วิธีการหาเงินทุนของธุรกิจต่างๆ(ตอนที่
1)
เศรษฐกิจไทยเรามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน
ไม่เพียงจากบริษัทชั้นนำอย่างเช่นเครือปตท. ปูนซีเมนต์ไทย ซีพี ฯลฯ
ยังเกิดจากธุรกิจ SME ที่แข็งแกร่งช่วยกันผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ก้าวไปกับเศรษฐกิจโลก
ธุรกิจ SME หลายบริษัทที่มีความสามารถแข่งขันได้ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกมีอยู่มากมาย
หลายๆบริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง
ในขณะที่บางบริษัทยังต้องการแหล่งเงินทุนไว้ใช้หมุนเวียนและขยายกิจการ ซึ่งรัฐบาลก็มีหน่วยงานที่ช่วยสนับสนุน
SME เหล่านี้ เช่น SME BANK ให้บริการสินเชื่อแก่
SME บริษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ให้บริการค้ำประกันแก่ SME ในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินแต่ติดขัดเรื่องหลักประกัน
รวมไปถึง EXIM Bank ที่เป็นซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ช่วยเหลือเหลือผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้าและส่งออก
นอกจากนั้นยังมีพวก Venture Capital Fund
ซึ่งเป็นกองทุนที่จะเข้าสนับสนุนธุรกิจ SME ที่ต้องการเงินหมุนเวียนหรือขยับขยายกิจการในลักษณะเข้าไปร่วมทุนถือหุ้นใน
SME เหล่านี้ ซึ่ง Venture Capital ส่วนใหญ่เป็นเอกชน
ซึ่งแต่ละบริษัทก็จะมีนโยบายแตกต่างกัน บางบริษัทก็เน้นที่จะเข้าไปลงทุนในธุรกิจ SME
ที่แข็งแกร่งที่มีโอกาสเติบโต และเข้าจดทะเบียนในตลาด MAI ได้ภายใน 3 ปี เพื่อที่ Venture Capital Fund
เหล่านี้จะ Exit ออกจาก SME เหล่านี้ ภายหลังที่ธุรกิจเหล่านี้เข้าจดทะเบียนในตลาด
พร้อมกับกำไรซึ่งได้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง แต่ความเสี่ยงก็มีอยู่บ้างเหมือนกัน
โดยบางครั้งอาจจะต้องใส่เม็ดเงินเข้าไปหลายครั้ง
และอาจจะต้องส่งบุคลากรไปช่วยบริหารจัดการเรื่องการเงินให้ด้วย เพราะว่าหลายๆ SME
ที่มีเพียงความเขี่ยวชาญในการผลิต
แต่อ่อนประสบการณ์ในด้านการเงินหรือการตลาด ทำให้ความสามารถในการเจาะตลาด
เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร หรือการนำสินค้าไปวางจำหน่ายใน Convenience
Store ทั้งหลาย เป็นต้น แต่ก็มีหลายธุรกิจเช่นกัน ที่ใช้เวลาขุนตั้งนาน
แล้วก็ยังขุนไม่ขึ้น ไม่สามารถจะไปถึงฝั่งได้
นอกจากหน่วยงานเหล่านี้แล้ว ยังมีสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
ที่คอยสนับสนุน SME ไทยให้แข็งแกร่ง
สามารถแข่งขันในตลาดทั้งในประเทศและนอกประเทศได้ ซึ่งทางตลาดหลักทรัพย์และ กลต.
ก็มีนโยบายส่งเสริมให้ธุรกิจ SME ต่างๆ
สามารถเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือ MAI ได้สะดวกขึ้น
ในอดีตตลาดหลักทรัพย์มี “โครงการช้างเผือก” เพื่อไปชักชวนให้ SME ที่มีความแข็งแกร่งในต่างจังหวัด เข้ามาจดทะเบียนให้ได้อย่างน้อย 1 จังหวัด 1 บริษัท ซึ่งเป็นนโยบายที่ดีน่าสนับสนุน
แต่ผมยังไม่ค่อยเห็น SME ดังกล่าวเข้ามาจดทะเบียนในตลาดเท่าที่ควร
น่าจะมีการจัดเวทีในทุกจังหวัด ให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง 1 ปีก็จะไปเยี่ยมได้ถึง 52 จังหวัด
แค่ปีครึ่งก็สามารถไปได้ครบทุกจังหวัด โดยร่วมกับทางหอการค้าในจังหวัดนั้นๆ
รวมทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในการชักชวนให้ SME
เหล่านี้มาเข้าร่วมฟังในเวทีสัมมนา เรื่อง
ผลประโยชน์จากการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาด ซึ่งผมเชื่อว่าถ้า SME เหล่านี้ได้ทราบถึงผลประโยชน์ดังกล่าว
คงมีความต้องการที่จะผลักดันธุรกิจของตนให้เข้าตลาดให้ได้ ซึ่งผมขอประมวลผลประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนได้ดังนี้
1.
