จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Co-Working Space และ Co-Living Space (ตอนจบ)


                        Co-Working Space และ Co-Living Space (ตอนจบ)



        บทความตอนที่แล้วผมได้พูดถึงธุรกิจ Co-Working Space ว่าเป็นอย่างไรและได้เกริ่นถึงธุรกิจ Co-Living Space ซึ่งกำลังเริ่มที่จะได้รับความนิยมไปทั่วโลก ธุรกิจ Co-Living Space ได้ตอบโจทย์และแก้ปัญหาให้กับชาวลอนดอนได้ค่อนข้างดี เนื่องจาก ปัจจุบันนี้ความต้องการห้องพักอาศัยขาดแคลนเป็นอย่างมาก ทำให้ลอนดอนเป็นเมืองที่จำนวนห้องพักที่ว่างมีอัตราที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆในโลกนี้ อาคารเก่าๆหลายอาคารได้ถูกดัดแปลงและปรับปรุงเพื่อใช้เป็นพื้นที่สำหรับ Co-Living Space ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากชาวเมืองลอนดอน

       อย่างที่ผมได้ทิ้งท้ายไว้ในบทความตอนที่แล้วว่า นอกจากกลุ่ม Gen Y ที่จะเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของธุรกิจนี้แล้ว ก็ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่เราแทบจะคาดกันไม่ถึงเลย ว่าจะให้ความสนใจที่จะมาใช้บริการของธุรกิจนี้ นั่นก็คือกลุ่มผู้สูงวัยหรือกลุ่ม Baby Boomer ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้หลายคนก็อยากจะอยู่ในสังคมของคนวัยเดียวกัน เพราะพูดจาภาษาเดียวกัน และเข้าใจกันได้มากกว่า มีวิถีชีวิตที่คล้ายคลึงกัน และปกติที่พักแบบ Co-Living Space ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้ากลุ่มผู้สูงวัย ก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆสำหรับผู้สูงวัยโดยเฉพาะ ในกรุงลอนดอนมีหลายโครงการแล้วที่เจาะลูกค้ากลุ่มนี้ ซึ่ง เมืองไทยก็เป็นประเทศที่มีผู้สูงอายุอยู่เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันมีคนไทยประมาณ 17 เปอร์เซ็นต์แล้วที่มีอายุเกิน 60 ปี และจำนวนผู้สูงวัยก็จะมีอัตราเพิ่มขึ้นอีกในไม่กี่ปีข้างหน้า  เชื่อว่า Trend ที่อยู่อาศัยแบบนี้ น่าจะเป็นที่นิยมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าในเมืองไทย นอกจากนั้นยังมี Co-Living Space  ที่เจาะกลุ่มสุภาพสตรีโดยเฉพาะ ทำให้สุภาพสตรีที่อาศัยอยู่ในโครงการเหล่านั้นรู้สึกอุ่นใจ สบายใจ และปลอดภัยมากขึ้น ในการที่จะอยู่อาศัยร่วมกันในที่อยู่อาศัยแบบนั้น

       แนวคิดของการอยู่อาศัยแบบนี้ก็คือ "Breaking down fences and allow people to start sharing amenities in their living environment so that there is a quality of life but also a social activation." ด้วยขนาดห้องพักที่ค่อนข้างเล็ก ผู้ประกอบการจึงมักสามารถตั้งราคาค่าเช่าได้ถูกกว่าอพาร์ทเม้นท์หรือคอนโดมิเนียมให้เช่าโดยทั่วไป จึงทำให้เกิดความนิยมใช้บริการของธุรกิจนี้มากขึ้น ปัจจุบันโครงการที่เป็น Co-Living Space บางแห่ง มีลักษณะเป็นแบบการขายขาดบางส่วน ร่วมกันกับการกันพื้นที่บางส่วนในโครงการเดียวกันไว้สำหรับให้เช่า โดยส่วนใหญ่จะมีอัตราส่วน 2 ต่อ 1


        จากรายงานของเจแอลแอลกล่าวว่า ในเอเชีย ธุรกิจ Co-Living Space ยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก แต่กำลังเริ่มส่งสัญญาณการขยายตัว  จีนนับเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจประเภทนี้เป็นประเทศแรกในเอเชีย โดย 'ยูพลัส อินเตอร์เนชั่นแนล ยูธ คอมมูนิตี' เป็นหนึ่งในแบรนด์โคลิฟวิ่งสเปซรายแรกๆ ที่เริ่มเปิดดำเนินธุรกิจประเภทนี้ในจีนปี 2555 ตามมาด้วยผู้ประกอบการรายอื่นๆ อีกหลายรายที่เกิดขึ้นในเมืองหลักๆ ของจีน ส่วนฮ่องกงซึ่งเป็นเมืองที่มีราคาที่อยู่อาศัยแพงที่สุดในโลก มีโครงการที่พักอาศัยให้เช่าในคอนเซ็ปต์ของโคลิฟวิ่งสเปซเริ่มปรากฏให้เห็นแล้วเช่นกัน ส่วนสิงคโปร์กำลังอยู่ในช่วงทดสอบตลาด โดยบริษัทแอสคอทท์ได้เปิดแบรนด์ Co-Living Space ขึ้นในชื่อ 'LYF' ซึ่งจะบริหารในโครงการมิกส์ยูส 'ฟูนัน' ที่กำลังพัฒนาโครงการโดยแคปปิตอลแลนด์ ส่วนที่ญี่ปุ่นและอินโดนีเซีย แบรนด์โคลิฟวิ่งระดับอินเตอร์ 'โรม' ได้เปิดบริการในย่านอากาซากะของกรุงโตเกียว และเมืองอูบุดบนเกาะบาหลี

