จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร

จาก1ล้านเป็น500ล้านผมทำอย่างไร
เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆ

วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2562

วิธีการหาเงินทุนของธุรกิจต่างๆ(ตอนที่ 1)


                          วิธีการหาเงินทุนของธุรกิจต่างๆ(ตอนที่ 1)



           เศรษฐกิจไทยเรามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน ไม่เพียงจากบริษัทชั้นนำอย่างเช่นเครือปตท. ปูนซีเมนต์ไทย ซีพี ฯลฯ ยังเกิดจากธุรกิจ SME ที่แข็งแกร่งช่วยกันผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ก้าวไปกับเศรษฐกิจโลก ธุรกิจ SME หลายบริษัทที่มีความสามารถแข่งขันได้ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกมีอยู่มากมาย หลายๆบริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ในขณะที่บางบริษัทยังต้องการแหล่งเงินทุนไว้ใช้หมุนเวียนและขยายกิจการ ซึ่งรัฐบาลก็มีหน่วยงานที่ช่วยสนับสนุน SME เหล่านี้ เช่น SME BANK ให้บริการสินเชื่อแก่ SME บริษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ให้บริการค้ำประกันแก่ SME ในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินแต่ติดขัดเรื่องหลักประกัน รวมไปถึง EXIM Bank ที่เป็นซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ช่วยเหลือเหลือผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้าและส่งออก

          นอกจากนั้นยังมีพวก Venture Capital Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่จะเข้าสนับสนุนธุรกิจ SME ที่ต้องการเงินหมุนเวียนหรือขยับขยายกิจการในลักษณะเข้าไปร่วมทุนถือหุ้นใน SME เหล่านี้ ซึ่ง Venture Capital ส่วนใหญ่เป็นเอกชน ซึ่งแต่ละบริษัทก็จะมีนโยบายแตกต่างกัน บางบริษัทก็เน้นที่จะเข้าไปลงทุนในธุรกิจ SME ที่แข็งแกร่งที่มีโอกาสเติบโต และเข้าจดทะเบียนในตลาด MAI ได้ภายใน 3 ปี เพื่อที่ Venture Capital Fund เหล่านี้จะ Exit ออกจาก SME เหล่านี้ ภายหลังที่ธุรกิจเหล่านี้เข้าจดทะเบียนในตลาด พร้อมกับกำไรซึ่งได้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง แต่ความเสี่ยงก็มีอยู่บ้างเหมือนกัน โดยบางครั้งอาจจะต้องใส่เม็ดเงินเข้าไปหลายครั้ง และอาจจะต้องส่งบุคลากรไปช่วยบริหารจัดการเรื่องการเงินให้ด้วย เพราะว่าหลายๆ SME ที่มีเพียงความเขี่ยวชาญในการผลิต แต่อ่อนประสบการณ์ในด้านการเงินหรือการตลาด ทำให้ความสามารถในการเจาะตลาด เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร หรือการนำสินค้าไปวางจำหน่ายใน Convenience Store ทั้งหลาย เป็นต้น แต่ก็มีหลายธุรกิจเช่นกัน ที่ใช้เวลาขุนตั้งนาน แล้วก็ยังขุนไม่ขึ้น ไม่สามารถจะไปถึงฝั่งได้



     นอกจากหน่วยงานเหล่านี้แล้ว ยังมีสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ที่คอยสนับสนุน SME ไทยให้แข็งแกร่ง สามารถแข่งขันในตลาดทั้งในประเทศและนอกประเทศได้ ซึ่งทางตลาดหลักทรัพย์และ กลต. ก็มีนโยบายส่งเสริมให้ธุรกิจ SME ต่างๆ สามารถเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือ MAI ได้สะดวกขึ้น ในอดีตตลาดหลักทรัพย์มี “โครงการช้างเผือก” เพื่อไปชักชวนให้ SME ที่มีความแข็งแกร่งในต่างจังหวัด เข้ามาจดทะเบียนให้ได้อย่างน้อย 1 จังหวัด 1 บริษัท ซึ่งเป็นนโยบายที่ดีน่าสนับสนุน แต่ผมยังไม่ค่อยเห็น SME ดังกล่าวเข้ามาจดทะเบียนในตลาดเท่าที่ควร น่าจะมีการจัดเวทีในทุกจังหวัด ให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง 1 ปีก็จะไปเยี่ยมได้ถึง 52 จังหวัด แค่ปีครึ่งก็สามารถไปได้ครบทุกจังหวัด โดยร่วมกับทางหอการค้าในจังหวัดนั้นๆ รวมทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในการชักชวนให้ SME เหล่านี้มาเข้าร่วมฟังในเวทีสัมมนา เรื่อง ผลประโยชน์จากการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาด ซึ่งผมเชื่อว่าถ้า SME เหล่านี้ได้ทราบถึงผลประโยชน์ดังกล่าว คงมีความต้องการที่จะผลักดันธุรกิจของตนให้เข้าตลาดให้ได้ ซึ่งผมขอประมวลผลประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนได้ดังนี้

1.     ได้แหล่งเงินลงทุนระยะยาว โดยเมื่อบริษัทจะเข้าตลาดต้องทำ IPO เสนอขายหุ้นให้กับประชาชน ทางบริษัทก็จะได้รับเงินดังกล่าวไว้หมุนเวียน และขยายกิจการ