ได้แหล่งเงินลงทุนระยะยาว
โดยเมื่อบริษัทจะเข้าตลาดต้องทำ IPO เสนอขายหุ้นให้กับประชาชน
ทางบริษัทก็จะได้รับเงินดังกล่าวไว้หมุนเวียน และขยายกิจการ
2.
ภาพลักษณ์
จะทำให้บริษัทมีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นที่น่าเชื่อถือมากขึ้น ทั้งยังได้เสนอข่าวและประชาสัมพันธ์ธุรกิจฟรี
เพราะว่าสื่อต่างๆ จะสนใจมาสัมภาษณ์ผู้บริหารเกี่ยวกับกิจการ
และการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินก็จะง่ายขึ้น
และได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าบริษัทที่อยู่นอกตลาด
3.
เป็นที่สนใจของนักลงทุนและธุรกิจต่างๆ
ทั้งในและนอกประเทศจะเห็นได้ว่ามีหลายบริษัทที่หลังจากเข้าไปจดทะเบียนแล้ว
มีบริษัทต่างชาติขอร่วมทุนเข้าหุ้น
หรือไปตั้งบริษัทลูกหรือบริษัทร่วมกับบริษัทต่างชาติ
4.
สิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินปันผล
4.1
ได้รับยกเว้นภาษี
ถ้าผู้มีเงินได้เป็นบริษัทจดทะเบียนและได้ถือหุ้นเป็น เวลาไม่น้อยกว่า 3
เดือนก่อนจ่าย และ 3 เดือนหลังจ่ายเงินปันผล
จากบริษัทไทยหรือกองทุนรวม
4.2
ได้รับยกเว้นภาษี
ถ้าผู้มีเงินได้ถือหุ้นในบริษัทผู้จ่ายเงินปันผลอย่างน้อย 25 %
ของหุ้นทั้งหมดเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 เดือนก่อนจ่าย และ 3 เดือนหลังจ่ายเงินปันผล
และบริษัทดังกล่าวมิได้ถือหุ้นในบริษัทผู้มีเงินได้
4.3
ได้รับยกเว้นภาษี
ถ้าได้รับเงินปันผลจากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
5.
สามารถตีมูลค่ากิจการเป็นจำนวนเงินที่ชัดเจน
จากราคาตลาดเมื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดแล้ว
และเจ้าของกิจการยังสามารถนำหุ้นมาขายเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับตัวเอง ในช่วงระยะเวลาที่พ้นจาก
Silent
Period (ช่วงระยะเวลาห้ามขาย)
6.
สิทธิประโยชน์ทางภาษี
สำหรับผู้ถือหุ้นที่จดทะเบียน คือ เวลาขายหุ้นไม่ต้องเสียภาษี Capital
Gain Tax
เห็นประโยชน์มากมายอย่างนี้แล้ว
ท่านเจ้าของธุรกิจที่สนใจจะนำกิจการของคนเข้าจดทะเบียนในตลาด
สามารถศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th นะครับ
ทำอย่างไรให้ได้ 500 ล้านบาท โดยกิติชัย เตชะงามเลิศ ในรายการ Lightning Talk ช่อง 3 Family
กิติชัย เตชะงามเลิศ
5/3/62
ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยกรอกอีเมลของท่าน ในช่องใต้ Follow by Email ทางด้านขวามือ เมื่อมีบทความใหม่ๆ ก็จะมีการส่งอีเมลแจ้งเตือนให้ท่านทราบ เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดีๆกันนะครับ
ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai
Twitter : http://twitter.com/value_talk
Instagram : https://www.instagram.com/gid_kitichai/Blog : http://kitichai1.blogspot.com
หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"
2.วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส
แอสปาย สาธร-ราชพฤกษ์ Aspire Sathorn-Rajpruek ขายดาวน์ 6 ยูนิตสุดสวย เพียง 2 ล้านบาทเท่านั้น 1 ก้าวจาก SKY
WALK รถไฟฟ้าบางหว้า และรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน
(เป็นสถานี INTERCHANGE)
ห้องที่จะขายดาวน์(พร้อมเข้าอยู่ได้แล้ว)
ขนาด 26 ตรม. แบบ STUDIO ห้องหันไปทางทิศใต้
รับลมตลอดทั้งปี ราคา 2,000,000 บาท
ปัจจุบันโครงการขายที่ราคาเริ่มต้น
2.79
ล้านบาทแล้วครับ
สามารถดาวน์โหลดรูปภาพและวีดีโอทั้งหมดของ
แอสปาย สาธร-ราชพฤกษ์ Aspire Sathorn-Rajpruek ได้ที่ https://www.dropbox.com/sh/4bocn8qjdrhpfdk/AABGsSAcZwp4zZGj4SUPeXQEa?dl=0
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น