        สำหรับประเทศไทย มีผู้ประกอบการรายเล็กจำนวนไม่มากที่ให้บริการ Co-Living Space ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต และกระบี่ แต่ส่วนใหญ่เน้นจับตลาดชาวต่างชาติที่เป็น Digital Nomad หรือนักพเนจรแห่งยุคดิจิตอล (ใช้เรียกกลุ่มคนที่ทำงานได้ทุกที่ที่สามารถเชื่อมต่อเข้าอินเตอร์เน็ตได้ ทำให้สามารถทำงานและท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ ได้ในเวลาเดียวกัน) ส่วนใหญ่โครงการ Co-Living Space หลายแห่งจะมีการจัดพื้นที่ให้บริการ Co-Working Space ภายในโครงการด้วยเช่นกัน



        สำหรับคนไทย Co-Living Space อาจยังไม่ใช่ที่ทางเลือกที่เป็นที่นิยม เนื่องจากยังมีที่พักอาศัยประเภทอื่นให้เลือกในอัตราค่าเช่าที่ไม่แพงมากจนเกินไป และให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า อย่างไรก็ดี เมืองใหญ่ดังเช่นกรุงเทพฯ ยังมีศักยภาพที่จะกลายเป็นตลาดของธุรกิจ Co-Living Space ได้ในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากที่พักอาศัยในกรุงเทพฯ มีขนาดเล็กลง จากราคาที่ดินในเมืองที่พุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก และอัตราค่าเช่าแพงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าให้สูงไล่ตามราคาต้นทุนของห้องพักอาศัยที่สูงขึ้น ทำให้ต่อไปนี้ จะเป็นการยากขึ้นสำหรับกลุ่ม Gen Y ที่เพิ่งเริ่มทำงาน หรือทำงานมายังไม่นาน จะมีกำลังซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัยในใจกลางเมืองที่ใกล้ที่ทำงานได้ อีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนให้คนกลุ่มนี้สนใจที่จะใช้บริการของธุรกิจนี้คือ คนรุ่นใหม่เหล่านี้ เติบโตขึ้นในยุคเศรษฐกิจแบ่งปัน จึงคุ้นเคยกับนิยาม Sharing Economy เป็นอย่างดี

        ถ้าธุรกิจนี้เริ่มเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย แน่นอนธุรกิจดั้งเดิมไม่ว่าจะเป็นอพาร์ทเม้นท์ เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ หรือคอนโดปล่อยเช่า ย่อมจะต้องสูญเสียลูกค้าบางส่วนของกลุ่มนี้ไปอย่างแน่นอน  ทางแก้ง่ายๆก็คือ จะต้องผันตัวเองไปทำธุรกิจแบบนี้แทนธุรกิจแบบเดิมๆที่เคยทำมา


กิติชัย เตชะงามเลิศ




    22/6/61



          ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยเอาเม้าส์ไปทางด้านขวามือจะมีแถบแสดงออกมา แล้วเลือกคลิกไอคอนที่เขียนว่าสมัครรับข้อมูล เมื่อผมมีบทความใหม่ ท่านก็จะทราบทันที

ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยกรอกอีเมลของท่าน ในช่องใต้ Follow by Email ทางด้านขวามือ เมื่อมีบทความใหม่ๆ ก็จะมีการส่งอีเมลแจ้งเตือนให้ท่านทราบ เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดีๆกันนะครับ




ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่


      หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"   
              2.วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส


ณ วรา เรสซิเดนท์ หลังสวน ขายดาวน์ยูนิตสุดสวย ชั้นเพนท์เฮ้าส์ ซื้อมาในรอบ VVIP เจ้าของขายเอง ราคาพิเศษ เดิน 3 นาที จาก BTS ชิดลม



          ห้องที่จะขายดาวน์(คาดว่าจะเสร็จภายใน กย. ปี 2561) : ห้อง ชั้น 8(ชั้นเพนท์เฮ้าส์ ) พื้นที่ 44.37 ตรม.1 นอน 1 น้ำ หันไปทางทิศเหนือ ชั้นนี้ มีสวนลอยฟ้า สระว่ายน้ำ และฟิตเนส วิวดี พร้อมเฟอร์นิเจอร์พรีเมียมครบชุด ตกแต่งสวยมาก ราคา 10,600,000 บาท

สามารถดาวน์โหลดรูปภาพและวีดีโอทั้งหมดของ ณ วรา เรสซิเดนท์ หลังสวน ได้ที่ https://www.dropbox.com/sh/8fp6fwrp4kiejzp/AABAbXTgEiPBXaYba4sV37Aaa?dl=0

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่  http://thinkofliving.com/2016/02/24/navarang-press-navara/#QIelJ0rQfTXROa15.99


Navara Residence, 1B 1B, penthouse fl., fully furnished, 3 minutes walk from BTS Chidlom, 44.37 sqm., only 10.80 million baht.



Down payment sales:

The unit is on 8th fl.(penthouse fl.), 1B1B, fully furnished, 44.37 sqm., balcony facing north, only 10.60 million baht.

U can download all of Navara Residences photo from https://www.dropbox.com/sh/8fp6fwrp4kiejzp/AABAbXTgEiPBXaYba4sV37Aaa?dl=0 
Or https://photos.app.goo.gl/sjttmd69w2xDZUpf8

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น