2.     ภาพลักษณ์ จะทำให้บริษัทมีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นที่น่าเชื่อถือมากขึ้น ทั้งยังได้เสนอข่าวและประชาสัมพันธ์ธุรกิจฟรี เพราะว่าสื่อต่างๆ จะสนใจมาสัมภาษณ์ผู้บริหารเกี่ยวกับกิจการ และการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินก็จะง่ายขึ้น และได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าบริษัทที่อยู่นอกตลาด


3.     เป็นที่สนใจของนักลงทุนและธุรกิจต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศจะเห็นได้ว่ามีหลายบริษัทที่หลังจากเข้าไปจดทะเบียนแล้ว มีบริษัทต่างชาติขอร่วมทุนเข้าหุ้น หรือไปตั้งบริษัทลูกหรือบริษัทร่วมกับบริษัทต่างชาติ



4.     สิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินปันผล

4.1   ได้รับยกเว้นภาษี ถ้าผู้มีเงินได้เป็นบริษัทจดทะเบียนและได้ถือหุ้นเป็น เวลาไม่น้อยกว่า 3 เดือนก่อนจ่าย และ 3 เดือนหลังจ่ายเงินปันผล จากบริษัทไทยหรือกองทุนรวม
4.2   ได้รับยกเว้นภาษี ถ้าผู้มีเงินได้ถือหุ้นในบริษัทผู้จ่ายเงินปันผลอย่างน้อย 25 % ของหุ้นทั้งหมดเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 เดือนก่อนจ่าย และ 3 เดือนหลังจ่ายเงินปันผล และบริษัทดังกล่าวมิได้ถือหุ้นในบริษัทผู้มีเงินได้
4.3   ได้รับยกเว้นภาษี ถ้าได้รับเงินปันผลจากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI)

5.     สามารถตีมูลค่ากิจการเป็นจำนวนเงินที่ชัดเจน จากราคาตลาดเมื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดแล้ว และเจ้าของกิจการยังสามารถนำหุ้นมาขายเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับตัวเอง ในช่วงระยะเวลาที่พ้นจาก Silent Period (ช่วงระยะเวลาห้ามขาย)

6.     สิทธิประโยชน์ทางภาษี สำหรับผู้ถือหุ้นที่จดทะเบียน คือ เวลาขายหุ้นไม่ต้องเสียภาษี Capital Gain Tax
  
                เห็นประโยชน์มากมายอย่างนี้แล้ว ท่านเจ้าของธุรกิจที่สนใจจะนำกิจการของคนเข้าจดทะเบียนในตลาด สามารถศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th นะครับ



ทำอย่างไรให้ได้ 500 ล้านบาท โดยกิติชัย เตชะงามเลิศ ในรายการ Lightning Talk ช่อง 3 Family



กิติชัย เตชะงามเลิศ



    5/3/62

  ถ้าท่านชอบบทความผม ท่านสามารถสมัครสมาชิกโดยกรอกอีเมลของท่าน ในช่องใต้ Follow by Email ทางด้านขวามือ เมื่อมีบทความใหม่ๆ ก็จะมีการส่งอีเมลแจ้งเตือนให้ท่านทราบ เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดีๆกันนะครับ



ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่

 Instagram : https://www.instagram.com/gid_kitichai/
 Blog : http://kitichai1.blogspot.com
  

      หรือ 1.หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ทุกวันพุธหน้า B6 ในคอลัมน์ "เขียนอย่างที่คิด"   
              2.วารสารเภตรา ของสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ จุลสารเตชะสาร ของสมาคมเตชะสัมพันธ์ ทุกไตรมาส



แอสปาย สาธร-ราชพฤกษ์ Aspire Sathorn-Rajpruek ขายดาวน์ 6 ยูนิตสุดสวย เพียง 2 ล้านบาทเท่านั้น 1 ก้าวจาก SKY WALK รถไฟฟ้าบางหว้า และรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน (เป็นสถานี INTERCHANGE)


        

   





     ห้องที่จะขายดาวน์(พร้อมเข้าอยู่ได้แล้ว) ขนาด 26 ตรม. แบบ STUDIO ห้องหันไปทางทิศใต้ รับลมตลอดทั้งปี ราคา 2,000,000 บาท
ปัจจุบันโครงการขายที่ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาทแล้วครับ


Video : สาธารณูปโภคและพื้นที่ส่วนกลางโครงการ https://www.youtube.com/watch?v=PahGX41lo6Q
           ภายในห้องชุด แบบ A23 https://youtu.be/dTX676MLMrY
           ภายในห้องชุด แบบ A24 https://youtu.be/tr5eo0RdEmg

สามารถดาวน์โหลดรูปภาพและวีดีโอทั้งหมดของ แอสปาย สาธร-ราชพฤกษ์ Aspire Sathorn-Rajpruek ได้ที่ https://www.dropbox.com/sh/4bocn8qjdrhpfdk/AABGsSAcZwp4zZGj4SUPeXQEa?dl=0

Review VDO @ https://youtu.be/Ry9tLa2NOt4

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น