฟ :
อย่างที่รู้กันว่ากาแฟมีสารคาเฟอีน ช่วยให้ตื่นตัวและมีสมาธิทำงาน
แต่ถ้าหากใครไม่ใช่คอกาแฟ ดาร์กช็อกโกแลต ก็ให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกัน
แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
5. วาดรูป (เล่น ๆ) :
การวาดรูปในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการวาดอะไรที่ซับซ้อน แต่หมายถึงการพักวาดรูปสัก 1
นาที เพื่อวาดอะไรง่าย ๆ เช่น ขีดเส้นขยุกขยิก หรือ รูปทรงเรขาคณิต
ซึ่งจะช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพในการขบคิด และช่วยดึงสติของคุณกลับมา
6.
นับเลข : การนับเลขช้า ๆ ไปพร้อม ๆ กับการหายใจ หรือที่ คนไทยคุ้นกันว่า
“หายใจเข้า-พุท หายใจออก-โธ” โดยทำต่อกันสัก 10 ครั้ง
จะสามารถช่วยขจัดความฟุ้งซ่านและทำให้มีสติมากขึ้น
7. กดจุด :
ศาสตร์โยคะที่ผสมผสานระหว่างความรู้ตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน ชื่อว่า Naam
Yoga ระบุว่าการใช้ นิ้วโป้งกดลงไปเบา ๆ
ที่ด้านข้างของนิ้วกลางตรงบริเวณข้อนิ้วที่ ใกล้กับฝ่ามือของมือแต่ละข้าง
จะช่วยกระตุ้นเส้นประสาทที่อยู่ใกล้กับหัวใจ และช่วยทำให้รู้สึกสงบได้
8. ดึงสติ : หมั่นสำรวจความคิดตัวเองอยู่เสมอว่าเมื่อไรที่คุณเริ่มเสียสมาธิ และอะไรทำให้เสียสมาธิบ่อย ๆ หากรู้ตัวและพบสาเหตุได้เร็วเท่าไร
คุณก็จะรู้เท่าทันและดึงสติให้กลับมาตั้งสมาธิทำงานได้เร็วขึ้นเท่านั้น
9.
เคี้ยวหมากฝรั่ง : มีการวิจัยพบว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งช่วยเพิ่มความตื่นตัว
และช่วยทำให้ตั้งสมาธิและจดจ่อกับงานได้นานขึ้น
ผู้เขียน : ณัฐชา
ตะวันนาโชต วารสาร : คิด
TC Green
พระราม 9 ห้องมุม แต่งสวย วิวสุดยอด ขายและให้เช่า
ห้องที่จะขายและให้เช่า 1 นอน 1 น้ำ 37. 97 ตารางเมตร ฝ้าเพดานสูง 2. 7 เมตร
ไม่ติดลิฟท์ ห้องมุมที่สวยที่สุด ของตึก
D
วิวสวนและคลองสวยมาก ไม่โดนบล็อควิว
เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน ตกแต่งสวยมาก มี ผ้าม่าน 2 ชั้น
เครื่องดูดควัน แอร์ 2 ตัว ตู้เย็น เครื่องซักผ้าฝาหน้า Digital
TV 40 นิ้ว เครื่องทำน้ำร้อน และ Microwave ไม่ติดลิฟท์และห้องขยะ
ราคา 3 ,200 ,000 บาท ค่าเช่า 15,000 บาท/เดือน
VIDEO
สามารถดาวน์โหลดรูปภาพและวีดีโอทั้งหมดของ
TC Green พระราม
9 ได้ที่
ที่ตั้งโครงการ :
ห่างจาก MRT พระราม 9 ประมาณ 900 เมตร ติดถนน 2 ด้านคือ ถนนพระราม 9 และ ถนนจตุรทิศ(ถนนเลียบทางด่วนขั้นที่ 2 ศรีรัช)
แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10320 พิกัด 13.753889 ,
100.575369
ประเภทโครงการ : ขนาดที่ดิน 16- 0- 0
ไร่ พิกัด 13. 754371,100. 5767
ตึก High Rise 4 อาคาร จำนวนชั้น 32 ชั้น ระยะพื้นถึงฝ้า 2. 7 เมตร ค่าส่วนกลาง 35 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
ค่ากองทุน 350 บาทต่อตารางเมตร ค่าที่จอดรถ 300 บาท ต่อคันต่อเดือน (แฟร์สำหรับคนไม่ใช้รถ) มีลิฟท์โดยสารแต่ละอาคาร 3
ตัวและลิฟท์บริการ 1 ตัว ที่จอดรถ
ที่จอดรถประมาณ 470 คัน รวมจอดซ้อนคัน มี
สระว่ายน้ำและห้องออกกำลังกายทุกตึก
ติดถนนใหญ่ 2 ด้าน มีบริการ Shuttle Service รับส่งสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT พระรามเก้า